เล่าประสบการณ์การสมัคร Qatar Airways [รอบ July 2019] ตั้งแต่วันสมัครจนได้วันเดินทาง

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การสมัคร Qatar Airways ครั้งแรกของเรา เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนที่กำลังอยากจะสมัครสายการบินนี้นะคะ โดยส่วนตัวเราไม่เคยเรียนสถาบันสอนแอร์ แต่ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนสมัครของสายการบินนี้ และการเตรียมตัวต่างๆ ตามพวก youtube, กระทู้ pantip เก่าๆ, และ google ค่ะ สายการบินนี้ถือเป็นสายที่สองที่เราสมัครหลังเคยตกรอบ cv drop ของ Emirates ค่ะ
 
ด้วยความที่ช่วงนั่นเรามีแพลนไปเที่ยวที่ฮ่องกงประจวบเหมาะกับที่สายการบินมาเปิดรับสมัครพอดีเราเลยไปลองไป walk-in ดูรอบ July 2019 ค่ะ (เราไปทั้งๆที่ไม่มี invitation ค่ะ เรียกว่าเสี่ยงดวงสุดๆ และกรอก online application เพื่อที่จะเอา applicant id ตอนนั่งอยู่บนรถไปโรงแรมที่สมัครเลย ที่เราไม่กรอกใบสมัครออนไลน์ก่อนเพราะกลัวได้รีเกรท แต่จริงๆแล้วกรรมการไม่ได้ขอดูใบ invite นะ เค้าสน applicant id  มากกว่าค่ะ แต่เราไม่รู้ว่าที่ไทยจะเหมือนกันไหมนะคะ)

ด่านแรก cv drop
เวลาเริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงที่ Intercon Hongkong (หมายความวาจะมาตอนไหนก็ได้ในเวลานี้ แต่ทางที่ดีควรมาก่อนเวลา) เราถึงโรงแรมประมาณ 10 นาทีก่อนเวลา คนก็เต็มห้องที่เค้าจัดให้รอแล้ว เลยต้องนั่งแถวหลังสุด ตอนแปดโมงตรงกรรมการ (มี 2 คน ชื่อ Katherine คนมาเล กับ Julie คนฟิลิปิน ถ้าจำไม่ผิด) ก็เดินเข้ามาแนะนำตัว, ขั้นตอนต่างๆในวันนี้และสิ่งที่ต้องนำไปยื่นในห้อง (เราจะต้องกรอก online application ก่อน เพื่อเอา application id เขียนลงบน cv ตอนยื่นให้กรรมการ) จากนั้นก็เรียกคนนั่งแถวแรกไปต่อคิวเข้าไปอีกห้องนึงเพื่อยื่น cvให้กรรมการ 

ด้วยความที่เรานั่งแถวสุดท้ายกว่าจะยื่น cv ก็ปาไปเกือบ 10 โมงกว่าๆ ตอนนั่งรออยู่ในห้องค่อนข้างกดดันเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเรา ไม่รู้ว่าตอนเข้าไปจะโดนคำถามอะไร และจะได้กรรมการคนไหนเพราะคนนึงดูท่าใจดี อีกคนดูแล้วค่อนข้างดุ พอใกล้ถึงแถวเราก็ไปยืนรอหน้าห้องกรรมการ ตอนรอเห็นบ้างคนออกมาจากห้องก็ถือกระดาษขาว หน้ายิ้มออกมา บางคนก็ไม่ได้ (ซึ่งในใจเราก็อยากได้ไอกระดาษนี่ แต่อีกใจก็คิดว่าถ้าไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ลองสนาม) 

พอถึงคิวเราเข้าไปมีโต๊ะกรรมการอยู่สองโต๊ะ ซ้ายโต๊ะขวาโต๊ะ ข้างหลังก็โต๊ะกรรมการจะเป็นกระจกใสบานใหญ่ ไม่มี spotlight ส่องหน้าแบบที่เคยอ่านมาแต่เน้นแสงธรรมชาติล้วนๆ เราแบบ jackpot มากเพราะเราได้ Julie ซึ่งดูดุ และคนที่ออกมาจากห้องส่วนมากบอกว่ากรรมการคนนี้ยาก แล้วเราภาวนาตั้งแต่ยืนรอแล้วว่าขอให้ได้อีกคนนึง ณ ตอนนั้นได้แต่ยิ้มสู้และก็ทักทายเค้าพร้อมกับยื่น cv ให้เค้า เค้าก็ตรวจทุกอย่างในใบนั้นก่อนจะถามคำถามเรา ก่อนมาสมัครเราอ่านและดูคลิปพวกประสบการณ์สมัครสายการบินนี้เยอะมาก ส่วนมากเค้าจะบอกว่ากรรมการจะถามข้อสองข้อแล้วก็เป็นคำถามทั่วไปแบบง่ายๆ แต่เราโดนถามเยอะมากและมีคำถามนึงซึ่งเหมือนเป็นจิตวิทยาด้วย โดนถามจนคิดว่าคงไม่ได้แล้วแน่ๆเพราะตั้งแต่แรกกรรมการไม่ยิ้มเลยแล้วก็หน้านิ่งจ้องแต่หน้าเราเวลาเราพูด
 
คำถามที่จำได้คร่าวๆ
how are you today?
Are you from Thailand? 
Why are you coming to hongkong?
How long do you stay in hongkong?
What ideas have you implemented before? (คำถามนี้เป็นคำถามที่มาจากปึกกระดาษซึ่งน่าจะเป็นปึกเดียวกับคำถามในรอบ chit chat ในนั้นมีหลายคำถามมาก ก็ต้องเสี่ยงดูว่าจะได้คำถามยาก ง่ายประมาณไหน แต่ละคนก็ได้คำถามไม่ซ้ำกัน)
Why Qatar airways? 
 
ระหว่างตอนคำถามสุดท้ายเค้าก็หยิบแผ่นกระดาษสีขาวออกมาก เราดีใจมากแต่ก็พยายามตอบให้จบประโยค ด้วยความที่เราค่อนข้างสูงก็เลยไม่โดนให้ทำ reach test ในขั้นตอนนี้เหมือนคนอื่น โดย reach test ต้องเอื้อแตะทั้งสองมือให้ถึงเทปที่เค้าแปะไว้ตรงกำแพงค่ะ
 
(สนามนี้มีคนสมัครรวมทั้งหมดประมาณ 400 ปลายๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ 90% เป็นคนเกาหลี ส่วนที่เหลือก็ระแวกเอเซีย และประเทศอื่นๆ เท่าที่เห็นไม่ค่อยมีคนไทยเท่าไร ผ่านไปรอบ English test ประมาณ 140 กว่าคนค่ะ)

English test
หลังจากที่เค้านัดให้คนผ่านเข้ารอบถัดไปมารวมตัวกันตอนบ่ายโมงของวันเดียวกัน กรรมการทั้งสองก็แจกสติ๊กเกอร์ชื่อพร้อมเลยประจำตัวมาให้ติดเสื้อไว้แล้วก็มาโชว์ presentation ของสายการบิน

พอเสร็จกรรมการก็แจกข้อสอบภาษาอังกฤษแบบ multiple choice มี 30 ข้อ 30 นาที ข้อสอบไม่ยากมาก แต่บางข้อก็เหมือนจะถูกทั้งสองช้อย 
part แรกก็จะอ่านข้อความแล้วตอบคำถามซึ่งคำตอบก็อยู่ในข้อความที่เราอ่านเลย part ถัดมาเป็นประโยคสนทนาให้เราเลือกเติมคำที่ถูกต้องลงไป part สุดท้ายเป็นข้อความสั้นๆสี่-ห้าบรรทัดซึ่งมีคำที่หายไปให้เราเติมคำถูกลงไป

ใครเสร็จก่อนเวลาก็ส่งก่อนแล้วออกไปรอนอกห้อง พอหมดเวลาทุกคนรอกรรมการตรวจข้อสอบประมาณสี่สิบนาทีก็เข้ามาฟังผลในห้อง เค้าก็จะเรียกเบอร์จำนวนนึงให้ออกไปหากรรมการอีกคนนอกห้อง หลังจากนั้นกรรมการคนในห้องก็บอกว่าคนที่ไม่โดนเรียกเบอร์ ทุกคนผ่านไปรอบถัดไป
ด่านนี้มีคนโดนคัดออกประมาณ 10 กว่าคน
 

Chit Chat and Reach Test
กรรมการแยกผู้สมัครเป็นสามกลุ่มใหญ่ตามเบอร์ประจำตัว เพื่อรอเข้าไปในรอบ chit chat ขั้นตอนนี้กินเวลานานสุด กลุ่มแรกเริ่มประมาณบ่ายสาม กลุ่มสุดท้ายเสร็จเกือบทุ่มนึง พอกลุ่มแรกเสร็จเค้าก็ประกาศผลของกลุ่มแรกเลย ใครผ่านก็อยู่รอกลุ่มต่อไปต่อ ถ้าไม่ผ่านก็กลับบ้าน

รอบนี้กรรมการจะนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันทั้งสองคน คนนึงจะเป็นคนถาม อีกคนก็จดนู่นนี่นั้นและมองเราแทบตลอด ทุกคนต้องเอื้อมแตะอีกครั้ง อย่างเราไม่ได้ทำในรอบแรกรอบนี้เค้าก็ให้เอื้อมแตะให้ดู แล้วเค้าก็ให้ดีแคร์แผลเป็น ปานต่างๆ และหันหน้าซ้ายขวาให้เค้าดู หลังจากนั้นเค้าก็หยิบปึกคำถามน่าจะปึกเดียวกับรอบเช้ามาถามหนึ่งคำถาม เราตอบไปไม่ทันจบประโยคเค้าก็บอกให้เราหยุด ซึ่งไม่ต้องตกใจว่าเราทำอะไรผิดรึเปล่าเพราะเค้าบอกตอนแบ่งกลุ่มแล้วว่าถ้าเค้าได้คำตอบที่เค้าต้องการจากเราแล้วเค้าก็จะบอกให้หยุดพูด เพราะฉะนั้นพยายามตอบแบบเน้นเนื้อมากกว่าน้ำนะจ๊ะ

คำถามที่เราได้
How would you deal with disagreement?

ส่วนนี้คือคำถามที่คนอื่นได้กัน
What is your memorable event?
What is your weakness?
Have you ever been abroad?
How do you deal with stress?
What does success means to you?
Who do you admire the most?
What you're going to do if you didn't get this job?
What is the country you like to visit the most?

พอกลุ่มสุดท้ายประกาศผลก็เหลือผู้รอดชีวิตทั้งหมดประมาณ 62 คน ซึ่งออกไปเกือบครึ่ง แล้วด้วยความที่มันเริ่มมืดแล้วเค้าก็เลยบอกว่าพวกเราไม่ต้องทำอีกprocess นึง ทุกคนตรงนี้ผ่านไปรอบไฟนอลพรุ่งนี้เลย

หลังจากน้ันเค้าก็ให้เอกสารมากรอก บอกข้อมูลว่าต้องเตรียมอะไรมาส่งให้เค้าพรุ่งนี้ และก็นัดเวลาสัมภาษณ์ (เค้าบอกตอนนั้นเลยว่าคำถามที่จะถามในรอบ final เนี่ยจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับสายการบินเลยเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปจำข้อมูลพวกนั้นมา กลับไปพักผ่อนให้สบายเพราะคำถามวันพรุ่งนี้จะเป็นเกี่ยวกับตัวเรา)

Final Interview
หลังจากกลับโรงแรมไปเมื่อคืนสิ่งที่ต้องทำคือ กรอกข้อมูลต่างๆ ลงในเอกสารที่เค้าให้และทำใจให้สบาย

เวลานัดของเราคือ 5 โมงเย็น โดยเราไปก่อนเกือบชั่วโมงก็ไปนั่งรอในห้องที่เค้าจัดไว้ให้ ถึงแม้เราจะได้ตอนห้าโมงแต่กว่าจะได้เข้าห้องสัมภาษณ์ก็เกือบ 5โมงครึ่ง เข้าไปในห้องกรรมการก็แบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งถาม ส่วนอีกคนจดข้อมูล หลังจากนั้นเขาก็ขอเอกสารเมื่อวานไปตรวจ ถ้ามีอะไรที่เค้าคิดว่าผิดก็ให้แก้ตรงนั้นเลย จากนั้นก็หันหน้าซ้าย ขวา ให้เค้าดู ยื่นมือให้เค้าดูเล็บ และเช็คสิ่งที่เราดีแคร์ไว้เมื่อวานอีกรอบนึง เราใช้เวลาในห้องสัมภาษณ์ไป 20 กว่านาที

คำถามที่เราได้ไต่ระดับตั้งแต่ง่าย (yes/no answer) ไปจนถึงคำถามแนวจิตวิทยาที่เราต้องอธิบายแล้วถ้าเค้าไม่เข้าใจก็จะถามเพิ่มให้เราอธิบายเพิ่มเติม นี่คือคำถามบางส่วนที่เราพอจำได้ แต่จริงๆมีเยอะกว่านี้ (อาจจะไม่ได้จำคำมาเป๊ะๆนะ)
Can you serve alcohol?
Tell me about your previous job?
A time when you go above and beyond? 
What Do you think about change? Is it good or not?
If you could travel anywhere in the world where would it be? Why?
What would your co-workers say about you?
How do you deal with dishonest co-workers?
Can you take care someone? Who? and How?
Do you think teamwork is important?
A person who has changed your life?
.....
Are you honest? 
Rate yourself 1-10

พอตอบข้อนี้เสร็จเค้าก็บอกว่าหมดคำถามแล้ว กลับบ้านได้ เราก็ขอบคุณเค้าทั้งสองแล้วเดินออกมา
ตอนเดินออกมาจากห้องรู้สึกโล่งว่ามันผ่านไปแล้ว แต่อีกใจก็รู้ว่าเรายังตอบคำถามไม่ดีเท่าไร แต่ก็ปลอบตัวเองว่ามันผ่านไปแล้ว ณ ตอนนั้นเราทำดีเท่าที่จะทำได้แล้ว  มาได้ไกลถึงรอบนี้ก็เก่งมากแล้วสำหรับเรา ถ้ามันเกิดไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีสนามหน้าให้ไปใหม่เพราะกาตาร์มาไทยบ่อยมาก ถือว่าครั้งนี้เป็นการลองสนาม
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  Qatar Airways งานสายการบิน โดฮา ประเทศกาตาร์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่