มาต่อกันที่สุดยอดห้องอาหารฮังกาเรียนระดับ 2 ดาวมิชลินร้านแรกและร้านเดียวในโลกมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน 🤣
และแน่นอนใครไม่อยากพลาดการอัพเดตร้านอาหารชั้นนำทั้งไทยและเทศจากทั่วทุกมุมโลก ไปติดตามกันได้ที่
>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇭🇺 Onyx - โอนิกซ์
⭐️⭐️ 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳 17/20 Gault Millau (3 Toques) - 17/20 โกท มิโย (หมวก 3ใบ)
⚫️ โอนิกซ์ เป็นห้องอาหารที่แรกและที่เดียวในประเทศฮังการีที่ได้รับการยกระดับให้เป็นร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินในมิชลินไกด์เมืองหลักในทวีปยุโรปปี 2018 และยังคงรักษาดาวสองดวงมาได้จนถึงมิชลินไกด์ฉบับปีปัจจุบัน ตัวร้านตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองฝั่ง Pest บริเวณ Vörösmarty tér ติดกันกับคาเฟ่ชื่อดัง Gerbeaud confectionary ภายในตกแต่งด้วย “แร่โอนิกซ์ หรือ แร่นิล” ชนิดเดียวกับชื่อร้านทำให้ทั่วทั้งร้านมีสีดำขลับตัดด้วยลวดลายสีทอง เพดานของห้องอาหารถูกประดับด้วยแกรนด์แชนเดอเลียร์ทำจากคริสตัลขนาดใหญ่ เก้าอี้สีดำขลับตัดกับโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าสีขาวดูหรูหราสวยงามสมกับเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของประเทศ และเป็นหนึ่งในระดับทอปของยุโรปตะวันออก
♟ อาหารที่นี่กำกับโดยทีมงานหลายคนนำโดยหัวหน้าเชฟ Ádám Mészáros ผู้อยู่เบื้องหลังอาหารจานหลักทั้งหมด มีเชฟผู้ช่วยหนึ่งคนคือ Péter Mikulás และมีเชฟอาหารหวานประจำร้านคือเชฟ Róbert Mártha สร้างสรรค์เมนูอาหารหวานรสเลิศในคอร์สต่างๆ เมนูที่นี่มีให้เลือกสองแบบคือ „WITHIN OUR BORDERS…” ที่เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและเมนูอาหารพื้นบ้านในประเทศฮังการีมาปรับแต่งเป็นอาหารจานหรู อีกแบบคือ „BEYOND OUR BORDERS…” เป็นอาหารครีเอทีฟที่ไม่มีกรอบและกฎเกณฑ์ของเมนูและสัญชาติ โดยเลือกใช้วัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วมุมโลกมาปรับแต่งเป็นอาหารรสเลิศ
🍴 สำหรับคอร์ส „BEYOND OUR BORDERS…” ที่เราเลือกทานในวันนี้ราคา 33900 HUF หรือประมาณ 3900 บาทต่อคน (ราคายังไม่รวมภาษี 15%) เป็นเซ็ตเมนูที่สร้างสรรค์ที่สุดของทางร้าน โดยได้รับแรงบันดาลใจและไอเดียจากวัตถุดิบและอาหารทั่วทุกมุมโลก แต่ยังคงเคารพคัดสรรค์สุดยอดวัตถุดิบท้องถิ่นมทประกอบกัน นอกจากนี้ยังสั่งอาหารจานพิเศษที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นซึ่งมีมห้เลือกเป็น Extra Course คือ “ตับเป็ดฮังการี” หรือ “Duck liver, coffee, almond” ในราคา 4700 HUF โดยทางร้านใช้สุดยอดตับเป็ดจาก Duck Liver, Aszu & Top Chef Co. เช่นเดียวกับกับร้าน Borkonyha ระดับหนึ่งดาวมิชลินที่เราทานในวันก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในตับเป็ดที่ดีที่สุดในประเทศฮังการี และต้องบอกเลยว่าสำหรับคอร์สนี้ทางร้านทำรสชาติออกมาได้เหนือจินตนาการเลยจริงๆ แต่ในทางกลับกันอาหารจานอื่นในคอร์สหลักจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยังไม่ถึงกับว้าว และบางจานรสชาติอาจต่ำกว่ามาตรฐานของร้าน 2 ดาวมิชลินไปบ้าง ในด้านเครื่องดื่มทางร้านมีไวน์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย รวมถึงไวน์นำเข้า และยังมีเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอร์ให้บริการอีกด้วย
😋 กล่าวโดยสรุปคือ โอนิกซ์เป็นร้านอาหารที่ออกแบบตรงตามคอนเซปชื่อร้าน ภายในหรูหรา บรรยากาศดี อาหารอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ส่วนตัวคิดว่ารสชาติก้ำกึ่งระหว่างหนึ่งดาวกับสองดาว ราคาสูงหากเทียบกับมาตรฐานร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งในฮังการีและประเทศแถบยุโรปตะวันออก แต่ยังต่ำกว่าร้านอาหารระดับเดียวกันในยุโรปตะวันตก
📃 „BEYOND OUR BORDERS…” Tasting Menu (33900+ HUF/p)
- Amuse-bouche
- Pickled asparagus, parsley, wild garlic
- Cod, sturgeon caviar, buttermilk, dill
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
- Trout roll, shrimp, mushroom
- „Stuffed paprika”, lamb, tomato
- Pigeon, pumpkin, golden raisins
- Pre-dessert
- Hazelnut-chocolate tart, bergamot, baguette ice cream
- Petit fours
👍 อาหารคุณภาพดี ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวในยุโรปตะวันออก ราคาสูง ยังไม่ถึงกับต้องเดินทางไกลเพื่อมาชิม
รสชาติ : 15/20
ราคา : 12/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 15/20
บริการ : 17/20
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
- Amuse-bouche
Pea puree flavored with mint and parsley
Fried Hungarian cheese
Squid ink pasta
Tuna tartare
🍴 อมูสบูชสี่อย่างเสิร์ฟมาในแผ่นหินขนาดเล็ก รสชาติไม่แย่ เเต่ยังไม่ว้าวพอสำหรับร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน
- Amuse-bouche
Fried Hungarian cheese
🧀 ชีสฮังกาเรียนทอดจนผิวด้านนอกกรอบ เนื้อชีสข้างในนุ่ม รสชาติอร่อยใช้ได้ เเต่อาจดูธรรมดาไปสักหน่อย (12/20)

- Amuse-bouche
Tuna tartare
🐟 ทาทาร์ปลาทูน่าทานกับพาสต้าเป็นแป้งบางกรอบ จานนี้ถือว่าอร่อยที่สุดในอมูสบุชทั้งหมด เพราะมีรสหวานธรรมชาติของเนื้อปลาสดเข้ากันได้ดีกับซอสหวานด้านบน (14/20)
- Amuse-bouche
Squid ink pasta
◾️ แผ่นกรอบที่ทางร้านบอกว่าเป็นพาสต้าทำจากหมึกดำทานกับซอสสีส้มรสหวาน ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นสักเท่าไหร่ (10/20)
- Amuse-bouche
Pea puree flavored with mint and parsley
🌾 เพียวเรถั่ว ทานกับมิ้นท์และพาสลีย์ สีขาวด้านบนคือ rice chip หรือแผ่นกรอบทำจากข้าว มี mushroom powder หรือผงเห็ด และ mushroom velute (11/20)
- Pickled asparagus, parsley, wild garlic
🥗 สำหรับจานแรกคือ Variation of asparagus เริ่มจากเพียวเรหน่อไม้ฝรั่งผสมกับรสชาติของใบมะกรูด สีดำด้านบนคือผงทำจากหมึกดำและเห็ด แผ่นกรอบทำจากกระเทียมป่า และซอสพาสลีย์สีเขียว ลูกเล่นของจานนี้คือรสเปรี้ยวของหน่อไม้ฝรั่งดองที่ตัดกับรสหวานของเพียวเรพาสลีย์เนื้อเนียน แม้ว่ารสชาติออกมาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ยังไม่ว้าวมากนักสำหรับร้านระดับสองดาว (14/20)
- Cod, sturgeon caviar, buttermilk, dill
🐟 ปลาค็อดที่นำไปม้วนเป็นโรลำลมสวยงาม ทานเข้าไปจะมีเนื้อสัมผัสนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ธรรมชาติของปลาเนื้อขาว ทอปด้านบนด้วยไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียเพื่อเพิ่มรสเค็ม ด้านบนมี Tapioca pearl เข้าใจว่าเชฟต้องการทำให้เกิด contrast ทางเนื้อสัมผัสของไข่มุกกลมที่ทำจากบุกกับไข่ปลาคาเวียเคี้ยวหนึบ เเต่เรามองว่าตัวบุกมันลดทอนเนื้อสัมผัสที่ดีและแพงของคาเวียออกไป ข้างๆมี Rice crouton กรอบๆ นอกจากนี้ยังมีเเตงกวากรอบม้วนเป็นทรงกระบอก ทอปด้านบนอีกทีด้วยเจลสีขาวทำจากบัตเตอร์มิลค์ ซอสสีขาวเช่นกันมีรสมันเค็มทำจากบัตเตอร์มิลค์และน้ำมันสีเขียวของผักชีลาว (15/20)
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
🦆 สุดยอดเมนูที่เสิร์ฟเป็น Extra course คู่กับ Wine paring 1 แก้ว คือตับเป็ดฮังการี สุดยอดวัตถุดิบเลอค่าจาก Duck Liver, Aszu & Top Chef Co. ทางร้านทำออกมาเป็นอาเต๊ะ เเต่มีการทวิสต์โดยการเพิ่มผงกาแฟเข้าไป ด้านบนเป็น Tonic base coffee gel หรือเเผ่นเจลกาแฟรสขม นอกจากนี้ยังมีเพียวเรรสเปรี้ยวหวานทำจากแอปเปิ้ลเขียว มี Marinated green apple cube หรือแอปเปิ้ลเขียวหั่นเต๋า แผ่นกรอบเเละมูสตับเป็ดสีเหลืองนวล โดยปาเต๊ะตับเป็ดที่ทางร้านทำออกมาได้สมกับเป็นวัตถุดิบระดับโลกจริงๆ เนื้อเนียน นุ่ม ไร้ซึ่งกลิ่นคาวเครื่องใน มีรสหวานอ่อน ตัดด้วยรสขมอ่อนๆ และกลิ่นของกาแฟเข้ากันดีมากๆ รสเปรี้ยวขององค์ประกอบของแอปเปิ้ลเขียวก็มีรสออกมาพอดีๆ ไม่กลบรสเเละเนื้อสัมผัสของตับเป็ด จานนี้ทุกอย่างถือว่าดีงามสุดๆจริงๆ และโดยรวมถือเป็นจานที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้ (16/20)
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
🍷 เสิร์ฟมาพร้อมกับ Wine pairing เป็น Noble sweet wine มีรสหวานน้ำผึ้งและผลไม้แห้งขึ้นจมูก หอม เข้ากันกับตับเป็ดจริงๆ (16/20)
- Trout roll, shrimp, mushroom
🐟 จานนี้จัดเป็นอีกคอมโบที่เด่นที่สุดในมื้อ คือโรลปลาแซลมอนเทร้าท์เนื้อนุ่ม หอม สอดไส้ตรงกลางด้วยสุดยอดวัตถุดิบอย่างกุ้งแดง Carabineros ที่หั่นออกมาสุกพอดี กัดเเล้วนุ่มเด้ง ทานกับเห็ดชนิดต่างๆ ราดด้วยซอสเนยเบลอบล็องรสหวานอ่อนๆเข้ากันได้ดีมากๆ (16/20)
- „Stuffed paprika”, lamb, tomato
🌶 ปาปริก้าสอดไส้ด้วยเนื้อแกะ จานนี้มีลูกเล่นคือกลิ่นหอมแรงของเนื้อแกะกับกลิ่นเฉพาะของปาปริก้าเข้ากันได้อย่างดี เเต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารไม่มีกลิ่น ด้านข้างเป็นซอสสีส้มทำจากมะเขือเทศ โคลราบี และเซเลอรีรสเปรี้ยวหวาน (14/20)
- Pigeon, pumpkin, golden raisins
🕊 สำหรับจานถัดไปคืออาหารจานแนะนำของทางร้าน มีโปรตีนหลักคือนกพิราบ โดยทางร้านใช้ส่วนอกและส่วนน่องเสิร์ฟมาแบบหนังกรอบ เนื้อด้านในนุ่มมากๆ ราดด้วยซอสกาแฟ ส่วนสีเหลืองรอบๆคือเพียวเรฟักทอง และเจลฟักทอง และผักสีเขียวในจานคือคะน้าทอด ทานคู่กับปาเต๊ะเนื้อเนียนที่มีองค์ประกอบของเป็ดป่า นกกระทา และไก่ฟ้ารวมกัน ส่วนแผ่นกรอบด้านบนคือหนังนกทอดกรอบทานตัดกันกับเนื้อรสนุ่ม (16/20)
- Pre-dessert
🍫 คอร์สก่อนของหวานเสิร์ฟมาเป็นสปอนเค้กเนื้อนุ่ม ไอศกรีมรูบี้ช็อกโกแลตสีชมพูพร้อมด้วยมูสเดียวกัน มีรสหวาน ทานกับเจลแบล็คเคอแรนท์รสเปรี้ยว และเจลดรอปคาโมมาย (14/20)
- Hazelnut-chocolate tart, bergamot, baguette ice cream
🍫 สำหรับของหวานวันนี้คือทาร์ตช็อกโกแลตและถั่วฮาเซลนัทจากปิเยมอนเต้ ประเทศอิตาลี โดยทางร้านจะนำไปคั่วแล้วเสิร์ฟมาร้อนๆ วางบนช็อกโกแลตจนละลายต่อหน้าลูกค้าดูน่าทาน ด้านข้างมีเจลเบอร์กามอต ผงเบอร์กามอต และไอศกรีมขนมปังบาเก็ตทอปด้วยทองคำเปลวทานได้และครัมเบิ้ลกรอบ (15/20)
- Bread Basket
🍞 ขนมปังมีให้เลือกหลากหลายมาก Black baguette, Rye bread, Hungarian baguette selection ขนมปังสีดำทำจากหมึกของปลาหมึกคืออันที่เราชอบที่สุด ทานกับเนยธรรมดาหรือเนยชีสผสมกับน้ำมันเมล็ดฟักทอง (13/20)
- Petit fours
🍬 สำหรับเปอตีโฟว์ปิดท้ายมื้ออาหารประกอบไปด้วย โฮมเมดช็อกโกแลตสอดไส้ราสเบอร์รี่รูปหมวกเชฟ แมนดารินเจลลี่สีส้ม มาร์ชแมลโล่ทานกับโกโก้ มะพร้าวช็อกโกแลต (12/20)

- Petit fours
🍰 ปิดท้ายก่อนกลับด้วยเค้กรสอร่อยใส่กล่องสีขาวติดมือกลับบ้าน (13/20)

ราคา 85,652 HUF หรือประมาณ 9,000 บาท
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
[CR] 🇭🇺 Onyx - โอนิกซ์ ห้องอาหารที่แรกและที่เดียวในประเทศฮังการีที่ได้รับการยกระดับให้เป็นร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน
และแน่นอนใครไม่อยากพลาดการอัพเดตร้านอาหารชั้นนำทั้งไทยและเทศจากทั่วทุกมุมโลก ไปติดตามกันได้ที่
>> FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
🇭🇺 Onyx - โอนิกซ์
⭐️⭐️ 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
👨🏻🍳👨🏻🍳👨🏻🍳 17/20 Gault Millau (3 Toques) - 17/20 โกท มิโย (หมวก 3ใบ)
⚫️ โอนิกซ์ เป็นห้องอาหารที่แรกและที่เดียวในประเทศฮังการีที่ได้รับการยกระดับให้เป็นร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินในมิชลินไกด์เมืองหลักในทวีปยุโรปปี 2018 และยังคงรักษาดาวสองดวงมาได้จนถึงมิชลินไกด์ฉบับปีปัจจุบัน ตัวร้านตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองฝั่ง Pest บริเวณ Vörösmarty tér ติดกันกับคาเฟ่ชื่อดัง Gerbeaud confectionary ภายในตกแต่งด้วย “แร่โอนิกซ์ หรือ แร่นิล” ชนิดเดียวกับชื่อร้านทำให้ทั่วทั้งร้านมีสีดำขลับตัดด้วยลวดลายสีทอง เพดานของห้องอาหารถูกประดับด้วยแกรนด์แชนเดอเลียร์ทำจากคริสตัลขนาดใหญ่ เก้าอี้สีดำขลับตัดกับโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าสีขาวดูหรูหราสวยงามสมกับเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของประเทศ และเป็นหนึ่งในระดับทอปของยุโรปตะวันออก
♟ อาหารที่นี่กำกับโดยทีมงานหลายคนนำโดยหัวหน้าเชฟ Ádám Mészáros ผู้อยู่เบื้องหลังอาหารจานหลักทั้งหมด มีเชฟผู้ช่วยหนึ่งคนคือ Péter Mikulás และมีเชฟอาหารหวานประจำร้านคือเชฟ Róbert Mártha สร้างสรรค์เมนูอาหารหวานรสเลิศในคอร์สต่างๆ เมนูที่นี่มีให้เลือกสองแบบคือ „WITHIN OUR BORDERS…” ที่เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและเมนูอาหารพื้นบ้านในประเทศฮังการีมาปรับแต่งเป็นอาหารจานหรู อีกแบบคือ „BEYOND OUR BORDERS…” เป็นอาหารครีเอทีฟที่ไม่มีกรอบและกฎเกณฑ์ของเมนูและสัญชาติ โดยเลือกใช้วัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วมุมโลกมาปรับแต่งเป็นอาหารรสเลิศ
🍴 สำหรับคอร์ส „BEYOND OUR BORDERS…” ที่เราเลือกทานในวันนี้ราคา 33900 HUF หรือประมาณ 3900 บาทต่อคน (ราคายังไม่รวมภาษี 15%) เป็นเซ็ตเมนูที่สร้างสรรค์ที่สุดของทางร้าน โดยได้รับแรงบันดาลใจและไอเดียจากวัตถุดิบและอาหารทั่วทุกมุมโลก แต่ยังคงเคารพคัดสรรค์สุดยอดวัตถุดิบท้องถิ่นมทประกอบกัน นอกจากนี้ยังสั่งอาหารจานพิเศษที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นซึ่งมีมห้เลือกเป็น Extra Course คือ “ตับเป็ดฮังการี” หรือ “Duck liver, coffee, almond” ในราคา 4700 HUF โดยทางร้านใช้สุดยอดตับเป็ดจาก Duck Liver, Aszu & Top Chef Co. เช่นเดียวกับกับร้าน Borkonyha ระดับหนึ่งดาวมิชลินที่เราทานในวันก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในตับเป็ดที่ดีที่สุดในประเทศฮังการี และต้องบอกเลยว่าสำหรับคอร์สนี้ทางร้านทำรสชาติออกมาได้เหนือจินตนาการเลยจริงๆ แต่ในทางกลับกันอาหารจานอื่นในคอร์สหลักจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยังไม่ถึงกับว้าว และบางจานรสชาติอาจต่ำกว่ามาตรฐานของร้าน 2 ดาวมิชลินไปบ้าง ในด้านเครื่องดื่มทางร้านมีไวน์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย รวมถึงไวน์นำเข้า และยังมีเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอร์ให้บริการอีกด้วย
😋 กล่าวโดยสรุปคือ โอนิกซ์เป็นร้านอาหารที่ออกแบบตรงตามคอนเซปชื่อร้าน ภายในหรูหรา บรรยากาศดี อาหารอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ส่วนตัวคิดว่ารสชาติก้ำกึ่งระหว่างหนึ่งดาวกับสองดาว ราคาสูงหากเทียบกับมาตรฐานร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งในฮังการีและประเทศแถบยุโรปตะวันออก แต่ยังต่ำกว่าร้านอาหารระดับเดียวกันในยุโรปตะวันตก
📃 „BEYOND OUR BORDERS…” Tasting Menu (33900+ HUF/p)
- Amuse-bouche
- Pickled asparagus, parsley, wild garlic
- Cod, sturgeon caviar, buttermilk, dill
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
- Trout roll, shrimp, mushroom
- „Stuffed paprika”, lamb, tomato
- Pigeon, pumpkin, golden raisins
- Pre-dessert
- Hazelnut-chocolate tart, bergamot, baguette ice cream
- Petit fours
👍 อาหารคุณภาพดี ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวในยุโรปตะวันออก ราคาสูง ยังไม่ถึงกับต้องเดินทางไกลเพื่อมาชิม
รสชาติ : 15/20
ราคา : 12/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 15/20
บริการ : 17/20
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
- Amuse-bouche
Pea puree flavored with mint and parsley
Fried Hungarian cheese
Squid ink pasta
Tuna tartare
🍴 อมูสบูชสี่อย่างเสิร์ฟมาในแผ่นหินขนาดเล็ก รสชาติไม่แย่ เเต่ยังไม่ว้าวพอสำหรับร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน
- Amuse-bouche
Fried Hungarian cheese
🧀 ชีสฮังกาเรียนทอดจนผิวด้านนอกกรอบ เนื้อชีสข้างในนุ่ม รสชาติอร่อยใช้ได้ เเต่อาจดูธรรมดาไปสักหน่อย (12/20)
- Amuse-bouche
Tuna tartare
🐟 ทาทาร์ปลาทูน่าทานกับพาสต้าเป็นแป้งบางกรอบ จานนี้ถือว่าอร่อยที่สุดในอมูสบุชทั้งหมด เพราะมีรสหวานธรรมชาติของเนื้อปลาสดเข้ากันได้ดีกับซอสหวานด้านบน (14/20)
- Amuse-bouche
Squid ink pasta
◾️ แผ่นกรอบที่ทางร้านบอกว่าเป็นพาสต้าทำจากหมึกดำทานกับซอสสีส้มรสหวาน ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นสักเท่าไหร่ (10/20)
- Amuse-bouche
Pea puree flavored with mint and parsley
🌾 เพียวเรถั่ว ทานกับมิ้นท์และพาสลีย์ สีขาวด้านบนคือ rice chip หรือแผ่นกรอบทำจากข้าว มี mushroom powder หรือผงเห็ด และ mushroom velute (11/20)
- Pickled asparagus, parsley, wild garlic
🥗 สำหรับจานแรกคือ Variation of asparagus เริ่มจากเพียวเรหน่อไม้ฝรั่งผสมกับรสชาติของใบมะกรูด สีดำด้านบนคือผงทำจากหมึกดำและเห็ด แผ่นกรอบทำจากกระเทียมป่า และซอสพาสลีย์สีเขียว ลูกเล่นของจานนี้คือรสเปรี้ยวของหน่อไม้ฝรั่งดองที่ตัดกับรสหวานของเพียวเรพาสลีย์เนื้อเนียน แม้ว่ารสชาติออกมาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ยังไม่ว้าวมากนักสำหรับร้านระดับสองดาว (14/20)
- Cod, sturgeon caviar, buttermilk, dill
🐟 ปลาค็อดที่นำไปม้วนเป็นโรลำลมสวยงาม ทานเข้าไปจะมีเนื้อสัมผัสนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ธรรมชาติของปลาเนื้อขาว ทอปด้านบนด้วยไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียเพื่อเพิ่มรสเค็ม ด้านบนมี Tapioca pearl เข้าใจว่าเชฟต้องการทำให้เกิด contrast ทางเนื้อสัมผัสของไข่มุกกลมที่ทำจากบุกกับไข่ปลาคาเวียเคี้ยวหนึบ เเต่เรามองว่าตัวบุกมันลดทอนเนื้อสัมผัสที่ดีและแพงของคาเวียออกไป ข้างๆมี Rice crouton กรอบๆ นอกจากนี้ยังมีเเตงกวากรอบม้วนเป็นทรงกระบอก ทอปด้านบนอีกทีด้วยเจลสีขาวทำจากบัตเตอร์มิลค์ ซอสสีขาวเช่นกันมีรสมันเค็มทำจากบัตเตอร์มิลค์และน้ำมันสีเขียวของผักชีลาว (15/20)
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
🦆 สุดยอดเมนูที่เสิร์ฟเป็น Extra course คู่กับ Wine paring 1 แก้ว คือตับเป็ดฮังการี สุดยอดวัตถุดิบเลอค่าจาก Duck Liver, Aszu & Top Chef Co. ทางร้านทำออกมาเป็นอาเต๊ะ เเต่มีการทวิสต์โดยการเพิ่มผงกาแฟเข้าไป ด้านบนเป็น Tonic base coffee gel หรือเเผ่นเจลกาแฟรสขม นอกจากนี้ยังมีเพียวเรรสเปรี้ยวหวานทำจากแอปเปิ้ลเขียว มี Marinated green apple cube หรือแอปเปิ้ลเขียวหั่นเต๋า แผ่นกรอบเเละมูสตับเป็ดสีเหลืองนวล โดยปาเต๊ะตับเป็ดที่ทางร้านทำออกมาได้สมกับเป็นวัตถุดิบระดับโลกจริงๆ เนื้อเนียน นุ่ม ไร้ซึ่งกลิ่นคาวเครื่องใน มีรสหวานอ่อน ตัดด้วยรสขมอ่อนๆ และกลิ่นของกาแฟเข้ากันดีมากๆ รสเปรี้ยวขององค์ประกอบของแอปเปิ้ลเขียวก็มีรสออกมาพอดีๆ ไม่กลบรสเเละเนื้อสัมผัสของตับเป็ด จานนี้ทุกอย่างถือว่าดีงามสุดๆจริงๆ และโดยรวมถือเป็นจานที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้ (16/20)
- Duck liver, coffee, almond (4700+ HUF)
🍷 เสิร์ฟมาพร้อมกับ Wine pairing เป็น Noble sweet wine มีรสหวานน้ำผึ้งและผลไม้แห้งขึ้นจมูก หอม เข้ากันกับตับเป็ดจริงๆ (16/20)
- Trout roll, shrimp, mushroom
🐟 จานนี้จัดเป็นอีกคอมโบที่เด่นที่สุดในมื้อ คือโรลปลาแซลมอนเทร้าท์เนื้อนุ่ม หอม สอดไส้ตรงกลางด้วยสุดยอดวัตถุดิบอย่างกุ้งแดง Carabineros ที่หั่นออกมาสุกพอดี กัดเเล้วนุ่มเด้ง ทานกับเห็ดชนิดต่างๆ ราดด้วยซอสเนยเบลอบล็องรสหวานอ่อนๆเข้ากันได้ดีมากๆ (16/20)
- „Stuffed paprika”, lamb, tomato
🌶 ปาปริก้าสอดไส้ด้วยเนื้อแกะ จานนี้มีลูกเล่นคือกลิ่นหอมแรงของเนื้อแกะกับกลิ่นเฉพาะของปาปริก้าเข้ากันได้อย่างดี เเต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารไม่มีกลิ่น ด้านข้างเป็นซอสสีส้มทำจากมะเขือเทศ โคลราบี และเซเลอรีรสเปรี้ยวหวาน (14/20)
- Pigeon, pumpkin, golden raisins
🕊 สำหรับจานถัดไปคืออาหารจานแนะนำของทางร้าน มีโปรตีนหลักคือนกพิราบ โดยทางร้านใช้ส่วนอกและส่วนน่องเสิร์ฟมาแบบหนังกรอบ เนื้อด้านในนุ่มมากๆ ราดด้วยซอสกาแฟ ส่วนสีเหลืองรอบๆคือเพียวเรฟักทอง และเจลฟักทอง และผักสีเขียวในจานคือคะน้าทอด ทานคู่กับปาเต๊ะเนื้อเนียนที่มีองค์ประกอบของเป็ดป่า นกกระทา และไก่ฟ้ารวมกัน ส่วนแผ่นกรอบด้านบนคือหนังนกทอดกรอบทานตัดกันกับเนื้อรสนุ่ม (16/20)
- Pre-dessert
🍫 คอร์สก่อนของหวานเสิร์ฟมาเป็นสปอนเค้กเนื้อนุ่ม ไอศกรีมรูบี้ช็อกโกแลตสีชมพูพร้อมด้วยมูสเดียวกัน มีรสหวาน ทานกับเจลแบล็คเคอแรนท์รสเปรี้ยว และเจลดรอปคาโมมาย (14/20)
- Hazelnut-chocolate tart, bergamot, baguette ice cream
🍫 สำหรับของหวานวันนี้คือทาร์ตช็อกโกแลตและถั่วฮาเซลนัทจากปิเยมอนเต้ ประเทศอิตาลี โดยทางร้านจะนำไปคั่วแล้วเสิร์ฟมาร้อนๆ วางบนช็อกโกแลตจนละลายต่อหน้าลูกค้าดูน่าทาน ด้านข้างมีเจลเบอร์กามอต ผงเบอร์กามอต และไอศกรีมขนมปังบาเก็ตทอปด้วยทองคำเปลวทานได้และครัมเบิ้ลกรอบ (15/20)
- Bread Basket
🍞 ขนมปังมีให้เลือกหลากหลายมาก Black baguette, Rye bread, Hungarian baguette selection ขนมปังสีดำทำจากหมึกของปลาหมึกคืออันที่เราชอบที่สุด ทานกับเนยธรรมดาหรือเนยชีสผสมกับน้ำมันเมล็ดฟักทอง (13/20)
- Petit fours
🍬 สำหรับเปอตีโฟว์ปิดท้ายมื้ออาหารประกอบไปด้วย โฮมเมดช็อกโกแลตสอดไส้ราสเบอร์รี่รูปหมวกเชฟ แมนดารินเจลลี่สีส้ม มาร์ชแมลโล่ทานกับโกโก้ มะพร้าวช็อกโกแลต (12/20)
- Petit fours
🍰 ปิดท้ายก่อนกลับด้วยเค้กรสอร่อยใส่กล่องสีขาวติดมือกลับบ้าน (13/20)
ราคา 85,652 HUF หรือประมาณ 9,000 บาท
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้