สวัสดีเพื่อนๆ ในพันทิปค่ะ อยากมาเล่าประสบการณ์ของเราเองด้วยเหตุผล 2 ข้อ
1. ระบายความอึดอัดและความเครียดของเรา
2. ขอกำลังใจจากเพื่อนๆ ในพันทิป เพื่อให้เรามีสติรับมือกับทุกสถานการณ์ ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
เกริ่นนิดนึงก่อน...แฟนเรานอกใจไปคุยกับคนอื่น ซึ่งคนที่แฟนเราคุย เขาก็มีแฟนของเขาอยู่แล้วเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ของแฟนเรากับเขาคนนั้น เลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันเรียบร้อย แต่ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด
เราขอบอกข้อมูลของตัวเราและแฟนเราก่อนนะคะ
เริ่มจาก...เราเป็นทอมมีแฟนเป็นผู้หญิง อายุเรากับแฟนห่างกัน 5 ปี โดยเรา 28 และแฟนเรา 23 ค่ะ
ฝั่งเรา
นิสัย : เป็นคนใจเย็น ไม่ชอบความรุนแรง มีเหตุผลมาก ชอบพูดคำหยาบ เรื่องลามกบ้าง แต่ไม่พูดหยาบกับแฟน
ไม่ขี้หึง ไม่ตามเช็ค และเราไม่เจ้าชู้
บุคลิก : ร่าเริง ตลก คุยสนุก กวนตีนกลางๆ
ไลฟ์สไตล์ : ชอบดื่มกาแฟ/นั่งร้านกาแฟ ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่ชอบดื่มเบียร์
หรือเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน และเราเป็นลูกคนโต จึงรอบคอบกับการบริหารจัดการทุกเรื่องในชีวิตมากๆ
เพราะฉะนั้น ความรักแบบคู่คิดคู่ชีวิต คือ สิ่งที่เราต้องการ
ฝั่งแฟน
นิสัย : เป็นคนใจร้อน ดื้อรั้น พูดตรงมาก เอาแต่ใจบางครั้ง แต่พูดเพราะกับทุกคน รักสัตว์ ขี้สงสาร
บุคลิก : ดูภายนอกจะแรงๆ แรดๆ แต่จริงๆ ถือตัว ใครที่ไม่สนิท แฟนเราจะไม่สุงสิงด้วย แต่ถ้าสนิทแล้วจะชวนคุยเก่ง อัธยาศัยดี ขี้หึงตามปกติ และไม่เจ้าชู้
ไลฟ์สไตล์ : ชอบแต่งตัว ชอบนั่งร้าน Hang Out ไปดื่มและฟังเพลง เพื่อเอาบรรยากาศเป็นประจำ มีเข้าผับบ้างนานๆ ครั้ง ดื่มเหล้าและเบียร์เก่งมาก การไปนั่งร้าน Hang Out ไปหาดนตรี แสงสีเป็นวิธีผ่อนคลายของแฟนเราค่ะ
เราคบกับแฟนตั้งแต่ มิ.ย.61 ถึงตอนนี้ ก็ได้ประมาณปีกว่าๆ มีทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน สวีทกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน
ให้เกียรติกัน และเราทั้งคู่มีข้อเสียที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน เหมือนแฟนคู่อื่นปกติทั่วไป
ข้อเสียเรา คือ ไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน เพราะเราเป็นพี่คนโตที่ต้องดูแลแม่กับน้องด้วย (พ่อเราเสียชีวิตแล้ว)
นี่เป็นความผิดเราเองที่จัดสรรเวลาได้ แต่ทำได้ไม่สม่ำเสมอ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเยอะพอสมควร
มันละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ ซึ่งทุกครั้งที่ทะเลาะกันเรื่องนี้ แล้วเราอธิบายเหตุผลไป แฟนเราเข้าใจนะคะ
แต่เรารู้ว่าแฟนเราก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้หรอกค่ะ
ยิ่งเราเป็นคนไม่เช็ค ไม่ตาม คือเชื่อใจและให้อิสระแฟนเราเต็มที่ ถึงขนาดแฟนเราไปเที่ยวกลางคืน
เราก็แค่ไปส่ง - ไปรับเท่านั้น ไม่ไปเที่ยวด้วยหรือนั่งเฝ้าเพราะไม่ชอบ มีแค่ไม่กี่ครั้งที่จะไปด้วยกัน
ยิ่งดูเหมือนว่าเราไม่สนใจแฟนเรา แต่ไม่ใช่นะคะ เราคุยกัน ตกลงกันอยู่เสมอค่ะ ว่าเราจะปรับคนละครึ่ง
เราจะไปเที่ยวและทำกิจกรรมด้วยกัน ทั้งในสิ่งที่เราชอบและแฟนเราชอบ เพราะต่างคนต่างเข้าใจไลฟ์สไตล์
และยอมรับธรรมชาติของกัน
ข้อเสียแฟนเรา คือ ไม่บริหารการใช้เงิน ส่วนใหญ่หมดไปกับร้าน Hang Out , เสื้อผ้า , เครื่องสำอางค์
ตามลำดับ เราไม่มีปัญหากับไลฟ์สไตล์แฟนเรานะคะ ขอแค่ต้องรู้จักบริหารจัดการ ระมัดระวังการใช้จ่าย
แต่แฟนเราไม่บริหารเลย มีเงินหรือไม่มีเงิน ถ้าอยากไปดื่ม ไปเที่ยว ก็ไป แล้วเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ก็ต้องมาใช้รวมกับเรา แต่ยังดีตรงที่พอเราเตือน เราดุ แฟนเราฟังและพยายามแก้ไข ช่วงหลังๆ แฟนเราเที่ยวน้อยลง กินเหล้าเบียร์ก็น้อยลงแล้วค่ะ
แทรกตรงนี้นิดนึงค่ะ ว่าแฟนเรามีปัญหาสุขภาพ ป่วยบ่อย ป่วยง่ายตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาก็มีทั้ง
- แผลที่ตับจากการดื่มหนักมากๆ ติดต่อกันช่วงแฟนเราเรียนมหาลัย เป็นแผลเล็กๆ ระยะเริ่มต้นค่ะ
- เยื่อบุในโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เริ่มจากประจำเดือนมาน้อย มาบ้างไม่มาบ้าง เคยมีไม่มาติดต่อกัน 4-5 เดือนมาแล้ว
- หนักที่สุดคือป่วยซึมเศร้า มาจากความกดดันและถูกคาดหวังสูง หลายๆ อย่างตั้งแต่แฟนเราเป็นเด็ก แฟนเราไปพบคุณหมอ รับยามาทาน เข้ารักษาตัวตั้งแต่เดือน มี.ค.62 จนถึงปัจจุบัน และอาการป่วยของแฟนเราทำให้เราเอง
ต้องระมัดระวังคำพูด น้ำเสียง การแสดงสีหน้ามากขึ้น รวมๆคือ ใช้ชีวิตร่วมกันลำบากขึ้น
แฟนเราเอาแต่ใจมากขึ้น หงุดหงิดขี้โมโหง่ายและบ่อยมาก เหตุผลที่เคยรับฟังกันได้ก็น้อยลง แต่เราก็พยายาม
ดูแลแฟนเราเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพราะเรารักแฟนเรา อีกอย่างแฟนก็เป็นคนดี น่ารัก เข้ากับแม่และน้องเราได้
แม่เรารักและเอ็นดูแฟนเรา อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงคิดว่าก็เรื่องปกตินี่ ไม่เห็นมีอะไร จะมีก็เป็นเรื่องที่ต้องค่อย
ปรับแก้ข้อเสีย ดูแลสุขภาพกายกับใจแค่นั้น แต่มันกำลังจะไม่ปกติหลังจากนี้แหละค่ะ เพราะช่วงเดือนเม.ย.62 แฟนเราต้องเปลี่ยนงาน ย้ายไปอีกจังหวัดนึง ช่วงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นการนอกใจ
ตอนนั้นเรากับแฟนเราอยู่คนละจังหวัด ไกลกันประมาณ 250 ก.ม. เจอกันได้แค่เดือนละครั้ง โดยที่เราไปหาแฟนหรือแฟนมาหาเรา สลับกันแบบนี้ แต่ยิ่งพออยู่ห่างกัน และเราเองที่ไม่ค่อยมีเวลา ไหนจะไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน เลยทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับแฟนเรามีช่องว่างกว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น แฟนเราเหงาบวกกับเจอคนที่บุคลิกคล้ายเรา
เลยทำให้แฟนเราไปชอบ
ทอม คนนั้น และด้วยความที่เราไม่เช็ค ไม่ตาม ให้อิสระและเชื่อใจ เพราะเราเข้าใจ
การใช้ชีวิตในแบบแฟนเรา ยอมรับได้ถ้าไปเที่ยว ไปดื่ม ขอให้ดูแลตัวเอง จะไปไหน ทำอะไรแค่บอก ไม่ต้องขออนุญาต แต่ให้อยู่ในความพอดี แฟนเราก็ทำตามที่เราขอได้หมดเลยค่ะ เลยทำให้เราไม่คิดว่าจะมีการนอกใจเกิดขึ้น
ปลายเดือน มิ.ย.62 ซึ่งเพิ่งผ่านวันครบรอบ 1 ปี ของเรากับแฟนไป เป็นช่วงที่แฟนเราเริ่มรู้จักทอมคนนั้น
ผ่านเพื่อนร่วมงานของแฟนเรานั่นแหละค่ะ โดยที่ไปนั่งดื่มร้าน Hang Out และเริ่มคุยกันเรื่อยมา ทั้งคุยไลน์ คุยโทรศัพท์ ไปนัดเจอกัน ลึกซึ้งถึงขั้นมีอะไรกัน ในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน เพราะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. แฟนเราย้าย
ที่ทำงานอีกครั้ง และกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมแล้ว แต่แฟนก็ยังมีคุยกับทอมคนนั้นตลอดทั้งที่อยู่กับเรา
นี่ก็เพิ่งมาจับได้เมื่อ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา จากการขอเช็คโทรศัพท์ (ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมอยู่ๆถึงอยากดู)
พอเราจับโทรศัพท์ แฟนเรารีบแย่งคืนทันที เลยรู้สึกว่ากลิ่นไม่ดีละ เรายืนยันเสียงเข้มว่าขอดู สุดท้ายแฟนเราก็ยอมให้ดู แล้วเราก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด
พอมาเช็คและเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ เราช็อคและอึ้งที่สุด เพราะไม่เคยระแคะระคายอะไรทั้งนั้นค่ะ
มันเสียใจแต่ไม่โกรธแฟนเรานะคะ เพราะส่วนนึงเราผิดด้วยที่แบ่งเวลาได้ไม่สม่ำเสมอ อยู่ห่างกัน เจอกันน้อย
และปัญหานอกใจเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็มีโอกาสเจอ แต่สำหรับเรามันลำบากกว่านั้นค่ะ เพราะอาการป่วยซึมเศร้า
ของแฟนเราทำให้เรากลัว กลัวว่าเค้าจะทำร้ายตัวเอง จะพูดตรงๆ เพราะแฟนเราทำตัวเองค่ะ แฟนเราผิดและ
ไม่มีข้ออ้างหรือคำแก้ตัวด้วย แฟนไม่ได้โทษเราเลยว่าเพราะไม่มีเวลาให้กับอยู่ห่างกัน แฟนเราสารภาพว่า
เพราะเหงากับคนนั้นบุคลิกคล้ายเรา เลยชอบมากถึงขั้นเลยเถิดไปไกล สุดท้าย เราต่างคนต่างรู้สึกในความผิด
ของตัวเอง แฟนจะเก็บของย้ายไปอยู่ที่อื่นและเลิกกันตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่เรานี่แหละที่ห้ามไว้เพราะเป็นห่วงมาก กลัวใจ กลัวความรู้สึกดาว์นของแฟน เพราะมันจะหนักหนาสาหัส
ถึงขั้นทำร้ายตัวเอง เนื่องจากช่วงที่คบกัน เวลาแฟนเราเครียด ผิดหวัง เสียใจกับเรื่องอะไรก็ตาม แฟนมีคิดอยากฆ่าตัวตายเรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้แฟนเราก็รู้ตัวว่าเค้าทำตัวเอง ถ้าเราอยากเลิกกันเค้าก็จะไม่รั้งไว้
แต่เราสารภาพตรงนี้เลยว่า ไม่กล้าเลิกค่ะ เราปล่อยแฟนเราไปไกลสายตาไม่ได้จริงๆ เคยเห็นแฟนจะทำร้ายตัวเองมาแล้วกับตา ภาพนั้นมันฝังใจเราไปเลย ดีว่าครั้งนั้นห้ามทัน สำหรับความรู้สึกเราตอนนี้ คือ รักแฟนลดลง
แต่ความเชื่อใจ ไว้ใจแฟนไม่เหลือแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ คือ ผูกพันบ้างและเป็นห่วงมากที่สุด
เรารู้ค่ะว่าสุดท้าย เราช่วยเหลืออะไรหรือดูแลใครตลอดไปไม่ได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมจริงๆ
เราควรยอมรับข้อนี้ ได้แต่หวังลึกๆว่าเวลา ประสบการณ์ และสติจะช่วยนำพาเราไปเจอทางออกในที่สุด
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ รบกวนขอกำลังใจหรือใครมีอะไรแนะนำเรา จะเป็นความกรุณาที่สุด
ปล. ผิดพลาดตรงไหน อ่านลำบากยังไง ขออภัยล่วงหน้านะคะ
แฟนป่วยโรคซึมเศร้าและเค้ามีคนอื่น
1. ระบายความอึดอัดและความเครียดของเรา
2. ขอกำลังใจจากเพื่อนๆ ในพันทิป เพื่อให้เรามีสติรับมือกับทุกสถานการณ์ ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
เกริ่นนิดนึงก่อน...แฟนเรานอกใจไปคุยกับคนอื่น ซึ่งคนที่แฟนเราคุย เขาก็มีแฟนของเขาอยู่แล้วเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ของแฟนเรากับเขาคนนั้น เลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันเรียบร้อย แต่ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด
เราขอบอกข้อมูลของตัวเราและแฟนเราก่อนนะคะ
เริ่มจาก...เราเป็นทอมมีแฟนเป็นผู้หญิง อายุเรากับแฟนห่างกัน 5 ปี โดยเรา 28 และแฟนเรา 23 ค่ะ
ฝั่งเรา
นิสัย : เป็นคนใจเย็น ไม่ชอบความรุนแรง มีเหตุผลมาก ชอบพูดคำหยาบ เรื่องลามกบ้าง แต่ไม่พูดหยาบกับแฟน
ไม่ขี้หึง ไม่ตามเช็ค และเราไม่เจ้าชู้
บุคลิก : ร่าเริง ตลก คุยสนุก กวนตีนกลางๆ
ไลฟ์สไตล์ : ชอบดื่มกาแฟ/นั่งร้านกาแฟ ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่ชอบดื่มเบียร์
หรือเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน และเราเป็นลูกคนโต จึงรอบคอบกับการบริหารจัดการทุกเรื่องในชีวิตมากๆ
เพราะฉะนั้น ความรักแบบคู่คิดคู่ชีวิต คือ สิ่งที่เราต้องการ
ฝั่งแฟน
นิสัย : เป็นคนใจร้อน ดื้อรั้น พูดตรงมาก เอาแต่ใจบางครั้ง แต่พูดเพราะกับทุกคน รักสัตว์ ขี้สงสาร
บุคลิก : ดูภายนอกจะแรงๆ แรดๆ แต่จริงๆ ถือตัว ใครที่ไม่สนิท แฟนเราจะไม่สุงสิงด้วย แต่ถ้าสนิทแล้วจะชวนคุยเก่ง อัธยาศัยดี ขี้หึงตามปกติ และไม่เจ้าชู้
ไลฟ์สไตล์ : ชอบแต่งตัว ชอบนั่งร้าน Hang Out ไปดื่มและฟังเพลง เพื่อเอาบรรยากาศเป็นประจำ มีเข้าผับบ้างนานๆ ครั้ง ดื่มเหล้าและเบียร์เก่งมาก การไปนั่งร้าน Hang Out ไปหาดนตรี แสงสีเป็นวิธีผ่อนคลายของแฟนเราค่ะ
เราคบกับแฟนตั้งแต่ มิ.ย.61 ถึงตอนนี้ ก็ได้ประมาณปีกว่าๆ มีทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน สวีทกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน
ให้เกียรติกัน และเราทั้งคู่มีข้อเสียที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน เหมือนแฟนคู่อื่นปกติทั่วไป
ข้อเสียเรา คือ ไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน เพราะเราเป็นพี่คนโตที่ต้องดูแลแม่กับน้องด้วย (พ่อเราเสียชีวิตแล้ว)
นี่เป็นความผิดเราเองที่จัดสรรเวลาได้ แต่ทำได้ไม่สม่ำเสมอ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเยอะพอสมควร
มันละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ ซึ่งทุกครั้งที่ทะเลาะกันเรื่องนี้ แล้วเราอธิบายเหตุผลไป แฟนเราเข้าใจนะคะ
แต่เรารู้ว่าแฟนเราก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้หรอกค่ะ
ยิ่งเราเป็นคนไม่เช็ค ไม่ตาม คือเชื่อใจและให้อิสระแฟนเราเต็มที่ ถึงขนาดแฟนเราไปเที่ยวกลางคืน
เราก็แค่ไปส่ง - ไปรับเท่านั้น ไม่ไปเที่ยวด้วยหรือนั่งเฝ้าเพราะไม่ชอบ มีแค่ไม่กี่ครั้งที่จะไปด้วยกัน
ยิ่งดูเหมือนว่าเราไม่สนใจแฟนเรา แต่ไม่ใช่นะคะ เราคุยกัน ตกลงกันอยู่เสมอค่ะ ว่าเราจะปรับคนละครึ่ง
เราจะไปเที่ยวและทำกิจกรรมด้วยกัน ทั้งในสิ่งที่เราชอบและแฟนเราชอบ เพราะต่างคนต่างเข้าใจไลฟ์สไตล์
และยอมรับธรรมชาติของกัน
ข้อเสียแฟนเรา คือ ไม่บริหารการใช้เงิน ส่วนใหญ่หมดไปกับร้าน Hang Out , เสื้อผ้า , เครื่องสำอางค์
ตามลำดับ เราไม่มีปัญหากับไลฟ์สไตล์แฟนเรานะคะ ขอแค่ต้องรู้จักบริหารจัดการ ระมัดระวังการใช้จ่าย
แต่แฟนเราไม่บริหารเลย มีเงินหรือไม่มีเงิน ถ้าอยากไปดื่ม ไปเที่ยว ก็ไป แล้วเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ก็ต้องมาใช้รวมกับเรา แต่ยังดีตรงที่พอเราเตือน เราดุ แฟนเราฟังและพยายามแก้ไข ช่วงหลังๆ แฟนเราเที่ยวน้อยลง กินเหล้าเบียร์ก็น้อยลงแล้วค่ะ
แทรกตรงนี้นิดนึงค่ะ ว่าแฟนเรามีปัญหาสุขภาพ ป่วยบ่อย ป่วยง่ายตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาก็มีทั้ง
- แผลที่ตับจากการดื่มหนักมากๆ ติดต่อกันช่วงแฟนเราเรียนมหาลัย เป็นแผลเล็กๆ ระยะเริ่มต้นค่ะ
- เยื่อบุในโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เริ่มจากประจำเดือนมาน้อย มาบ้างไม่มาบ้าง เคยมีไม่มาติดต่อกัน 4-5 เดือนมาแล้ว
- หนักที่สุดคือป่วยซึมเศร้า มาจากความกดดันและถูกคาดหวังสูง หลายๆ อย่างตั้งแต่แฟนเราเป็นเด็ก แฟนเราไปพบคุณหมอ รับยามาทาน เข้ารักษาตัวตั้งแต่เดือน มี.ค.62 จนถึงปัจจุบัน และอาการป่วยของแฟนเราทำให้เราเอง
ต้องระมัดระวังคำพูด น้ำเสียง การแสดงสีหน้ามากขึ้น รวมๆคือ ใช้ชีวิตร่วมกันลำบากขึ้น
แฟนเราเอาแต่ใจมากขึ้น หงุดหงิดขี้โมโหง่ายและบ่อยมาก เหตุผลที่เคยรับฟังกันได้ก็น้อยลง แต่เราก็พยายาม
ดูแลแฟนเราเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพราะเรารักแฟนเรา อีกอย่างแฟนก็เป็นคนดี น่ารัก เข้ากับแม่และน้องเราได้
แม่เรารักและเอ็นดูแฟนเรา อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงคิดว่าก็เรื่องปกตินี่ ไม่เห็นมีอะไร จะมีก็เป็นเรื่องที่ต้องค่อย
ปรับแก้ข้อเสีย ดูแลสุขภาพกายกับใจแค่นั้น แต่มันกำลังจะไม่ปกติหลังจากนี้แหละค่ะ เพราะช่วงเดือนเม.ย.62 แฟนเราต้องเปลี่ยนงาน ย้ายไปอีกจังหวัดนึง ช่วงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นการนอกใจ
ตอนนั้นเรากับแฟนเราอยู่คนละจังหวัด ไกลกันประมาณ 250 ก.ม. เจอกันได้แค่เดือนละครั้ง โดยที่เราไปหาแฟนหรือแฟนมาหาเรา สลับกันแบบนี้ แต่ยิ่งพออยู่ห่างกัน และเราเองที่ไม่ค่อยมีเวลา ไหนจะไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน เลยทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับแฟนเรามีช่องว่างกว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น แฟนเราเหงาบวกกับเจอคนที่บุคลิกคล้ายเรา
เลยทำให้แฟนเราไปชอบ ทอม คนนั้น และด้วยความที่เราไม่เช็ค ไม่ตาม ให้อิสระและเชื่อใจ เพราะเราเข้าใจ
การใช้ชีวิตในแบบแฟนเรา ยอมรับได้ถ้าไปเที่ยว ไปดื่ม ขอให้ดูแลตัวเอง จะไปไหน ทำอะไรแค่บอก ไม่ต้องขออนุญาต แต่ให้อยู่ในความพอดี แฟนเราก็ทำตามที่เราขอได้หมดเลยค่ะ เลยทำให้เราไม่คิดว่าจะมีการนอกใจเกิดขึ้น
ปลายเดือน มิ.ย.62 ซึ่งเพิ่งผ่านวันครบรอบ 1 ปี ของเรากับแฟนไป เป็นช่วงที่แฟนเราเริ่มรู้จักทอมคนนั้น
ผ่านเพื่อนร่วมงานของแฟนเรานั่นแหละค่ะ โดยที่ไปนั่งดื่มร้าน Hang Out และเริ่มคุยกันเรื่อยมา ทั้งคุยไลน์ คุยโทรศัพท์ ไปนัดเจอกัน ลึกซึ้งถึงขั้นมีอะไรกัน ในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน เพราะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. แฟนเราย้าย
ที่ทำงานอีกครั้ง และกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมแล้ว แต่แฟนก็ยังมีคุยกับทอมคนนั้นตลอดทั้งที่อยู่กับเรา
นี่ก็เพิ่งมาจับได้เมื่อ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา จากการขอเช็คโทรศัพท์ (ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมอยู่ๆถึงอยากดู)
พอเราจับโทรศัพท์ แฟนเรารีบแย่งคืนทันที เลยรู้สึกว่ากลิ่นไม่ดีละ เรายืนยันเสียงเข้มว่าขอดู สุดท้ายแฟนเราก็ยอมให้ดู แล้วเราก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด
พอมาเช็คและเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ เราช็อคและอึ้งที่สุด เพราะไม่เคยระแคะระคายอะไรทั้งนั้นค่ะ
มันเสียใจแต่ไม่โกรธแฟนเรานะคะ เพราะส่วนนึงเราผิดด้วยที่แบ่งเวลาได้ไม่สม่ำเสมอ อยู่ห่างกัน เจอกันน้อย
และปัญหานอกใจเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็มีโอกาสเจอ แต่สำหรับเรามันลำบากกว่านั้นค่ะ เพราะอาการป่วยซึมเศร้า
ของแฟนเราทำให้เรากลัว กลัวว่าเค้าจะทำร้ายตัวเอง จะพูดตรงๆ เพราะแฟนเราทำตัวเองค่ะ แฟนเราผิดและ
ไม่มีข้ออ้างหรือคำแก้ตัวด้วย แฟนไม่ได้โทษเราเลยว่าเพราะไม่มีเวลาให้กับอยู่ห่างกัน แฟนเราสารภาพว่า
เพราะเหงากับคนนั้นบุคลิกคล้ายเรา เลยชอบมากถึงขั้นเลยเถิดไปไกล สุดท้าย เราต่างคนต่างรู้สึกในความผิด
ของตัวเอง แฟนจะเก็บของย้ายไปอยู่ที่อื่นและเลิกกันตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่เรานี่แหละที่ห้ามไว้เพราะเป็นห่วงมาก กลัวใจ กลัวความรู้สึกดาว์นของแฟน เพราะมันจะหนักหนาสาหัส
ถึงขั้นทำร้ายตัวเอง เนื่องจากช่วงที่คบกัน เวลาแฟนเราเครียด ผิดหวัง เสียใจกับเรื่องอะไรก็ตาม แฟนมีคิดอยากฆ่าตัวตายเรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้แฟนเราก็รู้ตัวว่าเค้าทำตัวเอง ถ้าเราอยากเลิกกันเค้าก็จะไม่รั้งไว้
แต่เราสารภาพตรงนี้เลยว่า ไม่กล้าเลิกค่ะ เราปล่อยแฟนเราไปไกลสายตาไม่ได้จริงๆ เคยเห็นแฟนจะทำร้ายตัวเองมาแล้วกับตา ภาพนั้นมันฝังใจเราไปเลย ดีว่าครั้งนั้นห้ามทัน สำหรับความรู้สึกเราตอนนี้ คือ รักแฟนลดลง
แต่ความเชื่อใจ ไว้ใจแฟนไม่เหลือแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ คือ ผูกพันบ้างและเป็นห่วงมากที่สุด
เรารู้ค่ะว่าสุดท้าย เราช่วยเหลืออะไรหรือดูแลใครตลอดไปไม่ได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมจริงๆ
เราควรยอมรับข้อนี้ ได้แต่หวังลึกๆว่าเวลา ประสบการณ์ และสติจะช่วยนำพาเราไปเจอทางออกในที่สุด
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ รบกวนขอกำลังใจหรือใครมีอะไรแนะนำเรา จะเป็นความกรุณาที่สุด
ปล. ผิดพลาดตรงไหน อ่านลำบากยังไง ขออภัยล่วงหน้านะคะ