อยากจะขอโอกาสจากคนรัก ทำยังไงดีคะ

ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ
— ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนนะคะ—

เราเองอายุ 25 เขาอายุ 26 (เป็นต่างชาติ ศาสนาอิสลาม) เจอกันที่มหาลัยสมัยเรียนด้วยกัน (2017) เราตกหลุมรักกันและกัน ตอนแรกๆก็แค่คุยๆกันไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ แต่พอเวลาผ่านไปประมาน 4 เดือนเราตัดสินใจบอกเขาว่าเราต้องการสถานะ เพราะเรากลัวซำ้รอยแบบรักครั้งเก่า เค้าบอกกับเราว่า เราเป็นแฟนกันได้ แต่ไม่สัญญานะ ว่าในอนาคตเราจะได้อยู่ด้วยกันไหม เพราะวัฒนธรรมเค้าส่วนใหญ่จะไม่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ตอนนั้นเราตกลงหมดทุกอย่าง เพราะเราตกหลุมรักเขาแล้ว

เราคบกันมาเรื่อยๆ คู่เราเป็นคู่ทีใครเห็นก็บอกว่าน่ารัก เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน พาไปเจอที่บ้าน ซึ่งที่บ้านเราก็รักเขา ที่บ้านเขาก็น่ารักกับเรามากๆ ถึงเรากับที่บ้านเขาจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พ่อแม่เค้าก็พยายามสื่อสารภาษาอังกฤษกับเรา เราก็เรียนรู้ภาษาบ้านเขาจากเขา ส่วนเขาเองก็พยายามพูดภาษาไทยเพื่อที่จะสื่อสารกับบ้านเรา เราสองคนคบกันมาเรื่องๆ มีความผูกพันธ์ เรารักกันมากๆ มีทะเลาะกันบ้าง แต่เราก็เข้าใจกัน เราอยู่กับเขาแล้วเรามีความสุขมากๆ แล้วเราก็รู้สึกได้ว่าเขาก็มีความสุขเหมือนกัน

พอเรารู้ว่าเขาตามใจเรา เราก็เริ่มเอาแต่ใจ เขาก็เริ่ม strick เรื่องเสื้อผ้า ต้องใส่แบบที่เค้าให้ใส่เท่านั้น ห้ามใส่ยีน (ยีนขายาวก็ไม่ได้) ห้ามใส่เสื้อผ้าที่เห็นสัดส่วน (ศาสนาอิสลามบ้านเขา ไม่โพกผ้า ไม่ต้องใส่เสื้อผ้ามิดชิดหมดเหมือนบ้านเรา) เราเข้าใจว่าเขาก็หึงหวงคนที่เขารัก ไม่อยากให้คนมอง แล้วอีกอย่าง เขาอาจจะเตรียมเราเข้า ศาสนาและวัฒนธรรมเขา เราก็ทำตาม เขาเป็นคนขี้หึงมากๆ

เขาเป็นคนน่ารัก เอาใจใส่ ถ้าถามว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง เขาเป็นผู้ชายซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เคยโกหกไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้กังวลใจ  พอเราเริ่มเอาแต่ใจ งอแง บางทีไม่มีเหตุผล จนทะเลาะกันในวันฮาโลวีน 2018 ตอนนั้นเราไปพัทยา พร้อมกับเพื่อนผู้ชายเขาอีกคน แล้วเราทะเลาะกัน (จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) แล้วเราตัดสินใจเดินกลับโรงแรมคนเดียว เพราะเรางอนเขา เขาโกดมาก เพราะเป็นห่วงมาก วันฮาโลวีน ตอนตี 3-4 ตอนกลางคืนที่พัทยา ถือว่าอันตรายมากๆ  แต่เราเอาแต่ใจ เราดื้อมาก ตั้งแต่วันนั้น เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน คนเย็นชา ไม่ค่อยพูดจา ไม่ค่อยหวาน เราเข้าใจเขา เพราะเขาเป็นคนประเภทที่ว่า ถ้าจะเลาะกัน ก็เก็บไว้ไปทะเลาะกันที่บ้าน อย่าทะเลาะในที่สาธารณะ เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นมองเรากับเขาในมุมที่ไม่ดี เขาเป็นคนมีเหตุมีผลมากๆ

เขาเปลี่ยนไป จนกลางเดือน พ.ย. 2018 เขาย้ายออกจากคอนโดเรา ไปอยู่กับพี่ชาย (แต่ก่อนเขาอยู่กับพี่ชาย และเราย้ายไปอยู่กับเขา ต่อมาเขาย้ายมาอยู่กับเรา) ช่วงนั่นเป็นช่วงที่เรา 2 คนเรียนจบพอดี เราสมัครเป็นหราวที่สุวรรณภูมิ ซึ่งก็ติด แต่เขาเรียนโทต่อ ตั้งแต่เขาย้ายออก เราก็รู้สึกว่า เราสองคนมีระยะห่างกันมากขึ้น จากที่เราไม่ค่อยพูดจากันอยู่แล้ว แต่คอนโดเราสองคนก็อยู่ห่างกันแค่ข้ามฝากถนน (ปกติเขาอยู่สาทร ในช่วงที่เราไปอยู่กับเขา แต่เขาขอให้พี่ชายเขาย้ายมาอยู่รามคำแหง จะได้อยู่ใกล้ๆเรา) แล้วเกือบๆสิ้นเดือน พ.ย. เขาก็หายไปเลย บล็อกเราทุกอย่าง เราพยายามติดต่อ เขาก็ไม่คุยกับเรา เราเหลือตัวเลือกอย่างเดียวคือ เมลล์ เราตัดสินใจเมลล์หาเขา ว่าเราอยู่หน้าคอนโด มีอะไรก็คุยกัน อย่าทำแบบนี้ เราทรมานมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ 1 อาทิตย์เต็มๆ นอนก็สะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆ บางครั้งได้ยินเหมือนเสียงเปิดประตูที่คอนโด หลังจากนั้น เราบังเอิญเจอพี่ชายเขาที่คอนโด เพราะเราไปรอเขา อยากเจอเขา เรามีโอกาสได้คุยกับพี่ชายเขา เขาบอกว่า ตัดใจเหอะ เรากับเขาไปกันไม่รอดหรอก เขาพูดง่ายๆ แต่เราทำใจไม่ได้ เพราะเรารักเขามาก แล้วเราก็รู้ว่าเขาก็รักเรามากเหมือนกัน พอเวลาผ่านไป เราใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ใครทั้งนั้น (ที่บ้านเรายังไม่รู้ว่าเลิกกัน) เราไปเที่ยวผับกับเพื่อน ดื่ม เมา เละ และเราก็พลาดไปมีอะไรกับคนรู้จักที่มหาลัย เราตกใจมาก เราเสียใจมาก เหมือนเราอยากจะประชดตัวเอง แต่มันคือความผิดพลาดที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น

เราเลิกติดต่อกับคนนั่นทันที เราละอายใจตัวเองมาก เพราะเรายังรักแฟนเรามากๆ และอยากให้เขากลับมาหาเรา วันที่ 15 ธ.ค. 2018 ประมาน ตี 3 เรามีโอกาสได้คุยกับเขา เรารู้เรื่องที่เราทำลงไป เขาเสียใจมาก เขาต่อยกำแพง มือแตก เราบอกว่าเราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ เราเห็นเขาร้องไห้แล้วเรารู้เลยว่าเขายังรักเรามากๆ เขาเสียใจมากๆ เขาร้องไห้แบบไม่อายเรา ร้องเหมือนคนจะขาดใจ เรารู้สึกผิดมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี เขาดูเหมือนอยากจะกลับมาคบกับเรา แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากกลับมา เราก็เข้าใจแหละ ว่าเขา รับไม่ได้

วันที่ 16 ธ.ค. 2018 เป็นวันรับปริญญา ของเราสองคน เราส่งข้อความไปหาเขาว่า วันนี้เป็นวันของเธอนะ เราหวังว่าเราจะเจอเธอมีความสุขนะ ตอนแรกเรากลัวว่าเขาจะไม่มา แต่เราก็เจอเขา เราซื้อดอกไม้ให้เขา เขาก็รับ แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เขาไม่ได้เข้ามาไหว้พ่อแม่เรา แต่เราเข้าไปสวัสดีพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาก็ซื้อดอกไม้ให้เรา ถ่ายรูปกับเรา แต่เรากับเขาไม่มีรูปคู่กันเลย พ่อแม่เขาก็บอกให้เขาถ่ายรูปกับเรา เขาก็ไม่ถ่าย (พ่อแม่เขาไม่รู้ว่าเลิกกัน แต่พี่ชายรู้)

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนวันที่ 19 ธ.ค. 2018 เราตัดสินใจบังคับเขาให้ลงมาเจอ แล้วเราก็คุยกัน เราบันทึกเสียงไว้ เขาบอกว่า เขาไม่รักเราแล้ว เราบอกว่าเราไม่เชื่อ เขาก็ทำหน้าแบบก็ตามใจ เขาบอกว่าไม่คิดอะไรกับเราอีกแล้ว ทุกคำพูดที่เขาพูด มันจุกมาก มันเจ็บมากๆ พูดไม่ออก เขาขอให้เขานั่งอยู่ก่อนนะ อย่าเพิ่งไปไหน เราแอบไปร้องไห้ เพราะเรากลั้นไม่ไหวจิงๆ เรารีบเช็ดน้ำตาแล้วออกไปคุยกับเขาต่อ แล้วเราก็บอกว่า พอแล้วก็ได้ เรายิ่งฟังเธอพูดแล้วเรายิ่งเจ็บ หลังจากแยกกัน เราเปิดฟังบนรถ แล้วเราตัดสินใจตัดใจเลย ไม่ยุ่ง แต่มีแอบมาดูบ้าง ว่าไฟห้องเขาปิดหรือยัง เขานอนหรือยัง รถเขาอยู่ไหม บางทีเรานอนไม่หลับ เราก็แค่ข้ามฝั่งระเบียงห้องเขา แล้วเราก็เดินกลับ แค่นี้เราก็สุขใจแล้ว

31 ธ.ค. 2018
เราไปเค้าดาวน์ ที่เซนเวิลคนเดียว เมลล์หาเขาอยากให้เขามา แต่เขาก็ไม่มา เราสัญญากับตัวเองว่าพอแล้ว อย่าทำให้ตัวเองเจ็บอีกเลย แล้วปีใหม่ เราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่

เราเริ่มสมัครแอร์ (ความฝันของเรา ที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยลอง เพราะเขาไม่ชอบ เขาไม่อยากให้ห่างกัน เขาไม่อยากให้เราไปเจอคนเยอะๆ พูดหวานๆ ยิ้มหวานๆ กับคนอื่น เพราะเราเคยเป็นคนยิ้มเก่ง เฟรนลี่มากๆ มีแต่คนชอบรอยยิ้มของเรา แต่เราก็ทำเพื่อเขา) เราเริ่มดูแลตัวเอง มีคนเข้ามาจีบ มาชอบ มาคุย แต่เราก็ไม่เปิดใจคุยกับใคร ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อน

เราตัดสินใจลาออกจากงานกราว ย้ายเข้ามาอยู่ที่สาทร เริ่มเงินใหม่ ใช้ชีวิตคนเดียว ห่างจากเพื่อน เพราะเพื่อนส่วนใหญ่ยังรียนไม่จบ วันที่ 2 ก.พ. 2019 เป็นวันสุดท้ายที่เราจะย้ายออกจากรามคำแหง เราตัดสินใจเมลล์หาเข้าว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่นะ อยากเจอกันไหม เขาตอบว่า yes

พอเราเจอกัน น้ำตาเขาไหลออกมาทั้งๆที่หน้าเขาไม่ได้ดูเสียใจ มันคือน้ำตาของความคิดถึง เราสองคนเกร็งๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก พอเราได้คุยกัน เขาให้เราเลือก ระหว่างโลกทั้งใบ กับเขา แค่คนเดียว เราบอกว่าเราขอเวลาคิดได้ไหม เขาก็บอกว่าได้สิ เรากลั้นน้ำตามาตลอดระหว่างที่คุยกัน แล้วเขาก็จับมือเรา เราเอามือทั้ง 2 ข้างของเขา มาวางบนหน้า แล้วเราก็ร้องไห้ มันกลั้นไว้ไม่ได้อีกแล้ว ใจเราเต้นเร็วมากๆ มือคู่นี้ที่เขาเคยจับมือเราไม่เคยปล่อย เราอยากได้เขากลับคืนมา มากๆ เราไม่ทันได้คิด เราเลือกเขา เหนือว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ เว้นครอบครัวของเรา หลังจากนั้นเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่ เขามีคอนดิชั่นว่า เราต้องนอนวิดีโอคลอกันทุกวัน ซึ่งเราไม่มีปัญหา เพราะเราเป็นคนติดแฟนอยู่แล้ว เราต้อง snap เขาตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ออกไปกับใคร อยู่ไหน ทำอะไร ซึ่งเราก็ทำมาตลอด เรื่องเสื้อผ้าไม่ต้องพูดถึง เข้มงวดมาก เราสองคนเปิด find my friend ซึ่งเราก็จะรู้ว่า เรา/เขาอยู่ที่ไหน หลังจากนั้น เขาก็ย้ายตามเรามาอยู่ที่สาทร ห่างจากคอนโดเราประมาณ 500m. เราเจอกนทุกวัน บางวันเขาก็มาอยู่กับเรา บางวันเราก็มาอยู่กับเขา เราสองคนทำงาน ก็จะมีเวลาให้กันเวลาตอนเช้า เราไปรับเขา แล้วก็หลังเลิกงานเราก็เจอกัน

จนช่วงเดือน ก.ค. ส.ค. ก.ย. เราทะเลาะกันบ่อยมากๆ อาทิตย์ละหลายครั้ง ไม่ยอมกัน ไม่เข้าใจกัน ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก เราก็เอามาทะเลาะกัน จนครั้งล่าสุด 16 ก.ย. 2019 เราไม่ค่อยคุยกันเพราะเมื่อคืนมีปากเสียงกัน 18 ก.ย. เราตัดสินใจบอกกับเขาไปว่า ถ้าเป็นแบบนี้เราจะไปนะ เราไม่มีความสุขเลย เขาตอบกลับมาว่า เธออยากไปอยู่แล้วหนิ อยากไปตั้งนานแล้วหนิ เราก็ตอบเขาว่าก็แล้วแต่จะคิดนะ เราใช้อารมณ์เหนือเหตุผล และก็ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา เราอยากชนะใจเขา แต่เราใช้วิธีที่ผิด จริงๆแล้ว เราไม่ได้อยากจะเลิก แต่เราอยากได้ความสนใจจากเขา เราอยากให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม เวลาเขาโกดหรือไม่ชอบอะไร เขาจะไม่พูด ให้เราคิดเอง แล้วเขาก็จะเย็นชาใส่เรา เราบอกเขาหลายรอบมากๆ ถ้าไม่ชอบอะไรให้พูดออกมานะ เราจะได้ทำให้มันถูกต้อง เราจะพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น แต่เขาไม่พูด เราตัดสินใจ เก็บเสื้อผ้าเขาไปวางไว้หน้าบ้านเขา เขาก็บอกว่เอากุญแจคอนโดเธอคืนไป เราเลยบอกว่า ถ้าเธอไม่อยากเก็บไว้เธอก็ทิ้งมันไปเลย

เราใช้อารมณ์ตัดสินใจทุกอย่าง ตอนนั้นทุกอย่างมันไวมาก เรามารู้ตัวอีกทีวันที่ 20 ก.ย. ว่าเขาไม่อยู่แล้ว เราย้อนดูแชทที่คุยกัน เราเพิ่งจะมาคิดขึ้นได้ว่าจริงๆแล้ว เขายังยื้อเราไว้อยู่เลย แต่เราไล่เขาเอง เขาไม่มีใครที่นี่ มีแค่เรา แต่เรากลับไม่ต้องการเขา เรารู้สึกผิดมากๆ เราพยายามทำทุกๆอย่าง โทรเขาก็บล็อก เฟสเขาก็บล็อก line whatsapp viber snapchat บล็อกเราทุกอย่าง เราไม่หาเขาหน้าบ้าน เขาก็ไม่ออกมา เราก็เกรงใจพี่ชายเขาด้วย เพราะอายุเยอะ มีครอบครัวแล้ว เราแอบไปหาเขาวันเสาร์ที่ 21 ก.ย. ที่มหาลัย เพราะเขาเรียนวันเสาร์ ยังไม่ถึงทางเข้า ม. เราเห็นเขาเดินออกไปสูบบุหรี่ ตอนนี้นเราใจเต้นแรงมากเหมือนคนจะเป็นลม แต่เราตัดสินใจไปนั่งข้างๆเขา พอเขาหันมาเจอเราเขาก็ลุกจะเดินหนี เราจับแขนเขาไว้ น้ำตาไหล ขอร้องให้เขาอธิบาย ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจที ว่าเธอต้องไป เขาก็บอกว่า คนเต็มไปหมด ไม่อยากคุย เราขอร้องเขา เขาบอกว่า เขาไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว หลังจากจบเทอมนี้ เขาจะกลับประเทศ เราร้องไห้ ไม่รู้จะพูดอะไร จุกไปหมด รับอะไรไม่ได้ เขาพยายามเดินหนี เราก็ดึงเขาไว้ แล้วเขาก็วิ่ง ลากเราล้มลงกับพื้น ไม่หันมามองเราเลย TT มือ เข่า ถลอก เลือดออก เราเดินกลับมาที่รถ ร้องไห้หนักมาก เหมือนคนสติแตก พอตั้งสติได้เลยขับรถกลับคอนโด พยายามติดต่อเขา ส่งเมลล์ไปบอกเขาว่า เราไม่โกดเธอเลย เรารู้ว่าเธอก็เจ็บ เรารู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เราเจ็บ เราร้องไห้ ทุกวันที่ไปทำงาน แอบไปดูเขาหน้าบ้าน

** อยากขอสอบถามเพื่อนๆค่ะ เรากับเขาใช้ iphone เวลาเราโทไป จะขึ้นให้ฝากข้อความเสียง ส่งข้อความ iMessage ปกติจะขึ้น Delivered เลย แต่นี่ไม่ขึ้น ผ่านไป 2-3 วันมันขึ้นว่า Delivered เหมือนข้อความถูกส่งแล้ว แบบนี้หมายความว่าไงคะ ??

เรามีโทรศัทพ์ที่ใช้สำหรับออฟฟิต เขาไม่ได้บล็อกไลน์เรา เราเลยถือโอกาส เขียนจดหมายขอโทดและขอโอกาสมีสักครั้ง ก่อนหน้านี้เราทำวิดีโอให้เขาไปแล้ว ความยาว 1 ชม. ส่งไปทางเมลล์ ไม่รู้ว่าเขาได้รับไหม - เราส่งข้อความและถ่ายรูปจดหมายส่งไป เขายังไม่ทันเปิดอ่าน เขาบล็อกไลน์เรา เราเสียใจมากๆ TT ทำอะไรไม่ถูก คนปลอบใจก็เหนื่อยที่จะปลอบเราแล้ว เราไม่ยอมแพ้เลย รู้ว่าเจ็บ แต่ก็ทำทุกอย่าง มีโอกาสอะไรก็ทำหมด พอผ่านมา 2-3 วัน ในไลน์ที่เราส่งรูปจดหมายไปให้ มันขึ้นว่า Read แต่ไลน์ยังถูกบ็อกอยู่ ข้อความใน iMessgae ก็ขึ้น Delivered ทั้งๆที่ลองโทไปก็ยังขึ้นให้ฝากข้อความเสียงอยู่ งงมากๆ สรุปเขาบล็อกเบอร์เราป่ะ ??

ตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แต่เรารักเขามากๆ แล้วเราก็ยังเชื่อในความรักของเรา 2 คน แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใจแข็งขนาดนี้ เพื่อนๆพอจะมีวิธีไหนไหมคะ ช่วยแนะนำหน่อย TT
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่