
สวัสดีครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว pantip ทุกคนครับ ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปที่อินโดนิเซียมาครับ จึงมารีวิวนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย และครั้งนี้ก็จะรีวิวทั้งสายการบินไทย ที่พักโรงแรม JW MARRIOTT HOTEL JAKARTA ร้านอาหารต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวครับ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนเที่ยวให้กับทุกคนครับ
ขอบอกไว้ก่อนครับว่า ครั้งนี้ที่ไปเป็นเรื่องของการทำงานครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีรายละเอียดเรื่องของการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในจาการ์ตาครับ โดยจะขอเริ่มรีวิว ดังนี้ครับ
1. สายการบินไทย

แน่นอนครับ การเดินทางจากไทยต้องใช้เครื่องบิน ซึ่งมีหลายสายการบินมาก วันนี้มีโอกาสได้เดินทางด้วยการบินไทย ทั้งไปและกลับ ซึ่งคนที่ทำงานทางจาการ์ตาเรียกกันว่าไฟท์แรกครับ ซึ่งก็คือไฟท์ที่เดินทางเช้าจากไทย และกลับจาการ์ตาช่วงเที่ยง ปกติการบินไทยมีบินมายังจาการ์ตาวันละ 2 ไฟท์ครับ เป็นช่วงเช้า 08.00 น. ขากลับ 12.35 น. และช่วงบ่าย 14.00 น. ขากลับ 19.00 .ครับ ซึ่งไฟท์ที่ไปเป็นไฟท์เช้า 08.00 น. แบบชั้นประหยัดครับ โดยมาถึงสนามบินเมื่อเวลา 06.00 น. ครับ
รายละเอียดเที่ยวบิน
Flight: TG433
From: BANGKOK SUVARNABHUMI INTL
To: JAKARTA SOEKARNO HATTA INTL Terminal: 3
Departure: 08:00 20 Sep 2019
Arrival: 11.35 20 Sep 2019
Duration: 03:35

มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 06.00 น. ครับ แถวเช็คอินยังไม่ยาวเลยครับ ใช้เวลาไม่นาน ก็ผ่านการตรวจความปลอดภัยและ ตม. ครับ วันนี้เป็น Gate D6 ครับ มีผู้โดยสารมารอขึ้นเครื่องอยู่บ้างแล้วครับ

วันนี้เดินทางด้วย คุณคีรีมาส เครื่องบิน Airbus 330 อายุตัวเครื่อง 9.7 ปี
ผ่านการตรวจเช็คจากเจ้าหน้าที่หน้าเกตก็เข้ามาในตัวเครื่องด้านหน้าเป็น Business Class มีหนังสือพิมพ์ให้หยิบเหมือนเดิมครับ

ถึงที่นั่งมีจัดเตรียมหมอน และผ้าห่มไว้แล้วครับ

หูฟังตั้งอยู่ในกระเป๋าหน้าที่นั่ง

เครื่องบินวันนี้ A330 - 300

ระบบบันเทิงในเดือนกันยายนครับ มีหนังใหม่เป็น อลาดิน , X-Men Dark Phoenix , Pikachu และ Rocketman (2019)

อาหารที่บริการวันนี้ เป็น Set เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือ ขนมปังแบบอบร้อน ตอนยกมาเสิร์ฟนี้หอมกรุ่นมากครับ กินเป็นอย่างแรกเลย อร่อยมาก

อาหารเป็นข้าวผัดพริกไก่พร้อมผัก อีกเมนู เป็นข้าวผัดออมเล็ทที่แบบแห้งๆ ครับ เลือกถูกมากครับที่เป็นเมนูนี้

ที่นั่งบริเวณ 34 ติดริมหน้าต่าง จะเจอกล่องข้อมูลระบบเอนเตอร์เทนของเครื่องนะครับ ทำให้ยืดขาได้ไม่สุด
หลังจากบริการอาหารบนเครื่องแล้ว ก็ไม่มีอะไรบริการแล้วครับ สามารถขอน้ำต่างๆ เพิ่มเติมได้เอง จนก่อนเวลาเตือน Take Off ครับ

ใบศุลกากรของอินโดนีเซีย แอร์เดินแจกหลังจากเครื่องขึ้นบินครับ และมีวีดีโอแนะนำการกรอกแสดงบนจอก่อนเครื่องลง โดยกรอกตามจริงของข้อมูลของเรา ซึ่งตอนผ่านศุลกากรก็ไม่ได้มีเรียกตรวจอะไรครับ

ระยะเวลาทั้งหมดในการบิน อ้างอิงจาก Flightradar24 ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเองครับ
2. โรงแรม JW MARRIOTT HOTEL JAKARTA
เมื่อถึงสนามบิน ซูการ์โนฮัตตา มาถึง โรงแรมด้วยรถที่เช่าไว้ครับ ซึ่งมีคำแนะนำว่า การเดินทางต่างๆ ในจาการ์ตา ให้เรียกแอปจาก Bluebird เป็นหลักจะดีกว่าครับ เพราะจะได้รถใหม่ รวมถึงมีโอกาสได้รถคันใหญ่ หรูหรา และเป็นที่นิยม ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับเจ้าเขียวที่มีบริการรถในไทยตอนนี้ และเจ้าอื่นๆ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สัมผัสว่าดีกว่ากันอย่างไรครับ
รร. JW MARRIOTT เคยมีประเด็นข่าวที่โด่งดังก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2009 ที่มีเหตุก่อการร้ายระเบิดโรงแรม พร้อมกับ รร. Ritz-Carlton หากท่านสนใจสามารถหาข่าวเก่าได้ครับ ทำให้การเข้าพักที่นี่ต้องมีการตรวจสแกนกระเป๋า ร่างกาย รวมถึงรถต่างๆ ที่จะเข้ามาส่งบริเวณโรงแรมครับ โดยมีการตรวจเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง แต่การพักในโรงแรมนี้ของผมที่ผ่านมาก็ไม่เกิดเหตุใดๆ นะครับ
เมื่อเข้ามาหลังตรวจความปลอดภัยของโรงแรม ก็จะมีคาเฟ่ของโรงแรมสำหรับดื่มกาแฟ ทานขนม และ สูบบุหรี่ครับ

ขนมต่างๆ ของคาเฟ่ครับ ราคาระดับโรงแรมไม่แพงจนเกินไปครับ

ทางเข้า lobby โรงแรมครับ

มองกลับออกไปเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่บอกไปครับ แต่บุหรี่แรงมาก

ส่วน check in ครับ ซึ่งด้วยจำนวนแขกที่มาพักเยอะ และห้องที่มีหลายห้อง ทำให้การเช็คอินเป็นไปด้วยความล่าช้ามากครับ ทำให้รอนานกว่าครึ่งชั่วโมง เก้าอี้นั่งก็ไม่ค่อยจะมี เป็นอะไรที่นานมากครับ จนสุดท้ายบ่นๆ โรงแรม จนเค้ามอบ Voucher ให้ครับ เป็นการขอโทษทั้งการส่วนลดสปา และ Gift ให้ใช้แทนครับ (รายละเอียดจะกล่าวต่อไปครับ)
[CR] Review "Jakarta" สายการบินไทย - JW Marriott - ที่กิน และ ที่เที่ยว / Indonesia
สวัสดีครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว pantip ทุกคนครับ ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปที่อินโดนิเซียมาครับ จึงมารีวิวนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย และครั้งนี้ก็จะรีวิวทั้งสายการบินไทย ที่พักโรงแรม JW MARRIOTT HOTEL JAKARTA ร้านอาหารต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวครับ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนเที่ยวให้กับทุกคนครับ
ขอบอกไว้ก่อนครับว่า ครั้งนี้ที่ไปเป็นเรื่องของการทำงานครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีรายละเอียดเรื่องของการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในจาการ์ตาครับ โดยจะขอเริ่มรีวิว ดังนี้ครับ
1. สายการบินไทย
แน่นอนครับ การเดินทางจากไทยต้องใช้เครื่องบิน ซึ่งมีหลายสายการบินมาก วันนี้มีโอกาสได้เดินทางด้วยการบินไทย ทั้งไปและกลับ ซึ่งคนที่ทำงานทางจาการ์ตาเรียกกันว่าไฟท์แรกครับ ซึ่งก็คือไฟท์ที่เดินทางเช้าจากไทย และกลับจาการ์ตาช่วงเที่ยง ปกติการบินไทยมีบินมายังจาการ์ตาวันละ 2 ไฟท์ครับ เป็นช่วงเช้า 08.00 น. ขากลับ 12.35 น. และช่วงบ่าย 14.00 น. ขากลับ 19.00 .ครับ ซึ่งไฟท์ที่ไปเป็นไฟท์เช้า 08.00 น. แบบชั้นประหยัดครับ โดยมาถึงสนามบินเมื่อเวลา 06.00 น. ครับ
รายละเอียดเที่ยวบิน
Flight: TG433
From: BANGKOK SUVARNABHUMI INTL
To: JAKARTA SOEKARNO HATTA INTL Terminal: 3
Departure: 08:00 20 Sep 2019
Arrival: 11.35 20 Sep 2019
Duration: 03:35
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 06.00 น. ครับ แถวเช็คอินยังไม่ยาวเลยครับ ใช้เวลาไม่นาน ก็ผ่านการตรวจความปลอดภัยและ ตม. ครับ วันนี้เป็น Gate D6 ครับ มีผู้โดยสารมารอขึ้นเครื่องอยู่บ้างแล้วครับ
วันนี้เดินทางด้วย คุณคีรีมาส เครื่องบิน Airbus 330 อายุตัวเครื่อง 9.7 ปี
ผ่านการตรวจเช็คจากเจ้าหน้าที่หน้าเกตก็เข้ามาในตัวเครื่องด้านหน้าเป็น Business Class มีหนังสือพิมพ์ให้หยิบเหมือนเดิมครับ
ถึงที่นั่งมีจัดเตรียมหมอน และผ้าห่มไว้แล้วครับ
หูฟังตั้งอยู่ในกระเป๋าหน้าที่นั่ง
เครื่องบินวันนี้ A330 - 300
ระบบบันเทิงในเดือนกันยายนครับ มีหนังใหม่เป็น อลาดิน , X-Men Dark Phoenix , Pikachu และ Rocketman (2019)
อาหารที่บริการวันนี้ เป็น Set เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือ ขนมปังแบบอบร้อน ตอนยกมาเสิร์ฟนี้หอมกรุ่นมากครับ กินเป็นอย่างแรกเลย อร่อยมาก
อาหารเป็นข้าวผัดพริกไก่พร้อมผัก อีกเมนู เป็นข้าวผัดออมเล็ทที่แบบแห้งๆ ครับ เลือกถูกมากครับที่เป็นเมนูนี้
ที่นั่งบริเวณ 34 ติดริมหน้าต่าง จะเจอกล่องข้อมูลระบบเอนเตอร์เทนของเครื่องนะครับ ทำให้ยืดขาได้ไม่สุด
หลังจากบริการอาหารบนเครื่องแล้ว ก็ไม่มีอะไรบริการแล้วครับ สามารถขอน้ำต่างๆ เพิ่มเติมได้เอง จนก่อนเวลาเตือน Take Off ครับ
ใบศุลกากรของอินโดนีเซีย แอร์เดินแจกหลังจากเครื่องขึ้นบินครับ และมีวีดีโอแนะนำการกรอกแสดงบนจอก่อนเครื่องลง โดยกรอกตามจริงของข้อมูลของเรา ซึ่งตอนผ่านศุลกากรก็ไม่ได้มีเรียกตรวจอะไรครับ
ระยะเวลาทั้งหมดในการบิน อ้างอิงจาก Flightradar24 ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเองครับ
2. โรงแรม JW MARRIOTT HOTEL JAKARTA
เมื่อถึงสนามบิน ซูการ์โนฮัตตา มาถึง โรงแรมด้วยรถที่เช่าไว้ครับ ซึ่งมีคำแนะนำว่า การเดินทางต่างๆ ในจาการ์ตา ให้เรียกแอปจาก Bluebird เป็นหลักจะดีกว่าครับ เพราะจะได้รถใหม่ รวมถึงมีโอกาสได้รถคันใหญ่ หรูหรา และเป็นที่นิยม ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับเจ้าเขียวที่มีบริการรถในไทยตอนนี้ และเจ้าอื่นๆ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สัมผัสว่าดีกว่ากันอย่างไรครับ
รร. JW MARRIOTT เคยมีประเด็นข่าวที่โด่งดังก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2009 ที่มีเหตุก่อการร้ายระเบิดโรงแรม พร้อมกับ รร. Ritz-Carlton หากท่านสนใจสามารถหาข่าวเก่าได้ครับ ทำให้การเข้าพักที่นี่ต้องมีการตรวจสแกนกระเป๋า ร่างกาย รวมถึงรถต่างๆ ที่จะเข้ามาส่งบริเวณโรงแรมครับ โดยมีการตรวจเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง แต่การพักในโรงแรมนี้ของผมที่ผ่านมาก็ไม่เกิดเหตุใดๆ นะครับ
เมื่อเข้ามาหลังตรวจความปลอดภัยของโรงแรม ก็จะมีคาเฟ่ของโรงแรมสำหรับดื่มกาแฟ ทานขนม และ สูบบุหรี่ครับ
ขนมต่างๆ ของคาเฟ่ครับ ราคาระดับโรงแรมไม่แพงจนเกินไปครับ
ทางเข้า lobby โรงแรมครับ
มองกลับออกไปเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่บอกไปครับ แต่บุหรี่แรงมาก
ส่วน check in ครับ ซึ่งด้วยจำนวนแขกที่มาพักเยอะ และห้องที่มีหลายห้อง ทำให้การเช็คอินเป็นไปด้วยความล่าช้ามากครับ ทำให้รอนานกว่าครึ่งชั่วโมง เก้าอี้นั่งก็ไม่ค่อยจะมี เป็นอะไรที่นานมากครับ จนสุดท้ายบ่นๆ โรงแรม จนเค้ามอบ Voucher ให้ครับ เป็นการขอโทษทั้งการส่วนลดสปา และ Gift ให้ใช้แทนครับ (รายละเอียดจะกล่าวต่อไปครับ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้