รีวิวยาสีฟันฉบับคนรวย ยี่ห้อไหนปังทั้งราคาและคุณภาพ มาดูกันเลยจ้า
ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนเลย เราเป็นคนนึงที่เรื่องสุขภาพในช่องปาก จะแพงแค่ไหน ถ้าดีจริงยอมสู้เรื่องราคาจ้าาา ปัญหาแรกเลยคือ กลิ่นน้ำลายบูดโดยเฉพาะเวลาตื่นนอน ก็ไม่รู้เหมือนกันนะทำไม๊ทำไม แต่ก่อนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีกลิ่นปากอนุภาพรุนแรงขนาดนี้ ต้องคอยหาลูกอมเอย หมากฝรั่งเอยมาทำให้มั่นใจ แต่เคี้ยวมากไปก็ไม่ได้ ลูกอมก็ทำให้ฟันผุไปอีก เลยตัดสินใจพลีชีพ ทำรีวิวทดลองซะเลย ระยะเวลาที่เราทดลองจะใช้สลับๆกัน ประมาณ 3 สัปดาห์นะ
ส่วนยาสีฟันที่เราจะรีวิว 3 ตัวคือ
1) Dentiste’ Plus White สูตร Vitamin C Xylito ราคา 250 บาท
2) Ora2 สูตร Premium Mint ราคา 195 บาท
3) Pure Ora สูตร Mild Herb ราคา 220 บาท
**ราคาอันนี้อ้างอิงจากตอนที่เราซื้อนะ ใครอยากลองไปตามซื้อได้ที่พวกร้านขายยาญี่ปุ่น ซุปเปอร์Hiso หรือสั่งผ่านเวบ shopee Lazada JD มีหมดนะ
พร้อมแล้วมาดูเป็นตัวๆกันเลยจ้า
ตัวแรกแบรนด์ที่คุ้นเคย ที่เคลมเรื่องกลิ่นปากชัดเจน
Dentiste’ Plus White สูตร Vitamin C Xylitol ราคา 250 บาท
ขนาด 160 กรัม
แต่ก่อนเคยใช้แต่รุ่นธรรมดาซึ่งราคาถูกกว่าเยอะมากแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ว้าวมาก ตัวนี้เห็นราคาที่สูงกว่าตัวอื่นก็เลยซื้อมาลอง เพราะน่าจะดีแน่ๆ และปริมาณดูจะเยอะกว่าตัวอื่น
รสชาติ : เผ็ด แสบปากมากๆๆ รู้สึกปากเบริน ทนแปรงได้ไม่นานต้องรีบบ้วนออก
ผล : เนื่องจากรสที่ทำให้แสบมากๆบ้วนออกไว เลยรู้สึกไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ กลิ่นปากก็ระงับได้พอประมาณ
คะแนน : 3 เต็ม 5 หักคะแนนความเผ็ด แสบปากเวอร์
ตัวต่อมาแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น
Ora2 สูตร Premium Mint ราคา 195 บาท
ขนาด 100 กรัม
แพคเกจดูหรูหรา ดูแพงราคาก็แพงเท่าตัวเช่นกันจากสูตรที่ไม่ Premium เป็นตัวนึงนี้แอบผิดหวังเล็กๆ อันนี้ก็แล้วแต่คนแหละเนอะ ว่าแล้วมาดูผลที่เราทดลองเลยจ้า
รสชาติ : ตัวนี้ไม่เผ็ด ไม่แสบปาก รสและกลิ่นละมุนระดับนึงเลย
ผล : ตัวนี้เนื่องจากกลิ่นและรสที่ละมุนไปหน่อย เราว่ามันยังไม่ค่อยตอบโจทย์ การละงับกลิ่นเท่าไหร่ เวลาจะคุยกับใครอาจจะต้องหาลูกอมมาอมเพิ่ม
คะแนน : 3 เต็ม 5 หักคะแนนราคาและความไม่สดชื่นยาวนานของนาง ถ้าประสิทธิภาพอยู่ ได้นานกว่านี้จะโอเคขึ้นจ้า
ตัวสุดท้ายก็สัญชาติญี่ปุ่นอีกเช่นกันจ้า
Pure Ora (เพียวออร่า)สูตร Mild Herb ราคา 220 บาท
ขนาด 115 กรัม
แพคเกจมาในกล่องใสๆ เห็นตัวหลอดยาสีฟัน ตัวนี้ส่วนตัวยังไม่เคยทดลองมาก่อนนะคะ แต่ด้วยความที่เป็นสัญชาติญี่ปุ่นแล้วเจอในร้าน Cosme’ มันต้องมีดีแน่ๆ ระดับราคาที่รับได้ ถ้าเทียบว่าต้องซื้อหมากฝรั่งเคี้ยวๆ ตลอดยังไงก็ถูกกว่า ปริมาณหลอดใหญ่กว่าอีกยี่ห้อด้วยนะ
รสชาติ : นุ่มๆ เย็นๆแต่อ่อนโยนไม่แสบปาก คือดีย์
ผล : เนื่องจากไม่แสบปาก ก็เลยแปรงเพลินๆ ทุกซอกทุกมุม รู้สึกสะอาดกว่า 2 ตัวที่ผ่านมา และที่สำคัญกลิ่นปากเบาลงเยอะมาก (อันนี้เพื่อนๆและคน รอบข้างยืนยัน)
คะแนน : 5 เต็ม 5 รู้สึกประทับใจมากๆ กับคุณภาพที่ได้รับ รู้สึกมั่นใจเรื่องกลิ่น มากขึ้น และรู้สึกว่าสุขภาพฟันดีด้วย
สรุปให้เลยนะ
เราว่า Pure Ora (เพียวออร่า)สูตร Mild Herb ประทับใจเราที่สุด จาก 3 ตัวที่ได้ทดลองมา เพิ่งเคยทดลองใช้แต่คงจะใช้ไปตลอด เพราะรู้สึกว่าสะอาด ทำให้มั่นใจขึ้น ระหว่างวันไม่ต้องคอยหาลูกอม และเคี้ยวหมากฝรั่งจ้าา
[CR] รีวิวยาสีฟันฉบับคนรวย ยี่ห้อไหนปังทั้งราคาและคุณภาพ มาดูกันเลยจ้า
ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนเลย เราเป็นคนนึงที่เรื่องสุขภาพในช่องปาก จะแพงแค่ไหน ถ้าดีจริงยอมสู้เรื่องราคาจ้าาา ปัญหาแรกเลยคือ กลิ่นน้ำลายบูดโดยเฉพาะเวลาตื่นนอน ก็ไม่รู้เหมือนกันนะทำไม๊ทำไม แต่ก่อนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีกลิ่นปากอนุภาพรุนแรงขนาดนี้ ต้องคอยหาลูกอมเอย หมากฝรั่งเอยมาทำให้มั่นใจ แต่เคี้ยวมากไปก็ไม่ได้ ลูกอมก็ทำให้ฟันผุไปอีก เลยตัดสินใจพลีชีพ ทำรีวิวทดลองซะเลย ระยะเวลาที่เราทดลองจะใช้สลับๆกัน ประมาณ 3 สัปดาห์นะ
ส่วนยาสีฟันที่เราจะรีวิว 3 ตัวคือ
1) Dentiste’ Plus White สูตร Vitamin C Xylito ราคา 250 บาท
2) Ora2 สูตร Premium Mint ราคา 195 บาท
3) Pure Ora สูตร Mild Herb ราคา 220 บาท
**ราคาอันนี้อ้างอิงจากตอนที่เราซื้อนะ ใครอยากลองไปตามซื้อได้ที่พวกร้านขายยาญี่ปุ่น ซุปเปอร์Hiso หรือสั่งผ่านเวบ shopee Lazada JD มีหมดนะ
พร้อมแล้วมาดูเป็นตัวๆกันเลยจ้า
ตัวแรกแบรนด์ที่คุ้นเคย ที่เคลมเรื่องกลิ่นปากชัดเจน
Dentiste’ Plus White สูตร Vitamin C Xylitol ราคา 250 บาท
ขนาด 160 กรัม
แต่ก่อนเคยใช้แต่รุ่นธรรมดาซึ่งราคาถูกกว่าเยอะมากแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ว้าวมาก ตัวนี้เห็นราคาที่สูงกว่าตัวอื่นก็เลยซื้อมาลอง เพราะน่าจะดีแน่ๆ และปริมาณดูจะเยอะกว่าตัวอื่น
รสชาติ : เผ็ด แสบปากมากๆๆ รู้สึกปากเบริน ทนแปรงได้ไม่นานต้องรีบบ้วนออก
ผล : เนื่องจากรสที่ทำให้แสบมากๆบ้วนออกไว เลยรู้สึกไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ กลิ่นปากก็ระงับได้พอประมาณ
คะแนน : 3 เต็ม 5 หักคะแนนความเผ็ด แสบปากเวอร์
ตัวต่อมาแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น
Ora2 สูตร Premium Mint ราคา 195 บาท
ขนาด 100 กรัม
แพคเกจดูหรูหรา ดูแพงราคาก็แพงเท่าตัวเช่นกันจากสูตรที่ไม่ Premium เป็นตัวนึงนี้แอบผิดหวังเล็กๆ อันนี้ก็แล้วแต่คนแหละเนอะ ว่าแล้วมาดูผลที่เราทดลองเลยจ้า
รสชาติ : ตัวนี้ไม่เผ็ด ไม่แสบปาก รสและกลิ่นละมุนระดับนึงเลย
ผล : ตัวนี้เนื่องจากกลิ่นและรสที่ละมุนไปหน่อย เราว่ามันยังไม่ค่อยตอบโจทย์ การละงับกลิ่นเท่าไหร่ เวลาจะคุยกับใครอาจจะต้องหาลูกอมมาอมเพิ่ม
คะแนน : 3 เต็ม 5 หักคะแนนราคาและความไม่สดชื่นยาวนานของนาง ถ้าประสิทธิภาพอยู่ ได้นานกว่านี้จะโอเคขึ้นจ้า
ตัวสุดท้ายก็สัญชาติญี่ปุ่นอีกเช่นกันจ้า
Pure Ora (เพียวออร่า)สูตร Mild Herb ราคา 220 บาท
ขนาด 115 กรัม
แพคเกจมาในกล่องใสๆ เห็นตัวหลอดยาสีฟัน ตัวนี้ส่วนตัวยังไม่เคยทดลองมาก่อนนะคะ แต่ด้วยความที่เป็นสัญชาติญี่ปุ่นแล้วเจอในร้าน Cosme’ มันต้องมีดีแน่ๆ ระดับราคาที่รับได้ ถ้าเทียบว่าต้องซื้อหมากฝรั่งเคี้ยวๆ ตลอดยังไงก็ถูกกว่า ปริมาณหลอดใหญ่กว่าอีกยี่ห้อด้วยนะ
รสชาติ : นุ่มๆ เย็นๆแต่อ่อนโยนไม่แสบปาก คือดีย์
ผล : เนื่องจากไม่แสบปาก ก็เลยแปรงเพลินๆ ทุกซอกทุกมุม รู้สึกสะอาดกว่า 2 ตัวที่ผ่านมา และที่สำคัญกลิ่นปากเบาลงเยอะมาก (อันนี้เพื่อนๆและคน รอบข้างยืนยัน)
คะแนน : 5 เต็ม 5 รู้สึกประทับใจมากๆ กับคุณภาพที่ได้รับ รู้สึกมั่นใจเรื่องกลิ่น มากขึ้น และรู้สึกว่าสุขภาพฟันดีด้วย
สรุปให้เลยนะ
เราว่า Pure Ora (เพียวออร่า)สูตร Mild Herb ประทับใจเราที่สุด จาก 3 ตัวที่ได้ทดลองมา เพิ่งเคยทดลองใช้แต่คงจะใช้ไปตลอด เพราะรู้สึกว่าสะอาด ทำให้มั่นใจขึ้น ระหว่างวันไม่ต้องคอยหาลูกอม และเคี้ยวหมากฝรั่งจ้าา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้