เวลาเราท้อๆ สิ่งใดครับ ที่ช่วยเรา ให้ยิ้มสู้ และ พัฒนาตัวเองต่อไปได้ครับ ขอกำลังใจและคำแนะนำหน่อยครับ

ผม อายุ 30 ปีแล้วครับ เคยพลาด เรียนไม่จบ มา แต่ มีพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ ที่ดี เลย ทำงาน
ด้าน IT support  3 ปี ทำล่าม อยู่ 6 เดือน
จริงอยู่ที่เงินเดือนอยู่ในเกณ พออยู่ได้ 15,000-23,000 บาท โดยเฉลี่ย
เคยมีแฟนมา 6 ปีครับ แต่พ่อแม่ ทั้งสองฝั่ง ไม่ยอมรับกัน เลย ทำให้ สุดท้าย แนวคิดการใช่ชีวิตก็ ไปกันไม่รอด เงินเก็บที่มีก็กลายเป็นใช้ประทังชีวิต 
เคลียร์หนี้สินแฟน ตัวเองบางส่วน

กลายเป็นคนแบบ เสียสูญมาพักนึง จน ตอนนี้  มีทางญาติมา ดึงไปทำงานด้วย เงินเดือนฐาน 15,000 ที่พักฟรี โบนัส คือ ค่าคอมมิสชั่น
ซึ่งถามว่าเยอะไหม แน่นอน ไม่แย่สำหรับ คน วุฒิ ม.6 แต่ โชคดีเพิ่มคือมีโอกาสได้เรียนหนังสือ จนจบ ป ตรี อย่างน้อย ความมั่นคงอยู่ที่
ตราบใดยังเรียน มีเกรดมีผลงาน การเรียน ให้ป้าดูอยู่ ก็ยังสามารถกินเงินเดือนไปเรื่อยๆ ได้ 
งานไม่หนักครับ ความรับผิดชอบ ไม่มากมายไม่ต้องดิ้นรน จนเกินไป แต่ บางทีก็หดหู่ ตัวเอง ที่ ล้มลุกคลุกคลาน จากความผิดพลาดในอดีต

ทุกวันนี้พยายามพัฒนาตัวเอง ในทุกด้าน ผลคือ ได้คบกับแฟนที่ หน้าที่การงานสูงกว่า มีแนวคิดในระดับเดียวกัน แต่ การศึกษา เค้าจะสูงกว่า ผม
การใช้ชีวิต อายุ อานาม ไล่กันครับแฟน ห่าง 2 ปี ผมเคยอยากดูแลเขาในดีที่สุดในแบบที่ผมเป็น และ ผมเองก็ คอย support เขาบ้างในบางส่วนที่เขากำลังลำบากและเดือดร้อน ครับ ข้อเท็จจริงคือ
แฟนผมมีอาชีพ ราชการ แต่หนี้สินเกิน 65% เงินเดือน ถึงแม้จะมีการปรับเพิ่ม แต่ว่า ก็ รับจริงไม่ถึง 50% ของเงินสดที่ผมมี

1 บางมุมผมก็ เครียดครับ ไม่ได้โทษที่ แฟน มีภาระ พ้นตัวพอสมควร แต่ ผมมองดูเธอที่ปัจจุบัน และ พื้นฐานครอบครัว การใช้ชีวิตแล้ว มันเป็นสิ่งที่เราสามารถ ร่วมกันสร้างใหม่ได้  โดยต้องร่วมมือกัน อยู่ในระหว่างเรียนรู้ ที่ ทั้งผมและเธอก็ยินดี ไม่ได้ มีใครแบกรับใครอยู่ฝ่ายเดียว 
แต่เครียดที่ จะอดคาดหวังกับคนที่รักไม่ได้ ถึง เราจะพยายามเลี้ยงตัวเองได้ ให้พออยู่รอด มีงานทำ มีที่อยู่อาศัย ไม่ต้องเช่า แต่เราก็อยาก ทำให้ชีวิตมันดีกว่านี้ไม่ พลาดซ้ำอีก
2. ทุกครั้งที่ท้อ ก็ยังรู้สึกดีใจเสมอครับ ที่ ตั้งแต่ 24 ปีก็ทำงานมาตลอด ไม่เคยหยุดทำงาน ทำให้ มีประสบการณ์ด้านภาษา และ งานไอที set ระบบ
เขียนเว็ป wordpress , สนทนา แปลภาษาอังกฤษ  แต่ก็เครียดครับ เพราะการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย คือความท้าทายที่เหนื่อยเอาการ หากไม่ใส่ใจเราก็จะไม่สามารถทำให้ เป็นจริงได้เลย เอาง่ายๆ กลัวพลาดซ้ำ
3. ทุกวันนี้ผม พยายามอย่างมากที่จะดู การเรียนรู้อยู่กับปัจจุบัน ทำสมาธิ ลดความคาดหวัง เปลี่ยนเป็น ทำทุกวัน ให้คุ้มค่า ในด้านการงาน การเรียน แต่ก็รุ้ตัวครับ ว่า คงต้องใช้ เวลาอีก พอสมควรที่จะหาจุด ลงตัวด้านภาวะ จิตใจ และ มองโลกในแง่ บวกเสมอว่า ดีกว่า ไม่มีงานทำ ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีข้าวกิน ทุกวันนี้ก็ ไม่ต้อง รบกวนพ่อแม่ หรือใครๆ
4. บางครั้งยอมรับแล้วครับการเรียน จบ มันส่งผลต่อความไว้ใวางใจต่อพ่อแม่ แฟน ครอบครัว ทุกคนรอบข้างเพราะ หากเราจะอ้างประสบการณ์ตวามสามารถ แต่สำหรับตำแหน่ง ที่สูงขึ้น การไม่มีวุฒิเลยทำให้เกิดการเปรียบเทียบ เราควรจะ ต้องผ่านเกณฑ์ ความคาดหวังของ ครอบครัว เพื่อ เป็นการสร้างความเชื่อมั่น เพราะผมเชื่อว่า ครอบครัว สายเลือด คือ เส้นสัมพันธ์ ที่คอยช่วยเหลือผมอยู่ตอนนี้ และ ไม่อยากทำให้ ต้องผิดหวัง
5. ทุกวันนี้ผมอยากจะสร้างธุรกิจ ของตัวเอง เลยมาทำงานด้านการขาย มาเรียนรู้ และ ประยุกต์ ใช้กับ ทักษะ ด้าน ไอที ภาษาของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผม หวังว่า ถ้า 34 ปี เรียนจบ คงไม่แก่เกินไป ที่จะ สร้าง และ อย่างน้อยที่สุด ขยับขยาย ตำแหน่งงาน ให้อยู่ในระดับที่ เลี้ยงดู ตนเอง ได้ดีกว่าปัจจุบัน จนมีรายได้เหลือเก็บ มากกว่านี้
6. อยากบอกเล่าประสบการณ์และขอกำลังใจ จากทุกคนครับ ถ้าวันนี้เราไม่เห็นหนทาง ที่ชัดเจน ว่าเราจะ เติบโต ได้ สูงสุดแค่ไหน
แต่เราพยายามพิสูจน์ตัวเองเรียนรู้ต่อไป รับผิดชอบ มากขึ้น มันนจะต้อง มีวันที่เราหลุดพ้น จากความ ขาดใช่ไหมครับ 

อยากบอก ว่าทุกๆคนสู้ๆนะครับ และตัวผมเองก็จดแปะ หัวนอนไว้เสมอว่า
"ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทุกวัน มองตัวเองก่อนเสมอ และ คุณค่าของคนอยู่การ ให้ ต่อสังคม ได้มากน้อยแค่ไหน"
ผมจะพยายามทำตนให้มีความรู้ความสามารถ และตอบแทน สังคมให้ได้มากกว่า และ สามารถดูแล ครอบครัว หรือคนรักที่ เวลาจะพิสูจน์ เองให้ดีกว่าที่ขึ้นอยู 
ขอกำลังใจด้วยนะครับ หากมีงาน เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับซ่อมคอม ลงวินโดว์ จัดสเป็ค / งานแปลภาษาอังกฤษ ติวเตอร์เล็กๆน้อยๆ ในเขต เตาปูน วงศ์สว่างใกล้เคียยง โดยจะตอบแทนเป็นค่าขนมเล็กๆน้อย ยินดีนะครับ หลังไมค์ได้เลย เพราะ เสาร์ อาทิตย์ผมมีเวลา ว่างอยู่ครับ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่