ศักดิ์และนิดาดูผอมไปมาก จากที่ศักดิ์เป็นคนร่างสูงตัน ผิวดำตอนนี้ผอมแห้ง กระดูกไหปลาร้าโผล่นิดหน่อย หน้าตอบ จากที่สูงอยู่แล้วเมื่อผอมลงยิ่งทำให้ดูสูงขึ้นไปอีก ส่วนนิดาก็ดูผอมลงอย่างถนัดตา
และแล้ววันที่สองคนและครอบครัวรอคอยก็มาถึง คือวันแต่งงานของนิดาและศักดิ์ งานถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตตามสไตล์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิดากับศักดิ์ลางานกลับบ้าน เพื่อนๆที่ออฟฟิศไม่ยินดียินร้ายกับนิดาที่จะแต่งงาน แต่ก็อวยพรให้นิดามีความสุขกับชีวิตคู่
“ผอมมากเลยนะนิดา กินข้าวบ้างปะเนี่ย”
พี่ชายของเธอทักน้องสาว เมื่อนิดามาถึงบ้านยังไม่นั่งด้วยซ้ำ จากที่น้องสาวเป็นคนหุ่นสูงตัน มาวันนี้ผอมแห้งอย่างกับกระดูกเดินได้ ทำให้อดทักท้วงไม่ได้
“กูทำงานหนักไปหน่อย เร่งโอทีอยากได้เงินเดือนเยอะอ่ะ” นิดาตอบพี่ชายไป ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เลยต้องแก้ตัวไปแบบนี้ หากครอบครัวรู้คงเสียใจเป็นแน่
ที่บ้านของนิดาเตรียมงานเรียบร้อย พรุ่งนี้ก็จะเป็นฤกษ์งามยามดีที่นิดากับศักดิ์ต้องเข้าพาขวัญแต่งงาน
วันแต่งงาน
ผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันมาช่วยงานหาข้าวหาน้ำเสริฟแขกที่มาในวันงาน พ่อครัวล้มหมูล้มวัวเสียงเขียงกับมีดกระทบกันเสียงดัง เสียงสนทนาของแขกที่มาตอนเช้า เสียงแม่ครัวช่วยกันล้างถ้วยล้างจาน และเสริฟ เสียงเด็กๆและเสียงเพลงดังสนั่นหวั่นไหว
มีแต่คนชมนิดาที่ทำตัวดี ได้สามีเป็นคนดี ค่าสินสอดก็แพง อีกอย่างขอไว้หลายปียังมาตกมาแต่งกัน ไม่เหมือนคู่อื่นที่ขอไว้หลายปีสุดท้ายก็เลิกลากันไป
ส่วนเจ้าสาวอย่างนิดา แต่งหน้าทำผมรอในห้องหอ ไม่นานขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวก็มาถึง ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวลอดซุ้มประตูเงินประตูทองเข้ามาถึงภายในบ้าน นั่งลงตรงพาขวัญที่ทางเจ้าสาวจัดไว้ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทำการนับเงินค่าสินสอดและทองหมั้นว่าครบหรือป่าว เมื่อนับแล้วว่าครบ จึงยอมให้เจ้าสาวออกมาพบเจ้าบ่าวได้ แม่ของประเสริฐศักดิ์เป็นคนเข้ามาเชิญจูงมือนิดาออกจากห้องหอ
จากนั้นก็เป็นการบายศรีสู่ขวัญเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ทั้งสองครอบครัวหน้าชื่นตาบานที่สุดในวันที่ลูกสาวมีครอบครัว ถึงแม้ภายในใจพ่อแม่และญาติๆของนิดาจะไม่ชอบประเสริฐศักดิ์ก็ตาม
เมื่องานแต่งงานเสร็จสิ้น ครอบครัวของประเสริฐศักดิ์เดินทางกลับบ้าน และนิดากับศักดิ์อยู่บ้านต่ออีกสามวันก็พากันกลับลงมาทำงานที่กรุงเทพต่อ
ทั้งสองคนลงมาทำงานได้ไม่ถึงสองเดือน ศักดิ์ก็รบเร้าให้นิดาดาวน์รถยนต์มาใช้ ถึงแม้นิดาจะคัดค้านแค่ไหนศักดิ์ก็ไม่ยอม ตอนนี้เงินเก็บสักบาทก็ไม่มี เงินสินสอดก็ให้พ่อกับแม่เธอหมด นี่มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง นับหนึ่งใหม่ จะเอาเงินมาจากไหนมาดาวน์
“เขามีโปรโมชั่นตั้งมากมายนิดา ไม่ต้องดาวน์แพง”
ศักดิ์จะเอาให้ได้ เขาคิดไว้ตั้งนานแล้ว แต่รถที่ศักดิ์อยากได้กลับไม่ใช่รถกระบะ รถอีโก้คาร์ธรรมดา แต่เป็นรถหลักล้าน รถครอบครัว ที่คนมีเงินเขาใช้กัน
“มันมีโปรโมชั่นก็จริง แต่มันยังต้องใช้เงินดาวน์ปะ ไหนจะค่าซ่อมบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ค่าประกันภาษีรถอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่สักแต่มีเงินดาวน์นะศักดิ์ อีกอย่างดาวน์โปรงวดรถแพงด้วย”
นิดาบ่นยืดยาว เธอไม่เห็นด้วยที่จะซื้อรถในเวลานี้ เธอต้องการหาเงิน และมีเงินเก็บให้มากกว่านี้ก่อน
“นิดาขอแม่คืนสักแสนนึงได้มั้ย เอามาดาวน์รถ เราจะได้สบายไงเวลาฝนตก” ศักดิ์บอกให้เธอขอเงินพ่อแม่ของเธอมาดาวน์
“ไม่ได้หรอกศักดิ์ ให้ท่านแล้วจะไปขอคืนได้ไง อีกอย่างนิดาไม่กล้า”
ไม่มีทางที่เธอจะทำแบบนี้แน่นอน ยิ่งครอบครัวของเธอไม่ชอบสามีคนนี้อยู่ด้วย ถ้าทำเช่นนั้นมีหวังพ่อแม่เธอเกลียดประเสริฐศักดิ์เข้ากระดูกดำ แม้กระทั่งเธอแต่งงาน แม่ของเธอก็มิวายบอกให้เลิกกัน
“ก็ได้ เราทำงานเก็บเงินหนึ่งปี แล้วศักดิ์จะดาวน์รถนะ ต้องได้ ศักดิ์ไม่ยอมแน่ ถ้าสิ้นปีไม่ได้รถ”
ประเสริฐศักดิ์ยื่นคำขาด จากนั้นสองคนก็ใช้ชีวิตปกติ ประเสริฐศักดิ์ยังใช้ของแบรนด์เนมเหมือนเดิม เงินเก็บแทบจะเป็นเงินเดือนของนิดาซะส่วนใหญ่ ศักดิ์แบ่งเงินเดือนของตนเองให้นิดาส่วนหนึ่ง แต่พอปลายๆเดือนเงินของตนเองหมดก็มาขอเธออีกเหมือนเดิม
นิดาเคยประหยัดยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น เจียดเงินตัวเองส่งให้พ่อกับแม่ นิดาแทบไม่ซื้อเสื้อผ้าหรือแต่งตัวอะไรเลย มีแต่ศักดิ์ที่แต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าของใช้ตลอดเวลา แต่ศักดิ์ก็ไม่เคยนอกใจนิดา ทำให้เธอไม่คิดอยากจะทิ้งศักดิ์ไป แม้บางครั้งมีวูบหนึ่งของความคิดก็ตาม
“นิดาไม่ต้องส่งให้พ่อแม่ทุกเดือนก็ได้ พ่อแม่ศักดิ์ยังไม่ได้ส่งเลย” ประเสริฐศักดิ์พูดขึ้น เมื่อเงินที่มีกำลังจะหมดไป ทั้งที่ยังไม่ถึงสิ้นเดือน
“ศักดิ์ นิดาเจียดเงินใช้ส่วนตัวให้พ่อกับแม่นะ ถ้าศักดิ์อยากให้พ่อกับแม่ ศักดิ์ก็เจียดเงินตัวเองให้สิ อยากใช้หมดทำไม” นิดาพูดด้วยความน้อยใจที่ศักดิ์พูดแบบนี้
“นิดาก็เห็นว่าเราจะอดตายอยู่แล้ว”
“ก็ศักดิ์ฟุ้มเฟือย นิดาใช้อะไร นิดาไม่ได้เที่ยวซื้ออะไรเหมือนศักดิ์เลย ไม่พอใช้ก็เอาเงินเก็บซื้อรถมาใช้”
“ไม่! เงินไม่ถึงเดือนนิดาไปหายืมกับพี่ในออฟฟิศละกัน” ประเสริฐศักดิ์ออกคำสั่ง
“อะไรศักดิ์จะให้นิดายืมอีกแล้วเหรอ นิดาแต่งงานแล้ว พี่ๆเขาไม่ให้ยืมหรอก อีกอย่างพี่ที่เคยให้เขาก็มีลูกค่าใช้จ่ายเขาเยอะขึ้น พี่เขาไม่มีให้หรอก”
“ก็ยืมพี่คนอื่นสินิดา แค่นี้ก็คิดไม่ได้”
สุดท้ายนิดาก็เป็นคนบากหน้าไปหายืมเงินมาให้ศักดิ์ เพื่อนๆในออฟฟิศต่างเอือมระอา และสงสารนิดาที่ต้องเจอผู้ชายแบบนี้ แต่ทุกคนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งมากมายกับเรื่องผัวเมีย มีก็ให้ บางคนหมั่นไส้ศักดิ์ก็ไม่ให้ยืม
เมื่อคนในที่ทำงานรู้นิสัยและการเงินของศักดิ์มากขึ้น ทำให้เขาอายที่จะทำงานที่นี่ต่อไป ประเสริฐศักดิ์จึงลาออก และหางานทำที่ใหม่ ได้งานบริษัทส่งออกสินค้าต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์และวุฒิการศึกษาทำให้เขาได้งานเร็ว
“ศักดิ์อย่าออกจากงานอีกนะ จะเอามั้ยรถ”
“เอา! ขู่จังเลย ขอบใจนะนิดาที่ยังอยู่ข้างๆศักดิ์”
“นิดารักศักดิ์ไงละ ไม่ทิ้งไปไหนหรอก”
ทั้งสองคนแต่งงานอยู่กินกันแบบลุ่มๆดอนๆมาเป็นระยะเวลาสองปี แต่ทั้งสองมีเงินดาวน์รถยนต์หนึ่งคันเป็นรถกระบะสี่ประตู พร้อมมีลูกชายเป็นโซ่ทองคล้องใจหนึ่งคน
...
ตอนนี้ศักดิ์มีรถยนต์ขับมาทำงานยิ่งทำตัวหรูหรา คอนเซ็ปท์ เสียหายไม่ว่าเสียหน้าไม่ยอม! กลับมาอีกครั้ง ศักดิ์ขับรถยนต์มาทำงานทุกวัน ส่วนนิดานั่งวินมาทำงาน เงินเก็บไม่มีสักบาทเพราะนำมาดาวน์รถหมด มีเงินใช้แค่เดือนชนเดือน ศักดิ์ให้แค่ค่างวดรถ ส่วนเงินเดือนเธอส่งให้ทางบ้าน ค่าห้อง ค่าฝากท้อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ โชคดีที่แม่ของเธอบอกไม่ให้เธอส่งให้อีกต่อไป เก็บเป็นเงินไว้คลอดลูก แต่ไม่ต้องบอกประเสริฐศักดิ์ให้รู้
“นิดาศักดิ์อยากผ่อนบ้าน เงินเดือนนิดาก็ขึ้น เงินเดือนศักดิ์ก็ขึ้น เราน่าจะมีบ้านสักหลังนะ เจ้าตัวน้อยก็จะคลอดแล้ว ศักดิ์อยากเลี้ยงลูกเอง ไม่อยากให้ลูกอยู่ห้องเช่า”
ศักดิ์ชวนนิดาผ่อนบ้าน ไม่สนว่าจะทำให้ตัวเองลำบากมากขึ้น เขาคิดแต่ว่ามีรถแล้วต้องมีบ้านไม่อยากน้อยหน้าใคร
“ศักดิ์ตอนนี้รายจ่ายเราก็เยอะแล้วนะ ค่างวดรถอีก ศักดิ์ให้แค่งวดรถนิดา ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนิดาออกหมด ศักดิ์ให้นิดาเพิ่มบ้างสิ ลูกก็ใกล้จะคลอดแล้วด้วย”
นิดาพูดด้วยความใจเย็น ผสมน้อยใจที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายออก ศักดิ์ให้เพียงงวดรถอย่างเดียว ที่เหลือศักดิ์เอาไว้ใช้ส่วนตัวหมด มิหนำซ้ำยังไม่พอ ต้องมาขอเธอเพิ่มอีก
ศักดิ์แต่งตัวดูดี มาดผู้ดีคนมีตังค์มาก ตรงข้ามกับนิดาที่ไม่แต่งตัวอะไร บวกกับท้องโต ยิ่งทำให้ไม่มีความสวยหลงเหลืออยู่ แต่ศักดิ์ก็ยังไม่นอกใจนิดาไปไหน แม้เขามีโอกาสจะทำ สิ่งนี้ทำให้เธอไม่กล้าทิ้งศักดิ์ เพราะเธอรู้สึกว่าศักดิ์รักเธอจริง ทั้งที่เธอรู้ว่าถ้าเลิกกับศักดิ์ไปเธอจะกลายเป็นคนมีเงิน และไม่อดอยากเช่นนี้
และแล้วก็ถึงวันที่นิดาคลอดลูกชายน่ารักน่าชังให้กับศักดิ์ แต่สองคนยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ถึงอย่างไรศักดิ์ก็ไม่ละความพยายามที่จะซื้อบ้านสักหลัง สองคนเลี้ยงลูกในห้องเช่า โดยมีแม่ของนิดามาช่วยดูแลให้ช่วงแรกๆที่นิดากำลังพักฟื้น
แม่ของเธอเห็นการใช้เงิน และใช้ชีวิตประจำวันของประเสริฐศักดิ์ก็อดเป็นห่วงนิดาไม่ได้ แม่ของเธอยังอยากให้เธอเลิกกับศักดิ์ ผู้ชายคนนี้ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีแต่แต่งตัวใช้เงินไปวันๆ ถ้าไม่มีนิดาคงไม่มีจะกินแน่นอน เงินเดือนออกมาก็ให้แค่ค่าผ่อนรถ มิหนำซ้ำยังมาขอนิดาเพิ่มอีก แบบนี้มันจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ยังไง จะเลี้ยงลูกโตได้ยังไง
“มันเป็นกรรมของนิดาแม่ นิดารักศักดิ์ หมดเวรหมดกรรมต่อกันนิดาของตัดขาดศักดิ์ได้”
“แม่เป็นห่วงหลาน”
“นิดายังไหวแม่”
แม่ลูกสองคนนั่งคุยกันภายในห้องเช่า ช่วงที่นิดาลาคลอดสามเดือน เงินเดือนได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ค่าใช้จ่ายก็เท่าเดิม ทำให้แม่ของเธอต้องควักเงินออกค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่านมในบางครั้ง
“แม่จะเอาหลานไปเลี้ยงที่บ้านนะ อยู่นี่รายจ่ายเยอะ”
“แต่ผมอยากเลี้ยงลูกผมเองแม่” ประเสริฐศักดิ์แย้งขึ้น
... จบตอน....
มายารัก.. บทที่ 5
และแล้ววันที่สองคนและครอบครัวรอคอยก็มาถึง คือวันแต่งงานของนิดาและศักดิ์ งานถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตตามสไตล์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิดากับศักดิ์ลางานกลับบ้าน เพื่อนๆที่ออฟฟิศไม่ยินดียินร้ายกับนิดาที่จะแต่งงาน แต่ก็อวยพรให้นิดามีความสุขกับชีวิตคู่
“ผอมมากเลยนะนิดา กินข้าวบ้างปะเนี่ย”
พี่ชายของเธอทักน้องสาว เมื่อนิดามาถึงบ้านยังไม่นั่งด้วยซ้ำ จากที่น้องสาวเป็นคนหุ่นสูงตัน มาวันนี้ผอมแห้งอย่างกับกระดูกเดินได้ ทำให้อดทักท้วงไม่ได้
“กูทำงานหนักไปหน่อย เร่งโอทีอยากได้เงินเดือนเยอะอ่ะ” นิดาตอบพี่ชายไป ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เลยต้องแก้ตัวไปแบบนี้ หากครอบครัวรู้คงเสียใจเป็นแน่
ที่บ้านของนิดาเตรียมงานเรียบร้อย พรุ่งนี้ก็จะเป็นฤกษ์งามยามดีที่นิดากับศักดิ์ต้องเข้าพาขวัญแต่งงาน
วันแต่งงาน
ผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันมาช่วยงานหาข้าวหาน้ำเสริฟแขกที่มาในวันงาน พ่อครัวล้มหมูล้มวัวเสียงเขียงกับมีดกระทบกันเสียงดัง เสียงสนทนาของแขกที่มาตอนเช้า เสียงแม่ครัวช่วยกันล้างถ้วยล้างจาน และเสริฟ เสียงเด็กๆและเสียงเพลงดังสนั่นหวั่นไหว
มีแต่คนชมนิดาที่ทำตัวดี ได้สามีเป็นคนดี ค่าสินสอดก็แพง อีกอย่างขอไว้หลายปียังมาตกมาแต่งกัน ไม่เหมือนคู่อื่นที่ขอไว้หลายปีสุดท้ายก็เลิกลากันไป
ส่วนเจ้าสาวอย่างนิดา แต่งหน้าทำผมรอในห้องหอ ไม่นานขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวก็มาถึง ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวลอดซุ้มประตูเงินประตูทองเข้ามาถึงภายในบ้าน นั่งลงตรงพาขวัญที่ทางเจ้าสาวจัดไว้ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทำการนับเงินค่าสินสอดและทองหมั้นว่าครบหรือป่าว เมื่อนับแล้วว่าครบ จึงยอมให้เจ้าสาวออกมาพบเจ้าบ่าวได้ แม่ของประเสริฐศักดิ์เป็นคนเข้ามาเชิญจูงมือนิดาออกจากห้องหอ
จากนั้นก็เป็นการบายศรีสู่ขวัญเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ทั้งสองครอบครัวหน้าชื่นตาบานที่สุดในวันที่ลูกสาวมีครอบครัว ถึงแม้ภายในใจพ่อแม่และญาติๆของนิดาจะไม่ชอบประเสริฐศักดิ์ก็ตาม
เมื่องานแต่งงานเสร็จสิ้น ครอบครัวของประเสริฐศักดิ์เดินทางกลับบ้าน และนิดากับศักดิ์อยู่บ้านต่ออีกสามวันก็พากันกลับลงมาทำงานที่กรุงเทพต่อ
ทั้งสองคนลงมาทำงานได้ไม่ถึงสองเดือน ศักดิ์ก็รบเร้าให้นิดาดาวน์รถยนต์มาใช้ ถึงแม้นิดาจะคัดค้านแค่ไหนศักดิ์ก็ไม่ยอม ตอนนี้เงินเก็บสักบาทก็ไม่มี เงินสินสอดก็ให้พ่อกับแม่เธอหมด นี่มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง นับหนึ่งใหม่ จะเอาเงินมาจากไหนมาดาวน์
“เขามีโปรโมชั่นตั้งมากมายนิดา ไม่ต้องดาวน์แพง”
ศักดิ์จะเอาให้ได้ เขาคิดไว้ตั้งนานแล้ว แต่รถที่ศักดิ์อยากได้กลับไม่ใช่รถกระบะ รถอีโก้คาร์ธรรมดา แต่เป็นรถหลักล้าน รถครอบครัว ที่คนมีเงินเขาใช้กัน
“มันมีโปรโมชั่นก็จริง แต่มันยังต้องใช้เงินดาวน์ปะ ไหนจะค่าซ่อมบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ค่าประกันภาษีรถอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่สักแต่มีเงินดาวน์นะศักดิ์ อีกอย่างดาวน์โปรงวดรถแพงด้วย”
นิดาบ่นยืดยาว เธอไม่เห็นด้วยที่จะซื้อรถในเวลานี้ เธอต้องการหาเงิน และมีเงินเก็บให้มากกว่านี้ก่อน
“นิดาขอแม่คืนสักแสนนึงได้มั้ย เอามาดาวน์รถ เราจะได้สบายไงเวลาฝนตก” ศักดิ์บอกให้เธอขอเงินพ่อแม่ของเธอมาดาวน์
“ไม่ได้หรอกศักดิ์ ให้ท่านแล้วจะไปขอคืนได้ไง อีกอย่างนิดาไม่กล้า”
ไม่มีทางที่เธอจะทำแบบนี้แน่นอน ยิ่งครอบครัวของเธอไม่ชอบสามีคนนี้อยู่ด้วย ถ้าทำเช่นนั้นมีหวังพ่อแม่เธอเกลียดประเสริฐศักดิ์เข้ากระดูกดำ แม้กระทั่งเธอแต่งงาน แม่ของเธอก็มิวายบอกให้เลิกกัน
“ก็ได้ เราทำงานเก็บเงินหนึ่งปี แล้วศักดิ์จะดาวน์รถนะ ต้องได้ ศักดิ์ไม่ยอมแน่ ถ้าสิ้นปีไม่ได้รถ”
ประเสริฐศักดิ์ยื่นคำขาด จากนั้นสองคนก็ใช้ชีวิตปกติ ประเสริฐศักดิ์ยังใช้ของแบรนด์เนมเหมือนเดิม เงินเก็บแทบจะเป็นเงินเดือนของนิดาซะส่วนใหญ่ ศักดิ์แบ่งเงินเดือนของตนเองให้นิดาส่วนหนึ่ง แต่พอปลายๆเดือนเงินของตนเองหมดก็มาขอเธออีกเหมือนเดิม
นิดาเคยประหยัดยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น เจียดเงินตัวเองส่งให้พ่อกับแม่ นิดาแทบไม่ซื้อเสื้อผ้าหรือแต่งตัวอะไรเลย มีแต่ศักดิ์ที่แต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าของใช้ตลอดเวลา แต่ศักดิ์ก็ไม่เคยนอกใจนิดา ทำให้เธอไม่คิดอยากจะทิ้งศักดิ์ไป แม้บางครั้งมีวูบหนึ่งของความคิดก็ตาม
“นิดาไม่ต้องส่งให้พ่อแม่ทุกเดือนก็ได้ พ่อแม่ศักดิ์ยังไม่ได้ส่งเลย” ประเสริฐศักดิ์พูดขึ้น เมื่อเงินที่มีกำลังจะหมดไป ทั้งที่ยังไม่ถึงสิ้นเดือน
“ศักดิ์ นิดาเจียดเงินใช้ส่วนตัวให้พ่อกับแม่นะ ถ้าศักดิ์อยากให้พ่อกับแม่ ศักดิ์ก็เจียดเงินตัวเองให้สิ อยากใช้หมดทำไม” นิดาพูดด้วยความน้อยใจที่ศักดิ์พูดแบบนี้
“นิดาก็เห็นว่าเราจะอดตายอยู่แล้ว”
“ก็ศักดิ์ฟุ้มเฟือย นิดาใช้อะไร นิดาไม่ได้เที่ยวซื้ออะไรเหมือนศักดิ์เลย ไม่พอใช้ก็เอาเงินเก็บซื้อรถมาใช้”
“ไม่! เงินไม่ถึงเดือนนิดาไปหายืมกับพี่ในออฟฟิศละกัน” ประเสริฐศักดิ์ออกคำสั่ง
“อะไรศักดิ์จะให้นิดายืมอีกแล้วเหรอ นิดาแต่งงานแล้ว พี่ๆเขาไม่ให้ยืมหรอก อีกอย่างพี่ที่เคยให้เขาก็มีลูกค่าใช้จ่ายเขาเยอะขึ้น พี่เขาไม่มีให้หรอก”
“ก็ยืมพี่คนอื่นสินิดา แค่นี้ก็คิดไม่ได้”
สุดท้ายนิดาก็เป็นคนบากหน้าไปหายืมเงินมาให้ศักดิ์ เพื่อนๆในออฟฟิศต่างเอือมระอา และสงสารนิดาที่ต้องเจอผู้ชายแบบนี้ แต่ทุกคนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งมากมายกับเรื่องผัวเมีย มีก็ให้ บางคนหมั่นไส้ศักดิ์ก็ไม่ให้ยืม
เมื่อคนในที่ทำงานรู้นิสัยและการเงินของศักดิ์มากขึ้น ทำให้เขาอายที่จะทำงานที่นี่ต่อไป ประเสริฐศักดิ์จึงลาออก และหางานทำที่ใหม่ ได้งานบริษัทส่งออกสินค้าต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์และวุฒิการศึกษาทำให้เขาได้งานเร็ว
“ศักดิ์อย่าออกจากงานอีกนะ จะเอามั้ยรถ”
“เอา! ขู่จังเลย ขอบใจนะนิดาที่ยังอยู่ข้างๆศักดิ์”
“นิดารักศักดิ์ไงละ ไม่ทิ้งไปไหนหรอก”
ทั้งสองคนแต่งงานอยู่กินกันแบบลุ่มๆดอนๆมาเป็นระยะเวลาสองปี แต่ทั้งสองมีเงินดาวน์รถยนต์หนึ่งคันเป็นรถกระบะสี่ประตู พร้อมมีลูกชายเป็นโซ่ทองคล้องใจหนึ่งคน
...
ตอนนี้ศักดิ์มีรถยนต์ขับมาทำงานยิ่งทำตัวหรูหรา คอนเซ็ปท์ เสียหายไม่ว่าเสียหน้าไม่ยอม! กลับมาอีกครั้ง ศักดิ์ขับรถยนต์มาทำงานทุกวัน ส่วนนิดานั่งวินมาทำงาน เงินเก็บไม่มีสักบาทเพราะนำมาดาวน์รถหมด มีเงินใช้แค่เดือนชนเดือน ศักดิ์ให้แค่ค่างวดรถ ส่วนเงินเดือนเธอส่งให้ทางบ้าน ค่าห้อง ค่าฝากท้อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ โชคดีที่แม่ของเธอบอกไม่ให้เธอส่งให้อีกต่อไป เก็บเป็นเงินไว้คลอดลูก แต่ไม่ต้องบอกประเสริฐศักดิ์ให้รู้
“นิดาศักดิ์อยากผ่อนบ้าน เงินเดือนนิดาก็ขึ้น เงินเดือนศักดิ์ก็ขึ้น เราน่าจะมีบ้านสักหลังนะ เจ้าตัวน้อยก็จะคลอดแล้ว ศักดิ์อยากเลี้ยงลูกเอง ไม่อยากให้ลูกอยู่ห้องเช่า”
ศักดิ์ชวนนิดาผ่อนบ้าน ไม่สนว่าจะทำให้ตัวเองลำบากมากขึ้น เขาคิดแต่ว่ามีรถแล้วต้องมีบ้านไม่อยากน้อยหน้าใคร
“ศักดิ์ตอนนี้รายจ่ายเราก็เยอะแล้วนะ ค่างวดรถอีก ศักดิ์ให้แค่งวดรถนิดา ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนิดาออกหมด ศักดิ์ให้นิดาเพิ่มบ้างสิ ลูกก็ใกล้จะคลอดแล้วด้วย”
นิดาพูดด้วยความใจเย็น ผสมน้อยใจที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายออก ศักดิ์ให้เพียงงวดรถอย่างเดียว ที่เหลือศักดิ์เอาไว้ใช้ส่วนตัวหมด มิหนำซ้ำยังไม่พอ ต้องมาขอเธอเพิ่มอีก
ศักดิ์แต่งตัวดูดี มาดผู้ดีคนมีตังค์มาก ตรงข้ามกับนิดาที่ไม่แต่งตัวอะไร บวกกับท้องโต ยิ่งทำให้ไม่มีความสวยหลงเหลืออยู่ แต่ศักดิ์ก็ยังไม่นอกใจนิดาไปไหน แม้เขามีโอกาสจะทำ สิ่งนี้ทำให้เธอไม่กล้าทิ้งศักดิ์ เพราะเธอรู้สึกว่าศักดิ์รักเธอจริง ทั้งที่เธอรู้ว่าถ้าเลิกกับศักดิ์ไปเธอจะกลายเป็นคนมีเงิน และไม่อดอยากเช่นนี้
และแล้วก็ถึงวันที่นิดาคลอดลูกชายน่ารักน่าชังให้กับศักดิ์ แต่สองคนยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ถึงอย่างไรศักดิ์ก็ไม่ละความพยายามที่จะซื้อบ้านสักหลัง สองคนเลี้ยงลูกในห้องเช่า โดยมีแม่ของนิดามาช่วยดูแลให้ช่วงแรกๆที่นิดากำลังพักฟื้น
แม่ของเธอเห็นการใช้เงิน และใช้ชีวิตประจำวันของประเสริฐศักดิ์ก็อดเป็นห่วงนิดาไม่ได้ แม่ของเธอยังอยากให้เธอเลิกกับศักดิ์ ผู้ชายคนนี้ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีแต่แต่งตัวใช้เงินไปวันๆ ถ้าไม่มีนิดาคงไม่มีจะกินแน่นอน เงินเดือนออกมาก็ให้แค่ค่าผ่อนรถ มิหนำซ้ำยังมาขอนิดาเพิ่มอีก แบบนี้มันจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ยังไง จะเลี้ยงลูกโตได้ยังไง
“มันเป็นกรรมของนิดาแม่ นิดารักศักดิ์ หมดเวรหมดกรรมต่อกันนิดาของตัดขาดศักดิ์ได้”
“แม่เป็นห่วงหลาน”
“นิดายังไหวแม่”
แม่ลูกสองคนนั่งคุยกันภายในห้องเช่า ช่วงที่นิดาลาคลอดสามเดือน เงินเดือนได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ค่าใช้จ่ายก็เท่าเดิม ทำให้แม่ของเธอต้องควักเงินออกค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่านมในบางครั้ง
“แม่จะเอาหลานไปเลี้ยงที่บ้านนะ อยู่นี่รายจ่ายเยอะ”
“แต่ผมอยากเลี้ยงลูกผมเองแม่” ประเสริฐศักดิ์แย้งขึ้น
... จบตอน....