มายารัก... บทที่ 3

หลังจากวันที่นิดาไปหาหมอโรคผิวหนังเพื่อรักษาสิวบนใบหน้า นิดาต้องไปพบหมอทุกเดือนๆละสองครั้ง ทำให้ใบหน้าของเธอเนียนใสไร้สิว แต่ทว่าโครงหน้าของเธอยังไม่เป็นที่ต้องตาโดนใจของหนุ่มๆอยู่ดี ทั้งน้ำหนัก รูปร่างที่สูงใหญ่ยังอยู่เหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงแค่หน้าของเธอไม่มีสิวอีกต่อไป

“คุณนิดาต้องใช้ครีมตัวนี้ทาประจำนะครับ จะใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ครีมตัวอื่นก็ได้ แต่ต้องไม่ผสมสารสเตียรอยด์ หรือจะใช้ครีมตามโฆษณาในทีวีก็ได้”

“ใช่ได้ใช่มั้ยคะ โฟรมล้างหน้าก็สามารถใช้ได้ปกติใช่มั้ย”

“ครับ ใช้ควบคู่กันได้”

นิดามาหาหมอโรคผิวหนังรอบสุดท้ายของการนัดเพราะใบหน้าหายเป็นปกติแล้ว เรียบเนียน ไร้สิวไร้ริ้วรอยจุดด่างดำของสิวบนใบหน้า ทำให้นิดามั่นใจขึ้นมาอีกระดับ จากที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

นิดาเข้าเรียนมหาลัยอย่างสบายใจและมีความสุข เธอไม่ได้เรียนที่เดียวกันกับแววดาว เธอมาเรียนที่มหาลัยต่างจังหวัด ส่วนแววดาวเรียนมหาลัยในจังหวัดของตัวเอง นิดาได้เพื่อนใหม่ แต่เพื่อนใหม่ของเธอล้วนมีหน้าตาสวยและหุ่นดีกว่าเธอมากเหมือนเดิม

เธอมีความรู้สึกเหมือนเรียนมัธยมอีกครั้ง เพราะเธอไม่สวยไม่โดดเด่นอะไรเลย แต่อีกนั่นแหละนิดาไม่แคร์ ไม่สนใจ เรียน เล่น กินเที่ยวให้มีความสุขก็พอ นิดาเป็นคนสนุกสนานเฮฮายังไงเธอก็เป็นอย่างนั้น จึงทำให้เธอไม่เหงา เพราะในแต่ละทริปเพื่อนๆจะขาดเธอไม่ได้ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง

แต่!... มีความรู้สึกบางอย่างที่เปลี่ยนไป แม้นิดาจะไม่แคร์เรื่องผู้ชาย แต่เธอเริ่มมีความรู้สึกบางอย่างเข้ามา เธอเริ่มโหยหาความรัก เธอเริ่มคิดว่าเมื่อไหร่จะมีคนมาชอบเธอเพราะเธอเป็นแบบนี้สักที มันเหงา เวลาที่ต้องอยู่คนเดียว เรียนมหาลัยไม่เหมือนมัธยม เพื่อนๆต่างมีมีแฟนกันหมด พวกเพื่อนๆไม่สามารถอยู่กับเธอได้ตลอดเวลา มันจึงทำให้นิดาว้าเหว่ รู้สึกน้อยใจโชคชะตาของตัวเองอยู่ในที

นิดามีคนที่แอบชอบแต่เธอรู้ตัวและเจียมตัวเองดี เธอไม่ยอมเปิดปากกับเพื่อนคนไหนว่าชอบใคร และเธอไม่แสดงออกว่าชอบผู้ชายคนนั้น กลัวเขาหาว่าไม่เจียมเนื้อเจียมตัว ก็เลยต้องแอบชอบอยู่คนเดียวเรื่อยๆ และต้องอกหักคนเดียวเมื่อคนนั้นเขามีแฟนไปแล้ว

เมื่ออกหักจากคนนี้นิดาก็ไปแอบชอบอีกคน เป็นแบบนี้อยู่ประจำ นิดาทำได้แต่แอบชอบในใจ เพราะผู้ชายทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ที่รู้จัก พวกเขาก็คิดแค่นิดาเป็นน้องคนหนึ่ง ส่วนเพื่อนๆในห้องพวกเขาก็คิดกับนิดาเป็นแค่เพื่อนที่ดีคนหนึ่งเช่นกัน ตรงข้ามกับเพื่อนๆในกลุ่มของเธอที่มีคนมาชอบ มาคุยด้วยอยู่เป็นประจำ

“นิดามีแฟนมั้ย ชวนแฟนมากินหมูกระทะด้วยกันสิ จะได้ทำความรู้จักกัน” พรรณีพูดขึ้นระหว่างที่กำลังเตรียมตัวจะไปร้านหมูกระทะ

“ใช่ๆ นิดารู้จักกันไว้ก็ดี พี่หลิวแฟนเราก็ไปด้วย เจแฟนพรรณีก็จะไปด้วยอีกคน นิดาไม่ต้องอายนะ กันเองเลย” แพรวพราว พูดชวนนิดาอีกคน

“เราไม่มีแฟน โสดค่ะเพื่อน” นิดาพูดเขินๆ จะให้มีแฟนได้ไง ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้ามาจีบเธอสักคน แม้แต่คุยด้วยยังไม่กล้า

“พูดจริงอ่ะ นิดาเนี่ยนะไม่มีแฟน” พรรณีมองหน้านิดาแบบสำรวจไม่อยากเชื่อว่าโสด

“นิดาเคยมีแฟนมั้ยตอนมัธยม” แพรวพราวถามอีกคน

“เราไม่เคยมีแฟนเลยจ้า ไม่มีใครกล้ามาจีบเราหรอก เราไม่สวย” นิดาพูดได้เต็มปากเต็มคำ ยอมรับความจริง ไม่โกหกใดๆทั้งสิ้น ก็มันคือความจริง ไม่มีความจำเป็นต้องโกหก

“ก็พูดไป นิดาก็ดูดีอยู่นะ ไม่มีคนคุยเลยเหรอ” แพรวพราวถามต่อ

“อ่ะนี่เอารูปตอนมัธยมให้ดู ขนาดเราไม่มีสิวก็เป็นแบบนี้ นี่ตอนมีสิวเต็มหน้า” นิดาขี้เกียจอธิบาย จึงหยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปเก่าๆให้เพื่อนดูขณะรอเวลาที่จะไปร้านหมูกระทะที่หอพักของเธอ

“นิดาตอนนี้สวยขึ้นกว่าเดิมมากเลยนะเนี่ย ไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวหาแฟนให้”

พรรณีเห็นรูปตอนมัธยมของนิดาแล้วต้องร้องอุทานออกมา นิดาตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ความจริงไม่ได้เปลี่ยนไปอะไรมากมาย แค่หน้าไม่มีสิวแค่นั้นเอง หุ่นอะไรก็เท่าเดิม แต่ยอมรับว่าสวยขึ้นกว่าเดิมมาก

“ไม่เอาอ่ะ ต้องให้ผู้ชายเข้ามาเอง เราจะไม่เข้าหาผู้ชาย” นิดาพูดหนักแน่น พร้อมเสียงหัวเราะ แต่เธอคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะเธอไม่กล้าเข้าหาก่อน กลัวจะโดนปฏิเสธ ถ้าเธอหน้าตาดีก็ว่าไปอย่าง

ทุกๆวันทุกๆคืนและทุกๆเดือนนิดาอยู่กับความโสด ตัวคนเดียว เธอมีความสุขกับทุกวัน หุ่นก็ยังไม่เพรียว แขนขาไม่เรียว แต่หน้าใสแค่นี้เธอก็พอใจในตนเองมากแล้ว

นิดาขึ้นปีสองปีสามปีสี่ไปพร้อมกับความโสด มีบ้างที่เพื่อนชายเข้ามาแซวแล้วก็จากไป ทำเหมือนสนใจเธอจากนั้นก็เงียบหายไป นิดาไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ อยากคุยก็คุย ไม่อยากคุยก็แล้วแต่เลย เธอไม่หลงไหลคล้อยตาม เธอไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย ไม่เสียดาย ไม่เสียใจ เพราะรู้สึกชินกับความโสด ที่สำคัญเธอดูออกว่าผู้ชายพวกนั้นแค่เข้ามาหยอกเล่นไม่ได้คิดอะไรด้วย

ตอนเรียนมัธยมนิดาเป็นแม่สื่อให้กับแววดาว พอมาเรียนมหาลัยกลับได้มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องหัวใจให้กับเพื่อนใหม่อย่างแพรวพราวกับพรรณี นิดาแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ให้คำปรึกษาได้ดีมาก ทั้งที่ตนเองไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว แต่ ให้คำปรึกษาอย่างกะเคยมีแฟนมาแล้วสามสี่คน

“นิดาเข้าใจเราจริงๆ ถ้าเราไม่เป็นเพื่อนสนิทนิดา เราไม่เชื่อหรอกนะว่านิดาไม่เคยมีแฟนเลยสักคน” แพรวพราวพูดด้วยความรู้สึกแบบนี้จริงๆ

“เอ้า ก็เราเคยเห็นมาหลายคู่หลายคนแล้วไง เราเลยให้คำปรึกษาได้” นิดาตอบไปตามความจริงเช่นกัน เธอเคยเห็นมามาก โดยเฉพาะกับแววดาว ที่เธอคอยช่วยแก้ปัญหาอยู่เป็นประจำ สำหรับเรื่องของหัวใจพวกนี้

นิดาครองตัวเป็นโสดมาจนตัวเองเรียนจบ และรับปริญญาบัตร ญาติๆและครอบครัวต่างพากันปราบปลื้มดีใจ เมื่อนิดาเรียนจบก็ไม่พ้นการลงมาหางานทำที่เมืองกรุง นิดาลงมาอยู่กับญาติฝั่งพ่อของตนเอง

“ไปอยู่กับอาก็ทำตัวดีๆ อย่าขี้เกียจ รีบหางานทำให้ได้เร็วๆแล้วย้ายห้องออกมา จะได้ไม่เป็นภาระอาเข้าใจมั้ย” พ่อกับแม่บอกกับนิดาก่อนจะลงมาหางานทำที่กรุงเทพ

“จะแม่ พ่อ นิดาจะรีบหางานทำให้ได้เร็วที่สุด” นิดารับปากพ่อกับแม่

เมื่อนิดาลงมาหางานทำที่กรุงเทพ มาอยู่กับอาแท้ๆและอาสะใภ้ สองคนต้อนรับนิดาดี ที่จริงก็ไม่ได้อะไร อาๆสองคนของนิดาก็ใจดี ภูมิใจในตัวหลานสาวที่ไม่ทำให้ตระกูลขายหน้าเหมือนลูกหลานบ้านอื่น

เมื่อนิดามาถึงกรุงเทพ พักผ่อนหนึ่งวัน อาสะใภ้ก็พาไปสมัครงาน นิดาได้ทำงานกับโรงงานแห่งหนึ่ง ทำในส่วนของออฟฟิศ เพราะนิดาวุฒิสูง ตรงกับสายที่บริษัทต้องการ แผนกการตลาดกำลังขาดพนักงานพอดี นิดาจึงได้เข้าทำงานกับบริษัทนี้

“คุณพักอยู่กับใครครับ” ฝ่ายบุคคลกำลังสัมภาษณ์นิดา

“พักอยู่กับญาติค่ะ” นิดาตอบ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส นั่งตัวตรง มือประสานกัน สายตาสบตาคู่สนทนา ดูรวมๆแล้วบุคลิกภาพดี แม้หน้าตาเธอจะไม่สวยก็ตาม

“ญาติทำงานที่ไหนครับ มีลูกมีครอบครัวหรือยัง ถ้ายังไม่มี ทางบริษัทกำหนดให้ต้องทำงานครบสามปีก่อนนะครับ ถึงจะอนุญาตให้มีลูกได้”

“อ่อ ทราบค่ะ ญาติทำงานที่บริษัทแถวๆลาซาน โสดค่ะ ยังไม่แต่งงาน” นิดาตอบแบบมั่นใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม

“อืม แล้วทำไมไม่ไปทำกับญาติละครับ”

“อ่อ เขาไม่รับนามสกุลเดียวกันเข้าทำงานค่ะ” นิดาตอบไปยิ้มไป ก็อาของเธอบอกแบบนี้จริงๆ

และแล้วนิดาก็ได้เข้าทำงานกับบริษัทนี้ นิดาดีใจมากที่ได้งานเร็วเกินคาด เธอตั้งใจว่าเงินเดือนๆแรกออกเธอจะย้ายห้องออกมาอยู่คนเดียว เกรงใจอากับอาสะใภ้ และน้องๆลูกของอาอีก

....

นิดาทำงานที่นี่ได้เกือบปี เดือนหน้าก็จะครบหนึ่งปีเต็ม นิดาเริ่มมีเงินในบัญชี เริ่มมีเงินเก็บ และเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน มีเงินส่งให้แม่ทุกเดือน ถึงจะไม่มากแต่ก็ภูมิใจ

เมื่อนิดามีเงินเธอเริ่มรักสวยรักงาม เริ่มแต่งตัว อีกอย่างพี่ที่ทำงานแนะนำให้เธอหัดแต่งหน้าทำผมมาทำงานบ้าง ไม่ใช่ทาแป้งทาลิปสติกอย่างเดียว

นิดาเริ่มลดหุ่นอย่างจริงจัง ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร นิดาเริ่มนึกอยากมีแฟนขึ้นมา อายุตอนนี้เข้าสู่เลขสอง เธอเหงาเธออยากมีคนข้างกาย นิดาจริงจังกับการออกกำลังกายลดหุ่น และควบคุมอาหาร ทำให้หุ่นของนิดากระชับ เริ่มหุ่นดี เริ่มทยอยสวยขึ้นมาเรื่อยๆบวกกับมีผิวสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

นิดาเริ่มแต่งหน้า ทำผมมาทำงาน เริ่มใส่เสื้อผ้าแฟชั่น เริ่มแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผมเริ่มเป๊ะ นิดาสวยขึ้นมามากเป็นคนละคนกับนิดาคนเดิม เพื่อนๆต่างพากันอึ้งทึ้งกับนิดาคนใหม่คนนี้ บวกกับนิดาเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์ขึ้นมามาก

ไม่นานมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน เป็นผู้ชาย โต๊ะทำงานอยู่ฝั่งเดียวกันกับนิดา ทำให้ได้ใกล้ชิดคุยกันทุกวัน

ศักดิ์ หรือ ประเสริฐศักดิ์ กัปวัฒนสูตร หนุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหมือนกับนิดาเช่นกัน แต่คนละจังหวัด มีรูปร่างสูงตัน ผิวดำ ผมหยักศก จมูกไม่โด่งไม่แบน หน้าตาธรรมดา ไม่หล่อแต่ก็ไม่ได้ขี้เหล่เกินไป อายุแก่กว่านิดาสองปี

นิดาพูดคุยกับศักดิ์ทุกวัน ทำงานใกล้กันเกิดเป็นความคุ้นเคยสนิทสนม และที่สำคัญต่างคนต่างโสด ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ทำให้ยิ่งพูดคุยกันเข้าใจง่ายมากขึ้น

“ศักดิ์อยู่กับใครอ่ะ” นิดาถามเมื่อศักดิ์โทรมาคุยกับเธอ

“เราอยู่คนเดียว เคยบอกแล้วว่าโสด จะให้อยู่กับใคร นิดาล่ะ บอกว่าไม่เคยมีแฟนเราไม่เชื่อหรอก”

“เชื่อเถอะ เราโสดจริง”

นอกจากเจอกันที่ทำงานแล้ว ตอนกลางคืนศักดิ์ยังโทรมาคุยด้วยอีก นิดาแอบคิดในใจ ศักดิ์คิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนหรือป่าว นิดาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง ปล่อยให้เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน

จบตอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่