สวัสดีค่ะ เราอายุ 27 ปี
ก่อนหน้านี้เราสิงอยู่ในพันทิปมาก็หลายปีแล้วค่ะ ชีวิตผ่านเรื่องราวมากมาย
ได้อ่านข่าวคนคิดสั้นเพราะป่วยโรคซึมเศร้ามาก็เยอะ
เมื่อก่อนไม่ได้สนใจเลยค่ะ จนกระทั่ง ได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ...
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์สิ่งที่ตัวเองเป็นมาตลอดระยะเวลาปีกว่าๆค่ะ
เริ่มเลยนะคะ
เมื่อต้นปี 61 เราได้แต่งงานกับแฟนที่คบกันมาก็ค่อนข้างนาน
แต่ด้วยปัญหาที่สะสมและไม่ได้รับการแก้ไขให้จบก่อนจะแต่ง
ในที่สุดเราก็เลิกกัน แต่งได้แค่ 5-6 เดือนเท่านั้น
เราเหลือแต่ตัวค่ะ ใช่ อ่านไม่ผิด เหลือแต่ตัวจริง
เราเดินออกมาจากบ้านเค้า กับของไม่กี่อย่าง เสื้อผ้าไม่กี่ชุด
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราประมาทเกินไป
เราเอาชีวิตเราไปผูกติดกับเค้าเกินไป เราลาออกจากงานมาช่วยเค้าทำธุระกิจที่บ้าน
เมื่อเลิกกัน เราเลยกลายเป็นคนที่ติดลบ
เราหนีข้ามจังหวัดมาอยู่กับเพื่อน
เราสมัครงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน
ได้งานที่ไม่ค่อยตรงกับความต้องการแต่สังคมดีค่ะ
ตอนนั้นเราต้องยอมรับว่า ทำใจไม่ได้เลย แต่ไม่มีเงิน
เรามีภาระเรื่องรถและชีวิตตัวเองต้องรับผิดชอบ จึงต้องทำงาน
หลังจากนั้นเราก็มีเพื่อนใหม่สังคมใหม่ แต่ๆๆๆ ใครจะรู้
ว่าข้างในเราป่วย
เราร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ นึกถึงแต่อดีต
นั่งมองระเบียงตึกที่ทำงานแล้วอยากกระโดดลงไป
เวลานอนที่ห้องพักอยากหาสายไฟมาแขวนคอให้ตัวเองตายๆไป
มันเริ่มแย่แล้วค่ะแต่เราไม่รู้ตัว
เรานอนฟังเพลงเศร้า และ หลับไปพร้อมกับน้ำตาทุกวัน
เรากลายเป็นคนสองบุคลิก อยู่ที่ทำงานสดใสร่าเริง
กลับมาห้องเป็นอีกแบบ ไม่คุยไม่ยิ้มไม่พูดจากับเพื่อน(เราพักอยู่กับเพื่อน)
จนเมื่อ ปลายปี 61 เพื่อนได้งานใหม่ และย้ายออกไป
เราต้องอยู่คนเดียวค่ะ!!
เรื่องมันมาแย่ตรงนี้เราควบคุมจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้
คุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ไปทำงาน ไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน
โทรลางานจนหัวหน้าเอือมระอา และ ขอลาออก 2-3 ครั้ง
โดนหัวหน้าเรียกไปคุย และ งง มากว่าเราเป็นอะไร เพราะผลงานเราอยู่ในขั้นดี
แต่ทำไมเราถึงไม่อยากทำงานต่อ .. และเค้าก็ไม่เซนใบลาออกให้
ในเมื่อลาออกไม่เป็นผล เราก็หนีงานค่ะ ใช่ค่ะ เราหนี
เราหายไปดื้อๆ ไม่รับสายใคร ไม่ติดต่อใคร เปลี่ยนไลน์ เปลี่ยนเบอร์
เราทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีนะคะ ทุกคนตามหาเรา
เดือดร้อนไปถึงที่บ้านค่ะ ... เราหายไปจากงานตั้งแต่ต้นปี คือ กุมภา 62
เราหายไปจากหอพักด้วย เรากลายเป็นคนขี้ขลาด
ไม่กล้าเผชิญ เราค้างค่าห้องอีกต่างหาก แถมยังจอดรถไว้ที่หอ
ข้าวของไม่ได้ขนออกมา ผลสุดท้าย ต้องลำบากคนที่บ้านไปตามเช็ดล้างให้
เราออกมาอยู่ห้องเพื่อนเอย เช่ารายวันอยู่เอย เพื่อหลีกหนีปัญหาไปวันๆ
มีเงินบ้างไม่มีบ้าง ไม่ติดต่อกับที่บ้าน (ทางนั้นก็ไม่ค่อยติดต่อเรา)
จนวันนึงเราฟูมฟายหนักค่ะ อยากตาย เราแชตไปเล่าให้เพื่อนฟัง
เพื่อนที่รู้จักแนะนำให้เราไปหาหมอ ที่รพ.จิตเวช เราเลยตัดสินใจไปค่ะ ..
แต่วันนั้น จิตเวชบอกเราไปพบจิตแพทย์อีก รพ. ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมค่ะ
เรากลับมานอนร้องไห้อยู่คนเดียวและโพสต์เรื่องอาการทิ้งไว้หน้าไทม์ไลน์
จากนั้นเรากินยาแก้ปวดไปร่วม 10-20 เม็ด
ตอนนั้นเราเบลอและหลับไปเลย นอนข้ามวัน โดยที่ไม่กินข้าวสักคำ
เราหวังแค่ให้ตัวเราตายไปจะได้ไม่ต้องมาทุกข์ทรมานและเจ็บปวดหรือเป็นปัญหาของที่บ้าน
จริงๆรายละเอียดมันยิบย่อยมาก เราเล่าข้ามๆ
เดี๋ยวมาต่อข้างล่างนะคะ
แชร์ประสบการณ์หลังจากเลิกกับแฟนและป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ตามด้วยตกงานมานานนับปี .
ก่อนหน้านี้เราสิงอยู่ในพันทิปมาก็หลายปีแล้วค่ะ ชีวิตผ่านเรื่องราวมากมาย
ได้อ่านข่าวคนคิดสั้นเพราะป่วยโรคซึมเศร้ามาก็เยอะ
เมื่อก่อนไม่ได้สนใจเลยค่ะ จนกระทั่ง ได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ...
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์สิ่งที่ตัวเองเป็นมาตลอดระยะเวลาปีกว่าๆค่ะ
เริ่มเลยนะคะ
เมื่อต้นปี 61 เราได้แต่งงานกับแฟนที่คบกันมาก็ค่อนข้างนาน
แต่ด้วยปัญหาที่สะสมและไม่ได้รับการแก้ไขให้จบก่อนจะแต่ง
ในที่สุดเราก็เลิกกัน แต่งได้แค่ 5-6 เดือนเท่านั้น
เราเหลือแต่ตัวค่ะ ใช่ อ่านไม่ผิด เหลือแต่ตัวจริง
เราเดินออกมาจากบ้านเค้า กับของไม่กี่อย่าง เสื้อผ้าไม่กี่ชุด
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราประมาทเกินไป
เราเอาชีวิตเราไปผูกติดกับเค้าเกินไป เราลาออกจากงานมาช่วยเค้าทำธุระกิจที่บ้าน
เมื่อเลิกกัน เราเลยกลายเป็นคนที่ติดลบ
เราหนีข้ามจังหวัดมาอยู่กับเพื่อน
เราสมัครงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน
ได้งานที่ไม่ค่อยตรงกับความต้องการแต่สังคมดีค่ะ
ตอนนั้นเราต้องยอมรับว่า ทำใจไม่ได้เลย แต่ไม่มีเงิน
เรามีภาระเรื่องรถและชีวิตตัวเองต้องรับผิดชอบ จึงต้องทำงาน
หลังจากนั้นเราก็มีเพื่อนใหม่สังคมใหม่ แต่ๆๆๆ ใครจะรู้
ว่าข้างในเราป่วย
เราร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ นึกถึงแต่อดีต
นั่งมองระเบียงตึกที่ทำงานแล้วอยากกระโดดลงไป
เวลานอนที่ห้องพักอยากหาสายไฟมาแขวนคอให้ตัวเองตายๆไป
มันเริ่มแย่แล้วค่ะแต่เราไม่รู้ตัว
เรานอนฟังเพลงเศร้า และ หลับไปพร้อมกับน้ำตาทุกวัน
เรากลายเป็นคนสองบุคลิก อยู่ที่ทำงานสดใสร่าเริง
กลับมาห้องเป็นอีกแบบ ไม่คุยไม่ยิ้มไม่พูดจากับเพื่อน(เราพักอยู่กับเพื่อน)
จนเมื่อ ปลายปี 61 เพื่อนได้งานใหม่ และย้ายออกไป
เราต้องอยู่คนเดียวค่ะ!!
เรื่องมันมาแย่ตรงนี้เราควบคุมจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้
คุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ไปทำงาน ไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน
โทรลางานจนหัวหน้าเอือมระอา และ ขอลาออก 2-3 ครั้ง
โดนหัวหน้าเรียกไปคุย และ งง มากว่าเราเป็นอะไร เพราะผลงานเราอยู่ในขั้นดี
แต่ทำไมเราถึงไม่อยากทำงานต่อ .. และเค้าก็ไม่เซนใบลาออกให้
ในเมื่อลาออกไม่เป็นผล เราก็หนีงานค่ะ ใช่ค่ะ เราหนี
เราหายไปดื้อๆ ไม่รับสายใคร ไม่ติดต่อใคร เปลี่ยนไลน์ เปลี่ยนเบอร์
เราทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีนะคะ ทุกคนตามหาเรา
เดือดร้อนไปถึงที่บ้านค่ะ ... เราหายไปจากงานตั้งแต่ต้นปี คือ กุมภา 62
เราหายไปจากหอพักด้วย เรากลายเป็นคนขี้ขลาด
ไม่กล้าเผชิญ เราค้างค่าห้องอีกต่างหาก แถมยังจอดรถไว้ที่หอ
ข้าวของไม่ได้ขนออกมา ผลสุดท้าย ต้องลำบากคนที่บ้านไปตามเช็ดล้างให้
เราออกมาอยู่ห้องเพื่อนเอย เช่ารายวันอยู่เอย เพื่อหลีกหนีปัญหาไปวันๆ
มีเงินบ้างไม่มีบ้าง ไม่ติดต่อกับที่บ้าน (ทางนั้นก็ไม่ค่อยติดต่อเรา)
จนวันนึงเราฟูมฟายหนักค่ะ อยากตาย เราแชตไปเล่าให้เพื่อนฟัง
เพื่อนที่รู้จักแนะนำให้เราไปหาหมอ ที่รพ.จิตเวช เราเลยตัดสินใจไปค่ะ ..
แต่วันนั้น จิตเวชบอกเราไปพบจิตแพทย์อีก รพ. ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมค่ะ
เรากลับมานอนร้องไห้อยู่คนเดียวและโพสต์เรื่องอาการทิ้งไว้หน้าไทม์ไลน์
จากนั้นเรากินยาแก้ปวดไปร่วม 10-20 เม็ด
ตอนนั้นเราเบลอและหลับไปเลย นอนข้ามวัน โดยที่ไม่กินข้าวสักคำ
เราหวังแค่ให้ตัวเราตายไปจะได้ไม่ต้องมาทุกข์ทรมานและเจ็บปวดหรือเป็นปัญหาของที่บ้าน
จริงๆรายละเอียดมันยิบย่อยมาก เราเล่าข้ามๆ
เดี๋ยวมาต่อข้างล่างนะคะ