หลายครั้งที่ชีวิตมักเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ไม่มีอะไรบันทึกออกมาได้
แน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่ยังเรียบเรียงและยังจดจำได้ดีนั่นก็คือสมอง(อันน้อยนิด) ของเรานั่นเอง
ซึ่งเป็นเหตุให้ "เรา" อยากจะมาเล่าเรื่องที่เจอให้คนอื่นบนโลกนี้ได้ฟังบ้าง
จะสนุก เศร้า เหงา หงอย หอยแมลงภู่ขนาดไหน
เราเชื่อว่าทุกคนมักมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายในชีวิต ที่อาจจะพลิกแพลงกว่าเรามากก็ได้
เพียงแค่ไม่ได้มีโอกาสถ่ายทอดมันออก ซึ่งวันนี้ เราจะเริ่มเขียนจากความทรงจำทั้งหมด
เราจะค่อยๆลิสเรื่องที่อยากป้องปากเล่า เม้าท์กรุบกรอบ
(โดยไม่อ้างอิงถึงบุคคลที่ 3 ให้เค้าเสียชื่อเสียงหรอกจ้า กลัวติดคุกเหมือนกันจ้า ฮ่าๆ)
และสัญญาว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง ที่จะพยายามไม่เสริมเติมแต่งใดๆ (แต่จะให้อรรถรสมันก็ต้องจุ๊บจิ๊บนิดนึงแหละหน่า) ฮ่าๆ
ที่สำคัญ กระทู้นี้ไม่มินิมอลคูลๆ แน่ๆ ออกแนวแตกแตนแทนแล้วกัน
เราชื่อ"นุ๊ก" นามสมมติ "นุ๊ก" นามปากกา "นุ๊ก" หรือจะเรียกสั้นๆว่า "นุ๊ก" ก็ได้อีกแหละ
Whatever I'm Nook Yeah That's it. /ดีดนิ้ว
เป็นผู้ชายนะ เป็นผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชายเหมียนกันอะ อือ นั่นแหละใครถามก็ต้องบอกออกไปว่า แค่เพื่อนครับพ่อ !!
เราอายุ 20 ปลายๆแล้ว ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านที่มีคนมาเที่ยวกลางคืนกันไม่ขาดสายอ่ะ
เราเรียนจบมาจาก มหาวิทยาลัยไฮโซชื่อดังย่านอโศก ที่มีรถติดเป็นอันดับต้นๆของเมืองนี้
(จริงๆไม่ต้องพิมพ์ยากก็ได้นะแต่แบกให้มันดูลึกลับหน่อย เผื่อคนเดาไม่ออก มันดูน่าค้นหา อู้ว)
ซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพ และได้ใช้ชีวิตในกรุงเทพมาเข้าปีที่ 8 แล้ว
จากที่พูดเหน่อก็คือไม่เหน่อแล้วนะ เดายากหน่อยแหละ คนทั่วไปเค้าก็นึกว่ามาจาก New York ทั้งนั้นแหละเนอะ
ที่เกริ่นมากถามว่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ไหม ก็บอกตรงๆเลยว่าไม่ !
แค่อยากเล่าเปิดเหมือนคนอื่นเขาบ้างเฉยๆอ่ะ ไม่ได้เหรอ ได้หน่อยเหอะนะแม่ ขอบคุณจ้าแม่
เกริ่นมาหลายบรรทัดแล้ว ยังไม่ได้เข้าเนื้อแต่อยากจะบอกอีกหน่อยว่า เราพิมพ์ในเวลางานจ้า ฮ่าๆ
เพราะเราเคลียร์งานหมดแล้วหรอกนะ ใครรู้ตัวตนของเราก็อย่าไปบอกบอส เงียบไว้ ยังอยากรับเงินเดือนอยู่จ้าแม่
เข้าเรื่องแล้วกัน EP1 เอาเบาๆซอร์ฟๆ เรื่องขำขันประจำวันสมัยเด็กกันดีกว่า
ย้อนวัยไปช่วงมัธยมปลายเด็กต่างจังหวัดจากนครปฐมอย่างเรา มักใช้ชีวิตมัธยมกันแบบชิคๆหน่อย
ยุคนั้นกามิกาเซ่คือมา อยากทำผมลากไซรแบบเขาบ้าง แต่นี่ยังทำไม่ได้นะ เพราะต้องผมเกรียนเรียน รด ไง
วันว่างต้องไปสยาม นั่งรถตู้จากนครปฐมไปอนุสาวรีย์แล้วต่อบีทีเอสไปสยาม ถามว่าไปทำไม
ไม่รู้เหมือนกันจ้า แค่ได้เอากล้อง Nokia N73 ออกมาถ่ายรูปชิคๆว่า เฮ้ ฉันเคยมาสยามแล้วนะ
แล้วอัพลง Hi5 เพื่อให้เพื่อนรอบตัวเห็นก็คือสบายใจแล้ว
ฉันพาออกนอกเรื่องอีกแล้วอ้ะ
กลับเข้ามาจะเริ่มเล่าแล้วทุกคน ตามมา /กวักมือเรียก
สมัยอยู่มัธยมปลาย จะมีเพื่อนคนนึงเป็นคนผิวสี ซึ่งเรียกได้ว่า คนข้างคล้ำมากๆ
ใช้นามสมมติว่า"อุ๊" ก็แล้วกัน นามจริงถ้าบอกไปเดี๋ยวเขาเขินนะเธอ
อุ๊เนี่ย ผิวสีหนักเข้มมากๆ อุ๊เป็นคนนิสัยดี ขี้อาย และน่ารักกับเพื่อนๆเสมอ
ตั้งแต่รู้จักกับอุ๊มาตั้งแต่ ม.4 อุ๊ก็น่ารักและผิวสีเข้มมาตลอดทุกวัน
อยู่มาวันนึงในช่วงของ ม.6 อุ๊เดินเข้าโรงเรียน เชื่อไหมว่ามันแปลกตามากกว่าทุกวัน
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะอุ๊ขาวมากกกกกกก!
คือเมื่อวานอุ๊ยังคล้ำปกติอยู่เลย แต่วันนี้อุ๊ขาวมาก หน้าขาว คอขาว ขาวแบบสวยด้วยนะ ไม่ใช่ขาวแบบลอย
อัศจรรย์ใจจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เวทมนต์มีจริง เปลี่ยนอุ๊ให้กลายเป็นคนขาวได้ภายในหนึ่งวัน
ซึ่งอุ๊เดินเข้ามานั่งรอเข้าแถวตอนเช้าแล้วทุกคนในห้องจ้องกันตาไม่กระพริบว่าและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เฮ้ย อุ๊ ไปทำอะไรมา"
ทุกคนแหวกวงสนทนาที่นั่งกับพื้นให้อุ๊เข้ามานั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรายล้อมนับสิบ
อุ๊เขินหนักมาก และหัวเราะแบบภูมิใจไม่หยุด พร้อมด้วยการโต้ตอบเพื่อนอย่างเขินๆว่า
"บ้า แก เราขาวขนาดนั้นเลยเหรอ เราใช้แค่ครีมโอเลแบบซอง 10 บาทเอง"
ทุกคนเหมือนจะไม่เชื่อ แต่อุ๊บอกว่า จริงๆ เราใช่แค่นั้นจริงๆ เมื่อเช้าเราทามามันดูขาวมากขนาดนั้นเลยเหรอ
เพื่อนๆต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ขาวมากและขาวแบบสวยมาก ไม่ใช่ขาวลอย ขาวโบ๊ะ หรือขาวตลก
มันเป็นความขาวสุขภาพดีที่อุ๊ใช้ออกมาแล้วดูเนียนดีมากๆ
และเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า เที่ยงนี้จะไปร้านค้าสวัสดิการที่โรงเรียนเพื่อแย่งกันซื้อครีมโอเลแบบซอง 10 บาทให้ได้
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าแถวเคารพธงชาติ
ผู้ชาย1แถว ผู้หญิง1แถว ซึ่งแน่นอนว่าไล่ตามลำดับจากคนที่เตี้ยที่สุดในห้องไปยันคนที่สูงที่สุดในห้อง
ห้องเรามีผู้ชายทั้งหมด 8 คน ผู้หญิง 41 คน
ใช่เธอ ฟังไม่ผิดหรอก ผู้ชาย 8 คน ผู้หญิง 41 คน แล้วผู้ชายเทียมใน 8 คนนี้ก็เป็นไปแล้วซะ 3 คนจ้า เหลือชายแท้ 5 คนถ้วน
เราสูง 173 คิดว่าจะได้ยืนตำแหน่งไหน คนที่ 3 ของห้องจ้า ฮือๆ ทำไมคนสมัยนี้มันสูงกันจัง
แน่นอนว่าอุ๊ความสูงพอๆกับเราจึงทำให้ได้ยืนในระนาบเดียวกัน
หลังจากอุ๊คนสวยผิวใสของเรายิ้มหน่อย ยิ้มใหญ่กับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคนในห้องว่าผิวเธอสวยมากไปพักใหญ่แล้วในช่วงเช้า
เราก็ได้เดินทางมาถึงจุดพลิกผันของเรื่อง.........
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์เสร็จแล้วก็ถึงเวลาการนั่งฟังคำปราศรัยจากครูชั้นผู้ใหญ่อยู่นั่นเอง
ขณะนั้นเริ่มฝนตกลงมาพรำๆ ไม่ได้หนักมาก แต่อีกพักก็ไม่แน่
ทำให้บรรยากาศการเข้าแถวของเด็กอายุ 13-18 บริเวณนั้นช่างชุ่มช่ำสบายใจเสียนี่กระไร
การตากฝนเป็นอะไรที่ชอบมากนะวัยเด็กอ้ะ
แต่ไม่ใช่กับอุ๊
เธอเริ่มมีปฏิกิริยาแปลกเมื่อฝนเริ่มชะโลมเบาใบหน้าเธออย่างเบาๆ
และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
หน้า อุ๊ มี ฟอง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
oh my god oh my god oh my god
หน้าอุ๊ฟองขึ้น และเริ่มขึ้นหนักมากตามจำนวนเม็ดฝนที่ชะโลมมาบนในหน้าของอุ๊
ทุกคนต่างตกใจ เราก็ตกใจ อุ๊ก็คงตกใจไม่แพ้กัน
อุ๊เริ่มกระวนกระวายกับใบหน้าที่มีฟองของหล่อน
เธอจึงตัดสินใจชวนเพื่อนสาวของเธอที่อยู่ในบริเวณนั้นรีบวิ่งออกจากแถวเพื่อไปห้องน้ำโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
ทุกคนรวมถึงเราด้วยต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถตามไปด้วยได้เพราะครูยังไม่ปล่อยแถว
หลังจากนั้นไม่เกิน 3 นาทีคุณครูก็ปล่อยแถวเพราะฝนเริ่มจะหนักขึ้นมากแล้ว
เราทุกคนด้วยความเป็นห่วง กึ่งอยากรู้ รีบวิ่งไปหาอุ๊ที่ห้องน้ำที่ห่างจากแถวไปประมาณ 100 เมตร
ภาพที่เห็นคืออุ๊สีผิวเข้มปกติแล้ว และอุ๊ยืนหัวเราะกับเพื่อนหนักมากที่หน้าห้องน้ำ
อุ๊ หัว เราะ หนัก มากกกกกกกกกก
เราจึงถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น
อุ๊และเพื่อนยังคงหัวเราะไม่หยุด ยังไม่มีท่าทีจะได้คำตอบทันที
จนทั้งสองเริ่มหัวเราะเบาลงและหันมาตอบกลับเพื่อนๆว่า
"เรารู้แล้วว่าทำไมเราถึงมีฟองขึ้นหน้า
เราว่า เราใช้ครีมผิดว่ะแก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
ทุกคนยังคงสับสนในคำตอบและรอรายละเอียดต่อไป
"เราใช้โฟมล้างหน้ามาทาหน้าเพราะนึกว่าเป็นครีมว่ะแก"
55555555555555555555555555
ความผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อครีมซองทีทาผิวเจ้ากรรมนั้น แถมโฟมล้างหน้ามาในแพ็คเก็ตเดียวกันด้วย
ซึ่งลองนึกภาพครีมซองตามปกติจะมี 1 ซอง แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงโปรโมชั่น เค้าจะทำเป็น 2 ซองแบบติดกัน โดยไม่ได้แยกจากกัน ให้อารมณ์เหมือนผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอะ มีพลาสติกซีลคั่นตรงกลาง แล้วที่เค้าแถมมาก็คือ โฟมล้างหน้า แบ่งเป็นพาร์ทซ้ายครีมทาหน้าและพาร์ทขวาเป็นโฟมล้างหน้า
ซึ่งแน่นอน อุ๊ไม่ได้อ่าน เลยเผลอใช้โฟมล้างหน้ามาแทนเป็นครีมเว้ยแกรรรรรรรรรรรรรรร!!!!!!!!!!!!!!!!!!
5555555555555555555555555
แถมประโยคเด็ดๆต่อท้ายจากอุ๊ด้วยว่า
"ก็ว่าแล้วตอนทามันไม่ซึมเข้าหน้าซักที ปาดนานมากก็จะเข้าผิว" พร้อมทั้งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
5555555555555555555555555
บริเวณหน้าห้องน้ำจึงกลายเป็นสถานที่ที่เสียงหัวเราะดังสนั่นทั้งจากอุ๊และเพื่อนๆเอง
เป็นเรื่องที่ขำมากในสมัยนั้น หลังจากนั้นอุ๊ก็ไม่เคยหน้าขาวเนียนมาโรงเรียนอีกเลย
และความตั้งใจซื้อครีมซองของทุกคนก็หยุดลง ณ เวลาเช้าของวันนั้นเช่นกัน
ทุกวันนี้เรื่องของอุ๊เป็นตำนานมากๆ
เพราะไม่ว่าเจออุ๊ครั้งใดเราจะหัวเราะใส่กันก่อน และจะนึกถึงเรื่องนี้ทุกที
ขำมาก ตอนพิมพ์นี่ยังนั่งไหล่สั่นอยู่เลย
คิดถึงนะอุ๊
(ถึงแม้ความจริงเธอจะชื่อว่าแอ้วก็เถอะ)
เรื่องเล่าขำขันสมัยเมื่อ 8 ปีที่แล้ว กับชื่อเรื่องว่า ทำไมวันนี้ดูขาวจัง
แน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่ยังเรียบเรียงและยังจดจำได้ดีนั่นก็คือสมอง(อันน้อยนิด) ของเรานั่นเอง
ซึ่งเป็นเหตุให้ "เรา" อยากจะมาเล่าเรื่องที่เจอให้คนอื่นบนโลกนี้ได้ฟังบ้าง
จะสนุก เศร้า เหงา หงอย หอยแมลงภู่ขนาดไหน
เราเชื่อว่าทุกคนมักมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายในชีวิต ที่อาจจะพลิกแพลงกว่าเรามากก็ได้
เพียงแค่ไม่ได้มีโอกาสถ่ายทอดมันออก ซึ่งวันนี้ เราจะเริ่มเขียนจากความทรงจำทั้งหมด
เราจะค่อยๆลิสเรื่องที่อยากป้องปากเล่า เม้าท์กรุบกรอบ
(โดยไม่อ้างอิงถึงบุคคลที่ 3 ให้เค้าเสียชื่อเสียงหรอกจ้า กลัวติดคุกเหมือนกันจ้า ฮ่าๆ)
และสัญญาว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง ที่จะพยายามไม่เสริมเติมแต่งใดๆ (แต่จะให้อรรถรสมันก็ต้องจุ๊บจิ๊บนิดนึงแหละหน่า) ฮ่าๆ
ที่สำคัญ กระทู้นี้ไม่มินิมอลคูลๆ แน่ๆ ออกแนวแตกแตนแทนแล้วกัน
เราชื่อ"นุ๊ก" นามสมมติ "นุ๊ก" นามปากกา "นุ๊ก" หรือจะเรียกสั้นๆว่า "นุ๊ก" ก็ได้อีกแหละ
Whatever I'm Nook Yeah That's it. /ดีดนิ้ว
เป็นผู้ชายนะ เป็นผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชายเหมียนกันอะ อือ นั่นแหละใครถามก็ต้องบอกออกไปว่า แค่เพื่อนครับพ่อ !!
เราอายุ 20 ปลายๆแล้ว ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านที่มีคนมาเที่ยวกลางคืนกันไม่ขาดสายอ่ะ
เราเรียนจบมาจาก มหาวิทยาลัยไฮโซชื่อดังย่านอโศก ที่มีรถติดเป็นอันดับต้นๆของเมืองนี้
(จริงๆไม่ต้องพิมพ์ยากก็ได้นะแต่แบกให้มันดูลึกลับหน่อย เผื่อคนเดาไม่ออก มันดูน่าค้นหา อู้ว)
ซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพ และได้ใช้ชีวิตในกรุงเทพมาเข้าปีที่ 8 แล้ว
จากที่พูดเหน่อก็คือไม่เหน่อแล้วนะ เดายากหน่อยแหละ คนทั่วไปเค้าก็นึกว่ามาจาก New York ทั้งนั้นแหละเนอะ
ที่เกริ่นมากถามว่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ไหม ก็บอกตรงๆเลยว่าไม่ !
แค่อยากเล่าเปิดเหมือนคนอื่นเขาบ้างเฉยๆอ่ะ ไม่ได้เหรอ ได้หน่อยเหอะนะแม่ ขอบคุณจ้าแม่
เกริ่นมาหลายบรรทัดแล้ว ยังไม่ได้เข้าเนื้อแต่อยากจะบอกอีกหน่อยว่า เราพิมพ์ในเวลางานจ้า ฮ่าๆ
เพราะเราเคลียร์งานหมดแล้วหรอกนะ ใครรู้ตัวตนของเราก็อย่าไปบอกบอส เงียบไว้ ยังอยากรับเงินเดือนอยู่จ้าแม่
เข้าเรื่องแล้วกัน EP1 เอาเบาๆซอร์ฟๆ เรื่องขำขันประจำวันสมัยเด็กกันดีกว่า
ย้อนวัยไปช่วงมัธยมปลายเด็กต่างจังหวัดจากนครปฐมอย่างเรา มักใช้ชีวิตมัธยมกันแบบชิคๆหน่อย
ยุคนั้นกามิกาเซ่คือมา อยากทำผมลากไซรแบบเขาบ้าง แต่นี่ยังทำไม่ได้นะ เพราะต้องผมเกรียนเรียน รด ไง
วันว่างต้องไปสยาม นั่งรถตู้จากนครปฐมไปอนุสาวรีย์แล้วต่อบีทีเอสไปสยาม ถามว่าไปทำไม
ไม่รู้เหมือนกันจ้า แค่ได้เอากล้อง Nokia N73 ออกมาถ่ายรูปชิคๆว่า เฮ้ ฉันเคยมาสยามแล้วนะ
แล้วอัพลง Hi5 เพื่อให้เพื่อนรอบตัวเห็นก็คือสบายใจแล้ว
ฉันพาออกนอกเรื่องอีกแล้วอ้ะ
กลับเข้ามาจะเริ่มเล่าแล้วทุกคน ตามมา /กวักมือเรียก
สมัยอยู่มัธยมปลาย จะมีเพื่อนคนนึงเป็นคนผิวสี ซึ่งเรียกได้ว่า คนข้างคล้ำมากๆ
ใช้นามสมมติว่า"อุ๊" ก็แล้วกัน นามจริงถ้าบอกไปเดี๋ยวเขาเขินนะเธอ
อุ๊เนี่ย ผิวสีหนักเข้มมากๆ อุ๊เป็นคนนิสัยดี ขี้อาย และน่ารักกับเพื่อนๆเสมอ
ตั้งแต่รู้จักกับอุ๊มาตั้งแต่ ม.4 อุ๊ก็น่ารักและผิวสีเข้มมาตลอดทุกวัน
อยู่มาวันนึงในช่วงของ ม.6 อุ๊เดินเข้าโรงเรียน เชื่อไหมว่ามันแปลกตามากกว่าทุกวัน
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะอุ๊ขาวมากกกกกกก!
คือเมื่อวานอุ๊ยังคล้ำปกติอยู่เลย แต่วันนี้อุ๊ขาวมาก หน้าขาว คอขาว ขาวแบบสวยด้วยนะ ไม่ใช่ขาวแบบลอย
อัศจรรย์ใจจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เวทมนต์มีจริง เปลี่ยนอุ๊ให้กลายเป็นคนขาวได้ภายในหนึ่งวัน
ซึ่งอุ๊เดินเข้ามานั่งรอเข้าแถวตอนเช้าแล้วทุกคนในห้องจ้องกันตาไม่กระพริบว่าและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เฮ้ย อุ๊ ไปทำอะไรมา"
ทุกคนแหวกวงสนทนาที่นั่งกับพื้นให้อุ๊เข้ามานั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรายล้อมนับสิบ
อุ๊เขินหนักมาก และหัวเราะแบบภูมิใจไม่หยุด พร้อมด้วยการโต้ตอบเพื่อนอย่างเขินๆว่า
"บ้า แก เราขาวขนาดนั้นเลยเหรอ เราใช้แค่ครีมโอเลแบบซอง 10 บาทเอง"
ทุกคนเหมือนจะไม่เชื่อ แต่อุ๊บอกว่า จริงๆ เราใช่แค่นั้นจริงๆ เมื่อเช้าเราทามามันดูขาวมากขนาดนั้นเลยเหรอ
เพื่อนๆต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ขาวมากและขาวแบบสวยมาก ไม่ใช่ขาวลอย ขาวโบ๊ะ หรือขาวตลก
มันเป็นความขาวสุขภาพดีที่อุ๊ใช้ออกมาแล้วดูเนียนดีมากๆ
และเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า เที่ยงนี้จะไปร้านค้าสวัสดิการที่โรงเรียนเพื่อแย่งกันซื้อครีมโอเลแบบซอง 10 บาทให้ได้
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าแถวเคารพธงชาติ
ผู้ชาย1แถว ผู้หญิง1แถว ซึ่งแน่นอนว่าไล่ตามลำดับจากคนที่เตี้ยที่สุดในห้องไปยันคนที่สูงที่สุดในห้อง
ห้องเรามีผู้ชายทั้งหมด 8 คน ผู้หญิง 41 คน
ใช่เธอ ฟังไม่ผิดหรอก ผู้ชาย 8 คน ผู้หญิง 41 คน แล้วผู้ชายเทียมใน 8 คนนี้ก็เป็นไปแล้วซะ 3 คนจ้า เหลือชายแท้ 5 คนถ้วน
เราสูง 173 คิดว่าจะได้ยืนตำแหน่งไหน คนที่ 3 ของห้องจ้า ฮือๆ ทำไมคนสมัยนี้มันสูงกันจัง
แน่นอนว่าอุ๊ความสูงพอๆกับเราจึงทำให้ได้ยืนในระนาบเดียวกัน
หลังจากอุ๊คนสวยผิวใสของเรายิ้มหน่อย ยิ้มใหญ่กับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคนในห้องว่าผิวเธอสวยมากไปพักใหญ่แล้วในช่วงเช้า
เราก็ได้เดินทางมาถึงจุดพลิกผันของเรื่อง.........
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์เสร็จแล้วก็ถึงเวลาการนั่งฟังคำปราศรัยจากครูชั้นผู้ใหญ่อยู่นั่นเอง
ขณะนั้นเริ่มฝนตกลงมาพรำๆ ไม่ได้หนักมาก แต่อีกพักก็ไม่แน่
ทำให้บรรยากาศการเข้าแถวของเด็กอายุ 13-18 บริเวณนั้นช่างชุ่มช่ำสบายใจเสียนี่กระไร
การตากฝนเป็นอะไรที่ชอบมากนะวัยเด็กอ้ะ
แต่ไม่ใช่กับอุ๊
เธอเริ่มมีปฏิกิริยาแปลกเมื่อฝนเริ่มชะโลมเบาใบหน้าเธออย่างเบาๆ
และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
หน้า อุ๊ มี ฟอง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
oh my god oh my god oh my god
หน้าอุ๊ฟองขึ้น และเริ่มขึ้นหนักมากตามจำนวนเม็ดฝนที่ชะโลมมาบนในหน้าของอุ๊
ทุกคนต่างตกใจ เราก็ตกใจ อุ๊ก็คงตกใจไม่แพ้กัน
อุ๊เริ่มกระวนกระวายกับใบหน้าที่มีฟองของหล่อน
เธอจึงตัดสินใจชวนเพื่อนสาวของเธอที่อยู่ในบริเวณนั้นรีบวิ่งออกจากแถวเพื่อไปห้องน้ำโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
ทุกคนรวมถึงเราด้วยต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถตามไปด้วยได้เพราะครูยังไม่ปล่อยแถว
หลังจากนั้นไม่เกิน 3 นาทีคุณครูก็ปล่อยแถวเพราะฝนเริ่มจะหนักขึ้นมากแล้ว
เราทุกคนด้วยความเป็นห่วง กึ่งอยากรู้ รีบวิ่งไปหาอุ๊ที่ห้องน้ำที่ห่างจากแถวไปประมาณ 100 เมตร
ภาพที่เห็นคืออุ๊สีผิวเข้มปกติแล้ว และอุ๊ยืนหัวเราะกับเพื่อนหนักมากที่หน้าห้องน้ำ
อุ๊ หัว เราะ หนัก มากกกกกกกกกก
เราจึงถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น
อุ๊และเพื่อนยังคงหัวเราะไม่หยุด ยังไม่มีท่าทีจะได้คำตอบทันที
จนทั้งสองเริ่มหัวเราะเบาลงและหันมาตอบกลับเพื่อนๆว่า
"เรารู้แล้วว่าทำไมเราถึงมีฟองขึ้นหน้า
เราว่า เราใช้ครีมผิดว่ะแก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
ทุกคนยังคงสับสนในคำตอบและรอรายละเอียดต่อไป
"เราใช้โฟมล้างหน้ามาทาหน้าเพราะนึกว่าเป็นครีมว่ะแก"
55555555555555555555555555
ความผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อครีมซองทีทาผิวเจ้ากรรมนั้น แถมโฟมล้างหน้ามาในแพ็คเก็ตเดียวกันด้วย
ซึ่งลองนึกภาพครีมซองตามปกติจะมี 1 ซอง แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงโปรโมชั่น เค้าจะทำเป็น 2 ซองแบบติดกัน โดยไม่ได้แยกจากกัน ให้อารมณ์เหมือนผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอะ มีพลาสติกซีลคั่นตรงกลาง แล้วที่เค้าแถมมาก็คือ โฟมล้างหน้า แบ่งเป็นพาร์ทซ้ายครีมทาหน้าและพาร์ทขวาเป็นโฟมล้างหน้า
ซึ่งแน่นอน อุ๊ไม่ได้อ่าน เลยเผลอใช้โฟมล้างหน้ามาแทนเป็นครีมเว้ยแกรรรรรรรรรรรรรรร!!!!!!!!!!!!!!!!!!
5555555555555555555555555
แถมประโยคเด็ดๆต่อท้ายจากอุ๊ด้วยว่า
"ก็ว่าแล้วตอนทามันไม่ซึมเข้าหน้าซักที ปาดนานมากก็จะเข้าผิว" พร้อมทั้งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
5555555555555555555555555
บริเวณหน้าห้องน้ำจึงกลายเป็นสถานที่ที่เสียงหัวเราะดังสนั่นทั้งจากอุ๊และเพื่อนๆเอง
เป็นเรื่องที่ขำมากในสมัยนั้น หลังจากนั้นอุ๊ก็ไม่เคยหน้าขาวเนียนมาโรงเรียนอีกเลย
และความตั้งใจซื้อครีมซองของทุกคนก็หยุดลง ณ เวลาเช้าของวันนั้นเช่นกัน
ทุกวันนี้เรื่องของอุ๊เป็นตำนานมากๆ
เพราะไม่ว่าเจออุ๊ครั้งใดเราจะหัวเราะใส่กันก่อน และจะนึกถึงเรื่องนี้ทุกที
ขำมาก ตอนพิมพ์นี่ยังนั่งไหล่สั่นอยู่เลย
คิดถึงนะอุ๊
(ถึงแม้ความจริงเธอจะชื่อว่าแอ้วก็เถอะ)