วันนี้จะมาชวนดูสถิติ เรตติ้งละครโทรทัศน์ 3 เรื่อง ในเป็นศึกชนช้าง ในช่วงเวลา ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
ที่ดูผ่านหน้าจอทีวี และ การผ่านดูออนไลน์
มาดูไปพร้อมๆกันครับ
ดูแปลกๆมั้ยครับ
เรตติ้งหน้าจอทีวี ของละครช่อง 7 มาเป็นอันดับ 1 / ช่อง 3 มาอันดับ 2 / ช่องวัน มาอันดับที่ 3
แต่.....สวนทางกับ แฟนๆละครที่ดูผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่ง....
เรตติ้งออนไลน์ ของละครช่องวัน มาอันดับที่ 1 / ช่อง 3 มาอันดับ 2 / ช่อง 7 มาเป็นอันดับ 3
............
ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คน 1 คน อาจจะเป็นดู 10 เป็น 100 เป็น 1000 ครั้งก็ได้
และก็ต่างจากเรตติ้งหน้าจอทีวี ที่โทรทัศน์ 1 เครื่อง อาจจะไม่ใช่ คนดูคนเดียว
.............
ทีนี้มาตั้งคำถามกับตัวเองต่อไปว่า.....
ช่องโทรทัศน์ต่างๆ สร้างละครออกมา มีความคาดหวังอะไรบ้าง
นอกจากความบันเทิงที่ได้มอบให้เราแล้ว
ทางช่องก็ต้องมีรายได้เพื่อผลิตละครดีๆออกมาให้ได้ชมกัน
แล้วรายได้มาจากที่ไหนบ้าง
ทุกคนก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
"โฆษณา" ถูกต้องแล้วครับ
.....................
แล้วก็ตั้งคำถามต่อไปอีกว่า....
ระหว่าง ละครที่ออนแอร์ ที่หน้าจอทีวี กับ หน้าจอมือถือ หรือคอมพิวเตอร์
เจ้าของธุรกิจที่ต้องการโปรโมท โฆษณาสินค้า
เขาจะเลือกไปโฆษณาช่องทางไหน
1. ถ้าเลือก ไปโฆษณาผ่านหน้าจอทีวี แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่า.....
สินค้าของเขา เหมาะกับผู้ชมละคร แบบไหน กรุงเทพฯ หรือ ต่างจังหวัด
เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง และตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นความลับ
ระหว่างบริษัทจัดเรตติ้งกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการซื้อโฆษณา
2. ถ้าเลือก ไปโฆษณาออนไลน์ ผ่านหน้าจอมือถือ หรือคอมพิวเตอร์
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า สินค้าของเขาเหมาะกับผู้ชมกลุ่มใด
ซึ่งตรงออนไลน์นี่ล่ะ....มีเครื่องมือที่เรียกว่า คุกกี้นี้ให้คิดว่าคุกกี้นี้คือเหาฉลาม
ถ้าฉลามไปไหน เหาฉลามก็ตามไปด้วย
เหาฉลามก็จะรู้ไปหมดว่า เราท่องโลกออนไลน์ไปที่ไหนบ้าง
ไปดูละครเรื่องอะไรบ้างในโลกออนไลน์
สนใจอะไร ค้นหาคำว่าอะไรบ้าง แล้วข้อมูลพวกนี้
เจ้าธุรกิจก็จะไปซื้อโฆษณา กับสื่อออนไลน์ เช่น YouTube / Line / Bugaboo
ที่มีแฟนๆละครที่ดูละครผ่าน YouTube / Line / Bugaboo
..........
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณคิดว่า....เรตติ้งหน้าจอทีวี ยังสามารถสะท้อนผู้ชมที่แท้จริงได้หรือไม่
หรือ เรตติ้งออนไลน์ ที่แฟนๆละครดูผ่านมือถือ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ยังสะท้อนผู้ชมได้แท้จริงหรือไม่
แล้วอะไรเล่า....ที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้
..........
มาชวนตั้งคำถามว่า.....ทางช่องโทรทัศoN หรือ ช่องทางออนไลน์
ได้สร้างละคร.......มาให้คนตั้งแต่อายุ 3 ขวบถึงคนอายุประมาณ 60
ได้ดูพร้อมกันหรือไม่.....
ละครทั้งสามเรื่องนี้.....
ถ้าถามลูกว่าชอบดูละครเรื่องอะไร
ถามพ่อกับแม่ว่าชอบดูละครเรื่องอะไร
ถามเพื่อนเรียนมหาลัยว่าชอบดูละครเรื่องอะไร
ถามหนุ่มสาวออฟฟิศว่าชอบดูละครเรื่องอะไร
แน่นอนว่า ถ้าแบ่งตามอายุ แต่ช่วงอายุจะดูละครไม่เหมือนกัน
..........
เจ้าของช่องโทรทัศน์จึงมองเห็นว่า
แฟนๆละครของตนเองใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในการรับชมละคร
แฟนละครช่อง7อาศัยอยู่ต่างจังหวัด แฟนๆละครต่างจังหวัด ไม่ได้นิยมดูผ่านออนไลน์
ไม่นิยมดูผ่าน YouTube / Line / Bugaboo
จึงทำให้ละครช่อง 7 มีเรตติ้งที่สูงมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเรตติ้งที่วัดจากหน้าจอทีวี
แต่ถ้าจะนำละครช่อง 7 มาวัดเรตติ้งออนไลน์ ก็จะสู้ช่องวัน และช่อง 3 ไม่ได้
........
นั่นจึงเป็นข้อสรุปว่า....แฟนๆละคร ของช่องต่างๆ ดูละครผ่านอุปกรณ์แบบไหน
เจ้าของช่องโทรทัศน์ หรือออนไลน์ก็จะโฆษณาผ่านช่องทางนั้น
จึงไม่ขอโต้เถียงว่าเรตติ้งแบบไหนดีกว่ากัน
เพราะขอให้เรามีความสุขและชื่นชอบในการชมละคร
เจ้าของช่องโทรทัศน์ได้รับรายได้จากการโฆษณา
เพื่อเป็นรายได้ต่อไปให้นักแสดงและคนทำงานส่วนต่างๆ
และเจ้าของธุรกิจเอาสินค้ามาลงโฆษณาที่เหมาะกับคนดู
ก็จะขายสินค้าได้ มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจ
เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างแฮปปี้เอนดิ้งครับ
ท่านผู้โชมมมม....55555
....................
ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ครับ
ผิดพลาดอย่างไร ติ ชมชี้แนะ กันมา
อยากให้ทุกคนดูละครอย่างมีความสุข
ทุกเรื่องน่าดู....และสนุกตามแต่ความชอบของแต่ละคนครับ
"เรตติ้งหน้าจอทีวี" หรือ "จำนวนผู้ชมออนไลน์หน้าจอมือถือ" เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความสำเร็จของละครโทรทัศน์ อะไรสำคัญกว่ากัน???
ที่ดูผ่านหน้าจอทีวี และ การผ่านดูออนไลน์
มาดูไปพร้อมๆกันครับ