นายอนุทิน ชาญวีรกูล คือใคร ก่อนที่จะมารับตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ???
คุณอนุทิน ชาญวีรกุล หรือมีชื่อเล่นว่า "หนู" เป็นลูกชายของผู้ก่อตั้ง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) อนุทินสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hofstra ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2532
สำหรับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นบริษัทประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตั้งแต่โครงการขนาดกลางไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ งานโยธาและงานเครื่องกล ทั้งงานก่อสร้างด้านสาธารณูปโภค งานด้านอาคาร งานด้านพลังงาน งานด้านอุตสาหกรรม และงานด้านสิ่งแวดล้อม
จนทำให้นักลงทุนทั้งหลายต่างต้องจับตา หุ้น STEC เป็นพิเศษ เพราะทะยานแรงต่อเนื่องพร้อมวอลุ่มหนาแน่น ว่าหลังจากที่นามสกุล "ชาญวีรกูล" จะเป็นตัวแปรสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ (จนสามารถทำนิวไฮติดต่อกันในรอบ 3 เดือน จนราคาพุ่งไปแตะที่ 24.20 บาท เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 รวมทั้งปริมาณการซื้อขายหุ้นตัวนี้ก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติจากวันละ 16 ล้านหุ้น พุ่งขึ้นไปที่ 69 ล้านหุ้น
ที่มา : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย)
นอกจากจะเป็น "ตาอยู่" ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังได้ควบกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย แต่พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้หยุดรับตำแหน่งอยู่แค่นั้น ยังได้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอีกด้วย
หากดูความสัมพันธ์ของนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ยิ่งจะเห็นได้ว่า มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ทั้งในฐานะเพื่อนคนสนิท และน้องชายของนายเนวิน
หลังจากที่รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุข ทาง นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. จำนวน 415 ราย จำนวนนี้มี ส.ส. ที่เป็นรัฐมนตรี 21 ราย
หนึ่งในนั้นเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือ ‘เสี่ยหนู’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในหมวกรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แจ้งสถานะว่า ‘หย่า’ กับภรรยาแล้ว
นายอนุทินมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 3 บริษัท ได้แก่
•
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นเป็นลำดับ 4 จำนวน 71,550,128 หุ้น 4.69% และทางอ้อมผ่าน
บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของครอบครัวชาญวีรกูล-ทุนจดทะเบียน 5,361 ล้านบาท) ถือหุ้นใหญ่ 234,086,788 หุ้น (15.35%)
•
บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นเป็นลำดับ 1 จำนวน 164,590,285 หุ้น 10.13%
•
บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) มูลค่า 357,142,850 บาท
(ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักข่าวอิศรา)
จะเห็นได้ว่า "เสี่ยหนู" อาจจะไม่ได้เป็นแค่ตาอยู่สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น แต่กำลังเป็นตาอยู่ ที่หลายคนเชื่อว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC น่าจะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้ จากกิจการร่วมทุนกับภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3, หรืออย่างโครงการในกรุงเทพฯ ก็มักจะเห็นชื่อ บริษัท ซิโน-ไทย ที่ไปจับมือร่วมทุนประมูลในโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการร่วมกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เป็นประจำ
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ : ทางออกนอกตำรา โดย ...บากบั่น บุญเลิศ ได้เคยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ "กล-เกม เศรษฐกิจทางการเมือง" ไว้อย่างน่าสนใจว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อ 1 กันยายน 2561 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ เฟซบุ๊กตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มค่าการใช้งบประมาณมหาศาลสร้างรถไฟความเร็วสูง และโครงการ อีอีซี ว่า ไม่ได้ปฏิเสธการสร้างรถไฟความเร็วสูงและโครงการอีอีซี แต่ต้องการนำเม็ดเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้คนรากหญ้ามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง มีการศึกษาที่ดีขึ้น เป็นรากฐานและกำลังการผลิตที่สำคัญของชาติ เมื่อคนเข้มแข็ง ชาติเข้มแข็ง จากนั้น จึงค่อยพัฒนาต่อยอดในส่วนอื่นต่อไป
"ไม่ใช่ผมจะไม่ทำรถไฟความเร็วสูงหรือยุบอีอีซี แต่ผมต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยรวมก่อน ประเทศไทยป่วยมานาน เพิ่งออกจากห้องไอซียู ก็ควรจะค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพด้วยการทำกายภาพบำบัดให้ทรงตัวได้มั่นคงก่อน จากนั้น ก็เริ่มเดินให้เร็วขึ้นแล้วจึงวิ่ง ไม่ใช่ออกมาแล้ววิ่งเลย แล้วก็ต้องล้มอีก เที่ยวนี้อาจไม่มีโอกาสลุกขึ้นมาอีกก็ได้...
ผมถามว่า รถไฟความเร็วสูง ใครจะเป็นผู้โดยสาร ในเมื่อคนชนบทส่วนใหญ่มีรายได้จากภาคเกษตรที่ไม่แน่นอน บางช่วงผลผลิตราคาตกตํ่า ขอให้ผมไปหาผู้โดยสารมาให้ก่อนจะดีหรือไม่
ผมถามว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใน กทม. อีกหลายเส้นทาง ทั้งที่ตอนนี้การจราจรใน กทม.ติดไปทุกเส้นทาง ยังไม่พออีกหรือ ผมไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาประเทศ
แต่ผมเห็นว่าโครงการ อีอีซีมีบุคลากรในเทคโนโลยีชั้นสูงหรือยัง เราควรจะนำเม็ดเงินหลายแสนล้านบาท มาพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศ ให้มีความพร้อมก่อนจะดีกว่าหรือไม่ ลูกหลานเป็นหนี้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวออกจากรั้วสถาบันการศึกษา จำนวนหลายล้านคน เป็นเงินหลายแสนล้านบาท กำลังทยอยไปสู่กระบวนการทางกฎหมายฟ้องร้องบังคับคดี ถูกหักเงินเดือน ถูกยึดที่ทำกิน ถูกยึดรถ ยึดบ้าน ขายทอดตลาด
ผมจึงเห็นว่าเราควรต้องกลับมาจัดลำดับความสำคัญ ในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศเสียใหม่” นายอนุทิน ระบุ
เป็นวาทะของนักการเมืองชั้นดี ที่น่าสนใจ ต่อมา อนุทิน ให้ความเห็นเกี่ยวกับโครงการอีอีซี ในวันที่ 9 กันยายน 2561 อีกว่า ไม่เคยคัดค้านอีอีซี เพราะถือว่าเป็นการดึงดูดเม็ดเงินให้เข้ามาในประเทศไทย มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแน่นอน แต่สิ่งที่อยากแนะนำคือในเมื่อกฎระเบียบ ในอีอีซีเอื้อให้เกิดการลงทุน ทั้งการปรับระยะเวลาการอนุมัติทั้งหลาย ที่ต้องจบภายใน 120 วัน กฎบีโอไอ ก็ควรจะนำกฎเกณฑ์นี้ไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น เพื่อให้เกิดความน่าลงทุนอย่างเท่าเทียม ให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อกระจายความเจริญออกนอกเมืองใหญ่
ดูดี มีสาระ ฝากอนาคตได้ใช่มั้ยครับ แต่นักการเมืองนี่เขาว่า ปากคอเชื่อถือไม่ได้ เข้าข่าย มือถือสากปากถือศีล หาไม่ก็ประเภท ปากปราศรัยนํ้าใจเชือดคอ
ผมติดตามอ่านเรื่องนี้ด้วยความมึนงง สงสัยว่า ถ้าคุณอนุทินไม่เห็นด้วยกับโครงการอีอีซี ที่เป็น 1 ในยุทธศาสตร์ไทยที่จะดึงการค้า การลงทุน การพัฒนาประเทศไทยไปอีกก้าวหนึ่งในอนาคต แล้วคุณอนุทิน ในฐานะเจ้าของตัวจริงเสียงจริงในบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่นฯ ให้บริษัท ซิโน-ไทยฯ ไปซื้อซองประมูลโครงการนี้ทำไมกัน
ใช่เพราะโครงการนี้ สามารถทำเงิน ทำกำไรในทางธุรกิจหรือไม่
ใช่เพราะเห็นโอกาสที่มาพร้อมกับอีอีซี หรือไม่
ใช่ว่า กลุ่มซิโน-ไทย กำลังถูกตัดออกจากสารบบกลุ่มที่จะเข้าประมูลรถไฟฟ้า 2.3 แสนล้านบาทหรือไม่ครับ
คนที่ทำธุรกิจผิดกับหลักการแบบนี้ ใช่ ปากปราศรัย นํ้าใจเชือดคอ หรือเปล่าครับ...
เลยคาดว่า การที่นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ออกมาพยายามที่จะผลักดันให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เร่งหาข้อสรุปกับกลุ่มกิจการร่วมค้าซีพี เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา อาจจะมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการส่งมอบพื้นที่ทั้ง 100%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"การเรียกร้องส่งมอบพื้นที่ทั้งร้อยเปอร์เซ็น แล้วจะเซ็นสัญญาเป็นไปไม่ได้ ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 20 ก็ดำเนินการตามกรอบทยอยส่งไป ถ้าหากมีการส่งมอบล่าช้า ผู้รับสัมปทานก็สามารถใช้สิทธิ์ในการต่ออายุสัญญาได้ ซึ่งถือเป็นการปฎิบัติทั่วไป เกิดขึ้นกับทุกหน่วยงาน"
ส่วนพวกเราที่อยู่วงนอก ก็คงได้แต่รอดูว่า
จะเป็นเช่นไรต่อไป
คำสั่งตาย !! ... เสี่ยหนู - อนุทิน ชาญวีรกูล ... รองนายกรัฐมตรี กับไฮสปีดสายประวัติศาสตร์
จนทำให้นักลงทุนทั้งหลายต่างต้องจับตา หุ้น STEC เป็นพิเศษ เพราะทะยานแรงต่อเนื่องพร้อมวอลุ่มหนาแน่น ว่าหลังจากที่นามสกุล "ชาญวีรกูล" จะเป็นตัวแปรสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ (จนสามารถทำนิวไฮติดต่อกันในรอบ 3 เดือน จนราคาพุ่งไปแตะที่ 24.20 บาท เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 รวมทั้งปริมาณการซื้อขายหุ้นตัวนี้ก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติจากวันละ 16 ล้านหุ้น พุ่งขึ้นไปที่ 69 ล้านหุ้น ที่มา : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย)
นอกจากจะเป็น "ตาอยู่" ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังได้ควบกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย แต่พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้หยุดรับตำแหน่งอยู่แค่นั้น ยังได้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอีกด้วย
หากดูความสัมพันธ์ของนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ยิ่งจะเห็นได้ว่า มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ทั้งในฐานะเพื่อนคนสนิท และน้องชายของนายเนวิน
หลังจากที่รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุข ทาง นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. จำนวน 415 ราย จำนวนนี้มี ส.ส. ที่เป็นรัฐมนตรี 21 ราย
หนึ่งในนั้นเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือ ‘เสี่ยหนู’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในหมวกรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แจ้งสถานะว่า ‘หย่า’ กับภรรยาแล้ว
นายอนุทินมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 3 บริษัท ได้แก่
• บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นเป็นลำดับ 4 จำนวน 71,550,128 หุ้น 4.69% และทางอ้อมผ่าน บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของครอบครัวชาญวีรกูล-ทุนจดทะเบียน 5,361 ล้านบาท) ถือหุ้นใหญ่ 234,086,788 หุ้น (15.35%)
• บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นเป็นลำดับ 1 จำนวน 164,590,285 หุ้น 10.13%
• บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) มูลค่า 357,142,850 บาท
(ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักข่าวอิศรา)
จะเห็นได้ว่า "เสี่ยหนู" อาจจะไม่ได้เป็นแค่ตาอยู่สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น แต่กำลังเป็นตาอยู่ ที่หลายคนเชื่อว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC น่าจะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้ จากกิจการร่วมทุนกับภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3, หรืออย่างโครงการในกรุงเทพฯ ก็มักจะเห็นชื่อ บริษัท ซิโน-ไทย ที่ไปจับมือร่วมทุนประมูลในโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการร่วมกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เป็นประจำ
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ : ทางออกนอกตำรา โดย ...บากบั่น บุญเลิศ ได้เคยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ "กล-เกม เศรษฐกิจทางการเมือง" ไว้อย่างน่าสนใจว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลยคาดว่า การที่นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ออกมาพยายามที่จะผลักดันให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เร่งหาข้อสรุปกับกลุ่มกิจการร่วมค้าซีพี เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา อาจจะมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการส่งมอบพื้นที่ทั้ง 100%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้