
ฤกษ์สังหาร ใครไม่ดู เราดู ใครไม่ชอบ เราชอบ ใครไม่อิน เราอิน ใครไม่ฟิน เราฟิน ครบทุกอารมณ์ ครบทุกปม ตีแผ่ความจริงของสังคม กระชากหน้ากากความชั่วร้าย ถึงแม้ตัวตายก็ไม่เสียดายที่ได้ทำดี...จขกท.ขอบอกว่า ขอบคุณผู้กำกับ ผู้เขียนบท ผู้จัด และนักแสดง ที่กล้าผลิตละครเรื่องนี้สู่สังคม วงการละคร ถึงแม้ว่า ไม่ใช่ละครกระแส ไม่ใช่ละครที่หลาย ๆ คนชอบ ไม่ใช่ละคร ตบตี ไม่ใช่ละครรัก ๆ ใคร่ ๆ แต่ ละครเรื่องนี้สอนอะไรหลาย ๆ อย่าง มากกว่าละครจริง ๆ ค่ะ
****เอาละ จขกท. ขอเข้าเรื่องเลยละ กัน กับ ep9 คือ พีคจัด(ปลัดไม่ได้บอก จขกท.บอกเอง 555+)
1.ฉากที่ สารวัตรศรีล บอกกับลูกน้องว่า อย่าเรียกพวกนั้นว่าตำรวจ มันก็แค่มาเฟียในเครื่องแบบ เออ คือ ใช่อ่ะ เป๊ะ ปัง วังเว่อร์ กราบพี่ศรีลงาม ๆ เลยค่ะ สุดจัด โดนใจ พวกนี้มันมีเยอะในสังคม
2.ฉากเตือนสาว ๆ ผู้ที่เกิด 2 ส.ค. คือ ฉากนี้ แม่เจ้า สุดอีกละ ไปให้สุด แล้วหยุดที่ป้าย 555+ กราบคนคิดอ่ะ คิดได้ไง คือ สุดยอดจริง ๆ นะ นอกจากการเตือนด้วยป้ายประดุจเปิดตัวสินค้าแล้วละก็ เห็นจะเป็นแผนที่คุณมหากะทิง กับ ท่านเบญจวรรณ และเฮีย อะไรนร้า ร่วมกันวางนี้ละ คือ ดีมาก ๆ จ้ะพี่จ๋า ใครจะคิดละ ว่าจะแผนซ้อนแผน สมน้ำหน้าพวกคนชั่ว ไงละ ตามแผนเขาไม่ทันละซิ ปรบมือรัว ๆ ให้กับแผนการเตือนภัยในครั้งนี้ค่ะ คนเราต้องมีแผนสองแผนสามสำรองไว้เสมอ เพื่อรับมือคนชั่วเนอะ
3.ฉากสายตาท่านมหากะทิง ที่มอง45 องศา หลบตาต่ำ ไปทางหนูรันหณ์ คือ ฉากนี้ อารมณ์นี้ ประมาณว่า น่ากลัวกว่าอาเพศก็แฟนโกรธนี่ละ ใช่ม่ะ เป็น จขกท. ก็แอบเคืองนะคะ นี่แสดงว่า ท่านมหา มัวแต่ดูฤกษ์ ยาม เพื่อบ้านเมือง นะสินะ ไม่ได้ดูดวงให้ตัวเองเลย หึหึ เตรียมง้อให้ดีเลยนะ ผู้หญิงโกรธขึ้นมาเนี้ยไม่แพ้อาเพศใด ๆ นะคะ ขอเตือนเลย
4.ฉากที่ท่านเบญจวรรณ ลาออก คือ ท่านยืนหนึ่งมากค่ะ ฉากนี้ แสดงให้เห็นว่า ในสังคมเรา ไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป มันอยู่ที่ว่า คนดีจะกล้าลุกขึ้นต่อสู้รับมือ กับคนเลวไหม เหมือนประโยคที่ว่า สิ่งที่น่ากลัวกว่าคนเลว คือคนดีไม่คิดที่จะทำอะไร ไม่สนใจ ปล่อยไปเลยตามเลย ชอบที่ท่านเบญจวรรณ พูดประมาณว่า ทำเพื่อประชาชนและบ้านเมือง คือ นั่นคือ ทำจริง ๆ
5.ฉากที่ อุทธิ ไปดูดวงให้ ว่าที่เหยื่อ รายที่3 แล้วนางเห็นข่าว เลยไม่ดูต่อ เหมือนจะเป็นตัวเเปรให้อุทธิต้องหาเหยื่อรายใหม่ แต่นั่น เท่ากับว่า การเตือนของท่านมหากะทิงและท่านเบญจวรรณได้ผล
6.ชอบ เฮียอะไรนี่ละ ที่เป็นนักข่าว ที่คอยช่วยเหลือ ท่านมหากะทิง คือ เหมือนกับว่า เขารักกัน ดีกัน ด้วยใจจริง ยอมช่วยเหลือกันเพื่อสังคม ทำในทางที่ตัวเองถนัด บูรณาการร่วมกัน
*********ปล.จะแอบ กังวลอยู่ก็ตรงหลวงลุงนี่นะ คือ ใคร ทำไมจะต้องอยากรู้ทุกสิ่งอย่าง มันน่ากลัวจริง ๆ นะ ประกอบกับช่องวัน ก็น่ากลัว ไม่กล้าไว้ใจจริง ๆ 555+ ส่วนหมอชิงดวง น่ารักมากค่ะ
****************สรุปเลยละกัน ชอบละครแนวนี้ ซึ่งไม่ได้มีบ่อย ๆ และบทค่อนข้างครบทุกรายละเอียด กว่าจะออกมาให้เราได้ดูแป๊ป ๆ แต่ทุกคน ถ่ายทำกันนานมาก การศึกษาเรื่องศาสตร์การดูดวงก็เช่นกัน เชื่อว่า ถึงตอนนี้ท่านมหากะทิงของเรา สามารถดูดวงให้เราได้แล้วละ
*******************ที่ จขกท.บอกว่า ตีแผ่สังคม ย้อนรอยความชั่ว ก็ คือ ไม่บ่อยครั้ง ที่ละคร จะมีการตีแผ่ การเมือง ได้ขนาดนี้ ตอนแรกก็แอบกลัวนะ ว่าจะได้ออนแอร์ไหม แต่ตอนนี้ โล่งใจละ คือ กล้าที่จะนำมุมมืดของแต่ละอาชีพมาตีแผ่ กล้าที่จะนำความเห็นแก่ตัว ความมักใหญ่ ใฝ่สูง ของกลุ่มคนชั้นเลวมาตีแผ่ แต่กระนั้น ก็สื่อให้เห็นว่า ในกลุ่มนั้นก็ยังมีคนดี ที่พร้อมจะรับมือกับคนเลว พร้อมที่จะทำเพื่อคนอื่นเช่นกัน
ฤกษ์สังหาร ep9 ตีแผ่ความจริง สะท้อนสังคม ย้อนรอยความชั่ว
****เอาละ จขกท. ขอเข้าเรื่องเลยละ กัน กับ ep9 คือ พีคจัด(ปลัดไม่ได้บอก จขกท.บอกเอง 555+)
1.ฉากที่ สารวัตรศรีล บอกกับลูกน้องว่า อย่าเรียกพวกนั้นว่าตำรวจ มันก็แค่มาเฟียในเครื่องแบบ เออ คือ ใช่อ่ะ เป๊ะ ปัง วังเว่อร์ กราบพี่ศรีลงาม ๆ เลยค่ะ สุดจัด โดนใจ พวกนี้มันมีเยอะในสังคม
2.ฉากเตือนสาว ๆ ผู้ที่เกิด 2 ส.ค. คือ ฉากนี้ แม่เจ้า สุดอีกละ ไปให้สุด แล้วหยุดที่ป้าย 555+ กราบคนคิดอ่ะ คิดได้ไง คือ สุดยอดจริง ๆ นะ นอกจากการเตือนด้วยป้ายประดุจเปิดตัวสินค้าแล้วละก็ เห็นจะเป็นแผนที่คุณมหากะทิง กับ ท่านเบญจวรรณ และเฮีย อะไรนร้า ร่วมกันวางนี้ละ คือ ดีมาก ๆ จ้ะพี่จ๋า ใครจะคิดละ ว่าจะแผนซ้อนแผน สมน้ำหน้าพวกคนชั่ว ไงละ ตามแผนเขาไม่ทันละซิ ปรบมือรัว ๆ ให้กับแผนการเตือนภัยในครั้งนี้ค่ะ คนเราต้องมีแผนสองแผนสามสำรองไว้เสมอ เพื่อรับมือคนชั่วเนอะ
3.ฉากสายตาท่านมหากะทิง ที่มอง45 องศา หลบตาต่ำ ไปทางหนูรันหณ์ คือ ฉากนี้ อารมณ์นี้ ประมาณว่า น่ากลัวกว่าอาเพศก็แฟนโกรธนี่ละ ใช่ม่ะ เป็น จขกท. ก็แอบเคืองนะคะ นี่แสดงว่า ท่านมหา มัวแต่ดูฤกษ์ ยาม เพื่อบ้านเมือง นะสินะ ไม่ได้ดูดวงให้ตัวเองเลย หึหึ เตรียมง้อให้ดีเลยนะ ผู้หญิงโกรธขึ้นมาเนี้ยไม่แพ้อาเพศใด ๆ นะคะ ขอเตือนเลย
4.ฉากที่ท่านเบญจวรรณ ลาออก คือ ท่านยืนหนึ่งมากค่ะ ฉากนี้ แสดงให้เห็นว่า ในสังคมเรา ไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป มันอยู่ที่ว่า คนดีจะกล้าลุกขึ้นต่อสู้รับมือ กับคนเลวไหม เหมือนประโยคที่ว่า สิ่งที่น่ากลัวกว่าคนเลว คือคนดีไม่คิดที่จะทำอะไร ไม่สนใจ ปล่อยไปเลยตามเลย ชอบที่ท่านเบญจวรรณ พูดประมาณว่า ทำเพื่อประชาชนและบ้านเมือง คือ นั่นคือ ทำจริง ๆ
5.ฉากที่ อุทธิ ไปดูดวงให้ ว่าที่เหยื่อ รายที่3 แล้วนางเห็นข่าว เลยไม่ดูต่อ เหมือนจะเป็นตัวเเปรให้อุทธิต้องหาเหยื่อรายใหม่ แต่นั่น เท่ากับว่า การเตือนของท่านมหากะทิงและท่านเบญจวรรณได้ผล
6.ชอบ เฮียอะไรนี่ละ ที่เป็นนักข่าว ที่คอยช่วยเหลือ ท่านมหากะทิง คือ เหมือนกับว่า เขารักกัน ดีกัน ด้วยใจจริง ยอมช่วยเหลือกันเพื่อสังคม ทำในทางที่ตัวเองถนัด บูรณาการร่วมกัน
*********ปล.จะแอบ กังวลอยู่ก็ตรงหลวงลุงนี่นะ คือ ใคร ทำไมจะต้องอยากรู้ทุกสิ่งอย่าง มันน่ากลัวจริง ๆ นะ ประกอบกับช่องวัน ก็น่ากลัว ไม่กล้าไว้ใจจริง ๆ 555+ ส่วนหมอชิงดวง น่ารักมากค่ะ
****************สรุปเลยละกัน ชอบละครแนวนี้ ซึ่งไม่ได้มีบ่อย ๆ และบทค่อนข้างครบทุกรายละเอียด กว่าจะออกมาให้เราได้ดูแป๊ป ๆ แต่ทุกคน ถ่ายทำกันนานมาก การศึกษาเรื่องศาสตร์การดูดวงก็เช่นกัน เชื่อว่า ถึงตอนนี้ท่านมหากะทิงของเรา สามารถดูดวงให้เราได้แล้วละ
*******************ที่ จขกท.บอกว่า ตีแผ่สังคม ย้อนรอยความชั่ว ก็ คือ ไม่บ่อยครั้ง ที่ละคร จะมีการตีแผ่ การเมือง ได้ขนาดนี้ ตอนแรกก็แอบกลัวนะ ว่าจะได้ออนแอร์ไหม แต่ตอนนี้ โล่งใจละ คือ กล้าที่จะนำมุมมืดของแต่ละอาชีพมาตีแผ่ กล้าที่จะนำความเห็นแก่ตัว ความมักใหญ่ ใฝ่สูง ของกลุ่มคนชั้นเลวมาตีแผ่ แต่กระนั้น ก็สื่อให้เห็นว่า ในกลุ่มนั้นก็ยังมีคนดี ที่พร้อมจะรับมือกับคนเลว พร้อมที่จะทำเพื่อคนอื่นเช่นกัน