ผมขอพาทุกท่านไปรู้จักสถานที่แห่งหนึ่งที่เดิมเคยใช้ชื่อว่า “สถาบันปัญญ์สุข” ในวันนี้ทางสถาบันฯ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่โดยเติมคำว่า “ไทย” เพิ่มเข้าไปกลายเป็นชื่อใหม่ว่า “สถาบันไทยปัญญ์สุข” ซึ่งบริหารและดำเนินงานโดย อาจารย์ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย) ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เปิดมาจนจะครบ 6 ปีแล้ว โดยเปิดอบรมเรื่องธรรมะเป็นหลัก แต่ตัวผมเคยไปเข้ารับการอบรมการเขียนที่สถาบันฯ แห่งนี้บ่อยครั้งมาก เป็นการอบรมการเขียนโดนอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง รวมทั้งผมเคยเป็นลูกศิษย์ของหลักสูตร “ศิลปะแห่งความสุข” ที่สอนโดยอาจารย์ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย) ด้วย วันนี้ผมขออนุญาตรีวิวสถาบันไทยปัญญ์สุขแห่งนี้ให้ท่านได้รู้จักกันครับ
สถาบันไทยปัญญ์สุขนั้นมีปฏิญาณว่า
“ปัญญ์สุข ปันทรัพย์ด้วยปัญญา มีเป้าหมายเพื่อรับใช้พระธรรมและสังคม”
และมีคำสแกนเป็นภาษาอังกฤษว่า “
The Institute of Joyfull wisdom for all Like to Talk. Love to Read. Born to Write. Lead to Social Intelligence. Dedicate to Prosody. Enter to Dhamma.”
สถาบันไทยปัญญ์สุขมีกิจกรรมหลากหลายอย่าง ทั้งกิจกรรมเพื่อพระธรรมและสังคม โดยส่วนใหญ่เป็นการอบรมฟรี ที่ไม่เรียกเก็บเงินจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลย แต่จะมีกล่อง “ทานบารมี” สำหรับไว้ให้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรม ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจจะเคยได้ยินและได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันไทยปัญญ์สุขมาบ้างแล้ว แต่ผมคิดว่าอยากจะให้ฟังเรื่องราวอย่างเป็นทางการจากท่านอาจารย์ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย) กันดีกว่า
ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย)
โดย ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย) เล่าความเป็นมาของสถาบันไทยปัญญ์สุขให้ฟังว่า
“สถาบันไทยปัญญ์สุขมอบสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสาธารณะกุศล เราตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดตามแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยสถาบันไทยปัญญ์สุขตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2556 ซึ่งจะครบรอบ 6 ปีในวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2562 นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการจากไปของอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า ที่เสียชีวิตในวันที่ 29 กันยายน 2556 ทางสถาบันไทยปัญญ์สุขต้องการให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่คนเข้ามาเยอะๆ อยากทำให้เป็นเสมือนบ้านของท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า ด้วย ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเราไปเชิญครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร มาที่สถาบันไทยปัญญ์สุขแห่งนี้ ท่านเข้ามาแล้วก็บอกว่าที่แห่งนี้เป็นที่สัปปายะ ( มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ที่มาเกื้อกูลให้การประพฤติปฎิบัติธรรม เป็นไปด้วยความสบายกาย สบายใจ) ทางสถาบันฯ จึงได้บารมีของท่านมาเพิ่มห้องพระข้างบน (ชั้น 2) ถ้าท่านใดอยากจะขึ้นไปไหว้พระก็ได้ ท่านได้มอบพระพุทธทองทิพย์ , พระพุทธเมตตา และพระพุทธเชียงแสน ให้ทางสถาบันฯ พร้อมทั้งมีคำกล่าวไหว้ขอพรให้ไว้ด้วย โดยท่านครูบาบุญชุ่มตั้งชื่อห้องพระนี้ให้ว่า “ห้องคำศักดิ์สิทธิ์” สำหรับเพื่อไหว้พระขอพรได้ข้อเดียวที่ศักดิ์สิทธิ์มาก
ทางสถาบันฯ มีห้องด้านหน้าชื่อว่า "ห้องคำอ่าน” ที่ขายหนังสือแนววรรณกรรมและวรรณคดี มีห้อง “คำทิพย์” ที่ขายชุดปฏิบัติธรรมและผ้าไตรจีวร รวมถึงเครื่องใช้ในการปฏิบัติธรรม แบรนด์บุญทิพย์ธุดงค์เหรียญชัย ส่วนห้องโถงใหญ่ใช้สำหรับเป็นห้องเรียนและห้องฝึกปฏิบัติธรรม มีชื่อว่า "ห้องคำสอน” โดยในวันเสาร์อาทิตย์แรกของเดือนจะมีการอบรมในหัวข้อ “ศิลปะแห่งความสุข” โดยผู้ร่วมอบรมส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหาชีวิตต่างๆ หรือคนทั่วไปที่กำลังประสบความทุกข์อยู่ ส่วนวันเสาร์สิ้นเดือนจะมีการสอน “กายานุปัสสนาเบื้องต้น” โดยเป็นหลักสูตรสายท่านเจ้าคุณโชดก ญาณสิทธิ ป.ธ.๙ ส่วนวันอาทิตย์สิ้นเดือนจะเป็นการนั่งวิปัสสนาร่วมกัน เรียกว่า Group sitting สำหรับผู้ที่เคยปฏิบัติตามหลักสูตรสายท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า มาแล้ว
จริงแล้วผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาได้ที่สถาบันไทยปัญญ์สุขได้ทุกวัน โดยโทรเข้ามาสอบทางเส้นทางก่อนได้ที่เบอร์ 095-163 2165 หรือท่านใดที่รู้จักทางแล้วจะเดินเข้ามาเลยก็ได้ ทางสถาบันไทยปัญญ์สุขยินดีต้อนรับทุกท่าน สำหรับท่านใดต้องการอยากจะใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ขอให้ท่านลองเข้ามาคุยกันก่อนได้ เผื่อว่าเราจะได้มีจิตศรัทธาที่จะได้ทำงานร่วมกันได้”
ผมขออนุญาตใช้ภาพเล่าเรื่องประกอบกันไปด้วยนะครับ ก่อนอื่นเลยไปชมภาพบรรยากาศภายในสถาบันไทยปัญญ์สุขกันก่อน โดยภาพที่ผมเลือกมานั้นผมเลือกมาจากหลายๆ วันที่ผมมีโอกาสไปเข้ารับการอบรมที่สถาบันไทยปัญญ์สุขแห่งนี้


สำหรับการเดินทางไปที่สถาบันไทยปัญญ์สุขนั้นอาจจะซับซ้อนนิดหน่อย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ชินกับฝั่งธนบุรีก็อาจจะอธิบายบอกทางทางยากนิดหนึ่ง จริงๆ แล้วตัวสถาบันไทยปัญญ์สุขนั้นเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนิศาชล ซอยบางแวก 79 คืออยู่ในถนนบางแวกช่วงระหว่างถนนกาญจนาภิเษกกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 คำแนะนำสำหรับการเดินทางที่สะดวกถ้าระบบขนส่งสาธารณะให้ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางหว้า แล้วเดินออกไปทางถนนราชพฤกษ์ (ทางออกที่ 1) เพื่อต่อรถแท็กซี่ บอกว่าไปหมู่บ้านนิศาชล ถนนบางแวกซอย 79 คือวิ่งตรงไปตามถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก (ทางที่จะตรงไปถนนบรมราชชนนี) พอถึงสี่แยกแรกจะเป็นสี่แยกเขียนว่าทางออกซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ให้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกนี้แล้ววิ่งตามไปถนนบางแวก ตรงไปผ่านสี่แยกถนนพุทธมณฑลสาย1 วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ทางซ้ายมือจะเจอซอยหมู่บ้านนิศาชล สังเกตซอยบางแวก 79 พอเลี้ยวเข้าหมู่บ้านนิศาชลแล้วตรงเข้าไปผ่านป้อมยาม ขึ้นสะพานชันๆ ข้ามคลอง พอลงสะพานชันไปวิ่งไปเรื่อยๆ จนสังเกตเห็นสนามเด็กเล่นและสนามเทนนิสทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยหัวมุมสนามเทนนิส (ซอย 14) ตรงเข้าซอยไปเลี้ยวซ้ายที่แยกแรก แล้วเลี้ยวขวา(เลี้ยวอ้อมสนามเทนนิส) วิ่งตรงไปอีกไม่ไกล สถาบันไทยปัญญ์สุขจะอยู่ทางขวามือบ้านเลขที่ 66/738 ถ้าไปไม่ถูกจริงๆ โทรไปถามทางได้ที่เบอร์ 02-861-9511


อบรมงานเขียน เรียนวิปัสสนา เลือกหาหนังสือและซื้ออุปกรณ์ปฏิบัติธรรม ที่สถาบันไทยปัญญ์สุข
และมีคำสแกนเป็นภาษาอังกฤษว่า “The Institute of Joyfull wisdom for all Like to Talk. Love to Read. Born to Write. Lead to Social Intelligence. Dedicate to Prosody. Enter to Dhamma.”
สถาบันไทยปัญญ์สุขมีกิจกรรมหลากหลายอย่าง ทั้งกิจกรรมเพื่อพระธรรมและสังคม โดยส่วนใหญ่เป็นการอบรมฟรี ที่ไม่เรียกเก็บเงินจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลย แต่จะมีกล่อง “ทานบารมี” สำหรับไว้ให้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรม ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจจะเคยได้ยินและได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันไทยปัญญ์สุขมาบ้างแล้ว แต่ผมคิดว่าอยากจะให้ฟังเรื่องราวอย่างเป็นทางการจากท่านอาจารย์ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ (ดร.เพชร เท่-เหนือ-ไทย) กันดีกว่า
“สถาบันไทยปัญญ์สุขมอบสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสาธารณะกุศล เราตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดตามแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยสถาบันไทยปัญญ์สุขตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2556 ซึ่งจะครบรอบ 6 ปีในวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2562 นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการจากไปของอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า ที่เสียชีวิตในวันที่ 29 กันยายน 2556 ทางสถาบันไทยปัญญ์สุขต้องการให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่คนเข้ามาเยอะๆ อยากทำให้เป็นเสมือนบ้านของท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า ด้วย ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเราไปเชิญครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร มาที่สถาบันไทยปัญญ์สุขแห่งนี้ ท่านเข้ามาแล้วก็บอกว่าที่แห่งนี้เป็นที่สัปปายะ ( มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ที่มาเกื้อกูลให้การประพฤติปฎิบัติธรรม เป็นไปด้วยความสบายกาย สบายใจ) ทางสถาบันฯ จึงได้บารมีของท่านมาเพิ่มห้องพระข้างบน (ชั้น 2) ถ้าท่านใดอยากจะขึ้นไปไหว้พระก็ได้ ท่านได้มอบพระพุทธทองทิพย์ , พระพุทธเมตตา และพระพุทธเชียงแสน ให้ทางสถาบันฯ พร้อมทั้งมีคำกล่าวไหว้ขอพรให้ไว้ด้วย โดยท่านครูบาบุญชุ่มตั้งชื่อห้องพระนี้ให้ว่า “ห้องคำศักดิ์สิทธิ์” สำหรับเพื่อไหว้พระขอพรได้ข้อเดียวที่ศักดิ์สิทธิ์มาก
ทางสถาบันฯ มีห้องด้านหน้าชื่อว่า "ห้องคำอ่าน” ที่ขายหนังสือแนววรรณกรรมและวรรณคดี มีห้อง “คำทิพย์” ที่ขายชุดปฏิบัติธรรมและผ้าไตรจีวร รวมถึงเครื่องใช้ในการปฏิบัติธรรม แบรนด์บุญทิพย์ธุดงค์เหรียญชัย ส่วนห้องโถงใหญ่ใช้สำหรับเป็นห้องเรียนและห้องฝึกปฏิบัติธรรม มีชื่อว่า "ห้องคำสอน” โดยในวันเสาร์อาทิตย์แรกของเดือนจะมีการอบรมในหัวข้อ “ศิลปะแห่งความสุข” โดยผู้ร่วมอบรมส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหาชีวิตต่างๆ หรือคนทั่วไปที่กำลังประสบความทุกข์อยู่ ส่วนวันเสาร์สิ้นเดือนจะมีการสอน “กายานุปัสสนาเบื้องต้น” โดยเป็นหลักสูตรสายท่านเจ้าคุณโชดก ญาณสิทธิ ป.ธ.๙ ส่วนวันอาทิตย์สิ้นเดือนจะเป็นการนั่งวิปัสสนาร่วมกัน เรียกว่า Group sitting สำหรับผู้ที่เคยปฏิบัติตามหลักสูตรสายท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า มาแล้ว
จริงแล้วผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาได้ที่สถาบันไทยปัญญ์สุขได้ทุกวัน โดยโทรเข้ามาสอบทางเส้นทางก่อนได้ที่เบอร์ 095-163 2165 หรือท่านใดที่รู้จักทางแล้วจะเดินเข้ามาเลยก็ได้ ทางสถาบันไทยปัญญ์สุขยินดีต้อนรับทุกท่าน สำหรับท่านใดต้องการอยากจะใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ขอให้ท่านลองเข้ามาคุยกันก่อนได้ เผื่อว่าเราจะได้มีจิตศรัทธาที่จะได้ทำงานร่วมกันได้”