ไปมาแล้ว ฮานอย นิญบิ่ญ ซาปาที่เฝ้ารอ (ใครไม่นอยด์ ฮานอย...555)
ทริปรวมก๊วนได้ 8 คนถ้วน แพลนกันมาตั้งแต่ต้นปี 62 รอตั๋วโปรเจ้าแม่ Low Cost...หางแดงเจ้าเดิม ปล่อยโปร มา ก.พ. ออกจาก เชียงใหม่ ไป-กลับ ราคา
2,750 บาท จัดการจองเรียบร้อย 8 seat แต่ลองเช็คราคามาตลอดจนถึงจะเดินทาง นางก้อราคาเดิม (สรุป โปรไม่ช่วยอะไรเลย 555) ต่อมาจัดการแพลน
การเดินทาง อ่านรีวิวหาข้อมูลรัวรัว Mainการเดินทางครั้งนี้ “ซาปา..นาขั้นบันไดต้องสีทองด้วยนะ” จากข้อมูลควรไป ต้น – กลาง กันยายน สรุปวันเดินทาง 12-16 กันยายน จัดแผนได้ดังนี้ จัดเตรียมต่อ ซื้อซิม + ชุดกันฝน เช็ค Accuweather แล้วคงจะโดนฝนแน่นๆ เตรียมเสื้อกันฝน + รองเท้ากันฝน + เสื้อกันหนาว (เผื่อขึ้นฟานซิปัน) คิดว่าทริปนี้โดนฝนเต็มๆ เพราะพายุเข้าโซนเวียดนาม ลาว ไทย 1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง น้ำท่วมภาคอีสานหนักเลย แต่พอไปถึงเวียดนามพายุฝนหมดพอดี ไม่ได้ใช้สักวันเลย...รอด... แต่โดนแดดเต็มๆ ขวานฟ้าหน้าดำกลับมาเชียว
ซื้อ sim จาก shopee ราคา 150 บาท ใช้ได้วันละ 3 GB แต่พอดีมีเพื่อนไปเที่ยวเวียดนามเพิ่งจะกลับมาเลยอนุเคราะห์มาฟรี 2 ซิม หน้าซิมแจ้งหมดอายุการใช้งาน วันที่ 15 แต่เอาจริงๆ วันที่ 16 ยังเล่นเนตได้อยู่) สรุปว่า ซิมฟรีดีงาม เนตแรงมาก เดินทางกลางเขายังมีเนต ส่วนอีกค่าย เนตมาๆ หายๆ ...2 คนรอด อีก 6 คน เซ็งเนตไปตามๆ กัน
อันนี้แนะนำใช้ เนตแรงดี

อันนี้ที่ซื้อมา

หาข้อมูลจากรีวิวต่างๆ สรุปกันว่า จะใช้บริการบางส่วนจาก Agency บางส่วนดิวเอง เลยเลือก Ms. Houng จาก Viet Express Travel เป็นคนจัดการ นางจองที่พัก Topas Ecolodge ได้ราคาถูกกว่า Website ติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ผ่านทาง Line มีเจ้าหน้าที่ Ms Dung เป็นคนดูแลกรุ๊ปเรา ตอบเร็ว ไม่มีงอแง ชำระทุกอย่างเป็นดอลล่าร์ เมื่อมาถึงฮานอย...ไม่มีโกง (**ต้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจน เราให้นางจอง VIP BUS ไปซาปาเป็น บัสนอน เราจะจองชั้นล่าง โดยระบุไปในไลน์ แต่นางน่าจะลืมจองให้ มีการคอมเพลน ไปกัน 1 ยก) แต่ที่เหลือก้อบริการดี
การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว .......

Day 1 (เชียงใหม่ - รอบๆ ทะเลสาบหว่านเกี๊ยม) เครื่องออกจากเชียงใหม่ 13.20 ถึงเวียดนาม สนามบิน นอยไบ 14.55 น. ตามเวลา ผ่าน ตม. ไม่ถามอะไรสักคำ ลงมารับกระเป๋า ตามหารถตู้ที่จองไว้ เดินทางเข้าฮานอย ใช้เวลา 40 นาที การขับรถที่นี่ยิ่งในเมืองเหมือนไม่มีเลน บีบแตรขับปาดกันไปมาวุ่นวาย แต่ไม่ชนกัน Skill การขับรถเป็นเลิศ ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และคนข้ามถนน นั่งคิดมาในรถว่าตอนข้ามถนนจะรอดไหมเนี้ยเรา... คืนนี้พัก โรงแรม Amorita Boutique Hotel อยู่ใกล้ทะเลสาปหว่านเกี๋ยม ใกล้โรงละครหุ่นน้ำ แต่ไม่ได้ไป 555

Check In เสร็จ รอ Ms. Dung เพื่อเคลียร์ Booking Voucher ที่จองไว้ชำระเป็นดอลล่าร์ พร้อมกับข่าวร้าย นางแจ้งว่า รถไฟที่จะขึ้นไป cable Station Fansipan ปิดปรับปรุง 2 อาทิตย์ เราจะต้องเช่ารถตู้เพื่อขึ้นไปแทน พร้อมนัดหมายพรุ่งนี้ และรถที่จะมารับกลับจากซาปา บลา บลา บลา


ชี้แจงกันเสร็จสับ ..รีบเดินกันไปดลาด ด่งซวน Dong Xuan ฟิวจะเหมือนตลาดวโรรส ที่เชียงใหม่ถ้าใครมาจะรู้จัก เพื่อซื้อชุดอ่าวหญ่าย เดินจากโรงแรมไป 1 กิโล ประมาณ 12 นาที ราคาชุด 200,000 - 250,000 แล้วแต่ลาย ไม่รวมกางเกง (นางไม่ขายกางเกงให้เพราะเก็บของเตรียมปิดร้านแล้ว) ตลาดปิด 6 โมง ทุกคนเร่งรีบมาก ได้ชุดเสร็จ เดินออกตลาดมาเจอขนมปัง หน้าตาแปลก ๆ เลยลองชิมดูราคาชิ้นละ 10,000 ดง ,13 บาท อร่อยดี ไปแล้วต้องชิม!!

วันนี้มีงาน เพราะพรุ่งนี้จะเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ ผู้คนคับคั่ง รถราเยอะมากๆๆๆๆ

แต่ต้องหาชุดอ่าวหญ่ายให้เพื่อนอีกคนเพราะที่ร้านบนตลาดไม่มีไซส์ ร้านย่านแหล่งนักท่องเที่ยว ชุดบิ๊กไซส์ ราคา 480,000 เนื้อผ้าดีกว่าบนตลาด พร้อมกางเกงซึ่งถือว่าราคาไม่แพง ได้ชุดกันครบแล้ว เดินต่อไปทะเลสาบหว่านเกี๊ยม แพลนเดิมคือนั่งรถ Cyclo (สามล้อปั่น) แต่มาเจอ City Tour Bus Honoi
https://hopon-hopoff.vn/tours/hanoi-city-tour-hop-on-hop-off (ราคา 20 US) ไม่แนะนำจองใน web เพราะราคาหน้าบูธ 250,000 ดง เอง จึงตกลงเปลี่ยนแผน มีรอบ 1 ทุ่ม, 2 ทุ่ม จึงรีบไปหาข้าวกิน เพื่อกลับมานั่งรถรอบ 2 ทุ่ม




นั่งรถรอบเมืองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ชมวิวตอนกลางคืน สวยไปอีกแบบ อิ่มเอมกันไป นั่งรถเสร็จ ลงมาถ่ายรูปสะพานแดงต่อ ไม่ได้เข้าไปในวัดหงอกเซิน เพราะปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นแล้ววันนี้ทั่วทั้งเมืองคนออกมาเที่ยวกันเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามเอง อาจเพราะเป็นช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ คนเลยเยอะมากเป็นพิเศษ ผ่านร้านขายหมวกเวียดนาม ได้หมวกมากันคนละใบ ราคาใบละ 40,000 ดง คิดว่าถ้าซื้อจากรถจักรยานที่เร่ขายน่าจะได้ราคาถูกกว่านี้ เดินมาสักพักเริ่มมีอาการหิวกันเล็กน้อย เพราะมื้อเย็นต้องรีบทานเพื่อรีบมาขึ้นรถ เลยเดินหาขนมกิน เจอร้าน Che Dung 93 ร้านขนมหลากหลายเมนู ของหวานสไตล์เวียดนาม เก้าอี้เล็กๆ นั่งหน้าร้านได้บรรยากาศฮานอยสุดๆ มาแล้วต้องชิม ...จัดไป

ราคาถ้วยละ 20,000-30,000 ดง

อิ่มของหวานกันแล้ว เดินกลับโรงแรม ไม่ไกลกันมาก ย่อยอาหารไป ตอนนี้ เกือบ 5 ทุ่มแล้ว คนยังเยอะอยุ่ ย่านนี้ไม่เปลี่ยวเลย พักเอาแรงพรุ่งนี้ลุยกันใหม่

(มีบางคนแอบไปนวดมือ นวดเท้า) ปล. ตอนนี้ มีเสียงหนูวิ่งๆๆๆ ช็อตเด็ด ช็อกซีนีม่า...

Day 2 (เมืองนิญบิ่ง , วัดไบ่ดิ่งห์, ลงเรือจ่างอาน, ปีนเขา Mhua Mua) ทานอาหารเช้าที่โรงแรม (พอประทังไป) รถมารับ 7.45 น. ระยะทาง ฮานอยถึง นิญบิ่ญ 117 กม (2.14 ชม) ถนนค่อนข้างดี เป็นทางด่วน (ไม่ตลอดสาย) แต่หวาดเสียวตอนแซงกัน ช่างเป็นเวียดนามเสียจริงๆ คนส่วนใหญ่ขับรถไม่เกิน 90 กม./ชม. จึงเบรคกันทัน ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุเฉียวชนให้เห็น Skill การขับ การหลบรถ ชั่งเป็นเลิศ รถตู้ที่เช่าเป็น Private Car ก่อนเข้าเมือง คนขับรถจะแวะให้เราเข้าห้องน้ำ จุดพักเป็นร้านขายของสำหรับนักท่องเที่ยวราคาสินค้าแพงมากๆ (คนขับน่าจะมาแวะทานอาหารฟรี คิดเอาเอง555) จากนั้นเดินทางไปวัด Bai Dinh วัดไบ่ดิ่งห์ ซึ่งเป็นวัดที่กว้างใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ใครชอบถ่ายรูปแนว Antique เหมาะคะ ค่าเข้าชมวัดฟรี แต่มีค่านั่งรถไฟฟ้าเที่ยวละ 30,000 ดง = ไปกลับ 60,000 ต่อคน แต่เจ้าหน้าที่เห็นพวกเรามาเป็นหมู่คณะ จึงแนะนำ Package รถ+ไกด์ ในราคา 980,000 ดง โดยมีข้อดีคือ จะได้ไกด์แนะนำบรรยาย และขากลับไม่ต้องเดินวนออกทางเดิม ซึ่งจะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง โดยจะให้รถไปรับที่จุด 16 แล้วนั่งรถลงมาที่ Car Parking ได้เลย เห็นดีเห็นงามกัน ตกลงจ่ายไปในราคานั้น ***

แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราจะต้องเดินไปถึงจุดที่ 16 ซึ่งไกลมากๆๆ ถ้าเราไปเองโดยไม่มีไกด์ เราสามารถเดินไปถึงแค่จุดที่ 5 หรือ 6 แล้วเดินย้อนกลับมาก้อพอแล้ว เพราะรายละเอียดวัดแต่ละจุดจะคล้ายๆ กัน จะได้ไปที่อื่นต่อ ยิ่งอากาศร้อนๆ จะเป็นลม พวกเราใช้เวลาในวัดประมาณเกือบ 2 ชม .

ถึงเวลาอาหารกลางวัน เมนูดังย่านนี้ คือ เนื้อแพะ ซึ่งคณะเราขอผ่าน เลยสั่ง เฝอ , ข้าวผัด , ไข่เจียว ธรรมดากินกัน แต่จริงๆ แล้วที่ร้านมีหลายเมนูน่าลอง (จากการชะเง้อดูโต๊ะอื่นๆ+ ดูภาพจากเมนู) มาแล้วควรจะลอง สายลุยต้องลอง

กินเสร็จ เดินทางไม่ไกลนัก ก้อถึง จ่างอาน เรามาลงเรือกัน คนละ 200,000 ดง ไม่ต้องจ่ายทิป นั่งได้ 4-5 คนต่อลำ มี 3 โปรแกรมให้เลือก 2 หรือ 3 ชม แล้วแต่สะดวก แรกๆก้อตื่นเต้นกัน พอไปได้สักครึ่งชั่วโมงเริ่มเบื่อ ยิ่งตอนลอดถ่ำมีประมาณ 3 ถ่ำ ถ้าใครไม่ชอบความมืดเริ่มไม่สนุกละ เลยเอาพายมาช่วยกันพายให้ถึงเร็วๆ แต่ว่าไปวิวก้อสวย เป็นธรรมชาติมาก ถ้านั่งแค่ 1 ชม.น่าจะพอดีไม่น่าเบื่อเกินไป สาวๆ อย่าลืมโป๊ะกันแดดนะ เดินวัดก้อเมื่อย นั่งเรือก้อเพลีย โปรแกรมที่ 3 จะไปปีนเขา เลยเป็นอันต้องงดไป หมดแรงกันละ ขอกลับฮานอยเลย กลับถึงฮานอยเกือบทุ่ม เราให้รถไปส่งที่ร้าน Net Hue Hang Bong อาหารเวียดนาม ร้านนี้นางแนะนำมา

แล้วเดินไป Office Vite Express Travel 650 เมตร อาบน้ำ จริงแล้วรถ Mini bus ต้องมารับ21.30 น. แต่วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ รถติดมากเลทไปเกีอบ 1 ชัวโมงกว่าจะขึ้นรถ VIP BUS - Fansipan Express เป็นรถนอน 20 ที่นอน บน 5 ล่าง 5 มี 2 ฝั่ง รถบัสจะวิ่งถึงซาปาเลย ส่วนรถไฟจะถึงแค่จังหวัดหล่าวกาย และต้องต่อรถไปซาปาอีก 1 ชั่วโมง แนะนำให้นอนชั้นบนด้านหน้ารถ ด้านท้ายรถจะเหวี่ยง เบาะนอนสบายพอประมาณ มีที่ชารจ์แบต ผ้าห่ม น้ำ 1 ขวด ทีวี (ไม่มีใครเปิดเลย) ผ้าม่านปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัว

คืนนี้นอนนี้นะ..ฝันดี..เจอกันซาปาจ๊ะ

(มีตอนต่อ Day 3 - Day 5)
[SR] ไปไม่รอบฮานอย เที่ยววัดลงเรือนิญบิ่ญ ไปฟินกันโทแปซอีโคลอดจ์ ซาปา 5 วัน 4 คืน (Day 1 + 2)
ไปมาแล้ว ฮานอย นิญบิ่ญ ซาปาที่เฝ้ารอ (ใครไม่นอยด์ ฮานอย...555)
ทริปรวมก๊วนได้ 8 คนถ้วน แพลนกันมาตั้งแต่ต้นปี 62 รอตั๋วโปรเจ้าแม่ Low Cost...หางแดงเจ้าเดิม ปล่อยโปร มา ก.พ. ออกจาก เชียงใหม่ ไป-กลับ ราคา
2,750 บาท จัดการจองเรียบร้อย 8 seat แต่ลองเช็คราคามาตลอดจนถึงจะเดินทาง นางก้อราคาเดิม (สรุป โปรไม่ช่วยอะไรเลย 555) ต่อมาจัดการแพลน
การเดินทาง อ่านรีวิวหาข้อมูลรัวรัว Mainการเดินทางครั้งนี้ “ซาปา..นาขั้นบันไดต้องสีทองด้วยนะ” จากข้อมูลควรไป ต้น – กลาง กันยายน สรุปวันเดินทาง 12-16 กันยายน จัดแผนได้ดังนี้ จัดเตรียมต่อ ซื้อซิม + ชุดกันฝน เช็ค Accuweather แล้วคงจะโดนฝนแน่นๆ เตรียมเสื้อกันฝน + รองเท้ากันฝน + เสื้อกันหนาว (เผื่อขึ้นฟานซิปัน) คิดว่าทริปนี้โดนฝนเต็มๆ เพราะพายุเข้าโซนเวียดนาม ลาว ไทย 1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง น้ำท่วมภาคอีสานหนักเลย แต่พอไปถึงเวียดนามพายุฝนหมดพอดี ไม่ได้ใช้สักวันเลย...รอด... แต่โดนแดดเต็มๆ ขวานฟ้าหน้าดำกลับมาเชียว
ซื้อ sim จาก shopee ราคา 150 บาท ใช้ได้วันละ 3 GB แต่พอดีมีเพื่อนไปเที่ยวเวียดนามเพิ่งจะกลับมาเลยอนุเคราะห์มาฟรี 2 ซิม หน้าซิมแจ้งหมดอายุการใช้งาน วันที่ 15 แต่เอาจริงๆ วันที่ 16 ยังเล่นเนตได้อยู่) สรุปว่า ซิมฟรีดีงาม เนตแรงมาก เดินทางกลางเขายังมีเนต ส่วนอีกค่าย เนตมาๆ หายๆ ...2 คนรอด อีก 6 คน เซ็งเนตไปตามๆ กัน
อันนี้แนะนำใช้ เนตแรงดี
การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว .......
Day 1 (เชียงใหม่ - รอบๆ ทะเลสาบหว่านเกี๊ยม) เครื่องออกจากเชียงใหม่ 13.20 ถึงเวียดนาม สนามบิน นอยไบ 14.55 น. ตามเวลา ผ่าน ตม. ไม่ถามอะไรสักคำ ลงมารับกระเป๋า ตามหารถตู้ที่จองไว้ เดินทางเข้าฮานอย ใช้เวลา 40 นาที การขับรถที่นี่ยิ่งในเมืองเหมือนไม่มีเลน บีบแตรขับปาดกันไปมาวุ่นวาย แต่ไม่ชนกัน Skill การขับรถเป็นเลิศ ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และคนข้ามถนน นั่งคิดมาในรถว่าตอนข้ามถนนจะรอดไหมเนี้ยเรา... คืนนี้พัก โรงแรม Amorita Boutique Hotel อยู่ใกล้ทะเลสาปหว่านเกี๋ยม ใกล้โรงละครหุ่นน้ำ แต่ไม่ได้ไป 555
ชี้แจงกันเสร็จสับ ..รีบเดินกันไปดลาด ด่งซวน Dong Xuan ฟิวจะเหมือนตลาดวโรรส ที่เชียงใหม่ถ้าใครมาจะรู้จัก เพื่อซื้อชุดอ่าวหญ่าย เดินจากโรงแรมไป 1 กิโล ประมาณ 12 นาที ราคาชุด 200,000 - 250,000 แล้วแต่ลาย ไม่รวมกางเกง (นางไม่ขายกางเกงให้เพราะเก็บของเตรียมปิดร้านแล้ว) ตลาดปิด 6 โมง ทุกคนเร่งรีบมาก ได้ชุดเสร็จ เดินออกตลาดมาเจอขนมปัง หน้าตาแปลก ๆ เลยลองชิมดูราคาชิ้นละ 10,000 ดง ,13 บาท อร่อยดี ไปแล้วต้องชิม!!
แต่ต้องหาชุดอ่าวหญ่ายให้เพื่อนอีกคนเพราะที่ร้านบนตลาดไม่มีไซส์ ร้านย่านแหล่งนักท่องเที่ยว ชุดบิ๊กไซส์ ราคา 480,000 เนื้อผ้าดีกว่าบนตลาด พร้อมกางเกงซึ่งถือว่าราคาไม่แพง ได้ชุดกันครบแล้ว เดินต่อไปทะเลสาบหว่านเกี๊ยม แพลนเดิมคือนั่งรถ Cyclo (สามล้อปั่น) แต่มาเจอ City Tour Bus Honoi https://hopon-hopoff.vn/tours/hanoi-city-tour-hop-on-hop-off (ราคา 20 US) ไม่แนะนำจองใน web เพราะราคาหน้าบูธ 250,000 ดง เอง จึงตกลงเปลี่ยนแผน มีรอบ 1 ทุ่ม, 2 ทุ่ม จึงรีบไปหาข้าวกิน เพื่อกลับมานั่งรถรอบ 2 ทุ่ม
ราคาถ้วยละ 20,000-30,000 ดง
Day 2 (เมืองนิญบิ่ง , วัดไบ่ดิ่งห์, ลงเรือจ่างอาน, ปีนเขา Mhua Mua) ทานอาหารเช้าที่โรงแรม (พอประทังไป) รถมารับ 7.45 น. ระยะทาง ฮานอยถึง นิญบิ่ญ 117 กม (2.14 ชม) ถนนค่อนข้างดี เป็นทางด่วน (ไม่ตลอดสาย) แต่หวาดเสียวตอนแซงกัน ช่างเป็นเวียดนามเสียจริงๆ คนส่วนใหญ่ขับรถไม่เกิน 90 กม./ชม. จึงเบรคกันทัน ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุเฉียวชนให้เห็น Skill การขับ การหลบรถ ชั่งเป็นเลิศ รถตู้ที่เช่าเป็น Private Car ก่อนเข้าเมือง คนขับรถจะแวะให้เราเข้าห้องน้ำ จุดพักเป็นร้านขายของสำหรับนักท่องเที่ยวราคาสินค้าแพงมากๆ (คนขับน่าจะมาแวะทานอาหารฟรี คิดเอาเอง555) จากนั้นเดินทางไปวัด Bai Dinh วัดไบ่ดิ่งห์ ซึ่งเป็นวัดที่กว้างใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ใครชอบถ่ายรูปแนว Antique เหมาะคะ ค่าเข้าชมวัดฟรี แต่มีค่านั่งรถไฟฟ้าเที่ยวละ 30,000 ดง = ไปกลับ 60,000 ต่อคน แต่เจ้าหน้าที่เห็นพวกเรามาเป็นหมู่คณะ จึงแนะนำ Package รถ+ไกด์ ในราคา 980,000 ดง โดยมีข้อดีคือ จะได้ไกด์แนะนำบรรยาย และขากลับไม่ต้องเดินวนออกทางเดิม ซึ่งจะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง โดยจะให้รถไปรับที่จุด 16 แล้วนั่งรถลงมาที่ Car Parking ได้เลย เห็นดีเห็นงามกัน ตกลงจ่ายไปในราคานั้น ***
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้