ก่อนจะไปอ่านเรื่องยาวๆ สรุปสั้นๆ ให้อ่านก่อนละกันครับ
Huawei Mate 30 Pro น่าซื้อไหม ในเวลานี้?
ตอบ : น่าซื้อ
* ถ้าคุณเป็นคนที่ ไม่ได้ใช้บริการของ Google เลย ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อผู้ติดต่อ หรือ ใช้ Google Account ในการ Login กับแอปต่างๆ ครับ ชอบถ่ายรูป ถ่าย Vlog เล่นโซเชียล
ตอบ : ไม่น่าซื้อ
* ก็ตรงกันข้ามกัน ถ้าคุณต้องการใช้บริการของ Google เป็นหลัก และไม่อยากยุ่งยาก หรือเสี่ยงภัยในการลงเอง คุณควรรอดีกว่า
หมายเหตุ
- เครื่องสามารถนำมาลง App ต่างๆ ได้ปกติครับ ผ่าน Huawei App Gallery ตามปกติ (ทุกเครื่องของ Huawei มีแอปนี้อยู่แล้ว
- แอปที่เรียกใช้ Authentication หรือ การ login จาก Google เราอาจจะไม่สามารถใช้ได้ แค่นั้นเอง แต่ถ้าแอปนั้นสามารถ login ผ่าน facebook หรือ ผ่าน authentication จากแอปอื่น ก็ใช้งานได้ปกติครับ เป็นเฉพาะ Google เท่านั้น
มีอะไรดี? มีอะไรเจ๋งไปกว่า P30 Pro
- เลนส์ Ultra Wide ที่มีค่ารูรับแสงกว้างพอๆ กับเลนส์ปกติ (f/1.8) ทำให้ถ่ายที่มืดได้ดีเท่ากันกับระยะปกติ
- ถ่ายวีดีโอความเร็วสูงได้ถึง 7680 ภาพต่อวินาที (เร็วสุดในปัจจุบันคือ 960fps)
- ถ่ายวิดีโอในที่มืดได้ ISO 51200 (รุ่นทั่วไปส่วนมากปรับ ISO ขณะถ่ายไม่ได้ หรือได้มากสุดแค่ ISO6400)
- ชาร์จแบบไร้สายได้ถึง 27W (ปกติ 5-15W)
- กระจกแบบ Corning Gorilla Glass 6 (รุ่นสุดท้ายที่ใช้กระจก Gorilla Glass คือ P10)
- ถ่าย 4K แบบ 60fps
- มี Smart Gestures โบกไม้โบกมือ เพื่อสั่งการโดยไม่ต้องแตะจอจริงๆ
- เซ็นเซอร์กล้องมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ง่ายขึ้น
- ไม่มีปุ่ม Volume แล้วแค่แตะข้างๆ จอ แล้วรูดขึ้นลงได้เลย
- รองรับปากกา M Pen
- ปลดล็อคหน้าจอได้ไวขึ้น
- ครั้งแรกในโลกกับการนำ Sensor กล้องแบบ RYYB+RGGB คู่กัน
- สามารถทำ Virtual Button ได้ข้างจอ
ข้อเสีย
- ไม่มีบริการ Google มาด้วย
- ดูหนังจาก NetFlix แบบ HD ไม่ได้
- จอโค้งมาข้างๆ ทำให้หาเคสใส่ยากมาก เสี่ยงต่อการแตก (โค้งมากกว่า P30Pro)
- กล้อง UltraWide ไม่มี OIS หรือระบบกันสั่น แต่มีระบบ AIS เข้ามาแทน (อ้างอิงจากสเปคใน GSMARENA)
มาดูคุณสมบัติเด่นๆ กันดีกว่าครับ
มีกี่สี ?
ตอบ : 6 สี
สีอะไรบ้าง ?
สีเขียว,สีส้ม ทำมาจาก หนังเทียม
สีเงิน เขียว ม่วง และ ดำ
• ปลดล็อคหน้าจอได้ไวกว่าเดิมด้วยเซ็นเซอร์ใต้จอตัวใหม่
• ไม่มีปุ่มควบคุมเสียง (Volume)
- เนื่องจากข้างจอเป็นกระจก วิธีปรับเสียงคือ แตะที่ข้างจอ แล้วเลื่อนขึ้นลงแทน
(แต่ยังนึกไม่ออกว่าถ้าปิดจออยู่ จะคุมยังไงดี)
• อันนี้เด็ดสุด เนื่องจากความโค้งของจอมีมากถึง 88% จึงทำให้เหมือนมีจอภาพบริเวณข้างเครื่อง จึงทำให้เราสามารถตั้งปุ่ม (Assign)
ปุ่มไว้บนจอได้สองปุ่ม อย่างในภาพนี้ ใครเล่น PUBG ต้องร้องว้าวแน่ๆ ไม่นับรวมการเล่น Emulatorผ่านมือถืออีก ว้าวมากครับ
• CPU แบบ All in one รวมทั้งหมดนี่ไว้ใน CPU ตัวเดียว
- รวม CPU NPU GPU ไว้ในตัวเดียวกันเลย เพื่อความรวดเร็วในการประมวลผล
- รองรับ 4G/5G
- รองรับ UFS 3.0
- รองรับ 4K HDR Video
- มีระบบ Security ในตัว CPU เอง
• มีการใช้ฟิล์มแกรฟีน (Graphene Film) มาช่วยลดความร้อนในตัวครื่อง (ระบายความร้อนได้ดีกว่าระบบอื่นๆ)
ซึ่งการใช้ฟิล์มชนิดนี้มาช่วยลดความร้อน ได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ Mate 20 แล้วครับ
• Sensor กล้องยังใช้งานแบบ RYYB แบบ P30 Pro แต่เพิ่ม RGGB เข้ามาด้วยในเลนส์ UltraWide เพื่อเพิ่มความสมจริงของภาพให้มากที่สุด
• เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ที่สุดใน Smart Phone ในขณะนี้ ด้วย Sensor size ขนาด 1/1.54” ใน Format 3:2
• รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K/60fps
• รองรับการถ่ายวีดีโอที่ ISO 51200
• รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ High Speed Slow motion ที่ 7680fps (แสดงว่าตัว Hardware ของกล้องมี buffer ที่เยอะมากครับ)
• มีระบบ AIS เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ (AI Stabilisation)
• รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K HDR+
ส่วนอื่นๆ ดูได้ในวีดีโอเลยครับ
สำหรับสเปคเด่นๆ ก็ประมาณนี้ครับ ส่วนเรื่อง Google Play Services ผมจะมาพูดใน Reply ถัดไปครับ
Huawei Mate 30 Pro น่าสนใจ และ น่าซื้อไหม กับประเด็นเรื่อง Google Services
ตอบ : น่าซื้อ
* ถ้าคุณเป็นคนที่ ไม่ได้ใช้บริการของ Google เลย ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อผู้ติดต่อ หรือ ใช้ Google Account ในการ Login กับแอปต่างๆ ครับ ชอบถ่ายรูป ถ่าย Vlog เล่นโซเชียล
ตอบ : ไม่น่าซื้อ
* ก็ตรงกันข้ามกัน ถ้าคุณต้องการใช้บริการของ Google เป็นหลัก และไม่อยากยุ่งยาก หรือเสี่ยงภัยในการลงเอง คุณควรรอดีกว่า
หมายเหตุ
- เครื่องสามารถนำมาลง App ต่างๆ ได้ปกติครับ ผ่าน Huawei App Gallery ตามปกติ (ทุกเครื่องของ Huawei มีแอปนี้อยู่แล้ว
- แอปที่เรียกใช้ Authentication หรือ การ login จาก Google เราอาจจะไม่สามารถใช้ได้ แค่นั้นเอง แต่ถ้าแอปนั้นสามารถ login ผ่าน facebook หรือ ผ่าน authentication จากแอปอื่น ก็ใช้งานได้ปกติครับ เป็นเฉพาะ Google เท่านั้น
มีอะไรดี? มีอะไรเจ๋งไปกว่า P30 Pro
- เลนส์ Ultra Wide ที่มีค่ารูรับแสงกว้างพอๆ กับเลนส์ปกติ (f/1.8) ทำให้ถ่ายที่มืดได้ดีเท่ากันกับระยะปกติ
- ถ่ายวีดีโอความเร็วสูงได้ถึง 7680 ภาพต่อวินาที (เร็วสุดในปัจจุบันคือ 960fps)
- ถ่ายวิดีโอในที่มืดได้ ISO 51200 (รุ่นทั่วไปส่วนมากปรับ ISO ขณะถ่ายไม่ได้ หรือได้มากสุดแค่ ISO6400)
- ชาร์จแบบไร้สายได้ถึง 27W (ปกติ 5-15W)
- กระจกแบบ Corning Gorilla Glass 6 (รุ่นสุดท้ายที่ใช้กระจก Gorilla Glass คือ P10)
- ถ่าย 4K แบบ 60fps
- มี Smart Gestures โบกไม้โบกมือ เพื่อสั่งการโดยไม่ต้องแตะจอจริงๆ
- เซ็นเซอร์กล้องมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ง่ายขึ้น
- ไม่มีปุ่ม Volume แล้วแค่แตะข้างๆ จอ แล้วรูดขึ้นลงได้เลย
- รองรับปากกา M Pen
- ปลดล็อคหน้าจอได้ไวขึ้น
- ครั้งแรกในโลกกับการนำ Sensor กล้องแบบ RYYB+RGGB คู่กัน
- สามารถทำ Virtual Button ได้ข้างจอ
ข้อเสีย
- ไม่มีบริการ Google มาด้วย
- ดูหนังจาก NetFlix แบบ HD ไม่ได้
- จอโค้งมาข้างๆ ทำให้หาเคสใส่ยากมาก เสี่ยงต่อการแตก (โค้งมากกว่า P30Pro)
- กล้อง UltraWide ไม่มี OIS หรือระบบกันสั่น แต่มีระบบ AIS เข้ามาแทน (อ้างอิงจากสเปคใน GSMARENA)