แนะนำเรื่องการบันทึกเสียง การใช้งานไมค์โครโฟน และ ระบบเสียงที่นิยมในวงการเคป๊อบ

กระทู้สนทนา
เห็นกระทู้ถามกันมาบ่อยเรื่องไลฟ์ซาวด์วงการเคป๊อบ  เลยอยากมาแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ฟังบ้าง ในฐานะทำงานด้านนี้มาก่อน
เราสายงาน Live sound concert และเคยทำงานออนแอร์สดบางครั้ง .. ทำแค่ในไทยนะ  แต่ว่าคิดน่าจะประยุกต์ความรู้มาอธิบายได้
เนื่องจากวงในไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบนด์ (วงดนตรี) ดังนั้น อุปกรณ์ไมค์จะหนักไปทางรับเสียงเครื่องดนตรีเสียเยอะ
ต่างกับวงเคป๊อบเกาหลีที่จะเน้นใช้ไมค์สำหรับร้อง  ยิ่งสมาชิกเยอะ ก็ยิ่งใช้ไมค์จำนวนมาก

ไมค์ที่นิยมใช้เยอะที่สุดในเคป๊อบคือ ไมค์ตระกูล wireless (ไร้สาย)
เราแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการใช้งานดังนี้ 

1. Headset Microphone : ไมโครโฟนชนิดครอบศีรษะ สำหรับงานพูด
มีอีกชื่อหนึ่งว่า ไมค์ Lavalier   มีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ สีเนื้อ มองแล้วจะกลมกลืนเข้ากับสีผิวเรา
นิยมใช้สำหรับนักพูด Ted Talk  พิธีกรเปิดตัวสินค้า หรือ สำหรับงานบรรยาย งานสัมนาต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Lavalier มีลักษณะการรับเสียงแบบ Omni Directional หรือ รับเสียงรอบทิศทาง ทั้งเสียงพูดของเราและเสียงบรรยากาศรอบด้าน
จากคุณสมบัติดังกล่าว จึงเป็นไมค์ที่ไม่เหมาะสำหรับใช้ร้องเพลง เพราะมันจะดูดเสียงคนดู และเสียงรบกวนที่อยู่รายรอบเข้ามาด้วย
ทำให้เสียงที่ได้ไม่สะอาด อีกทั้งตัวไมค์มีความไวเสียงมาก จะก่อปัญหาเทคนิคที่ยุ่งยาก ซึ่งเราขอไม่อธิบายลึกไปกว่านี้

2. Headset Microphone : ไมโครโฟนชนิดครอบศีรษะ สำหรับงานร้องเพลง

ขออนุญาตยืมรูปเด็กบิ๊กฮิตหน่อย ในฐานะคุ้นเคยกันดี - -*
ที่เห็นนี้ยี่ห้อ (AKG) Crown CM311 AESH , สนนราคาราวๆ 2 หมื่นกลางๆ
ที่เราแรเงาสีเหลืองเอาไว้นั้น คือพื้นรับเสียงของไมค์ชนิดนี้ จะเห็นว่ามี 2 ด้าน คือด้านรับเสียงและด้านไม่รับเสียง
ลักษณะพื้นที่การรับเสียงจะแตกต่างจากไมค์ Lavalier เพราะมีรัศมีในการรับเสียงที่แคบกว่า
ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพดีกว่า โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังๆ เช่น บนเวทีคอนเสิร์ต เป็นต้น
ส่วนข้อเสียคือ ถ้าหายใจแรง ก็จะเกิดเสียงพรึ่บพรั่บได้ง่าย เพราะตัวไมค์จะจ่ออยู่ที่บริเวณปากตลอดเวลา
ดังนั้นนักร้องจะต้องฝึกควบคุมลมหายใจให้คงที่ในระหว่างที่แสดง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย !!

3. ไมโครโฟนชนิดถือ (Handheld Microphone) 
หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า ไมค์ลอย  มีหลากรุ่น หลายยี่ห้อ

อันนี้ยี่ห้อยอดนิยม Shure  ตัวซ้ายราคา 2 หมื่นกลางๆ  ตัวขวา หลักแสนต้นๆ  คุณภาพเสียงก็ตามระดับราคาเลย  ยิ่งแพงยิ่งเสียงดี
ไมค์ลอยแบบนี้มีข้อดี ตรงที่เนื้อเสียงร้องจะมาเต็มกว่าเนื้อเสียงที่ได้จากพวกไมค์ Headset  
สังเกตกรณีศิลปินร้องสด  แล้วเป็นเพลงช้า  หรือมีการแสดงที่ยืนนิ่ง หรือเดินร้องชิวๆ  ก็จะสลับจากไมค์ Headset มาเป็นใช้ไมค์ลอยแทน
เพราะไมค์ลอยนั้นเอื้อต่อเทคนิคการร้องเพลง (ดึงเข้าดึงออกเวลาเปล่งเสียง)  และพวกแร็ปเปอร์ก็จะชอบ เพราะมันควบคุมความหนักเบาในการแร็ปได้
ด้วย รวมทั้งเพื่อความเท่ห์ ความ swag มันก็จะได้ฟีลดีกว่าเยอะ
ข้อเสียคือ เกะกะ ไม่เหมาะกับเพลงที่เต้นล้มลุกคลุกคลาน   เลยเป็นเหตุผลที่เราเห็นเค้าชอบสลับไมค์กันใช้บ่อยๆนั่นเอง ในกรณีคอนเสิร์ตนั้นแสดงหลายๆเพลง

ทีนี้คุณพอจะมองออกหรือยังว่า ไมค์แต่ละชนิดมีลักษณะการใช้งานยังไง
คุณสามารถนำเอาไปใช้สังเกตวงต่างๆหรือวงเมนคุณได้ว่า  ตอนอัดรายการ - ตอนไปเล่นคอนเสิร์ต พวกเค้าใช้ไมค์อะไรแบบไหน
ที่สำคัญคือ พยายามแยกแยะ และจดจำเสียงที่เราได้ยินจากไมค์ชนิดต่างๆ  เราแนะนำให้ใช้หูฟัง ฟังเพลงจากคลิปงานต่างๆ
ฟังบ่อยๆ คุณก็จะเริ่มชินและแยกแยะคาแรกเตอร์เสียงไมค์แต่ละประเภทได้ละเอียดยิ่งขึ้น
ซึ่งมันจะช่วยให้คุณตอบคำถามในใจ โดยเฉพาะประเด็นที่อ่อนไหวสุ่มเสี่ยงต่อดราม่าอย่างที่คุณๆชอบถามกันไปมา

และถ้าเราจะเขียนต่อมันก็จะเริ่มยาวเกิน เช่นว่า ทำไมต้องพรีเร็คคอร์ด , การดีไซด์ backing track สำหรับการร้อง  , การมิกซ์เสียงสำหรับออกอากาศ
การได้ยินเสียงในคอนเสิร์ตสดๆต่างจากเสียงที่เร็คคอร์ดเอาไว้อย่างไร มีปัญหาต่อการออนแอร์อย่างไรบ้าง
หรือเอาไว้คราวหน้า เราอาจจะเขียนถึงก็ได้  แต่สำหรับวันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน
ใครมีคำถามก็ฝากถามมาได้  เราขอตอบเฉพาะเท่าที่รู้และมีประสบการณ์นะฮะ  เพราะเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง 
มีพี่ๆระดับท็อปๆในวงการที่เก่งกว่าเราเยอะ  ถ้ามีโอกาสเราก็ไปอบรมกับเค้าอยู่เลย

BYE 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่