ว่าด้วยธรรมทายาท....

กระทู้สนทนา
ภิกษุ ท. !  พวกเธอทั้งหลายจงเป็นธรรมทายาท (คือรับมรดกธรรม) ของเราเถิด, 
อย่าเป็นอามิสทายาท (คือรับมรดกสิ่งของ) เลย. ความที่ควรจะ เป็นห่วงของเราใน
พวกเธอทั้งหลาย มีอยู่ว่า “ทำอย่างไรเสีย สาวกทั้งหลายของเรา ก็คงจะเป็นธรรม
ทายาท ไม่เป็นอามิสทายาท ” ดังนี้. 

ภิกษุ ท. !  ถ้าพวกเธอเป็นอามิสทายาท ไม่เป็นธรรมทายาทของเราแล้ว
พวกเธอทั้งหลายก็จะถูกเขาตราหน้าว่า  “สาวกทั้งหลายของพระศาสดาเป็นอามิส
ทายาทอยู่โดยปรกติ หาได้เป็นธรรมทายาทไม่เลย” ดังนี้. แม้เราเองก็จะถูกเขายก
โทษว่า “สาวกทั้งหลายของพระศาสดา ล้วนแต่เป็นอามิสทายาท กันเป็นปรกติ 
หาได้เป็นธรรมทายาทไม่เลย” ดังนี้. 

ภิกษุ ท. !  ถ้าพวกเธอพากันเป็นธรรมทายาทของเรา และไม่เป็นอามิสทายาทแล้วไซร้ 
พวกเธอทั้งหลายก็จะได้รับการยกย่องว่า “สาวกทั้งหลายของพระศาสดา ล้วนแต่เป็น
ธรรมทายาทกันอยู่โดยปรกติ หาได้เป็นอามิสทายาทไม่” ดังนี้. แม้เราเองก็จะได้รับ
การยกย่องว่า “สาวกทั้งหลายของพระศาสดาล้วนแต่พากันเป็นธรรมทายาททั้งนั้น 
หาได้เป็นอามิสทายาทไม่เลย” ดังนี้ด้วยเหมือนกัน. 

ภิกษุ ท. !  เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย จงพากันเป็นธรรมทายาทของ
เราเถิด, อย่างได้เป็นอามิสทายาทเลย. ความที่ควรจะเป็นห่วงของเราในพวกเธอทั้งหลาย 
มีอยู่ว่า “ทำอย่างไรเสีย สาวกทั้งหลายของเราพึงเป็นธรรมทายาทเถิด อย่าได้เป็นอามิสทายาทเลย” ดังนี้. 
(กาลนี้...🐫จะรอดรูเข็ม)
๑. บาลี ธัมมทายาทสูตร มู. ม. ๑๒/๒๑/๒๑.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่