[CR] True Relaxing Trip 15 เขาใหญ่ 12-14/9/19

ห่างหายจากการเที่ยวมานาน อากาศดีๆในช่วงฤดูฝนแบบนี้ มันต้องเที่ยวเขาสินะ ไปดูต้นไม้เขียวๆ ไปสูดโอโซน ไปเดินรับลม เลยเลือกที่จะมาพักที่ Hotel La Casetta ห้อง Casetta Mountain ตั้งอยู่ที่ Toscana Valley จริงๆที่นั้นจะมี 3 โรงแรมอยู่ในนั้น ได้แก่ La Casetta, Town Square, Toscana Piazza (ตัวหอเอนปิซ่า) ที่พักครั้งนี้จองผ่าน agoda ได้ในราคา 6,324 บาท หากพูดถึงตัวโรงแรม ส่วนของ Toscana Piazza จะอยู่หน้าสุดของ Toscana Valley ขับเข้าไปก็จะเป็น Town Square และลึกสุดก็จะเป็น La Casetta ซึ่งสไตล์การตกแต่งของแต่ละที่ก็จะตางกันไป ใครชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นเลย

ออกเดินทางกันแบบชิวๆไม่เร่งรีบ เพราะทั้งทริปไม่คิดไปไหนนอกจากตะลุยที่ Toscana Valley เท่านั้น ระหว่างทางก็แวะกินอะไรง่ายๆอย่างก๊วยเตี๋ยวน้ำตกที่ปั้ม ปตท ก่อนจะถึงที่พัก ราคาไม่แพง ชามละแค่ 40 เท่านั้น


เวลาประมาณบ่ายสองครึ่งก็มาถึงที่พัก บอกเลยว่าสวยงามมาก จริงๆมาเขาใหญ่หลายรอบ ผ่านที่นี่ก็บ่อย แต่เป็นหนแรกที่มาพัก มันเป็นความฝันว่าสักวันชั้นต้องมาให้ได้ ขับรถมาลึกมากกกกกกกกกกกกกก ก็อ่ะนะ มันใหญ่มากจริงๆ โรงแรมแต่ละแห่งไม่ได้ใกล้กัน ต้องขับรถไปหากัน กว่าจะเข้ามาถึงจุดหมายก็เอาซะงงเลย ดีนะมี รปภ คอยบอกทางตลอด ซึ่งสถานที่สวยมาก ระหว่างเข้ามามองไปรอบๆพร้อมคิดว่า มาพักแค่สองคืน จะถ่ายรูปที่นี่ครบรึเปล่าเนี่ย 555 มาถึงพนักงานก็มาแนะนำที่พักกันหน่อย ซึ่งโชคดีมากเพราะที่ Toscana Valley มีสระว่ายน้ำ 3 สระ สองสระอยู่ใกล้ๆกับ La Casetta คืออยู่ที่ตัวโรงแรมเลยกับอยู่ที่คลับซึ่งติดโรงแรม กับอีกสระอยู่ที่ Town Square แต่มีเพียงสระที่อยู่ที่คลับเท่านั้นที่เป็นสระน้ำเกลือ ที่เหลือเป็นสระคอลลีน แหม…ถึงจะอยู่ลึกสุด แต่โชคดีติดสระตั้งสองสระแนะ ภายในห้องพักก็บอกเลยว่าสวยงามสมราคาจริงๆ มีอ่างให้แช่น้ำด้วย เตียงงี้ใหญ่มาก นุ่มมาก นุ่มจนถ้าคนชอบนอนแบบแข็งหน่อยอาจจะรู้สึกไม่สบาย เพราะมันนุ่มมากจริงๆ ตัวของเค้าก็มีให้ครบ แบบว่าใครลืมเอาอะไรมา ที่นี้มีให้หมดเลย มองออกมาจากห้องนอนก็จะเห็นสระว่ายน้ำสไตล์โรมัน มันน่าถ่ายรูปจริงๆ สาวๆที่มาห้ามพลาดที่จะเอาชุดว่ายน้ำมาถ่ายรูปเล่นกัน


พักผ่อนอยู่ในห้องจนถึงเวลาอาหารเย็น ก็รู้สึกขี้เกียจเกินกว่าจะออกไปหาอะไรกิน สอบถามพนักงานที่นี่มีร้านอาหารใกล้ๆที่คลับ เป็นอาหารไทยฟิวชั่น หรือสามารถเลือกทานอาหารฝรั่งได้ที่ Town Square เลยเลือกที่จะทานใกล้ๆที่คลับพอ คลับนี้มีชื่อว่า Club Lago ชั้นแรกจะมีฟิตเนส ข้างนอกมีสระน้ำเกลือ ชั้นสองเป็นร้านอาหาร และชั้นสามเป็นห้องอาหารไว้กินอาหารเช้า อาหารที่เลือกทานวันนี้ได้แก่ ข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม พายแกงกะหรี่ไก่ และ ต้มยำกุ้ง รวมสนนราคาที่ 942 บาท อาหารถือว่ารสชาติธรรมดา แพงในระดับนึง แต่ก็นะ ค่าสถานที่ ค่าบรรยากาศ มันก็จะประมาณนี้แหละ



วันถัดมาเริ่มมือเช้ากันที่ Club Lago อาหารเช้าที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ ซึ่งก็จะมีให้เลือกไม่มากนัก แต่ก็ครบดี รสชาติก็ธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไร ที่ชอบก็จะเป็นขนมจีบ อยู่สองวัน อาหารก็จะมีเปลี่ยนไป แต่ขนมจีบมีให้กินทั้งสองวันเลย ชอบมากกกกกกก


กินอาหารเสร็จก็กลับมาพักผ่อน อาบน้ำ แต่งตัวสวยๆ วันนี้เราจะไปบุก Town Square กัน จากที่พัก ขับรถไปประมาณ 3-4 กิโลก็จะมาถึง Town Square เป้าหมายวันนี้คือการถ่ายรูปและบุกร้านขนม Café VINO สาวๆคนไหนชอบถ่ายรูปบอกเลยไม่ผิดหวังจริงๆ มุมๆนึงถ่ายเกือบชั่วโมง มันให้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอก เหมือนมานั่งกินขนมที่อิตาลียังไงยังงั้น ถ่ายรูปจนหนำใจก็ไปกินขนมกัน เค้กที่เลือกได้แก่ Oreo White Chocolate Cake, Red Velet Cake, น้ำชาเขียว และสตอเบอรี่อิลาเลียนโซดา รวมราคา 518 บาท ราคาถือว่าไม่แพง (ราคาชิ้นละ 129 บาท) รสชาติไม่ได้ว้าว อร่อยกินได้ ร้านเค้กที่ กทม มีอร่อยกว่านี้ แต่ไม่มีบรรยากาศแบบนี้แน่นอน ที่นี่มีให้เช่าจักรยานด้วยนะ  แต่ไม่รู้เท่าไหร่  เพราะไม่ได้เช่า


กินเสร็จถ่ายรูปต่อ กว่าจะเสร็จอยู่ในนี้เกือบ 4 ชม ก็ของกลับมาพักผ่อนที่ห้องพัก รอเวลาเย็นหน่อยค่อยไปว่ายน้ำที่สระน้ำเกลือกัน บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก มองไปเหมือนวิวทะเลสาบ สวยงามมาก แถมน้ำอุ่นอีกต่างหาก ไม่รู้คิดไปเองหรือว่ามันอุ่นจริงๆ แต่ที่แน่ๆ น่าว่ายสุดๆ ใครไม่ได้มาว่ายถือว่าพลาด จริงๆสระโรมันสวยน่าว่ายแถมติดห้องพัก แต่มันดันเป็นสระคอลลีน สาวสวยห่วงผิวอย่างเราเลยยอมเดินมานิดนึง ปลอดภัยกับสระน้ำเกลือดีกว่า


ว่ายน้ำล้างไขมันจากเค้กที่กินไปจนหิว ก็ได้เวลาหาอะไรกิน มีพนักงานคนนึงบอกว่าตรง Toscana Piazza มีร้านอาหารด้วย เลยลองไปดู ปรากฎว่าอาหารมันเป็นแนวเบอร์เกอร์ ซึ่งไม่ใช่ที่ต้องการ ณ จุดนั้นอยากกินไรแซ่บๆ เลยขับรถออกมาหาข้างนอก ขับออกมาไกลหน่อย ถือว่าไกลเลยละ ก็จะเจอร้านอาหาร พันล้านข้าว สั่งต้มนำรวมทะเลน้ำใส ปีกไก่ทอดเกลือ และปลาหมึกผัดไข่เค็มมากิน อร่อยมากกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกกกกก จานไม่เล็กด้วยนะ ได้มาเยอะมาก ราคาก็ไม่แพงด้วย หมดนี่แค่ 505 บาทเท่านั้นเอง กินเสร็จก็นอนตามระเบียบ


วันสุดท้ายอยากจะขอลองฟิตเนสที่นี่สักหน่อย พอกินข้าวเช้าเสร็จ เลยเข้ามาใช้บริการ โชคดีที่ไม่มีคนเลย ก็คงไม่มีใครที่กินข้าวบ้าอยากมาออกกำลังกายละมั้ง ฟิตเนสที่นี่ถือว่าของเล่นครบเลย คุณภาพเครื่องเล่นก็ดี มีตู้เย็นให้หยิบน้ำดื่มได้ด้วย เดินเล่นบนลู่ไปเกือบ ชม ให้รู้สึกว่าอาหารเช้าที่ยัดลงไปได้ย่อยบ้างก็ยังดี


Check out ออกจากที่พักตอนเที่ยง ก่อนกลับกรุงเทพ อยากแวะร้านน่ารักๆสักหน่อย มาเขาใหญ่ทั้งทีต้องหาร้านน่ารักๆนั่งกิน จึงมาที่ ชนบทคาเฟ่ คาเฟ่สไตล์ท้องนา เหมาะกับการถ่ายรูปชิคๆ ที่นี่มีขายทั้งน้ำ ขนม และของคาว และมีที่พักด้วยนะ แต่วันนี้มาถ่ายรูป เฮ้ย มากินอย่างเดียว ภายในตกแต่งน่ารักมาก ภายนอกก็น่าถ่ายรูปมาก สั่งสปาเก็ตตี้พริกกุ้ง ข้าวกระเพราอกไก่ ปีกไก่ทอด อิตาเลี่ยนบลูโซดา และชามะนาวมากิน รวมราคาที่ 570 บาท ราคาไม่แพง รสชาติอาหารอร่อยใช้ได้ ตัวกระเพราเผ็ดมาก คือมองแล้วไม่น่าเผ็ด กินจริงถึงรู้ว่าพริกเค้าเผ็ดมากกกกกกกกกกก ไม่ได้ลองขนมเพราะว่าอิ่มซะก่อน กินเสร็จถ่ายรูปก็สบายใจละ กลับ กทม ได้


รวมค่าเสียหายในทริปนี้ ค่าที่พัก 6,324 ค่ากิน 2,615 ค่าน้ำมัน 800 รวมเป็น 9,739 บาท ถือเป็นทริปในประเทศที่แพงสุดที่เคยไปมา แต่ก็นะ ที่พักมันสวยนี่หน่า ยอมให้ ไว้มีโอกาสจะไปพักใหม่นะ คราวนี้จะลองพักตรงอื่นบ้าง อยากรู้ว่าจะสวยแค่ไหน บ๊ายบาย เจอกันใหม่ทริปหน้านะค่ะ

ชื่อสินค้า:   เขาใหญ่ ปากช่อง Toscana Valley Hotel La Casetta ชนบทคาเฟ่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่