ยายปลูกบ้านในพื้นที่เดียวกันกับที่เคยเป็นของทวดมาก่อน ใช้ทะเบียนบ้านเดิมที่เคยเป็นของทวด แต่มีทะเบียนและมีสิทธิ์เป็นเจ้าบ้าน มีโฉนด
ครอบครองมาเกิน 30 ปี แต่โดนพี่น้องร่วมหัวกันฟ้องขอแบ่งมรดกโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของทวด(พ่อ แม่) เพราะยังใช้เลขที่ทะเบียนบ้านของทวดอยู่ สามารถฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินได้ไหมคะ หลังจากขึ้นศาลไป ศาลแต่งตั้งให้ยายเป็นผู้จัดการมรดก แล้วด้วยความสงสารน้องประกอบกับถูกหว่านล้อม คนที่ฟ้องร้องแสร้งพายายไปเที่ยวแล้วพาไปที่ดิน ขอแบ่งที่บ้าน ซึ่งยายก็ยินยอมแบ่งให้ไป โดยยายเข้าใจว่าเรื่องจะจบให้ต่างคนต่างอยู่กันไป แต่ไม่มีสัญญาตกลงกัน และตอนไปเซ็นต์ยินยอมแบ่งที่ตาไม่ทราบเรื่อง (บ้านหลังนี้สร้างหลังจดทะเบียนสมรส) ไม่ทราบว่าการตกลงแบ่งที่ไปในครั้งนี้ สามารถเปลี่ยนแปลง ยกเลิกได้ไหม ตอนไปเซ็นยายก็ไม่มีพยายฝั่งยายรู้เห็นด้วย มีแต่ฝั่งคนฟ้อง
ณ ตอนนี้ คือ พากันมาฟ้องร้องขับไล่ จะไล่ตากับยายออกจากบ้าน เรื่องมันซับซ้อนตรงที่เค้าเอาบ้านเลขที่ตากับยาย ที่มีตาเป็นเจ้าบ้าน ไปขายทอดตลาด โดยมีคนฟ้องเป็นคนประมูลได้ มาฟ้องขับไล่ โดยให้ยายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าทนาย ค่าศาล ซึ่งไอ้ที่ดินที่ฟ้องร้องจะแบ่งกันมันถูกแบ่งหลังจากตากับยายปลูกสิ่งก่อสร้างไปแล้ว กลายเป็นว่าสิ่งปลูกสร้างมันไปอยู่บนพื้นที่ของคนฟ้อง (มูลค่าของบ้านกับที่ไม่เกิน 100000 บาท) ไม่ทราบว่าพอจะมีช่องตรงไหนให้เราสู้คดีมั้งคะ ตากับยายเค้าอายุเยอะ ไม่ทันไอ้คนพวกนี้ ช่วยด้วยนะคะ ได้โปรด
นอกเรื่อง
ไอ้คนที่ฟ้องเป็นน้องแท้ๆ ของยาย เรื่องเกิดจากความอิจฉาที่คิดว่าพ่อ แม่(ทวด)รักลูกไม่เท่ากัน น้องสาวบางคนก็อิจฉายาย ที่ยายได้สามีดีกว่าตัวเอง ตาไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ขยัน คิดดูเสื้อผ้ายายตายังซักให้อยู่เลยทุกวันนี้แล้ว มีที่ทางเยอะกว่าตัวเอง (ก็เ_ิงขายกินหมด)พ่อแม่ยายเค้าก็เอ็นดูเพราะทำงานเลี้ยงเค้ามาในขณะที่ตัวเองหนีไปมีผัว แล้วรีบแจ๋นกลับมาตอนเค้าตายเพราะกลัวจะไม่ได้สมบัติ แถมยายยังได้ตบได้แต่ง ผิดกับตัวเองที่ หนีตามผู้ชายไป ส่วนน้องชายที่ฟ้องก็อายุห่างจากยาย 20 ปี ยายก็เลี้ยงมาแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ตายหมด เคยจะตายเพราะเกือบจะเป็นมะเร็ง แต่ตากับยาย ตระเวนพาไปรักษาจนหาย เคยมีครั้งนึงยายเล่าให้ฟังน้องสาวอีกคนที่ร่วมฟ้องด้วยไปเยี่ยมน้องชายที่ป่วย ทิ้งเงินไว้ให้ 500 แต่พอกลับมาบ้านกลับมาขอเบิกกับยาย โดยบอกว่าก็เมิงเป็นคนเลี้ยงมัน แต่เจ้าน้องชายยายคนฟ้องเค้าไม่รู้หรอก คิดแต่ว่ายายโกง เป็นไง เลวไหม พอโตมาก็เชื่อคนง่าย หูเบา เสี่ยมให้เกลียดตา กับยาย ส่วนบ้านหลังนี้ตากับยายสมัยยังรุ่นๆก็ พากันไปเลื่อยไม้ใส่เกวียน ตั้งแต่ตีหนึ่งตีสอง เอามาปลูก เสาก็ไปร่อนทรายจากแม่น้ำมาสร้าง เค้าเลยต้องสู้ แม้จะอายุ 82 แล้ว เดิมทีคนฟ้องมี 3 คนแต่ตายห่าไปหนึ่งคนแล้ว แต่ลูกสาวเค้าก็ยังไม่พอ ร่วมฟ้องด้วยแต่ไม่ออกตัว เรียกว่าเสี่ยมอยู่ห่างๆ น้องสาวยายอีกคนทุกวันนี้ฝาบ้านบางส่วนก็มาขอยายเอาไปปิด คิดดูเอาเถอะ ความเนรคุณคน ได้ข่าวว่าคนฟ้องรู้จักกับ จนท.ในศาลด้วย ก็ไม่รู้ศาลท่านจะตัดสินอย่างไง เป็นคดีแพ่ง เริ่มฟ้องกันตั้งแต่ปี 47 จนทุกวันนี้ เราไม่อยากจะเชื่อพี่น้องกันขาดกันด้วยเงินไม่กี่หมื่น แสนนึงหาร 4 คน คิดดูว่าคุ้มไหม น่าสังเวยใจ ความอิจฉา ริษยา กลัวพี่ได้ดีกว่าตัวเอง
สุดท้ายเราขอสาปแช่งทุกคนทั้งไอ้คนฟ้อง ไอ้คนสนับสนุน พร้อมกับครอบครัวของมันให้พบเจออุปสรรค เจ็บป่วยไม่มีทางรักษา โดนเค้าโกงอยู่ร่ำไป ไมีมีมิตรแท้ มีแต่ศัตรู สิ่งชั่วร้ายจงเกิดแก่ครอบครัวมัน ทรัพย์สินที่ได้มาก็ขอให้มลายหายไป ทั้งที่ได้มาโดยสุจริตหรือไม่สุจริตก็ตามที
ศึกสายเลือดแย่งมรดก
ครอบครองมาเกิน 30 ปี แต่โดนพี่น้องร่วมหัวกันฟ้องขอแบ่งมรดกโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของทวด(พ่อ แม่) เพราะยังใช้เลขที่ทะเบียนบ้านของทวดอยู่ สามารถฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินได้ไหมคะ หลังจากขึ้นศาลไป ศาลแต่งตั้งให้ยายเป็นผู้จัดการมรดก แล้วด้วยความสงสารน้องประกอบกับถูกหว่านล้อม คนที่ฟ้องร้องแสร้งพายายไปเที่ยวแล้วพาไปที่ดิน ขอแบ่งที่บ้าน ซึ่งยายก็ยินยอมแบ่งให้ไป โดยยายเข้าใจว่าเรื่องจะจบให้ต่างคนต่างอยู่กันไป แต่ไม่มีสัญญาตกลงกัน และตอนไปเซ็นต์ยินยอมแบ่งที่ตาไม่ทราบเรื่อง (บ้านหลังนี้สร้างหลังจดทะเบียนสมรส) ไม่ทราบว่าการตกลงแบ่งที่ไปในครั้งนี้ สามารถเปลี่ยนแปลง ยกเลิกได้ไหม ตอนไปเซ็นยายก็ไม่มีพยายฝั่งยายรู้เห็นด้วย มีแต่ฝั่งคนฟ้อง
ณ ตอนนี้ คือ พากันมาฟ้องร้องขับไล่ จะไล่ตากับยายออกจากบ้าน เรื่องมันซับซ้อนตรงที่เค้าเอาบ้านเลขที่ตากับยาย ที่มีตาเป็นเจ้าบ้าน ไปขายทอดตลาด โดยมีคนฟ้องเป็นคนประมูลได้ มาฟ้องขับไล่ โดยให้ยายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าทนาย ค่าศาล ซึ่งไอ้ที่ดินที่ฟ้องร้องจะแบ่งกันมันถูกแบ่งหลังจากตากับยายปลูกสิ่งก่อสร้างไปแล้ว กลายเป็นว่าสิ่งปลูกสร้างมันไปอยู่บนพื้นที่ของคนฟ้อง (มูลค่าของบ้านกับที่ไม่เกิน 100000 บาท) ไม่ทราบว่าพอจะมีช่องตรงไหนให้เราสู้คดีมั้งคะ ตากับยายเค้าอายุเยอะ ไม่ทันไอ้คนพวกนี้ ช่วยด้วยนะคะ ได้โปรด
นอกเรื่อง
ไอ้คนที่ฟ้องเป็นน้องแท้ๆ ของยาย เรื่องเกิดจากความอิจฉาที่คิดว่าพ่อ แม่(ทวด)รักลูกไม่เท่ากัน น้องสาวบางคนก็อิจฉายาย ที่ยายได้สามีดีกว่าตัวเอง ตาไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ขยัน คิดดูเสื้อผ้ายายตายังซักให้อยู่เลยทุกวันนี้แล้ว มีที่ทางเยอะกว่าตัวเอง (ก็เ_ิงขายกินหมด)พ่อแม่ยายเค้าก็เอ็นดูเพราะทำงานเลี้ยงเค้ามาในขณะที่ตัวเองหนีไปมีผัว แล้วรีบแจ๋นกลับมาตอนเค้าตายเพราะกลัวจะไม่ได้สมบัติ แถมยายยังได้ตบได้แต่ง ผิดกับตัวเองที่ หนีตามผู้ชายไป ส่วนน้องชายที่ฟ้องก็อายุห่างจากยาย 20 ปี ยายก็เลี้ยงมาแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ตายหมด เคยจะตายเพราะเกือบจะเป็นมะเร็ง แต่ตากับยาย ตระเวนพาไปรักษาจนหาย เคยมีครั้งนึงยายเล่าให้ฟังน้องสาวอีกคนที่ร่วมฟ้องด้วยไปเยี่ยมน้องชายที่ป่วย ทิ้งเงินไว้ให้ 500 แต่พอกลับมาบ้านกลับมาขอเบิกกับยาย โดยบอกว่าก็เมิงเป็นคนเลี้ยงมัน แต่เจ้าน้องชายยายคนฟ้องเค้าไม่รู้หรอก คิดแต่ว่ายายโกง เป็นไง เลวไหม พอโตมาก็เชื่อคนง่าย หูเบา เสี่ยมให้เกลียดตา กับยาย ส่วนบ้านหลังนี้ตากับยายสมัยยังรุ่นๆก็ พากันไปเลื่อยไม้ใส่เกวียน ตั้งแต่ตีหนึ่งตีสอง เอามาปลูก เสาก็ไปร่อนทรายจากแม่น้ำมาสร้าง เค้าเลยต้องสู้ แม้จะอายุ 82 แล้ว เดิมทีคนฟ้องมี 3 คนแต่ตายห่าไปหนึ่งคนแล้ว แต่ลูกสาวเค้าก็ยังไม่พอ ร่วมฟ้องด้วยแต่ไม่ออกตัว เรียกว่าเสี่ยมอยู่ห่างๆ น้องสาวยายอีกคนทุกวันนี้ฝาบ้านบางส่วนก็มาขอยายเอาไปปิด คิดดูเอาเถอะ ความเนรคุณคน ได้ข่าวว่าคนฟ้องรู้จักกับ จนท.ในศาลด้วย ก็ไม่รู้ศาลท่านจะตัดสินอย่างไง เป็นคดีแพ่ง เริ่มฟ้องกันตั้งแต่ปี 47 จนทุกวันนี้ เราไม่อยากจะเชื่อพี่น้องกันขาดกันด้วยเงินไม่กี่หมื่น แสนนึงหาร 4 คน คิดดูว่าคุ้มไหม น่าสังเวยใจ ความอิจฉา ริษยา กลัวพี่ได้ดีกว่าตัวเอง
สุดท้ายเราขอสาปแช่งทุกคนทั้งไอ้คนฟ้อง ไอ้คนสนับสนุน พร้อมกับครอบครัวของมันให้พบเจออุปสรรค เจ็บป่วยไม่มีทางรักษา โดนเค้าโกงอยู่ร่ำไป ไมีมีมิตรแท้ มีแต่ศัตรู สิ่งชั่วร้ายจงเกิดแก่ครอบครัวมัน ทรัพย์สินที่ได้มาก็ขอให้มลายหายไป ทั้งที่ได้มาโดยสุจริตหรือไม่สุจริตก็ตามที