เราเป็นเด็ก ตจว.เคยมีเพื่อน ผช. คนหนึ่งเรียนด้วยกันมาแต่อนุบาล จนจบ ม.ปลาย เป็นคนบ้านเดียวกัน แต่เริ่มสนิทกันมากตอนขึ้น ม.ปลาย เพราะ เพื่อนติด ร. จนไม่จบ ม.3 แม่เพื่อนเลยมาขอร้องเราให้ช่วยพามันไปแก้ ร. (เพราะเราเรียนเก่ง เป็นกรรมการนักเรียน และเป็นผู้ช่วยครู วิชาการ) สรุปครูช่วยให้ เพื่อนเข้าเรียนต่อ ม. 4 ใน รร.เดิม โดยยังไม่มีวุฒิ ม. 3 ( ให้ตามแก้ ร. ตอน ม. 4) แต่ให้เรียนห้องบ้วยสุด (ห้องนี้มีแต่นักเลง กับเด็กพิเศษ) หลังจากนั้น เพื่อน ผช.คนนี้ ก็จะคอยตามช่วยเหลือเราตลอด (นางคงคิดว่าติดหนี้บุญคุณเรา) นางเก่งงานศิลปะมาก ทั้งวาดรูป แกะสลัก เก่งมาก เวลาเรียนวิชาศิลปะนางจะทำผลงาน 2 ชิ้นเสมอ (อีกชิ้นทำเผื่อเรา) ชิ้นที่สวยกว่าจะให้เราไปส่งครู ส่วนชิ้นขี้เหร่นางจะเอาไปส่งเอง..( เรานี้นิสัยแย่จัง

) นอกจากจะคอยช่วยเราเรื่องเรียนแล้ว นางยังมาช่วยงานที่บ้านเราด้วย ทั้งตัดแต่งกิ่งไม้ เกี่ยวข้าว ทำนา (พ่อกับแม่เราแยกทางกัน ที่บ้านเรามีแต่เรากับแม่) พ่อแม่นางก็ไม่ว่า และดูจะเอ็นดูเรามากเลย พอเรียนจบ เราสอบชิงทุนได้ ไปเรียนต่อ มหาลัย เพื่อนเราเรียนช่างกล ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เราสองคน ไม่เคยมีแฟนเลย มีเราสองคนนี้หละ (ในฐานะเพื่อนสนิท) เราไม่รู้ว่าเพื่อนมันมาหลงรักเราตอนไหน เพราะเราทุ่มเทชีวิตช่วงวัยรุ่น ให้การอ่านหนังสือ สอบเข้า มหาลัย จนไม่ได้คิดเรื่องความรักเลย
พอเพื่อนจบ ปวส. มันก้บวช มันโทรไปตาม ให้เรามางานบวช เรารีบกลับมาจากมหาลัย เกือบไม่ทันตอนแห่นาค (เรายังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย ) พอมาถึงญาติเพื่อนก็ให้เราไปถือหมอน อยู่หน้าขบวนเลย.. (เราก็ไม่รู้อะไร ก็ถือไป จนจบพิธี) พอกับมาบ้าน ก็โดนแม่ดุ ว่าเป็นสาวเป็นนาง ไปถือหมอนงานบวช ผช. "เขาว่าจะได้แต่งงานกัน เพราะทำบุญร่วมชาติ จะได้ร่วมเรียงเคียงหมอน" ตอนนั้น เราอึ้งเลย เพราะไม่รู้ความหมาย และไม่ได้คิดแบบนั้นกับเพื่อนเลย
หลังจากสึกออกมา เพื่อนมาก็มาจีบเรา มาขอเป็นแฟน แต่เราปฏิเสธ เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เราเริ่มตีตัวออกห่าง ย้ายหอพัก เปลี่ยนเบอร์โทร แต่เพื่อนก็ตามหาจนเจอ ไม่ว่าจะถูกเราปฏิเสธกี่ครั้ง เพื่อนก็ยังคอยตามดูแล และแสดงความห่วงใยเราเหมือนเดิม ขนาดเราแต่งงานแล้ว ก็ยังคอยตามห่วง ถามเอาเงินให้ใช้ แต่เราไม่เอา ตอนนี้อาจไม่สนิทเท่าเมื่อก่อน เพราะนางคงเกรงใจสามีเรา แต่ชอบมาชวนเราทำบุญ บางทีมันก็แซวเล่นๆว่า "ไม่ได้อยู่ด้วยชาตินี้ จะรอชาติหน้า" แต่ทุกครั้งที่เราทำบุญกับมัน เราจะอธิฐานว่า "ขอให้ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทุกชาติไป" เพราะเรารักสามีเรามาก และอยากเจอสามีเราทุกๆชาติไป..(แต่สามีเรานี้นางเฉยๆมาก กับเรื่องนี้) เราเลยสงสัยว่า บุญที่ทำร่วมกันมา จะทำให้ได้เป็นเนื้อคู่กันจริงไหม
ยังมีใครเชื่อเรื่อง ทำบุญร่วมชาติ จะได้ร่วมเรียงเคียงหมอน ไหมค่ะ
พอเพื่อนจบ ปวส. มันก้บวช มันโทรไปตาม ให้เรามางานบวช เรารีบกลับมาจากมหาลัย เกือบไม่ทันตอนแห่นาค (เรายังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย ) พอมาถึงญาติเพื่อนก็ให้เราไปถือหมอน อยู่หน้าขบวนเลย.. (เราก็ไม่รู้อะไร ก็ถือไป จนจบพิธี) พอกับมาบ้าน ก็โดนแม่ดุ ว่าเป็นสาวเป็นนาง ไปถือหมอนงานบวช ผช. "เขาว่าจะได้แต่งงานกัน เพราะทำบุญร่วมชาติ จะได้ร่วมเรียงเคียงหมอน" ตอนนั้น เราอึ้งเลย เพราะไม่รู้ความหมาย และไม่ได้คิดแบบนั้นกับเพื่อนเลย
หลังจากสึกออกมา เพื่อนมาก็มาจีบเรา มาขอเป็นแฟน แต่เราปฏิเสธ เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เราเริ่มตีตัวออกห่าง ย้ายหอพัก เปลี่ยนเบอร์โทร แต่เพื่อนก็ตามหาจนเจอ ไม่ว่าจะถูกเราปฏิเสธกี่ครั้ง เพื่อนก็ยังคอยตามดูแล และแสดงความห่วงใยเราเหมือนเดิม ขนาดเราแต่งงานแล้ว ก็ยังคอยตามห่วง ถามเอาเงินให้ใช้ แต่เราไม่เอา ตอนนี้อาจไม่สนิทเท่าเมื่อก่อน เพราะนางคงเกรงใจสามีเรา แต่ชอบมาชวนเราทำบุญ บางทีมันก็แซวเล่นๆว่า "ไม่ได้อยู่ด้วยชาตินี้ จะรอชาติหน้า" แต่ทุกครั้งที่เราทำบุญกับมัน เราจะอธิฐานว่า "ขอให้ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทุกชาติไป" เพราะเรารักสามีเรามาก และอยากเจอสามีเราทุกๆชาติไป..(แต่สามีเรานี้นางเฉยๆมาก กับเรื่องนี้) เราเลยสงสัยว่า บุญที่ทำร่วมกันมา จะทำให้ได้เป็นเนื้อคู่กันจริงไหม