เมื่อพนักงานเมเจอร์ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 17 กันยา 62 ผมไปดูหนังที่เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ สาขาห้าง TMK กาญจนบุรี รอบเวลา 12.30 พนักงานสาวเดินเข้ามาถามผมว่ารบกวนกดไลค์เพจของเมเจอร์ กาญจนบุรีหน่อยได้ไหมจะแจกตั๋วฟรี ผมกดตามพนักงานบอก หลังจากนั้นพนักงานขอยืมมือถือผมไปโดยแจ้งว่าจะขอเอาไปถ่ายรูปที่หน้าแฟนเพจเพื่อยืนยันเป็นหลักฐานว่าผมได้กดไลค์แล้วจริง ผมจึงเปิดหน้าเพจนั้นที่ผมไลค์ไว้แล้วส่งให้เขา

และหลังดูหนังจบกลับถึงบ้านสิ่งนี้ก็เกิดขึ้น


หลายคน Inbox มาถามว่าผมส่ง Invite เพจเมเจอร์ให้พวกเขาทำไม และพอมีหลายคนขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงโพสต์ในวอลตัวเองว่ามีใครโดนผม Invite ไปบ้าง และผลก็คือ

และยังอีกมากที่ไม่ได้แคปมา และแน่นอนผมไม่ได้เป็นคนกดส่ง

ครับ ผมสงสัยว่าพนักงานเมเจอร์จะกดส่ง Invite แบบเหมาทั้ง friendlist ของผม ซึ่งพนักงานไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น ไม่มีสิทธิ์ละเมิดความเป็นส่วนตัว ไม่มีสิทธิ์แอบเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนตัวของผมเพื่อผลประโยชน์ใดๆ ก็ตาม เพราะในเฟรนด์ลิสต์ไม่ได้มีแค่เพื่อน คนสนิท หรือคนที่ผมจะกดส่งอะไรไปให้เขามั่วๆ ก็ได้ แต่ยังมีคนที่ผมไปติดต่องานด้วย มีคนอีกมากที่ผมไม่ควรส่งอะไรแบบนี้มั่วๆ ไปให้เขา การที่ผมโดนถามว่ารับเงินมาหรือเปล่า ที่ผมต้องมานั่งตอบคำถาม หรือกับใครที่เขาไม่ได้ถามมาแต่ก็ได้รับ invite นี้มันส่งผลกับผม เป็นผลเสียที่ผมไม่ควรได้รับจาการไปดูหนัง

และเมื่อผมแน่ใจแล้วว่าคนที่โดนกดส่ง invite คือทั้งเฟรนด์ลิสต์ผมจึงแจ้งเรื่องไปทางเพจต้นเรื่องคือเพจ Major TMK Kanchanaburi และนี่คือสิ่งที่เขาใช้เวลาเกือบสองวันในการตอบมา


ผมไม่รู้ว่าคนตอบเป็นแอดมินและ ผจก ด้วยหรือไม่แต่ที่รู้คือเขาไม่เข้าใจปัญหาเลย ไม่เข้าใจว่าการละเมิดคืออะไรเอาแต่ขอโทษและยืนยันจะแก้ด้วยการให้ พนง ขออนุญาตก่อน

เมื่อเขาไม่ตอบอะไรอีกและผมแน่ใจว่าเขาไม่เข้าใจปัญหาผมเลยแทงเรื่องไปที่เพจหลัก Major Group
เพจขอชื่อและเบอร์บอกจะตรวจสอบแล้วติดต่อกลับแต่ก็เงียบไป ผมเลยโทรเข้าสายด่วน 02-5155555 ปลายสายบอกว่าเรื่องของผมต้องรอเพราะแต่ละวันมีเรื่องเยอะต้องตามคิว สุดท้ายให้ผมทิ้งเบอร์ไว้แล้วจะติดต่อกลับ

ซึ่งในที่สุดก็ติดต่อกลับมา ผมก็รอคำตอบหลังการตรวจสอบของเขา แต่คนที่โทรกลับมาคือ ผจก เมเจอร์ สาขากาญจนบุรี ซึ่งตอบผมด้วยคำตอบเดียวกันกับในแชทของเพจที่ผมเคยคุยไว้ คือขอโทษแล้วบอกว่าจะอบรมพนักงานให้ขอลูกค้าก่อน ผมพยายามอธิบายอีกรอบว่ามันไม่ใช่เรื่องกดไลค์เพจ มันคือเรื่องแอบเอาแอคเคาท์ผมไปใช้ แต่ทางนั้นก็ยังยืนยันเหมือนไม่เข้าใจเลยว่าความผิดที่ผมต้องต่อว่าเขาจริงๆ มันคือเรื่องอะไร ยังคงบอกว่าจะอบรมให้พนักงานขอก่อน

ผมถามเขาว่าที่ว่าจะอบรมให้ขออนุญาตนี่คือขอเอามือถือลูกค้าไปส่ง invite คนอื่นต่อเหรอ เขาตอบว่าใช่ แต่จะให้ลูกค้าเป็นคนกดเอง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าพนักงานบอกแบบนั้นก็หมายความว่าเขาอบรมพนักงานให้หาทางเพิ่มยอดไลค์ ผมไม่แน่ใจว่านั่นมีส่วนด้วยหรือเปล่าที่พนักงานเลือกแอบกดส่งทั้งลิสต์เพราะมันส่งได้เยอะในการกดครั้งเดียว และแน่นอนมันขอไม่ได้แน่ๆ

สุดท้ายผู้จัดการให้เบอร์ต่อตรงกับผมบอกมีอะไรโทรไปได้เลยเบอร์เขาเอง แค่เช็ครอบหนังก็โทรได้ ผมยิ่งไม่เข้าใจใหญ่เลยว่าเขาต้องการอะไร ผมไม่ได้ต้องการความ vip ผมแค่ต้องการคำตอบว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง และรับผิดชอบมันยังไง

แบบนี้ผมจะมีโอกาสได้รับคำชี้แจงที่ถูกจุดไหมครับ สาขาต้นเรื่องก็ไม่เข้าใจสักทีว่าปัญหาคืออะไร เพจต้นทางก็เงียบใส่อย่างเดียว โทรเข้าไปก็โยนเรื่องกลับให้ต้นทาง

สุดท้ายนอกจากเรื่องละเมิดความเป็นส่วนตัวที่ควรจบที่เขาเข้าใจปัญหาและขอโทษ รับผิดชอบให้ถูกจุดก็ไม่จบ ยังมีเรื่องของความเข้าใจพื้นฐานของพนักงาน การบริหารจัดการขององค์กรในการบริการลูกค้า กลายเป็นว่าตอนนี้มันมีปัญหาหมด

มันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันไม่เล็กหรอกครับถ้าคุณต้องคุยงานในเฟซบุ้ค ต้องติดต่องาน ไม่ได้มีไว้แค่เล่นแค่คุย ไม่ได้มีแค่คนสนิทที่พร้อมจะปล่อยผ่านอยู่ในนั้น 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่