จากข่าวคดีลัลลาเบล ทำให้ผมสงสัยว่า ผู้หญิงเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน คือ ที่บ้านจัดงานปาร์ตี้ หรือ ที่คอนโดน้ำอุ่น
ผมก็มานั่งนึกว่า ตอนนี้มีเทคโนโลยีอะไรที่จะบอกหรือแจ้งเตือนได้ว่า ฉันกำลังจะตายนะ ฉันตายแล้วนะ เพื่อนๆ มาช่วยฉันด้วย
ผมก็เลยคิดสมมุติว่า ถ้ามีคนพัฒนาพวกอุปกรณ์จับชีพจร การเต้นหัวใจ เช่น นาฬิกา ที่ใส่ออกกำลังกาย ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ ให้ซิ้งค์ข้อมูลกับมือถืออยู่ตลอด แล้วไปบันทึกการเต้นชีพจร บน cloud ทั้ง android หรือ ios สามารถเรียกดูย้อนหลังประวัติ การเต้นชีพจรเราได้ ว่าวันนี้ ตอนนี้ ทำไมชีพจรเราเต้นเร็ว หรือเต้นช้า หรือหยุดทำงาน
แล้วถ้าพบว่าชีพจรเต้นเร็วมากแล้วหยุดทำงาน ให้มีกล้องที่นาฬิกา หรือที่โทรศัพท์มือถือ ทำการถ่ายรูปอัตโนมัติ เก็บภาพเข้า cloud ไว้ หรือส่ง location ไปที่เมล์หรือเบอร์โทรอีกคน หรือโทรศัพท์ไปเบอร์อีกคน เพื่อต่อไปญาติ หรือ จนท. สามารถนำมาเป็นพยานหลักฐาน หรือพิสูจน์ทราบได้
แนวความคิดนี้ สามารถเป็นไปได้ไหมครับ
คดีลัลลาเบล ทำให้ผมมีแนวความคิดในการส่งข้อมูลก่อนตาย
ผมก็มานั่งนึกว่า ตอนนี้มีเทคโนโลยีอะไรที่จะบอกหรือแจ้งเตือนได้ว่า ฉันกำลังจะตายนะ ฉันตายแล้วนะ เพื่อนๆ มาช่วยฉันด้วย
ผมก็เลยคิดสมมุติว่า ถ้ามีคนพัฒนาพวกอุปกรณ์จับชีพจร การเต้นหัวใจ เช่น นาฬิกา ที่ใส่ออกกำลังกาย ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ ให้ซิ้งค์ข้อมูลกับมือถืออยู่ตลอด แล้วไปบันทึกการเต้นชีพจร บน cloud ทั้ง android หรือ ios สามารถเรียกดูย้อนหลังประวัติ การเต้นชีพจรเราได้ ว่าวันนี้ ตอนนี้ ทำไมชีพจรเราเต้นเร็ว หรือเต้นช้า หรือหยุดทำงาน
แล้วถ้าพบว่าชีพจรเต้นเร็วมากแล้วหยุดทำงาน ให้มีกล้องที่นาฬิกา หรือที่โทรศัพท์มือถือ ทำการถ่ายรูปอัตโนมัติ เก็บภาพเข้า cloud ไว้ หรือส่ง location ไปที่เมล์หรือเบอร์โทรอีกคน หรือโทรศัพท์ไปเบอร์อีกคน เพื่อต่อไปญาติ หรือ จนท. สามารถนำมาเป็นพยานหลักฐาน หรือพิสูจน์ทราบได้
แนวความคิดนี้ สามารถเป็นไปได้ไหมครับ