คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 121
ปลัด สธ.แจงบริจาคเงินช่วยน้ำท่วม ไม่ได้ใช้เงินหลวง เงินบำรุง รพ. แต่เป็นบุคลากรช่วยกันบริจาค ยันไม่มีการเรี่ยไรหรือบังคับ อยู่ที่ความสมัครใจ พร้อมให้ตรวจสอบ เผยมีบริจาคกันภายในเพื่อช่วยบุคลากรที่ประสบปัญหาด้วย ระบุอนุมัติงบเร่งด่วน 20 ล้านช่วยเหลือเรื่อง ซื้อยา ซอมแซม รพ. เครื่องมือที่ชำรุด
จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรียกร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ออกทีวีช่วยเงินบริจาคน้ำท่วม เช่น กระทรวงศึกษาธิการ 3 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 1 ล้านบาท ฯลฯ ว่านำเงินแผ่นดินมาสร้างภาพ เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
วันนี้ (19 ก.ย.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ยืนยันว่าเงินจำนวนนี้ ไม่ได้ไปเอาเงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่อย่างใด แต่เป็นเงินบริจาคส่วนตัวของบุคลากรสาธารณสุข และเงินบริจาคของโรงพยาบาลในสังกัด เพื่อนำไปช่วยประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งโรงพยาบาลสังกัด สธ.มีเป็นหมื่นๆ แห่ง ทั้งระดับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บุคลากรร่วมกันกว่า 4 แสนคน บริจาคคนละนิดคนละหน่อย ไม่ได้มีการไปเกณฑ์ว่าต้องออกเงินเท่าไรหรือไปเรี่ยไรเงิน ใครสมัครใจก็บริจาค และออกใบเสร็จในนามส่วนตัวไปเลย ไม่ใช่ สธ. ดังนั้น จึงไม่กังวลเรื่องที่มีการร้องให้ตรวจสอบ เพราะมีเอกสาร หลักฐานชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการบริจาคกันเองภายใน เพื่อช่วยเหลือบุคลากร สธ.ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำมาตลอดเวลาเกิดภัยพิบัติ ใครรู้ก็อยากช่วย
นพ.สุขุม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ประสบภาวะเครียดก็มีทีมสุขภาพจิตลงไปดูแล สำหรับสถานพยาบาลต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการเหมือนเดิม เรื่องความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ เบื้องต้นมีการอนุมัติงบประมาณเหลือจ่าย เป็ยงบเร่งด่วนเข้าไปช่วยเหลือ เช่น นำไปซื้อยา ซ่อมแซมสถานพยาบาล ครุภัณฑ์ที่ชำรุด โดยก้อนแรกประมาณ 20 ล้านบาท และให้แต่ละเขตที่ได้รับผลกระทบอีก 7 ล้านบาท
https://mgronline.com/qol/detail/9620000090502
ปลัด สธ.แจงบริจาคเงินช่วยน้ำท่วม ไม่ได้ใช้เงินหลวง เงินบำรุง รพ. แต่เป็นบุคลากรช่วยกันบริจาค ยันไม่มีการเรี่ยไรหรือบังคับ อยู่ที่ความสมัครใจ พร้อมให้ตรวจสอบ เผยมีบริจาคกันภายในเพื่อช่วยบุคลากรที่ประสบปัญหาด้วย ระบุอนุมัติงบเร่งด่วน 20 ล้านช่วยเหลือเรื่อง ซื้อยา ซอมแซม รพ. เครื่องมือที่ชำรุด
จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรียกร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ออกทีวีช่วยเงินบริจาคน้ำท่วม เช่น กระทรวงศึกษาธิการ 3 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 1 ล้านบาท ฯลฯ ว่านำเงินแผ่นดินมาสร้างภาพ เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
วันนี้ (19 ก.ย.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ยืนยันว่าเงินจำนวนนี้ ไม่ได้ไปเอาเงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่อย่างใด แต่เป็นเงินบริจาคส่วนตัวของบุคลากรสาธารณสุข และเงินบริจาคของโรงพยาบาลในสังกัด เพื่อนำไปช่วยประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งโรงพยาบาลสังกัด สธ.มีเป็นหมื่นๆ แห่ง ทั้งระดับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บุคลากรร่วมกันกว่า 4 แสนคน บริจาคคนละนิดคนละหน่อย ไม่ได้มีการไปเกณฑ์ว่าต้องออกเงินเท่าไรหรือไปเรี่ยไรเงิน ใครสมัครใจก็บริจาค และออกใบเสร็จในนามส่วนตัวไปเลย ไม่ใช่ สธ. ดังนั้น จึงไม่กังวลเรื่องที่มีการร้องให้ตรวจสอบ เพราะมีเอกสาร หลักฐานชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการบริจาคกันเองภายใน เพื่อช่วยเหลือบุคลากร สธ.ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำมาตลอดเวลาเกิดภัยพิบัติ ใครรู้ก็อยากช่วย
นพ.สุขุม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ประสบภาวะเครียดก็มีทีมสุขภาพจิตลงไปดูแล สำหรับสถานพยาบาลต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการเหมือนเดิม เรื่องความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ เบื้องต้นมีการอนุมัติงบประมาณเหลือจ่าย เป็ยงบเร่งด่วนเข้าไปช่วยเหลือ เช่น นำไปซื้อยา ซ่อมแซมสถานพยาบาล ครุภัณฑ์ที่ชำรุด โดยก้อนแรกประมาณ 20 ล้านบาท และให้แต่ละเขตที่ได้รับผลกระทบอีก 7 ล้านบาท
https://mgronline.com/qol/detail/9620000090502
แสดงความคิดเห็น
🍂🍂มาลาริน/ขอไข่อย่าเยอะให้มาก..รบ.รับบริจาคทางทีวีก็ไม่ถูกใจ นี่คือการแสดงความโปร่งใส บอกปชช.รับรู้ คุณศรีฯจ้องอยู่นะ
‘พี่ศรี’จัดให้! จ่อบุก‘สตง.’จี้สอบเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมถูกกม.หรือเปล่า
วันพฤหัสบดี ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562, 08.22
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุถึงกรณีที่รัฐบาลได้จัดภาครัฐจัดรายการพิเศษ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเปิดรับการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมรับสายโทรศัพท์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง เข้าร่วมรับสายโทรศัพท์เช่นกันนั้น นอกจากเปิดให้มีผู้โทรเข้ามาแจ้งความต้องการบริจาคทางโทรศัพท์แล้ว ยังมีบริษัทห้างร้านเอกชน หน่วยงานราชการ และบุคคลมีชื่อเสียงต่างๆ พากันมามอบเงินบริจาคผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้องส่งด้วยเป็นจำนวนมาก
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มีข้อที่ผิดสังเกตที่หลายคนหยิบเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก คือ การที่มีหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ มาร่วมบริจาคด้วยเป็นเงินนับแสนนับล้านบาท เช่น กระทรวงศึกษาธิการ 3 ล้านบาท สำนักงาน กสทช. 1 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 1 ล้านบาท กระทรวงเกษตรฯ 1 ล้านบาท สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานละ 1 แสนบาท ฯลฯ
“เงินเหล่านี้หน่วยงานราชการต่างๆเหล่านั้น นำมาจากไหน เป็นเงินส่วนตัวของผู้บริหารและหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนั้น ๆ หรือเป็นเงินแผ่นดินที่เก็บไว้ในบัญชีสำรองของทางราชการ ซึ่งถ้าเป็นเงินแผ่นดินจริงก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาแสดงออกหรือสร้างภายออกทีวีทำทีทำท่ามาร่วมบริจาค เพราะอย่างไรเสีย รัฐบาลก็มีงบกลางที่มาจากภาษีประชาชนที่จะนำมาช่วยพี่น้องประชาชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากจากวิกฤตน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกมาสร้างภาพผ่านรายการทีวีไปวันๆ” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าว
นายศรีสุวรรณ ระบุทิ้งท้ายว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำความไปร้องต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบหน่วยงานราชการต่าง ๆ ข้างต้นว่า นำเงินแผ่นดินมาสร้างภาพออกรายการดังกล่าวว่ามีที่มาอย่างไร เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสที่ 19 ก.ย.นี้ เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน สตง. ซ.อารีย์ ถ.พระราม 6 พญาไท กทม
https://www.naewna.com/politic/441569
เท่าที่ทราบมา....เงินที่ได้บริจาคมาก็จะเป็นเงินข้าราชการในกระทรวงต่างๆที่ช่วยกันบริจาคทั้งนั้น
ช่วยกันคนละนิดละหน่อย มากน้อยตามแต่ความพร้อม
สมมุติว่าถ้าบริจาคได้ สัก 40,555 บาท ส่วนใหญ่ก็จะมีเพื่อนหรือผู้ใหญ่ใจบุญมาเติมให้ครบ 41,000 บาท หรือ 50,000 บาทไปเลยค่ะ
เห็นไหมคะ ข้าราชการเขาก็มีจิตใจห่วงใยประชาชน เสียสละ ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนลำบาก
และต้องมีการให้ตรวจสอบได้ด้วยว่า....เป็นเงินบริจาคจริง ไม่ได้ไปเอาเงินตรงไหนมาให้
แถมรัฐบาลได้ไปแล้วก็เอาไปเดินแจกแบบบิณฑ์ไม่ได้ด้วยค่ะ
ลำบากยุ่งยากไหมล่ะ ถ้าความจะเอาความซื่อสัตย์ก็ต้องช้าสักนิด
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมบริจาคค่ะ