Baggage Delay at Croatia ... กระเป๋าล่าช้า ณ โครเอเชีย

กระทู้สนทนา

เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวยุโรป กระเป๋าเดินทาง สนามบิน Backpack

... สวัสดีค่า ... เพี้ยนแช๊ะ

ในการเดินทางอาจจะมีเรื่องราวไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ วันนี้เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์กระเป๋าเดินทางล่าช้า และขั้นตอนวิธีการต่างๆ ตั้งแต่รู้ว่ากระเป๋าหาย ไปจนถึงขั้นตอนการขอเคลมประกันการเดินทาง (ไม่เป็นกระทู้รีวิวเพราะไม่ได้ค่าโฆษณานะ)

... หวังว่าประสบการณ์เราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ต่อไป มาดูกันเลยยย ...

1. กระเป๋าไม่มาต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่สนามบิน
เหตุการณ์ของเราคือเราเดินทางจาก Nice, France ไป Dubrovnik, Croatia แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนึงในเยอรมัน ทุกอย่างปกติจนกระทั่งรอรับกระเป๋า ผ่างงงงง!!! กระเป๋าไม่มา!!! เราก็รอจนมั่นใจและทำใจได้แล้วว่ากระเป๋าไม่มา สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติก่อนแล้วเดินไปที่เคาท์เตอร์ Lost and Found แจ้งข้อมูลรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลและพิมพ์เอกสารให้เรา ข้อมูลที่สำคัญคือ
1.1 เที่ยวบินและเลข Tag Number ของกระเป๋า
1.2 ลักษณะกระเป๋า (ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ก่อน) เช่น เป็นผ้าหรือแบบแข็ง สีอะไร เป็นต้น
1.3 ข้อมูลติดต่อ Email เบอร์โทรศัพท์
1.4 แผนการเดินทาง และที่อยู่ที่พัก เจ้าหน้าที่จะถามว่าเราจะพักที่ไหนในช่วง 2-3 วันที่จะถึง เนื่องจากถ้าเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าแล้วจะนำส่งให้ถึงที่พัก

ตัวอย่างเอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้เรา จะมีรายละเอียดที่เราจะใช้ในการ Tracking หรือติดตามสถานะของกระเป๋าของเรา โดยจะมี Website ที่จะเป็นเว็บกลางสำหรับการติดตามกระเป๋าโดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลที่จะใช้ในการ Login เข้าไปตรวจสอบคือ
No.1 File Reference
No.2 Name
สำหรับเว็บไซต์นั้นขึ้นอยู่กับสายการบิน จะเห็นว่า Web address จะลงท้ายตามสายการบิน . htm

หลังจากได้เอกสารเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ลุ้นว่ากระเป๋าเราจะมาถึงวันไหน เหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่านอกจากของมีค่า เอกสาร passport เงิน กล้องถ่ายรูปที่ควรเอาติดตัวขึ้นเครื่องเสมอแล้ว ควรจะมีของใช้และเสื้อผ้าติดตัวไปบ้าง

2. จับจ่ายซื้อของเก็บเอกสาร
ชีวิตต้องเดินต่อไป เนื่องจากการเดินทางไปยุโรปจะต้องมีประกันการเดินทางอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราได้สิทธิ์ในการ Clam ค่าใช้จ่ายสำหรับความล่าช้าของกระเป๋า แต่สิ่งที่เราต้องรู้คือ จำนวนเงินที่เราจะได้คืนและเอกสารที่ต้องใช้

2.1 จำนวนเงินผลประโยชน์จะขึ้นอยู่กับแผนที่เราซื้อไว้และระยะเวลาที่เราได้กระเป๋าคืน ตัวอย่างแผนของเราตามรูปด้านล่าง ดังนั้นเราต้องประเมินว่าเราจะสามารถใช้จ่ายด้วยวงเงินเท่าไหร่ สำหรับวันแรกเราอาจจะซื้อเฉพาะของใช้จำเป็นจริงๆ เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีม โฟมล้างหน้า เป็นต้น แต่หากเกิน 24 ชั่วโมงไปแล้วค่อยซื้อเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นเพิ่มเติมและคำนวณวงเงินให้ดีด้วย

2.2 เอกสารที่ต้องเก็บไว้คือใบเสร็จตัวจริงในการซื้อของ และเอกสารใบแจ้งกระเป๋าล่าช้า(ข้อ 1) ย้ำอีกครั้งของที่ซื้อควรจะเป็นของใช้จำเป็นจริงๆ ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัว เป็นต้น

3. ติดตามและเช็คสถานะของกระเป๋าเดินทาง
จากด้านบนเราสามารถเข้าเว็บตามที่ระบุในเอกสารที่ได้และตรวจสอบสถานะของกระเป๋า โดยหากมีการ Update ข้อมูลใดๆ จะมีการส่งอีเมลและ SMS มาแจ้งให้เราเข้าไปเช็ครายละเอียดในเว็บ ตัวอย่างแสดงสถานะของกระเป๋า

ลำดับเหตุการณ์ของเราคือ ...

>>> 1-3 วันแรกเราเฝ้ารอกระเป๋าทุกวัน โดยการเข้าไปเช็คสถานนะในเว็บ เราเช็คเช้าเย็นเลย เพราะกลัวไม่ได้รับอีเมลหรือ SMS แจ้งจากระบบ

>>> ผ่านไป 3 วันเลยส่งอีเมลไปตามกับสายการบิน ซึ่งก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ

>>> วันที่ 4 เราเริ่มไม่ค่อยพอใจแล้วเพราะไม่มีการติดต่อใดๆ และโทรเข้าไปที่เบอร์ของสายการบินก็ไม่มีคนรับ จนตอนเย็นวันที่ 4 มีการ Update สถานะว่าจะมีการส่งกระเป๋าของเราไปที่สนามบิน Dubrovnik เราก็โกรธว่าทำไมไม่โทรมาถามเราก่อนเพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่ที่ Dubrovnik แล้ว พยายามโทรไปแจ้งแต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

>>> เข้าเช้าวันที่ 5 มีคนรับสายเราแล้ว เราแจ้งว่าให้ช่วยเปลี่ยน Flight จาก Dubrovnik มาที่ Zagrab ได้ไหมเพราะตอนนี้เราอยู่ Zagrab และวันรุ่งขึ้นเราจะบินไปประเทศอื่นแล้ว … เจ้าหน้าที่บอกว่าจะประสานงานให้ โดนการส่งเมล!!! เราย้ำว่าขอให้รีบเพราะเดี๋ยวจะไม่ทัน Flight เดิม ซึ่งเครื่องจะออกในอีก 4 ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว แต่เจ้าก็หน้าก็บอกว่าไม่ได้อยู่ที่สนามบิน ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากส่งอีเมล ซึ่งเราก็จนปัญญา ได้แต่ภาวนาว่ากระเป๋าจะถูกเปลี่ยน Flight มาที่ Zagrab ทัน

>>> และแล้ว ผ่างงงง!!! บ่ายๆ เย็นๆ วันนั้น Status update ว่ากระเป๋าอยู่ที่สนามบิน Dubrovnik แล้วจ้า มารับและตรวจเช็คกระเป๋าได้เลย แน่นอนจากนางฟ้ากลายร่างเป็นซาตานทันที โทรไปสายการบินอีกครั้ง พร้อมความโกรธ 8.9 ริคเตอร์ … ไหนบอกว่าจะประสานงานให้ ทำไมกระเป๋าไม่ส่งมา Zagrab แล้วพรุ่งนี้ฉันไปประเทศอื่นแล้วนะ … เจ้าหน้าที่คนที่ 2 คงตกใจ รีบขอโทษและรับปากจะประสานงานให้ทันที ย้ำหลายรอบว่าส่งไปที่สนามบิน Zagrab ใช่ไหม ตอนนี้เราได้แจ้งบริษัทแม่ให้แล้วด้วย บลาๆ พรุ่งนี้กระเป๋าจะถึงก่อนเที่ยงแน่นอน หลังจากนั้นไม่เกินชั่วโมงมีการ Update status ว่าจะมีการส่งกระเป๋ามาให้ที่สนามบิน Zagrab พรุ่งนี้รอบเช้า

>>> ในที่สุดเราก็ได้กระเป๋าคืนวันสุดท้าย ไปรับกระเป๋าเสร็จตรวจสอบแล้วก็แพคของต่อเพื่อ Check-in ไปอีกที่เลย(โถววว ยังไม่หายคิดถึงเลยต้องจากกันอีกแล้ว) ... สรุปเราอยู่ Croatia 6 วันโดยไม่มีกระเป๋าเดินทาง ชีวิตระหกระเหินเดินทางด้วยเป้และถุงผ้าอีกใบ

4. ทำเรื่องเคลมประกันการเดินทาง
หลังจากกลับมาถึงไทยเราก็ต้องมาทำเรื่องเคลมประกันกัน สรุปง่ายๆ ดังนี้ (อ้างอิงขั้นตอนของ AIG ที่เราทำประกันไว้)

4.1 รวบรวมเอกสารต่างๆ
4.1.1 สรุปรายจ่ายทั้งหมดตามใบเสร็จ เราทำสรุปง่ายๆ ใส่ Excel แล้วพิมพ์ออกมา

4.1.2 ใบแจ้งกระเป๋าล่าช้า

4.1.3 ตั๋วเครื่องบิน

4.1.4 สำเนา Passport

4.2 กรอกแบบฟอร์ม รายละเอียดของการเดินทาง และสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ ตัวอย่างแบบฟอร์ม

http://www.aig.co.th/content/dam/aig/apac/thailand/documents/forms/claimform-pa-ta-form.pdf
4.3 เสร็จแล้วเราก็ส่งเอกสารทั้งหมดไปให้บริษัทประกัน สามารถส่งไปรษณีย์ไปตามที่อยู่หรือยื่นผ่านตัวแทน/นายหน้า
4.4 รอเจ้าหน้าที่ประสานและรับผลประโยชน์ หากเอกสารไม่ครบจะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานขอเอกสาร หากเรียบร้อยทางบริษัทก็จะออกเช็คให้เรา ... ของเราตั้งแต่ส่งเอกสารจนได้รับเงินคืนใช้เวลา 19 วัน

สุดท้าย
# ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า อ่อกระเป๋าล่าช้าที่โครเอเชียเป็นเรื่องปกตินะ ที่บ้านบินมาบ่อยก็ช้าแบบนี้แหละ ผ่างงง!!!
# เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจริงๆ เราก็สามารถอยู่แบบพอเพียงได้ 55+ และนี่แหละเป็นที่มาที่เค้าเรียก ‘กระเป๋าเดินทาง’ (มุงเดินทางไปไหน)
# ขอบคุณบริษัท AIG ที่ติดต่อประสานงานและจ่ายผลประโยชน์ให้เรียบร้อยรวดเร็ว และพี่ที่ Regency Travel & Education ที่ช่วยประสานงานให้นะคะ

ปล.1 เราไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ นะ

ปล.2 ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ค่ะ

ปล.3 ปกติเราเป็นผู้หญิงเที่ยวคนเดียว ถ้าอยากให้แชร์เรื่องไหนแนะนำได้นะ