ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล "ดร.สมคิด" หายไปไหน ???

ก่อนหน้าที่จะมีการจัดตั้งเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ถือได้ว่าเป็นมือหนึ่งของทีมเศรษฐกิจของทั้งรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญอย่างนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
แต่อยู่ดีๆ ชื่อของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่าง "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ในการผลักดัน และเดินสายโรดโชว์กับต่างประเทศในการเชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในอีอีซี ก็หายไปจากหน้าข่าวการเมือง และข่าวเศรษฐกิจ

หรือว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับวาระการเปลี่ยนผ่านการเมือง และเศรษฐกิจของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จากรัฐบาลคสช. มาเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยอย่างลับๆ 

หรือว่า เพราะมีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 2 พรรคที่มาร่วมด้วยช่วยกันดูแลทีมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จนทำให้หลายโครงการถูกเบรคไปแบบเงียบๆ และรวมถึงการถูกยื่นญัตติด่วนจากพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ 

จนทำให้โครงการอย่าง "รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน" ถูกรั้งไว้แบบเงียบๆ จนไม่สามารถกำหนดวันลงนามสัญญาระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และกิจการร่วมค้า เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง และพันธมิตรได้ ถึงแม้ว่าทางนายกรัญมนตรี พยายามพูดออกสื่ออยู่บ่อยครั้งว่า ...จะลงนามได้ภายในเดือนกันยายนนี้ ...

แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากไปกว่าเมื่อต้นปี 2562 เลย

หรืออย่าง "โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3" ที่ประกาศผู้ชนะแล้วว่าเป็นบริษัทในเครือของปตท., กัลฟ์ และพันธมิตรจากจีน  แต่โครงการนี้ก็ยังไม่สามารถประกาศวันลงนามได้เช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่า จะมีนักข่าวจากหลายสำนักพยายามสอบถามไปยัง ดร.สมคิด แต่ทางตัวท่านเองก็ยังยืนยันว่า 

. . . โครงการใหญ่และสำคัญที่สุดในการแจ้งเกิดเขตเศรษฐกิจอีอีซี คือ สัมปทานโครงการไฮสปีดที่จ่อลงนามในสัญญา “งานไม่สะดุดหรอก เพราะว่ารถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินก็จะลงนามในไม่ช้า” . . .

ซึ่งนักลงทุนทั้งไทยและเทศ ต่างก็เริ่มจะหวั่นใจ และกังวลว่า
“บางเรื่องช้าได้ แต่บางเรื่องไม่ควรช้า เพราะจะส่งผลต่อต้นทุนให้สูงขึ้น”

ดร.สมคิด เคยได้ชื่อว่า เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล มี "ดาบอาญาสิทธิ์" ในมือ แต่เมื่อปราศจากอำนาจนี้แล้ว 
ใครจะมาเป็นผู้ผลักดัน เป็นกัปตันทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลคนต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่