เรือใบที่ไม่เหมือนเดิม

---------ผ่านไปแล้วสำหรับเกมพรีเมียร์ลีค นัดที่5 ของฤดูกาล ซึ่งผลการแข่งขันของเรือใบสีฟ้า เป็นที่น่าผิดหวังมาก ไม่เพียงแต่สกอร์ที่แพ้ ฟอร์มการเล่นของทีมก็แย่อย่างน่าใจหายเช่นกัน ผู้คนและสื่อต่างๆยกความผิดไปให้แก่แผงหลัง ซึ่งตามเนื้อผ้าก็ผิดพลาดจริง และเป็นที่มาของการเสียประตูทั้ง 3 ลูก ในขณะที่เกมรุกของทีม หากไม่ได้ติดตามการเล่นของทีมตลอด ก็เหมือนทีมจะเล่นกันดีเหมือนเดิม สร้างโอกาสได้มาก แต่จบไม่คม แต่เมื่อมองลึกลงไปในรายละเอียดของเกมมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เกมรุกของทีมทำได้ไม่ต่อเนื่อง ติดๆขัดๆ ยึกๆยักๆ ผิดฟอร์มการเล่นของทีมแชมป์เก่าไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งฟอร์มการเล่นแบบนี้มันลากยาวมาตั้งแต่ท้ายฤดูกาลที่แล้ว ที่กว่าจะยิงได้สักลูกมันช่างยากเย็น แต่ก็ยังเบียดชนะคู่แข่งแบบหืดจับ จนคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

เรือใบในนัดนี้แทบจะสูญเสียจุดแข็งที่สุดของทีมไปเลย

---------จุดแข็งของเรือใบคืออะไร? คือหน้า3ตัวใช้ความสามารถเฉพาะตัว เลี้ยงกินตัวแล้วจ่ายหรือยิงเหรอ? ก็ไม่ใช่! จุดแข็งของเรือใบคือทีมที่มีเกมรุกหลากหลาย สามารถโจมตีได้จากทุกทิศทุกทาง สวิตซ์บอลไป-มารวดเร็ว บอลเคลื่อนที่ตลอดเวลา ทางซ้ายทีทางขวาที จนคู่แข่งหัวหมุน จับทางไม่ถูก และมีการแอบจ่ายคิลเลอร์พาสเด็ดๆจากกองกลาง มีตัวเร่งเทมโปของเกมให้ไวหรือช้าก็ได้ ด้วยการจ่ายบอลเพียงจังหวะเดียว ซึ่งที่กล่าวมา หาไม่เจอเลยจากนัดนี้

อะไรคือสิ่งที่ขาดหายไป?

---------เรือใบ 2 ปีที่ผ่านมาทีมทำแต้มได้ถล่มทลาย เพราะทีมมีรูปเกมที่เหนือกว่าคู่แข่งมากมาย สามารถขึงให้คู่แข่งเล่นแต่ในแดนตัวเองได้ ซึ่งสำหรับผม คีย์แมนที่ทำให้ทีมดีได้ขนาดนี้มี 2 คน คือเดอบรอย และเฟอนันดิญโญ ที่เป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ คนอื่นไม่ลงก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ทำให้รูปเกมยังเหนือกว่า ค่อยไปลุ้นอีกทีว่าจะยิงได้หรือจะเสียประตูมั้ย แต่ถ้า2คนนี้ไม่ลง ความน่ากลัวในการครองแดนกลางจะลดลงทันที (คือจะขาดไปซักคนก็ได้ แต่ห้ามขาดทั้ง2คน)

แล้วเค้าสำคัญยังไง?

---------จะให้เทียบก็คงเหมือนบาร์ซาในยุคเป๊ปที่ต้องมาซาบีคุมแดนกลาง คอยถ่ายบอลไปมาทั่วสนาม ให้เพื่อนเล่นง่าย แล้วถ้าบอลทางนั้นตัน ก็ส่งคืนมาให้คนนี้สวิตซ์เปลี่ยนทางไปด้านอื่น ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ต้องจ่ายบอลเนียนตา น้ำหนักบอลดี(เป็นตัวตัดสินเทมโปเกมว่าจะเร็วหรือช้า) จินตนาการเล่นได้ทางไหน ก็ต้องโยนหรือแทงไปให้ถึงจุดนั้นได้ในทันที วิชชันดี ไม่เก็บบอลกับตัวนาน คิดเร็วทำเร็ว เปลี่ยนจังหวะเกมด้วยการจ่ายบอลเพียงครั้งเดียว มีจังหวะก็สามารถจ่ายคิลเลอร์พาสได้ และมีทักษะการเอาตัวรอดที่ดี (ศูนย์กลางของทีมย่อมโดนเพลสหนักอยู่แล้ว ยิ่งดึงตัวประกบได้หลายตัว เพื่อนยิ่งเล่นง่าย ยิ่งถ้าโดนเพลสหลายตัวแล้วเลี้ยงหนีคู่แข่งไปได้ ยิ่งสร้างความได้เปรียบมหาศาล) เวลาขึงเกมได้ ต้องคอยอ่านเกมไปแย่งบอลมาให้ทีมบุกต่อ และตัดเกมได้ในบางครั้ง (ที่พูดมาคือซาบีทำได้ทั้งหมด โดยมีบุตเกตค่อยช่วยคุมพื้นที่ บาร์ซายุคนั้นมันถึงพับสนามบุกได้ตลอด)

---------ของเรือใบก็เหมือนกันเด๊ะ หน้าที่นี้จะเป็นของเฟอนันดิญโญ โดยดันทั้งเดอบรอยและซิลบาขึ้นสูงเพื่อ overload ผู้เล่น และแบ็ค(ฝั่งใดฝั่งนึงจะขยับมาช่วยคุมพื้นที่) ยิ่งแกเล่นเกมรับดีอยู่แล้ว ยิ่งสามารถoverloadผู้เล่นไปได้เยอะขึ้นอีก นอกจากนี้เวลาขึ้นเกมจากแดนหลัง แกจะเป็นคนลงมารับบอล คอยทำชิ่ง แก้เพลสให้เพื่อนไปในตัวด้วย ทำให้กองหลังเล่นง่าย คู่แข่งเพลสยังไงก็ไม่จน ยิ่งถ้าดึงตัวเพลสได้หลายคน เอเดอซอนก็วางบอลยาว ทำทีมสวนกลับได้เปรียบไปอีก (หลังๆเลยไม่มีทีมไหนกล้ามาเพลสแดนหน้าแบบสุดๆใส่เรือใบเลย) แน่นอนว่าถ้าเฟอนันไม่อยู่ เดอบรอยก็ลงมาเล่นตำแหน่งนี้ได้ โดยให้โรดรี้คอยช่วยปัดกวาดให้ ถือว่าทดแทนได้แทบไร้รอยต่อ

ความหายนะของเรือใบนัดเจอนอริชคืออะไร?

---------เห็นได้ชัดว่านัดนี้กองกลางเล่นกันไม่ออก ไม่มีตัวเร่งเทมโปของเกมได้ซักคน ทำให้เทมโปของเกมช้าและไม่ต่อเนื่อง

---------เบอนาโด ที่ปกติต้องเลี้ยงจี้ เพื่อดึงกองหลัง แล้วอาจไหลบอลให้เพื่อนเปิด (เพื่อนที่ตามมาดันเป็นวอร์คเกอร์ที่เปิดกากมาก) เอิ่ม ไม่เป็นไร งั้นกระชากตัดไปเปิดให้กองหน้าก็ได้ (กองหน้าสูง170 ท่ามกลางกองหลังยักษ์ๆทั้งนั้น) งั้นไหลกลับไปกองทำเกม (ฝั่งริ่งก็เจอเหตุการณ์เดียวกัน)

---------กุนโดกัน ทุกครั้งที่เพื่อนไหลบอลกลับมา แกแทบไม่เคยสร้างสรรค์เกมได้เลย (เพราะคู่แข่งมาเพลส แล้วแกเอาตัวรอดไม่เก่ง) บอลส่วนใหญ่จากแก จึงเป็นบอลแปะออกข้างและคืนหลัง ขณะที่ซิลบา สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบได้บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นัก ยิ่งแกติดนิสัยชอบม้วนบอลไปมา เกมยิ่งช้าไปอีก (กลายเป็นทีมทำได้แค่สวิตซ์บอลไป-มา......ช้าๆ) ไม่สามารถกดดันคู่แข่งได้เลย

---------การเล่นของทีมจะมีแบ็คหุบมาช่วยกองกลางเสมอ เพื่อให้แดนกลางเล่นได้เปรียบมากขึ้น นัดนี้ก็เช่นกัน จะเห็นว่าหลายจังหวะ ซินเชนโก และวอร์คเกอร์ก็หุบมาช่วยบ่อยครั้ง

---------ซินเชนโก ที่อย่างน้อยเวลาดันมากลางก็แทงบอลสวยๆให้เพื่อนได้บ้าง แต่ไม่รู้ทำไมหลังๆ มันติดนิสัยส่งบอลคืนหลังบ่อยเกิน

---------วอร์คเกอร์ ที่หุบเข้ากลาง แล้วเลี้ยงกินตัวได้ดี แต่ด้วยวิชชันที่แทบเป็น0 ต่อให้เลี้ยงไปได้ไกลแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องคืนหลัง (ยิ้มเอ้ย อยู่แบ็คก็เปิดบอลไม่ได้ อยู่กลางก็ทำเกมไม่ได้)

---------โรดรี้ ที่ทำหน้าที่กองกลางได้สมบูรณ์แบบ แย่งบอล ตัดบอลได้ แต่แกก็ไม่ใช่ตัวที่จ่ายบอลชี้เป็นชี้ตายได้

---------สรุปสั้นๆว่าปัญหาใหญ่คือกลางขึงเกมไม่ได้ พอขึงไม่ได้ จะเร่งเกมก็เร่งไม่ขึ้น

เมื่อกองกลางช่วยอะไรไม่ได้ ปีกกับหน้าก็ต้องทำเอง

---------การเข้าทำในนัดนี้มีรูปแบบจำกัดมาก คือปีกเลี้ยงจี้ๆ เพื่อพยายามตัดเข้าไปยิงเอง หรือตัดเข้าไปเปิดให้กุน (ท่ามกลางกองหลังสูงใหญ่) แต่เฮ้ย มันก็พอจะได้ผลอยู่นะ เพื่อนก็ปั้นให้กุนโหม่งได้หลายจังหวะเลย โหม่งดีมั่ง แย่มั่ง แต่ส่วนใหญ่จะได้แค่เกือบ แต่ก็ได้มาลูกนึง

---------การเข้าทำอีกอย่างคือกุนหรือคนอื่น ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงเข้าไปเพื่อจะยิงเอง

---------ตรงจุดนี้บอกเลยว่าเกมช้ามาก เพราะบอลส่วนใหญ่จะอยู่กับการเลี้ยงจี้ ยึกๆยักๆ ตะกุกตะกัก บอลแทบไม่เคลื่อนไปไหน เลี้ยงไม่ผ่านค่อยคืนหลัง แฟนบอลเพลียครับ นี่เหรอรูปแบบการเข้าทำของทีมที่น่าจะระบบดีที่สุดในอังกฤษ

ปัญหาไม่ได้มีแค่ตรงกลาง แผงหลังก็ขึ้นเกมไม่ได้

---------นอริชมันเพลสตั้งแต่แดนหน้าเลย ด้วยกองหลังที่มีคำว่าเป็น ball playing defender ค้ำคออยู่ ทำให้กองหลังทั้ง2คน เกิดความดันขึ้นมา (ดันทุรังแต่จะต่อบอลอย่างเดียว) แน่นอนว่าพอกลางรับเป็นโรดรี้ที่ตัวสูงใหญ่ ความคล่องตัวน้อยและโดนคู่แข่งบีบเหมือนกัน ทำให้ช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้มากนัก (ที่จริงแกยืนตำแหน่งไม่ดีด้วย เจอคู่แข่งปิดทางบอลหมด) สโตนได้บอลก็คึงๆบอล พอคู่แข่งไล่มาก็จ่ายสั้นให้โอตะ (ยิ้มจ่ายกันไปมาแค่เนี้ย ยึกๆยักๆ ประมาณไม่รู้จะเล่นไงต่อดี บอลไม่ได้ไปไหนเลย เสียเวลาบุกโดยใช่เหตุ) คือเกมมันช้า มันตัน ต้นเหตุเกิดตั้งแต่แดนหลังแล้ว คู่แข่งเลยเล่นสบายเลย ที่จริงปัญหานี้มันเหมือนเส้นผมบังภูเขา ถ้าเล่นบอลยาวไปก็หมดเรื่อง แต่ก็ยังดันทุรังจะต่อบอล จนเป็นเห็นให้เสียประตูที่ 3 ที่จริงกองหลัง 2 คนนี้ก็เล่นบอลยาวแม่นนะ แต่ด้วยความที่เป็นกองหลัง มันวางบอลตอนโดนเพลสได้ไม่ดีเลย

วินาทีที่เดอบรอยลงมาเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

---------ท่ามกลางความมืดมิด ก็เห็นแสงสว่างขึ้นลางๆ เอาล่ะ คนที่จะมาคุมเกมแดนกลางได้ลงมาแล้ว ต่อไปคงจะเปิดเกมรุกได้ต่อเนื่องมากขึ้น และคงขึงเกมได้หมดจดเหมือนหลายๆนัดที่ผ่านมา ดีล่ะจะได้รูปเกมที่สวยงามสักที แต่เอ๊ะ แปลกจังเดอบรอยไปยืนทำไรตรงริมเส้น _ิบหาย เป๊ปจับเดอบรอยเป็นปีก คอยเปิดบอลให้กุนกับเฮซุสที่เพิ่งลงมา แล้วแทกติกเปิดโต้งๆแบบนี้ ถึงเดอบรอยจะเปิดแม่นแค่ไหน ยังไงเค้าก็กันได้หมด ยิ่งกองหน้าเตี้ยๆทั้งคู่ด้วย สรุปคือแมนซิกลายเป็นทีมโยนแอนด์โหม่งที่แท้ทรู แล้วใช้การเข้าทำแบบนี้จนจบเกม เมื่อเดอบรอยลงมา มันก็ไม่ใช่ฟุตบอลอีกต่อไป แฟนบอลได้แต่เพลีย ถ้าพี่จะเล่นแบบนี้ ทำไมไม่ซื้อกองหน้าสูงใหญ่เข้ามาในทีมบ้าง

หมากตัวสุดท้าย ถูกใช้ไปแบบเปล่าประโยชน์

---------แฟนบอลได้แต่หวังให้เป๊ป ถอดเซนเตอร์ออกซักคน แล้วให้เฟอนันมาเล่นลิเบอโร่ ช่วยขึ้นเกมจากแผงหลัง แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเป๊ปส่งมาเรซ ลงมาแทนเบอนาโด (ถถถ เปลี่ยนแบบนี้ ใช้เบอนาโดเหมือนเดิมยังมีประโยชน์กว่าเลย) ตั้งแต่เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ผมก็ยอมแล้ว ว่าทีมไม่น่ากลับมาได้แล้ว ปกติทีมจะขึงคู่แข่งได้หมดจด จนท้ายเกมคู่แข่งแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้ต่อ แต่บอลนัดนอริช ท้ายเกมแล้วผู้เล่นนอริช ยิ้มยังเหลือแรงเหลือเฟือ มาบุกใส่ในช่วงท้าย จนแทบจะยิงประตูที่4 ได้

สุดท้ายแฟนบอลแค่อยากกลับไปดูเกมที่สนุกอีกครั้ง

---------ผมอยากให้เป๊ป เอาเฟอนันกลับสู่ทีมซักที ไม่ใช่เพราะว่าเป็นติ่งของเฟอนันนะ แต่เพราะตอนนี้เค้าเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ทีมดีขึ้นได้ แม้อายุของแกจะมากแล้ว(34 ย่าง 35) แต่ถ้าใช้แบบถนอมๆ ก็น่าจะเปลียนเกมตื้อของเรือใบให้ดีขึ้นได้ หรือถ้าเป๊ปจะเอาดีด้านโยนและโหม่ง ก็ช่วยซื้อกองหน้าใหญ่สูงใหญ่มาช่วยโขกหน่อยเถอะ การที่เห็นทีมตัวเล็กมาเล่นบอมใส่ทีมตัวใหญ่แบบนัดที่ผ่านมามันช่างอนาถใจจริงๆ ปีนี้ไม่ว่าทีมจะได้แชมป์หรือไม่ก็ตาม แต่คงไม่สำคัญเท่าความสุขของแฟนบอลที่รอมาทั้งอาทิตย์เพื่อดูเกมที่ทีมรักแข่ง เกมที่สนุก ไม่ว่าผลการแข่งขันจะแพ้หรือชนะก็ตาม

https://www.youtube.com/watch?v=krQxul2Z1_0&t=431s
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่