Brad’s Status(2017) “สเตตัสห่วยของคนชื่อแบรด” หนังโดนใจคนวัยกลางคนที่วัยรุ่นต้องดู
นั่งดูไปตอนๆแรกหลงนึกว่าเป็น the secret life of walter mitty part 2 แหมก็เฮียเบนแกเล่นมโนเก่งไม่แพ้ walter mitty
Brad’s Status(2017) หนังที่ว่าด้วยวิกฤตวัยกลางคนของผู้ชายชื่อแบรด ที่นั่งมองเพื่อนๆผ่านความมโน ความคิดความเข้าใจของตัวเองว่า เพื่อนๆสมัยเรียนทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จทิ้งเค้าซึ่งเลือกอุดมกราณ์มากกว่าหาเงินในตอนหนุ่มๆไว้ข้างหลัง ทำให้เค้าระแวงว่าลูกชายวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจะตัดสินใจพลาดเหมือนเขาตอนหนุ่มๆ ทำให้แบรดพยายามที่จะผลักดันลูกให้ไปในทางที่คิดว่าจะทำเงินได้มากกว่านี้
ก็อย่างที่ว่าแหละ ที่สนามหญ้าข้างบ้านเราสวยกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านเราเสมอ ทุกวันนี้การเห็นคนอื่นใน social network ทำให้มนุษย์มีความสุขน้อยลง ทั้งที่ความเป็นจริงในรอยยิ้ม ในความหรูหราของคนหลายๆคนใน social network เค้าอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องลูก หรือมีปัญหาการเงินอยู่ก็ได้ เพียงแต่เราแค่อยากจะมองในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เราเห็นเท่านั้นเอง อันนี้เด็กรุ่นใหม่จงคิดให้จงหนัก เงินไม่ได้หาง่ายๆ เหมือนกับหลายคนจอมปลอมใน social network ถ้าอยากมีความสุขอย่าเอาตัวเองไปนั่งเปรียบเทียบกับคนอื่นเลย
Brad’s Status เป็นหนังที่เดินเรื่องแบบเรียบๆ ที่ไม่ได้พยายามที่จะดรามา กระชากอารมณ์มากมาย แต่ทิ้งคำพูดเด็ดๆไว้ให้ได้คิด
คำพูดแรกจากปาก แบรด คือ “ถ้าอยากช่วยโลกช่วยสังคม ตั้งใจทำงานหาเงินทำตัวให้ดังให้รวยสิ พอคุณเป็น BILL GATE คุณพูดอะไรโลกก็จะเงี่ยหูฟังคุณเสมอ หรือแม้แต่การสร้างมูลนิธิการกุศลด้วยเงินตัวเอง” ผิดกับแบรดที่ตั้งมูลนิธิไม่หวังกำไรช่วยเหลือสังคมตั้งแต่หนุ่มกลายเป็นว่าเพื่อนๆต่างก็เบือนหน้าหนีเพราะกลัวเค้าขอบริจาคเงิน
คำพูดที่สองจากปากของลูกเค้าเอง ทรอย “ตอนแรกผมก็กังวลนะว่าคนอื่นจะมองผมยังไงตอนพ่อว่าผมในที่สาธารณะ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็แค่สนใจแต่เรื่องของตัวเองทั้งนั้นนั่นแหละ มีผมคนเดียวที่สนใจว่าพ่อจะเป็นยังไง ดังนั้นพ่อไม่ต้องไปสนใจเปรียบเทียบกับคนอื่นนักหรอก”
คนวัย 40 ดูคงนั่งอินอึ้งๆแบบไม่รู้ตัว คนวัยรุ่นยิ่งต้องดูเพื่อจะได้ไม่เมามายไปกับชีวิตติด social
[CR] Brad’s Status(2017) “สเตตัสห่วยของคนชื่อแบรด” หนังโดนใจคนวัยกลางคนที่วัยรุ่นต้องดู
นั่งดูไปตอนๆแรกหลงนึกว่าเป็น the secret life of walter mitty part 2 แหมก็เฮียเบนแกเล่นมโนเก่งไม่แพ้ walter mitty
Brad’s Status(2017) หนังที่ว่าด้วยวิกฤตวัยกลางคนของผู้ชายชื่อแบรด ที่นั่งมองเพื่อนๆผ่านความมโน ความคิดความเข้าใจของตัวเองว่า เพื่อนๆสมัยเรียนทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จทิ้งเค้าซึ่งเลือกอุดมกราณ์มากกว่าหาเงินในตอนหนุ่มๆไว้ข้างหลัง ทำให้เค้าระแวงว่าลูกชายวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจะตัดสินใจพลาดเหมือนเขาตอนหนุ่มๆ ทำให้แบรดพยายามที่จะผลักดันลูกให้ไปในทางที่คิดว่าจะทำเงินได้มากกว่านี้
ก็อย่างที่ว่าแหละ ที่สนามหญ้าข้างบ้านเราสวยกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านเราเสมอ ทุกวันนี้การเห็นคนอื่นใน social network ทำให้มนุษย์มีความสุขน้อยลง ทั้งที่ความเป็นจริงในรอยยิ้ม ในความหรูหราของคนหลายๆคนใน social network เค้าอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องลูก หรือมีปัญหาการเงินอยู่ก็ได้ เพียงแต่เราแค่อยากจะมองในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เราเห็นเท่านั้นเอง อันนี้เด็กรุ่นใหม่จงคิดให้จงหนัก เงินไม่ได้หาง่ายๆ เหมือนกับหลายคนจอมปลอมใน social network ถ้าอยากมีความสุขอย่าเอาตัวเองไปนั่งเปรียบเทียบกับคนอื่นเลย
Brad’s Status เป็นหนังที่เดินเรื่องแบบเรียบๆ ที่ไม่ได้พยายามที่จะดรามา กระชากอารมณ์มากมาย แต่ทิ้งคำพูดเด็ดๆไว้ให้ได้คิด
คำพูดแรกจากปาก แบรด คือ “ถ้าอยากช่วยโลกช่วยสังคม ตั้งใจทำงานหาเงินทำตัวให้ดังให้รวยสิ พอคุณเป็น BILL GATE คุณพูดอะไรโลกก็จะเงี่ยหูฟังคุณเสมอ หรือแม้แต่การสร้างมูลนิธิการกุศลด้วยเงินตัวเอง” ผิดกับแบรดที่ตั้งมูลนิธิไม่หวังกำไรช่วยเหลือสังคมตั้งแต่หนุ่มกลายเป็นว่าเพื่อนๆต่างก็เบือนหน้าหนีเพราะกลัวเค้าขอบริจาคเงิน
คำพูดที่สองจากปากของลูกเค้าเอง ทรอย “ตอนแรกผมก็กังวลนะว่าคนอื่นจะมองผมยังไงตอนพ่อว่าผมในที่สาธารณะ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็แค่สนใจแต่เรื่องของตัวเองทั้งนั้นนั่นแหละ มีผมคนเดียวที่สนใจว่าพ่อจะเป็นยังไง ดังนั้นพ่อไม่ต้องไปสนใจเปรียบเทียบกับคนอื่นนักหรอก”
คนวัย 40 ดูคงนั่งอินอึ้งๆแบบไม่รู้ตัว คนวัยรุ่นยิ่งต้องดูเพื่อจะได้ไม่เมามายไปกับชีวิตติด social
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้