เรื่องสั้น: เมืองลับแล

เมืองลับแล

“ยินดีต้อนรับสู่...”

ตอนที่เราขับผ่านมันเข้าไป พวกเราทั้งสามคนต่างไม่ส่งเสียงใดๆ แต่ที่แน่ๆคือกลางดึกคืนนั้นทุกคนเห็นเหมือนกันหมด ป้ายทางเข้ามันไม่มีชื่อบอก หรือไม่มันก็เคยมีแต่ได้เลือนหายไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ก็เลยไม่มีใครรู้ได้เลยว่า เราอยู่ที่ไหนกันแน่ในประเทศไทย

จะว่าเป็นเมืองเล็กๆก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นหมู่บ้านก็ไม่เชิง ตอนนั้นทุกคนน่าจะมีความคิดแบบเดียวกัน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา

“หลงทางแล้ว”

ผมได้แต่มองผ่านกระจกออกไป เฝ้าดูเหล่าบ้านไม้ที่ค่อยๆเคลื่อนลับไปทีละหลัง ทีละหลัง จนอยู่ดีๆรถเราก็หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความสับสนของผมและเพื่อนอีกคนที่โดยสารมา

“นั่นคนใช่ปะวะ?”

เสียงไอ้คนขับมันฟังดูสั่นๆ ผมเห็นมันชี้นิ้วไปข้างหน้า แต่หัวมันกลับหันมามองข้างหลังราวกับไม่ต้องการจะเห็นสิ่งที่ตนชี้อยู่ ตรงหน้าเราประมาณสิบกว่าเมตรได้ แสงไฟหน้ารถได้เผยให้เห็นสิ่งที่คล้ายกับผู้คนนับร้อย ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ทั้งสองข้างทาง และทุกคนล้วนหันหน้ามาทางพวกเรา

“ก็คนดิวะ รีบขับต่อดิ๊”

ณ จุดนี้เรามาไกลเกินกว่าจะถอยกลับแล้ว ผมให้เวลามันทำใจสักพัก พอคนขับรวบรวมความกล้าได้ รถเราจึงเริ่มเคลื่อนอีกครั้ง และทันทีที่เรามาถึงจุดที่คนพวกนั้นยืนอยู่ พวกเขาทุกคนก็ต่างพากันเงี่ยหูฟังเราด้วยท่าทีประหลาด สีหน้าเหล่านั้นไม่แสดงถึงความรู้สึกอะไรเลย นอกจากความสนอกสนใจที่มีต่อ “เสียง” ของรถคันนี้เป็นพิเศษ

เราไม่กล้าเร่งความเร็วไปมากกว่านี้ กลัวว่าอาจเกิดอุบัติเหตุเพราะตลอดเส้นทางไม่มีเสาไฟหรืออะไรก็ตามที่ให้ความสว่างได้ ขณะที่รถเคลื่อนผ่านคนพวกนั้นไปอย่างช้าๆ สิ่งที่เราทำได้คงมีเพียงคิดในแง่ดีไว้ก็เท่านั้นเอง

“พวกชาวบ้านแหละ เค้าคงไม่ค่อยได้เห็นรถวิ่งผ่านบ่อยๆ”

ทีนี้มันมีช่วงเวลาสั้นๆ ไม่รู้ว่าสั้นแค่ไหน ที่ผมได้ยินเสียงๆนึงดังมาจากในรถ ผมก็อธิบายไม่ค่อยได้ว่าเป็นยังไง แต่มันเหมือนทำให้ผมลืมทุกอย่างไปเลย เหมือนช่วงนั้นผมไม่รู้จักใครสักคนบนรถ เหมือนเราทุกคนเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ติดรถมาด้วยกัน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังจะมุ่งหน้าไปไหน ความคิดความทรงจำในหัวมันโล่งไปหมด 

แต่พอพ้นบ้านหลังสุดท้ายไป ทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ เราทุกคนเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมต้น เรียนอยู่กรุงเทพด้วยกัน พอปิดเทอมก็เลยมาหาเลาะเที่ยว เรารู้จักกัน และที่สำคัญคือพวกเราทุกคนปลอดภัยดี

และตอนที่เราขับออกมา... พวกเราทั้งสี่คนต่างไม่ส่งเสียงใดๆ

จบ...
---

ก็จบไปอีกแล้วนะครับสำหรับเรื่องสั้นเรื่องที่ “สี่” ของผม เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องผีที่ผมเคยอ่านนานมาแล้ว ของคนไทยนี่แหละครับ อารมณ์ประมาณว่าถ้ามีผีอยากติดรถไปด้วยจะเป็นยังไง จะเขียนออกมายังไงให้แปลกไม่ซ้ำใคร และหลอนน่ากลัวในแบบของมัน สุดท้ายก็เลยกลายเป็นเรื่องสั้นๆเรื่องนี้ครับ คิดเห็นติชมอย่างไรอย่าลืมคอมเมนต์นะครับ เผื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงในอนาคต สวัสดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่