สวัสดีค่ะ
เข้าเรื่องสั้นๆล่ะกันนะคะ
ดิฉันทิ้งโอกาสทำงานต่างประเทศที่รายได้ดีกว่า เพราะยังเพิ่งเรียนจบ อยากให้มีประสบการณ์ในประเทศก่อน
ตอนนี้ทำบริษัทญี่ปุ่นมาประมาณ 7 เดือนค่ะ อีกเพียง 5 เดือนจะหมดสัญญา พร้อมโบนัสจำนวนนึง แต่คือ ชีวิตไม่มีความสุขเลยตามด้านล่างนี้ค่ะ
1) รุ่นพี่เป็นมนุษย์ผู้ไม่สนใจใครเลย ตัวกูและงานเพียงเท่านั้น ใช้งานยังกับเราเป็นเลขา แถมทุกๆผลงานต้องติไว้ก่อนเสมอ ไม่เคยพูดดีเลย ทั้งที่นางก็ทำสายโรงงาน จบช่างมาก่อน ตัวเราอาจมาจากอีกสังคมนึงเลยรู้สึกว่ามันคนละขั้ว แต่พี่เขาอาจจะดีก็ได้ แต่เห็นทำงานมานมนาน ก็เคยมีปัญหากับหัวหน้าญี่ปุ่นเก่า ใครเข้ามาทำกับนาง ก็ออกทั้งนั้น ไม่เห็นนางได้โปรโมทสักที จะเกษียณในอีกไม่สิบปีข้างหน้า ได้แต่ปลงทุกวันกับการสบถของนางด้วย ดูเป็นมนุษย์ถ้ำยุคดึกดำบรรพ์
2) HR บริษัทตอนอยากได้เราร่วมงานก็โกหกว่ามี candidates พอตัว แต่จริงๆก็แค่เราคนเดียวทีมาสัมภาษณ์ ถึงว่าเราได้แต่ทำงานไร้ชีวิตชีวาทุกวันเลย เพราะปัญหางานภายในมันสะสมมา แล้วเรามาอุดรูรั่ว
จนกระทั่งเราแนะนำเพื่อน 2 คน มาทำแต่อยู่คนละแผนก ( ตอนนั้น HR แนะนำว่าถ้าพาเพื่อนมาอยู่ อาจรู้สึกดีขึ้น) ประเด็นคือ แผนกที่เพื่อนอยู่ เราเองก็อยากย้ายไป ทีมดี โอทีเด่น โอกาสก้าวหน้าสูงกว่า ทั้งที่ตอนเรียนเราก็มักจะมีผลการเรียนที่ดีกว่าเสมอ จบไวกว่า และได้เกียรตินิยม แต่มันติดสัญญา 1 ปี ที่เราก็เสียดายโบนัส กับที่ทำงานใกล้ที่พักมากๆ
ที่พูดมาทั้งหมด คือ ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งเกินใคร แต่เรารู้สึกว่า การถ่อมตัว หรือยอมให้คนอื่นทำร้ายความรู้สึกมากๆ มันทำให้เราทุกข์
พยายามบอกให้ตัวเองอดทนทุกวัน แต่มันตอกย้ำความเจ็บใจ แต่อีกอึดใจหนึ่งเราได้เงินก้อนจะได้เอาไปให้พ่อแม่ ได้
ตอนแรกว่าจะสั้นๆ เอาจริงๆก็ยาวค่ะเพราะ มันเขียนจากความรู้สึก เราควรตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดโดย ไม่คิดมากอย่างไรดีค่ะ เพราเราเชื่อว่า ความยุติธรรมและความรักที่จะทำ ถึงจะทำให้ผลงานออกมาดีมากกว่าเสมอ
ขอบคุณมากค่ะ
ทำยังไงให้อดทนกับงานที่น่ารำคาญมาก
เข้าเรื่องสั้นๆล่ะกันนะคะ
ดิฉันทิ้งโอกาสทำงานต่างประเทศที่รายได้ดีกว่า เพราะยังเพิ่งเรียนจบ อยากให้มีประสบการณ์ในประเทศก่อน
ตอนนี้ทำบริษัทญี่ปุ่นมาประมาณ 7 เดือนค่ะ อีกเพียง 5 เดือนจะหมดสัญญา พร้อมโบนัสจำนวนนึง แต่คือ ชีวิตไม่มีความสุขเลยตามด้านล่างนี้ค่ะ
1) รุ่นพี่เป็นมนุษย์ผู้ไม่สนใจใครเลย ตัวกูและงานเพียงเท่านั้น ใช้งานยังกับเราเป็นเลขา แถมทุกๆผลงานต้องติไว้ก่อนเสมอ ไม่เคยพูดดีเลย ทั้งที่นางก็ทำสายโรงงาน จบช่างมาก่อน ตัวเราอาจมาจากอีกสังคมนึงเลยรู้สึกว่ามันคนละขั้ว แต่พี่เขาอาจจะดีก็ได้ แต่เห็นทำงานมานมนาน ก็เคยมีปัญหากับหัวหน้าญี่ปุ่นเก่า ใครเข้ามาทำกับนาง ก็ออกทั้งนั้น ไม่เห็นนางได้โปรโมทสักที จะเกษียณในอีกไม่สิบปีข้างหน้า ได้แต่ปลงทุกวันกับการสบถของนางด้วย ดูเป็นมนุษย์ถ้ำยุคดึกดำบรรพ์
2) HR บริษัทตอนอยากได้เราร่วมงานก็โกหกว่ามี candidates พอตัว แต่จริงๆก็แค่เราคนเดียวทีมาสัมภาษณ์ ถึงว่าเราได้แต่ทำงานไร้ชีวิตชีวาทุกวันเลย เพราะปัญหางานภายในมันสะสมมา แล้วเรามาอุดรูรั่ว
จนกระทั่งเราแนะนำเพื่อน 2 คน มาทำแต่อยู่คนละแผนก ( ตอนนั้น HR แนะนำว่าถ้าพาเพื่อนมาอยู่ อาจรู้สึกดีขึ้น) ประเด็นคือ แผนกที่เพื่อนอยู่ เราเองก็อยากย้ายไป ทีมดี โอทีเด่น โอกาสก้าวหน้าสูงกว่า ทั้งที่ตอนเรียนเราก็มักจะมีผลการเรียนที่ดีกว่าเสมอ จบไวกว่า และได้เกียรตินิยม แต่มันติดสัญญา 1 ปี ที่เราก็เสียดายโบนัส กับที่ทำงานใกล้ที่พักมากๆ
ที่พูดมาทั้งหมด คือ ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งเกินใคร แต่เรารู้สึกว่า การถ่อมตัว หรือยอมให้คนอื่นทำร้ายความรู้สึกมากๆ มันทำให้เราทุกข์
พยายามบอกให้ตัวเองอดทนทุกวัน แต่มันตอกย้ำความเจ็บใจ แต่อีกอึดใจหนึ่งเราได้เงินก้อนจะได้เอาไปให้พ่อแม่ ได้
ตอนแรกว่าจะสั้นๆ เอาจริงๆก็ยาวค่ะเพราะ มันเขียนจากความรู้สึก เราควรตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดโดย ไม่คิดมากอย่างไรดีค่ะ เพราเราเชื่อว่า ความยุติธรรมและความรักที่จะทำ ถึงจะทำให้ผลงานออกมาดีมากกว่าเสมอ
ขอบคุณมากค่ะ