วัดธรรมกาย vs นโยบายรัฐบาล vs สวัสดิการสังคมสูงอายุ

ผมมองว่า สิ่งที่ธรรมกาย ทำ
เหมือนองค์กร สวัสดิการสังคมยยามชรา
ซึ่ง พรรคการเมือง น่าจะนำไปคิดต่อ
เพื่อกำหนดนโยบายสวัสดิการคนชรา
หรือวัดต่างๆ ที่มีที่ดินจำนวนมาก
และมีกิจกรรม ที่สงบร่มเย็น
น่าจะพิจารณา ประกอบ 

ดังต่อไปนี้

1.จัดหาห้องพัก แฟลต ให้สาวกอาศัยตลอดในบั้นปลายชีวิต
2. จัดกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ และสาวก อาทิ สวดมนต์ ทำสมาธิ ฯลฯ
3. การ funding ระดมทุน มาจากสมาชิก (สาวก) ซึ่งจัดระดับเป็นชั้นๆ สาวกที่บริจาคมากจะได้สิทธิสวัสดิการมาก

กิจกรรมดังกล่าวถ้าตัดเรื่องศาสนา ที่เป็นประเด็น นิพพาน,อัตตา, ฯลฯ ออกไป นับว่าน่ายกย่องในแง่การแก้ปัญหา สวัสดิการสังคม และผู้สูงอายุที่ไม่อยากทิ้งมรดกให้ลูกหลานโดยการบริจาคให้องค์กร และใช้ชีวิตบั้นปลาย พอองค์กรกำไร ก็ขยายสาขาออกไป

.......

จุดอ่อนคือ

1. ลูกหลานไม่ happy เพราะสาวกฯ ปิดมรดกไม่ให้ลูกหลาน, โดยเอาไปบริจาคเข้าระบบสมาชิกในองค์กรหมด, ผู้ได้ประโยชน์คือตัวสาวกได้ใช้สวัสดิการตลอดชีพ และแชร์ความมั่งคั่งให้องค์กรฯ

2. การบริหารองค์กรฯ ถ้าโปร่งใส จะยอดเยี่ยม, ถ้าไม่โปร่งใสจะอันตราย

3.เมื่อองค์กรขยายตัวมากขึ้น กองทุนมีแนวโน้มในระดับหลายหมื่นล้าน อาจจะถึงแสนล้าน, ย่อมมีอิทธิพลต่อตลาดการเงินการลงทุน

.

......

สิ่งที่น่าวิจัย

1. ระบบสวัสดิการผู้สูงอายุ ของ ปทท. ยังล้าหลัง พรรคการเมืองควรพิจารณานโยบายทางการเมือง  จัดตั้งfunding และระบบ บ้านพักคนชราโดยเลียนแบบ model ของธรรมกาย โดยตัดเรื่องศาสนาออกไป

2. อาจจะมีองค์กรลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นโดยเอกชนในอนาคต ถ้าเอกชนทำ อาจหาจุดขายที่เกี่ยวโยงด้านความเชื่อ , ศาสนา, ชีวิตหลังความตาย เพราะตรงกลุ่มเป้าหมาย

.