ก่อนจะเข้ารีวิว ขอบอกก่อนนะครับว่าผมชอบภาคแรกมากถึงมากที่สุด วนดูในโรงถึง 5 รอบและถึงกับซื้อแผ่นมาไว้ประดับตู้ ครั้นพอภาคสองมันเข้าโรง ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอครับ พร้อมกับความคาดหวังที่มากพอประมาณ และแล้วผมก็ได้ดูภาคจบของ "มัน" เสียที

    สำหรับ IT: Chapter Two อิท โผล่จากนรก 2 นั้น จะเป็นเหตุการณ์หลังจากภาคแรกเป็นเวลา 27 ปี แก๊งขี้แพ้ (Losers Club) ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ กลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่เมืองเดอร์รี บ้านเกิดของพวกเขา เพื่อหาทางกำจัดตัวตลกเพนนีไวส์ ปีศาจตัวตลกที่สร้างความเขย่าขวัญให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้สิ้นซาก

     สาเหตุที่ผมชอบภาคแรกนั้น เพราะทุกอย่างมันลงตัวครับ ตั้งแต่เหล่าดาราเด็กที่แสดงได้ดีและเคมีก็เข้าขั้นยอดเยี่ยม การเล่าเรื่องก็น่าติดตามและจังหวะจะโคนการผวาคนดูก็พอเหมาะพอเจาะ และหนังมันกลมกล่อมพอดีคำครับ จึงไม่แปลกที่ผมจะปลื้มภาคแรกมากๆ พอมาถึงภาคนี้ ถ้าพูดกันตรงๆ คือเหล่าดารายังแสดงดีเหมือนเดิมครับ(ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่) ส่วนเรื่องราวก็น่าติดตาม และภาคนี้จังหวะตุ้งแช่และฉากสยองก็เยอะกว่าภาคแรกอยู่หลายเท่า ฉะนั้นในด้านความบันเทิงผมว่าหนังยังสนุกไล่เลี่ยภาคแรกอยู่ครับ แต่กระนั้น ผมว่าการเล่าเรื่องยังไม่คมเท่าภาคแรก

     ในภาคแรกนั้น หนังมีความยาวเพียง 2 ชั่วโมงเศษๆ ครับ ทำให้การเล่าเรื่องมันเป๊ะและจังหวะลื่นไหล แต่ในภาคนี้นั้นหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 49 นาที(ยาวขึ้นตั้งครึ่งชั่วโมง) ฉะนั้นเรื่องราวของหนังเลยยืดครับ ถ้าหนังยาวเท่าภาคแรก ผมว่าภาคนี้อาจจะเด็ดดวงสูสีภาคแรกเลยนะ แต่ก็ยังดีครับที่ผกก. ไม่ปล่อยให้พล็อตหนังกลวง เนื่องจากเนื้อหามันยืดขึ้น ช่วงต้นผกก. เลยใส่เรื่องราวของตัวละครเข้ามาเพื่อทำให้ภาคนี้บทของตัวละครดูแข็งแรงขึ้น และผมว่าหนังเล่าได้โอเคครับ ผมว่าไม่น่าเบื่อจนเกินไป(ในฉบับ Miniseries นั้นช่วงที่เล่าเรื่องตอนตัวละครมาเจอกันค่อนข้างน่าเบื่อเลยล่ะ) ถึงแม้การเล่าเรื่องในช่วงนี้อาจจะมีกระตุกกระตักบ้าง แต่ว่าเรื่องราวของตัวละครที่น่าสนใจทำให้เราให้อภัยในจุดนี้ได้

     ในช่วงกลางเรื่องนั้น ผมรู้สึกว่าหนังเริ่มผ่อน จังหวะหนังเริ่มเบาลง แต่ไม่ใช่มันผ่อนลงแบบฉับพลันนะครับ อันนั้นเรียกว่าหนังดร็อป แต่ผมว่าจุดนี้ผกก. ตั้งใจให้จังหวะหนังเบาลง เพราะเป็นช่วงที่ต้องผูกปมตัวละครในวัยผู้ใหญ่ให้สอดคล้องกับอดีตของตัวละครในวัยเด็ก เพราะฉะนั้นในช่วงนี้อาจจะมีช่วงเนือยอยู่บ้างประปราย แต่ก็ไม่ได้มากจนน่าเบื่อ ก็อย่างที่ว่าครับว่าผกก. ตั้งใจให้หนังมันช้าลง เพราะถ้าไม่ตั้งใจ ผมว่าหนังนี่ถอยหลังลงคลองแน่นอนครับ แต่อันนี้ยังดีที่ผกก. ยังประคองหนังไว้อยู่ หนังเลยยังมีจุดน่าติดตามเหลือให้ลุ้นอยู่

     ส่วนในช่วงท้าย หนังเริ่มเร่งเครื่องเร็วขึ้น เริ่มมีการขมวดปมที่ผูกไว้ตอนกลางเรื่อง และไปจนถึงฉากไคล์แมกซ์ที่ยาวมากขึ้น ข้อดีคือมันลุ้นครับ ลุ้นมากว่าตัวละครจะปราบ"มัน"สำเร็จรึเปล่า แต่ข้อเสียคือผมว่าตรงช่วงนี้หนังยาวไป บางวาระนี่มีการใส่บทให้ตัวละครเจอกับปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเราแอบรำคาณเล็กๆ ว่าทำไมยังอ้อยอิ่งกันนานจัง แต่อย่างน้อยบทสรุปผมก็ยังพอใจอยู่ครับ เพราะอย่างน้อยหนังก็ตอบโจทย์ "รวมกัน เราอยู่" ได้ดีอยู่ ยังให้ความรู้สึกถึงความสามัคคีอยู่บ้าง แม้ภาคนี้จะไม่เน้นฉากรวมพลังกันของแก๊งค์ขี้แพ้มากก็ตาม

     เท่าที่เขียนมา ดูเหมือนว่าหนังจะมีปัญหา แต่เอาจริงๆ ผมว่าหนังภาคนี้ยังมีจุดดีอยู่นะ อย่างแรกเลยคือฉากเปิดเรื่อง ผมว่าทำได้หดหู่และสยองจนจิตตกไปชั่วขณะเลย(เช่นเดียวกับภาคแรกที่ผมช็อคกับฉากการตายของจอร์จี้) และหนังก็ใส่ฉากสยองเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งผมว่าภาคนี้ฉากเหล่านี้ชัดเจนกว่าภาคแรกอยู่หลายเท่าตัวเลย มีหลายฉากที่เล่นผมอึ้งไปชั่วขณะ(เช่นฉากเป่าปานและฉากในวงกตกระจก) และจังหวะปล่อยมุกตลกที่ยังเข้าท่าเหมือนภาคแรก และในส่วนของ CG ที่ผมว่าหลายฉากทำได้ดีกว่าภาคแรก เพราะภาคแรกยังมีบางฉากที่ CG ดูลอยอย่างชัดเจน แต่ว่าภาคนี้ CG ดูเนียนตาขึ้น ตามทุนสร้างที่มากขึ้น

     สรุปแล้ว IT: Chapter Two มีจุดที่ยังด้อยกว่าภาคแรกอยู่บ้าง แต่กระนั้นก็ยังมีจุดดีให้ชมอยู่บ้าง และถ้าวัดกันในฐานะหนังสยองขวัญ ผมว่าเรื่องนี้ยังนำหน้าหนังสยองขวัญอยู่หลายเรื่องครับ แต่ถ้าวัดกับภาคแรก ภาคนี้อาจจะยังด้อยกว่าอยู่บ้าง แต่กระนั้นผมว่าหนังยังสนุกคุ้มกับค่าตั๋วที่ผมเสียไปอยู่ครับ ฉะนั้นผมว่าเรื่องนี้ผ่านครับ

คะแนนเฉลี่ยรวม : 8.5/10

เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู