สวัสดีค่ะ เนื่องจากก่อนที่เราจะตัดสินใจทำวีซ่าเนี่ย เราก็เข้ามาหาข้อมูลต่างๆจากในพันทิปนี่แหละคะ และได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆจากเพื่อนๆที่ได้แชร์ข้อมูลในพันทิป
นี่ก็ถึงคราวที่เราอยากจะตอบแทนสังคมบ้าง555555555 โดยการแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าเนเธอร์แลนด์ ขั้นตอนและปัญหาต่างๆที่ได้เจอมากับตัวเองบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่เตรียมตัว เตรียมใจ จะไปขอวีซ่าของประเทศนี้คะ

เริ่มจากอันดับแรกค่ะ เนื่องจากเราทำวีซ่าประเภท visiting family and friends (เยี่ยมแฟน)จึงต้องเตรียมเอกสาร2ฝั่งนะคะ ของแฟนและของเรา

เริ่มจากเอกสารส่วนของ จขกท ค่ะ 
1.เพื่อนๆต้องมีใบนัด Appointment letter ซึ่งเพื่อนๆต้องเข้าไปที่หน้าเว็บของ VFS Netherlands สมัครสมาชิกก่อน และเราถึงจะทำการนัดหมายออนไลน์และเลือกวันที่เราพร้อมจะไปยื่นเอกสารค่ะ จขกท รวบรวมเอกสารพร้อมตั้งแต่5-6มีนา ก็เข้าเว็บจะนัดวันไปยื่น แต่คือคิวแน่นเว่อร์ วันที่เร็วที่สุดคือ 3เมษาค่ะ คุณพระ!!! รอไปค่ะ1เดือน ช่วงมีนา-เมษา คนมาทำวีซ่าไปเที่ยวเนธอร์แลนด์เยอะมาก เพราะเป็นหน้าHigh season ของเขา ดอกทิวลิปบานช่วงนี้ค่ะ แล้วคือ จขกท กะว่าจะบินต้นเดือนพ.ค. เนื่องจากลางานได้พอดี (เตรียมเอกสารของเราทั้งหมดให้พร้อมก่อนนัดนะคะ ถ้านัดแล้วแต่เอกสารไม่พร้อมหรือติดขัดอะไรเราสามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดได้1ครั้งค่ะ ทางที่ดีควรแน่ใจก่อนว่าเราพร้อมเอกสารแล้วจริงๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอาจจะยิ่งทำให้เราได้คิวช้าไปอีก)
มีคิว2ช่วงนะคะ เช้า และบ่าย จขกท เลือกคิว15.00น. ค่ะ วันไปยื่นเอกสารมีเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นด้วยค่ะ เดี๋ยวจะเล่าต่อตอนท้ายนะคะ
เว็บนี้นะคะ  https://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/Thai/

2.ใบคำร้องขอวีซ่าเนเธอร์แลนด์ค่ะ ดาวโหลดแบบฟอร์มในเว็บ VFS netherlands ได้เลยค่ะ พิมพ์ออกมา แล้วค่อยกรอกข้อมูลของเราด้วยปากกาก็ได้ค่ะ (อันนี้ จขกท โทรถามเจ้าหน้าที่ก่อนไปยื่นเอกสาร เขาบอกใช้ปากกาเขียนได้นะคะ และถ้าช่องไหนเราไม่มั่นใจก็เว้นไว้แล้วไปถามเจ้าหน้าที่ให้เค้าช่วยอธิบายและเขียนที่นั่นได้ค่ะ  อันนี้คอนเฟิมมมม)

3.passport เล่มปัจจุบัน และเล่มเก่าถ้ามี + สำเนาpassport หน้าแรก 2ใบ และถ่ายเอกสารpassportเล่มปัจจุบันทุกหน้าที่เคยได้แสตมป์เข้าออกนอกประเทศต่างๆ รวมทั้ง visa ต่างๆที่เคยได้ ถ่ายให้หมดค่ะ 1ชุด

4.รูปถ่าย พื้นหลังสีขาว 2นิ้ว เปิดหน้าผาก เปิดหูด้วย (จขกท หูเล็กมากกกก ถ่ายออกมาผมบังหู1ข้างนิดเดียวเองคิดว่าไม่เป็นไรแต่เป็นไรค่ะ ต้องถ่ายใหม่ อย่างเซง  -_- )   ถ่ายครึ่งโหลพอนะ เพราะจริงๆใช้2รูป  เห้ออออออ

5.จดหมายแนะนำตนเองค่ะ อธิบายว่าเราเป็นใคร ชื่อไร อยู่ที่ไหน ทำงานการอะไร ขอวีซ่าไปเพื่ออะไร ระหว่างไปจะไปพักที่ไหน (จขกท ไปเจอครอบครัวแฟน อยู่บ้านแฟน ก็บอกไปแบบนี้) บอกความสัมพันธ์ของเรากับแฟนคราวๆว่ารู้จักกันได้อย่างไร คบกันมานานเท่าไหร่ และ มีแพลนจะไปที่ไหนบ้างในประเทศเค้า ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในระหว่างที่อยู่ประเทศเค้า  (จขกท เป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ต้องยื่น bank statement ของตัวเองด้วยค่ะ )

6.plan trip  แพลนการเดินทางคราวๆค่ะ จะทำเป็นตารางคราวๆ บอกว่าวันนี้จะไปไหน ไปอย่างไร นอนที่ไหน ใส่ที่อยู่ด้วยก็ดีนะคะ ให้เค้ารู้ว่าเราจริงใจบอกให้หมด 55555555

7.บัตรประชาชน อันนี้เราเอาไปแปลเป็นอังกฤษมาด้วยนะคะ แปลที่ร้านสหกรณ์ในกงสุลแผ่นละ 150 บาท + ค่าประทับตรารับรองเอกสารจากกงสุล 400บาท
8.บัตรประจำตัวข้าราชการ แปลด้วย แผ่นละ 250บาท + ค่าประทับตรารับรองเอกสารจากกงสุล 400บาท
9.ใบรับรองการทำงาน แปลอีก แผ่นละ300บาท + ค่าประทับตรารับรองเอกสารจากกงสุล 400บาท
10.ใบรับรองเงินเดืน ยังจะแปลด้วยจ่ะ แผ่นละ300 + ค่าประทับตรารับรองเอกสารจากกงสุล
11.ใบทะเบียนบ้าน แปลอีกจ้าาา หน้าละ200 แปล2หน้า เนื่องจากเราเป็นเจ้าบ้านต้องแปลหน้าสุดท้ายด้วย+ ค่าประทับตรารับรองเอกสารจากกงสุล400บาท
(สำหรับเพื่อนบางคนคิดว่าในส่วนนี้ใบไหนไม่จำเป็นก็ไม่ต้องแปลก็ได้นะคะประหยัดอันไหนได้ก็ประหยัดไปเถอะคะ แต่เราอยากเซฟไว้ก่อนกลัวเค้าใช้แล้วเราไม่มีก็เลยยอมเสียเงิน) 

12.Bank statement ของตัวเอง ขอ 3 หรือ 6 เดือน (หรือกรณีที่แฟนเป็นสปอนเซอร์ต้องใช้ statement ของแฟนมายื่นด้วยนะคะ) จขกทเป็นสปอนเซอร์ตัวเอง  ใช้2บัญชียื่นนะคะ เป็นบัญชีเงินเก็บกับบัญชีเงินเดือน บัญชีเงินเก็บมีพอสมควร + บัญชีเงินเดือนมีแค่แสนกว่าบาทเองค่ะ เคยอ่านเจอในพันทิป บางคนมี8-9หมื่นก็วีซ่าผ่านนะคะ มันขึ้นอยู่กับหลายๆส่วนนะคะ อันนี้อย่าซีเรียสมากน้าาา  อันนี้สามารถขอผ่านแอปของธนาคารที่เรามีได้เหมือนกันค่ะ เข้าจะส่งให้เราทาง E-mail ฟรีนะคะ
หรือจะไปขอที่ธนาคารก็ได้ค่ะ จขกท ไปขอที่ธนาคารค่ะ ขอเป็นอังกฤษ ตรงส่วนหัวกระดาษจะมีตราธนาคารด้วย ราคาประมาณ 300-400บาทค่ะไม่แน่ใจ รอรับได้เลย

13.Insurance ประกันการเดินทาง อันนี้สำคัญมากๆๆ ถ้าไม่มีประกันวีซ่าไม่ผ่านแน่นอนนะคะ ให้เพื่อนๆเข้าไปดูในเว็บ VFS นะคะ ว่าบริษัทอะไรบ้างที่สถาณฑูตเนเธอร์แลนด์รับรอง ก็เลือกดูเอาเลยค่ะ ของ จขกท ซื้อของ เมืองไทยประกันภัยค่ะ สามารถซื้อผ่านแอป K Plus ของกสิกรได้เลยค่ะ กสิกรเค้าทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายประกันให้เมืองไทยประกันภัยค่ะ เราก็ใส่ข้อมูลของเรา เลือกแผน วงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 1,500,000บาท ตามที่สถาณฑูตกำหนด แล้วจ่ายเงินทางแอป หลังจากนั้นทางธนาคารจะส่งกรมธรรม์ให้เราทันทีทาง E-mail เราก็ปริ้นจากE-mail นำไปยื่นวีซ่าได้เลยค่ะ อ่อ จำนวนวันที่ซื้อประกันต้องครอบคลุมตั้งแต่วันที่เราเดินทางออกนอกประเทศไทยจนถึงวันกลับถึงประเทศไทยนะคะ ห้ามขาดนะคะ 

14.ใบจองตั๋วเครื่องบิน จขกท จองของ KLM airlines จองก่อนวันไปยื่นวีซ่า1วันค่ะ และถ้าเรายังไม่กดจ่ายเงินอายุการจองอยู่ได้48ชม.ซึ่งวันที่เราไปยื่นวีซ่าใบนี้ก็ยังไม่หมดอายุ แต่กว่าVFSจะส่งเรื่องเราไปยัง Netherlands Embassy ที่กัวลาลัมเปอร์ ใบนี้ก็หมดอายุแล้วแต่ไม่ส่งผลอะไรกับวีซ่าที่เค้าจะให้เราค่ะ  ใบจอง ทางสายการบินเค้าจะส่งมาให้ทาง E-mail เราก็ปริ๊นทุกใบที่เค้าส่งมาเลยนะคะ 
 
15.รูปถ่ายเรากับแฟน อันนี้ก็สำคัญค่ะ เลือกรูปถ่ายที่เรากับแฟนไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างกับเราและครอบครัวเราระหว่างที่อยู่ไทย รวมถึง ข้อความแชทต่างๆที่เราคุยกันด้วยค่ะ  จขกท แนบรูปไปประมาณ 20รูป เจ้าหน้าที่เก็บไปหมดเลยค่ะ

ต่อเอกสารของจากทางแฟนนะคะ
เนื่องแฟนยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เค้ายังอยู่กับพ่อแม่ เราเลยต้องใช้เอกสารของพ่อเค้า คือให้พ่อเค้าเป็นสปอนเซอร์ให้เราสำหรับที่อยู่ในขณะที่เราอยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ พ่อเค้าจึงต้องไปทำเรื่องขอใบเชิญจาก city hall จากเมืองที่เค้าอยู่ โดยต้องมีสำเนาpassportของเรา กรอกข้อมูลเราลงในใบเชิญ และต้องได้แสตมป์จากcity hallด้วยนะคะ เรียกว่าใบ Bewijs van garantstelling en/of particulire logiesverstrekking พิมพ์ยากเว่อ =='

16.ใบBewijs van ฯ ขอเรียกว่าจดหมายเชิญจากพ่อแฟนละกันนะคะ ถ่ายสำเนาเอาไปยื่นนะคะ ตัวจริงเก็บไว้กับตัวตอนเราไปถึง immigration ที่นั่นค่ะ เพราะเค้าจะขอดูด้วย ซึ่งตอน จขกทไปถึง ตม ที่นู่น เจ้าหน้าที่ถามเยอะเหมือนกันค่ะ เราเลยเอาเอกสารยื่นให้ดู ทั้งรูป ทั้งที่อยู่ สำเนาpassportพ่อแม่ แฟน แพลนเดินทาง ตั๋วเครื่องบินวันกลับ เจ้าหน้าที่ดูเสร็จ พูดกับจขกทว่า your ducuments are PERFECT!! have a good time in The netherlands.

17.จดหมายแนะนำตัวของพ่อแฟน ว่าเป็นใคร สปอนเซอร์ให้ใครมาพักอยู่ที่บ้าน เพราะอะไรทำไมถึงอยากเชิญเรา บลาๆๆๆ

18.สำเนาpassport พ่อแฟน + ของแม่แฟนด้วย พร้อมเซ็นชื่อ

19.จดหมายแนะนำตัวของแฟนเรา ว่าเป็นใคร ชื่ออะไร คบกับเรามานานแค่ไหน ทำไมถึงอยากให้เรามาที่เนเธอร์แลนด์ บลาๆๆ ตามเรื่องตามราว

20.สำเนาpassport แฟนเรา ถ่ายสำเนาทุกหน้าในpassportที่เคยได้แสตมป์เข้าออกประเทศต่างๆ

21.แผนที่บ้านของพ่อแฟน พิมพ์จาก google map ไปใช้ได้ หรือถ้ามีรูปถ่ายของบ้านก็ได้

ครบแล้วค่ะ เอกสารที่ จขกท ใช้ยื่นทั้งหมด จะบอกว่า หนามากค่ะ

หลักจากเอกสารพร้อมแล้ว ถึงวันนัดเราก็ไป กทมค่ะ 
จขกท ขับรถจากราชบุรีไปนอนดอนโดพี่สาวแถววงศ์สว่าง ก่อนวันนัด1คืน เช้าวันนัดไป ก็นั่ง bts ไปลงสถานีนานา ออกทางออก3 ลงบันไดแล้วเดินไปนิดหน่อย เข้าซอย สุขุมวิท 13 ขวามือจะมี 7/11 เดินอีกนิดหน่อย จะเจอตึก เทรนดี้ค่ะ  เข้าไปจะมีประชาสัมพันธ์ ก็เข้าไปนำใบนัดให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าจะพาเราไปขึ้นลิฟท์ ชั้น28ค่ะ 

เรานัด 15.00น. เราไปถึง ก่อนเที่ยงนิดหน่อยค่ะ คือตอนแรกเข้าตึกมาก็สงสัยว่าทำไมข้างในมืดจัง คือไม่สว่างเท่าที่ควรจะเป็น ที่นี้เรานึกขึ้นได้ว่าลืมถ่ายเอกสารหน้าสมุดบัญชี เราก็เดินหาร้านถ่ายเอกสาร เลยลองเปรยๆถามเค้าว่าทำไมในตึกดูมืดจังเลยคะ พี่เค้าบอกว่า ไฟดับ ฝนตกเมื่อเช้า ฟ้าผ่าหม้อแปลงเลยระเบิด มีไฟใช้ได้แค่บางจุด ถึงว่าคนมานั่งออกันตามทางเดินเยอะแยะเลยค่ะ ร้อนด้วย ซึ่งทำให้คิวที่นัดไว้ช้าลง ประกอบกับมีคนมาทำวีซ่าประเทศอื่นอีกเยอะ คนจึงเยอะมากๆๆ เจ้าหน้าไฟฟ้าก็มาแก้ปัญหา ออฟฟิศของบางประเทศใช้ไฟได้ตั้งแต่ช่วงบ่าย3 แต่ทางออฟฟิศของเนเธอร์แลนด์ซึ่งใช้หม้อไฟคนละอันกันกับของอังกฤษ ออสเตรเลีย ยังไม่สามารถใช้ไฟได้ เราก็ขึ้นไปชั้น28 บอกเจ้าหน้าที่เรานัดไว้วันนี้3โมงเย็น เราสามารถวันนี้ทันมั้ย เจ้าหน้าที่ไม่รับปากว่าไฟจะใช้ได้เมื่อไหร่ เราบอกว่าเราจะรอเพราะไม่อยากไปๆกลับๆ กทม ราชบุรีหลายรอบ เลยถามเค้าว่าจะอยู่ทำงานจนถึงกี่โมงปิดทำการกี่โมง เราจะรอ เจ้าหน้าที่บอกจะอยุ่จนผู้สมัครคนสุดท้ายกลับบ้าน เราก็โอเค งั้นเราอยู่ด้วย เออ เราได้คุยกับคนที่มาทำวีซ่าเนเธอร์แลนด์วันเดียวกัน เขานัดบ่ายโมง เขามาจากอุดรธานี ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไว้แล้ววันนี้ด้วย ซึ่งน่าเห็นใจมากๆๆ เสียเวลา เสียดายเงินมากเลยมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ (แต่เราไม่ได้โทษเจ้าหน้าทีนะคะ แค่อยากจะเล่าให้ฟังว่าเราเผิอญโชคร้ายวันนั้นพอดีเลย) 

สรุปเลยคือ วันนั้นเราไม่สามารถยื่นเอกสารได้ เพราะเครื่องแกรนนิ้วมือไม่สามารถทำงานได้
เจ้าหน้าที่จึงให้เรานัดใหม่เป็นวันพรุ่งนี้แทน เราก็โอเค ทำไงได้หล่ะ เค้าก็เจอเหมือนเรากันทุกคน ก็เลยต้องกลับไปนอนคอนโดพี่อีกคืน แล้วเช้าค่อยมาใหม่ ส่วนอีกคนที่เราคุยด้วยเค้าก็ต้องหาโรงแรมนอนอีกคืนนึง ต้องทิ้งตั๋วเครื่องบันวันนั้นไป เห้อออออ สงสารมาก
ค่าธรรมเนียมวีซ่านะคะ  2160 บาท +Vfs service 900 บาท + sms service 70 บาท + ค่า courier charges 220บาท = 3350 บาทค่ะ 

หลังจากยื่นเรื่องไปวันที่4เมษา รอsms แจ้งสถานะวีซ่า และผลทางไปรษณีย์ 15วันทำการไม่นัดวันหยุดเสาร์อาทิตย์
จนวันที่17 sms แจ้ง passport จากกัวลาลัมเปอร์ ส่งกลับมาไทยแล้ว รอรับทางไปรษณีย์ หลังจากนั้นอีกประมาณ ครึ่งชม เจ้าหน้าที่VFS โทรมาค่ะบอกว่าทางกัวลาลัมเปอร์ติดสติกเกอร์วีซ่าให้เราผิด ซึ่งไม่ได้บอกว่าผิดเพราะอะไร เพราะออกผิดประเภทที่เราขอหรืออะไร หรือเราไม่ได้วีซ่า 
ต้องส่งpassport เรากลับไปมาเลเซียอีกครั้งเผื่อออกสติกเกอร์ใหม่ ซึ่งไม่รู้ใช่เวลานอนแค่ไหน (ช่วงนี้คือเราอยากจะซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วเพราะแพลนจะไปต้น พค. กลัวซื้อตั๋วแพง!!!)  สรุปเลยคือเราได้passportคืน วันที่26 แล้วซื้อตั๋วเครื่องบินวันนั้นเลย!! 
บิน emirates ได้มาราคา26000 ราคาพอรับได้ เห้อออออออ 

สรุปอีก ที่เราได้ช้า เพราะเจ้าหน้าที่ทางมาเลเซียติดหน้าสติกเกอร์ผิดให้เราแบบว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยจ้า 
สติกเกอร์วีซ่าคือเอาหน้าคนอื่นมาข้อมูลของคนอื่นมาหมดเลยจ้าาาาา เจ้าหน้าที่คงจะมึน 5555555555 คนขอวีซ่าเยอะ
ก็นี่แหละค่ะ ที่เราอยากจะแชร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆคนอื่นที่กำลังหาข้อมูลทำวีซ่าเนเธอร์แลนด์อยู่นะคะ ถ้ามีเวลา ลองทำเองดูน้า สนุกเหมือนกันนะ ตื่นเต้นด้วย 5555555555 ขอให้วีซ่าผ่านทุกคนเลยนะค๊าาาา