✝️เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพ่อคอร์ซี่✝️

คุณพ่อคอร์ซี่เลอแกสบี้เป็นบาดหลวงชาวฟิลิปปินส์ซึ่งพบว่าตนเองได้รับพระพรในการวอนขอการรักษาอย่างพิเศษโดยบังเอิญจากกรณีคุณแม่ของคุณพ่อป่วยและท่านได้หายจากการวอนขอของคุณพ่ออย่างอัศจรรย์จากนั้นเป็นเวลาหลายสิบปีที่คุณพ่ออุทิศตนในการเดินทางไปทั่วโลกเพื่อนำพระพรจากพระเจ้าไปช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย
คุณพ่อเคยมาเมืองไทยเมื้อนานแล้วและกลับมาโด่งดังในเมืองไทยขึ้นมาอีกครั้งกรณีคุณปิ่นเก็จมณีที่หายจากการพิการที่ต้องนั่งรถเข็นอย่างอัศจรรย์ซึ่งครอบครัวคุณเจสามีคุณปิ่นเป็นโปรแตสแตนท์แต่คุณปิ่นกลับใจรับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกที่วัดมหาไถ่เพราะได้มีความเชื่อในพระเจ้าจากการรักษาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผ่านคุณพ่อคอร์ซี่
แต่ในอีกด้านก็มีความเข้าใจผิดหลายเรื่องเกี่ยวกับคุณพ่อที่คิดว่าต้องทำความเข้าใจกันสักที(ในฐานะที่ผมเคยช่วยรับใช้คุณพ่อในเวลาคุณพ่อมาเมืองไทยในบางครั้งและเคยสนทนาพูดคุยกับคุณพ่อเป็นการส่วนตัวหลายครั้งและผู้ดูแลคุณพ่อคือคุณเมธาเป็นเพื่อนของคุณแม่ผมและเป็นคุณอาที่ผมเคารพ) จึงจะขออนุญาตสรุปเป็นข้อๆดังนี้
1.พระพรมาจากพระเจ้าคุณพ่อคือท่อพระพรไม่ใช่พลังของพ่อเองทุกครั้งที่มีเปิดรับรักษาคุณพ่อจะย้ำเสมอว่าพระพรมาจากพระเจ้าใครที่หายดีคุณพ่อจะให้ไปขอบคุณพระเยซูที่ตู้ศีล
2.คุณพ่อจะขอให้มีมิสซาก่อนเสมอเพื่อยืนยันหลักการนี้
3.บางครั้งคุณพ่อทำอะไรแปลกๆเช่นใช้โทรศัพท์โดยโทรศัพท์แล้วให้คนในงานอีกคนรับแล้วส่งพระพรผ่านโทรศัพท์แล้วหายหรือการที่คุณพ่อให้เด็กหรือคนอื่นมาจับมือพ่อแล้วให้คนนั้นจับคนป่วยเหมือนให้พรผ่านคนอื่น(ผมเคยถูกพ่อเรียกไปเป็นสื่อกลางครั้งหนึ่ง) แล้วคนป่วยก็หายทั้งหมดทั้งมวลพ่อทำเพื่อจะสื่อว่าไม่ได้จำเป็นต้องมาในเจอคุณพ่อโดยตรงก็ได้และพ่อเองเป็นเพียงทางผ่านของพระเจ้าเหมือนโทรศัพท์เหมือนเด็กเหมือนใครๆก็ได้ขอเพียงเรามีความเชื่อดังนั้นบางครั้งคุณพ่อไปไม่ได้คุณพ่ออวยพรผ่านรูปพระแล้วให้เอารูปพระไปให้คนป่วยหรืออวยพรทางโทรศัพท์ขอให้มีความเชื่อในพระเจ้าท่านก็สามารถได้ีรับพระพรได้ระยะทางและความห่างไม่สำคัญ
4.บางคนคุณพ่อต้องสัมผัสแต่บางคนคุณพ่อแค่มองจ้องแล้วอธิษฐานภาวนาให้ก็หายได้ดังนั้นสาระสำคัญคือพระเจ้าฟังคำภาวนาและเห็นความเชื่อของเราไม่เกี่ยวกับว่าร่างกายพ่อจะศักดิ์สิทธิ์หรืออะไร
5.บางคนมาหลายครั้งหายบางคนมาครั้งเดียวหายบางคนมาหลายครั้งก็ไม่หายสักทีคุณพ่อบอกเสมอว่ามันเป็นสิทธิ์อำนาจของพระเจ้าจริงๆพ่อไม่สามารถตอบได้เลยว่าทำไมพระองค์รักษาบางคนแต่ให้บางคนยังคงอยู่กับโรคทำไมบางคนทันทีบางคนอยู่ในเวลาของพระองค์พ่อบอกว่าแม้แต่พ่อเองก็ไม่รู้โปรดอย่าถามพ่อ
6.กับบางคนพ่อผ่านไปไม่รักษาซึ่งบางคนผิดหวังโกรธหรือไม่พอใจพ่ออธิบายว่าในบางคนพ่อรู้โดยการไขแสดงส่วนบุคคลภายในวิญาณของพ่อว่าพระเจ้าจะยังไม่รักษาเขาพ่อเลยไม่สัมผัสเลยให้คนด่าพ่อหรือเข้าใจว่าพ่อไม่ดีไม่เป็นไรดีกว่าสัมผัสแล้วเขาไม่หายเลยแล้วเขาเสียความเชื่อในพระเจ้า
7.พ่อไม่ให้ถ่ายภาพจนกว่าจะถึงช่วงอนุญาตเพราะเคยมีคนเอาภาพการรักษาของพ่อไปบิดเบือนใส่ร้ายใส่ความหรือหาประโยชน์ขอให้เข้าใจคุณพ่อด้วย
8.บางครั้งมีการวางมือแล้วล้มลงพ่อไม่เคยขอหรือบอกว่าต้องล้มบางคนล้มเองบางคนไม่ล้มจะมีคนเป็นอาสาสมัครมาพยุงไม่ให้หัวฟาดพื้นหากท่านรู้สึกหมดสติไม่ต้องกังวลมีคนคอยรับแต่หากท่านไม่ล้มไม่ต้องกังวลผมก็ไม่ล้ม
9.มีการจัดระเบียบคนป่วยแยกประเภทต่างๆตามลำดับขอให้ตามระเบียบซึ่งหากการป่วยของท่านอาจจะรอนานหรือได้คิวทีหลังทั้งที่อุตส่าห์มาก่อนขอให้เข้าใจ
10.ตอนจบของพิธีคุณพ่อจะให้ทุกคนสามารถมาสัมผัสพ่อพร้อมกันพ่อเข้าใจว่าทุกคนมาแล้วก็อยากรับพรแม้แต่คนไม่ป่วยผมเคยทำหน้าที่ช่วยพยุงแขนคุณพ่อ2-3ครั้งอยากบอกว่าคุณพ่อต้องเจอความเจ็บปวดทุกครั้งนะครับไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติอะไรนะแต่คือคนที่มาจับพ่อมีบางคนดึงมือดึงนิ้วดึงแขนหรือจับพ่อแรงส่วนตัวผมรู้สึกพ่ออุทิศตัวมากแขนพ่อกางเหมือนโดนตรึงกางเขนเลยแล้วคนก็มารุมดึงจนแขนพ่อตึงสุดๆดังนั้นแค่แตะ(หรือแม้แต่แตะคนที่แตะพ่อ)ก็ได้ร่วมอธิษฐานกับพ่อแล้วเชื่อผมไม่ต้องกำนิ้วพ่อแล้วดึงไปหาตัวเองอะไรแบบนี้
11.พ่อเองมีอายุมากแล้ว70กว่าแล้วและพ่อมีโรคประจำตัวคือเบาหวานและอื่นๆตามวัยอยากให้เข้าใจหากบางทีหน้าพ่อดูหงุดหงิดหรือเหนื่อยพ่อจะต้องมีลูกอมคอยอมระหว่างรักษาเพราะบางทีพ่อจะหน้ามืดเพราะเหนื่อยมาก
12.พ่อไม่ได้อยากไปวัดไหนก็ได้ไปวัดที่พ่อไปมีเงี่อนไขสำคัญคือพ่อเจ้าวัดยินดีให้พ่อใช้สถานที่ตลอดจนยินดีทำมิสซาก่อนการรักษาของพ่อ(พ่อพูดไทยไม่ได้จึงไม่ทำเองซึ่งพ่อจะร่วมในมิสซาอย่างสุภาพ) ดังนั้นขอให้ทราบว่ามีบางวัดที่พ่อเจ้าวัดปฏิเสธคุณพ่อจึงไม่ใช่คุณพ่อที่เลือกไปวัดไหนก็ได้
13.การเดินทางข้ามประเทศของคุณพ่อขอให้เข้าใจว่านี่คือการเดินทางของผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยไม่สามารถสมบุกสมบันได้ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายและค่าดูแลเช่นค่าโรงแรมค่ารถ(ที่ต้องสะดวกสบายสักหน่อย) ปกติพ่อจะมีเยาวชนที่ติดตามช่วยดูแลพ่อ1คนจากฟิลิปปินส์ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายให้เขาตลอดเวลาที่ผ่านมาเวลาพ่อมาไทยมีสปอนเซอร์ทุกครั้งซึ่งก็คือผู้ที่หายป่วยจากการรักษาของพ่อต้องการตอบแทนพระเจ้าโดยทำบุญค่าเดินทางค่าที่พักค่าอาหารฯลฯให้พ่อเดินทางมาช่วยเหลือผู้อื่น
14.มีคนมาคอมเม้นท์เสมอๆว่าอยากให้พ่อไปวัดของตนบ้างโดยเฉพาะตามต่างจังหวัดผมขอแจ้งว่าไม่ใช่พ่อไม่อยากที่จะไปต่างจังหวัดแต่ต้องมีเงื่อนไขจากข้อ12และ13 คือพ่อเจ้าวัดของวัดท่านยินดีต้อนรับพ่อยินดีทำมิสซาและมีผู้ยินดีสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ(โดยเฉพาะการเดินทางและที่พักที่ต้องเข้าใจว่าสำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวที่ต้องมีผู้ดูแลและผู้ติดตาม)
15.หากท่านใดอยากให้พ่อไปที่ไหนแล้ววัดท่านพร้อมเงื่อนไขต่างๆท่านพร้อมโปรดติดต่อที่คุณเมธา084-434-1961
16.คุณพ่อยินดีรักษาทุกคนแม้คนต่างศาสนาการรักษานักบวชในศาสนาอื่นเป็นสิ่งที่พ่อทำเป็นประจำแต่ท่านจะต้องมีความเชื่อว่าผู้รักษาคือพระเจ้าไม่ใช่คุณพ่อและถ้าท่านหายดีขึ้นมาก็โปรดโมทนาขอบคุณพระเจ้าแต่พ่อก็ไม่บังคับให้ท่านเปลี่ยนศาสนาแต่อย่างใดทั้งสิ้น
17.พ่อมาเมืองไทยประมาณปีละ2ครั้ง(ช่วงนี้และอีกทีต้นปี)
18.คุณพ่อไม่เรียกเงินทองในการรักษา(ถุงทานในมิสซาเป็นของวัดที่เอื้อเฟ้อสถานที่) พ่อจะไม่ให้ท่านกินของอะไรแปลกๆไม่มียาแปลกๆอะไรขายหรือแจกมีแค่การอธิษฐานวิงวอนขอพระเจ้าให้ผู้รับการรักษาไม่มีเงื่อนไขว่าต้องเลิกไปหาหมอแผนปัจจุบันด้วย
ดังนั้นเพียงท่านมีความเชื่อและสละเวลาเดินทางมาร่วมมิสซาท่านก็เข้าร่วมรับการอวยพรได้แต่หากท่านไม่เชื่อท่านก็แค่ไม่ต้องมาหากจะพูดเอาเท่ห์ว่าขอการรักษาจากพระเยซูผู้เดียวไม่เชื่อในตัวพ่อก็ดีแล้วพ่อก็สอนแบบนั้นตลอดหรือถ้าใครไม่เชื่อเรื่องศาสนาเลยจะมองว่าคนที่เชื่องมงายก็สบายใจได้พ่อไม่เรียกเงินคนป่วยหรือขอให้เขาเลิกไปหาหมอหรือให้กินอะไรทั้งนั้นขอให้สบายใจได้ว่าอย่างมากถ้าจะเสียแค่เสียเวลาไม่กี่ชั่วโมงพ่อมาไม่กี่วันพ่อก็กลับ
สุดท้ายนี้หวังว่าทั้งชาวคริสต์และผู้ไม่ใช่ชาวคริสต์ผู้ที่จะเข้าร่วมและผุ้ที่จะไม่เข้าร่วมจะเข้าใจในพันธกิจรับใช้พระเจ้าและเพื่อนพี่น้องของพ่อคอร์ซี่มากขึ้น
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ
CR. : จิตศรัทธา
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพ่อคอร์ซี่
คุณพ่อคอร์ซี่เลอแกสบี้เป็นบาดหลวงชาวฟิลิปปินส์ซึ่งพบว่าตนเองได้รับพระพรในการวอนขอการรักษาอย่างพิเศษโดยบังเอิญจากกรณีคุณแม่ของคุณพ่อป่วยและท่านได้หายจากการวอนขอของคุณพ่ออย่างอัศจรรย์จากนั้นเป็นเวลาหลายสิบปีที่คุณพ่ออุทิศตนในการเดินทางไปทั่วโลกเพื่อนำพระพรจากพระเจ้าไปช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย
คุณพ่อเคยมาเมืองไทยเมื้อนานแล้วและกลับมาโด่งดังในเมืองไทยขึ้นมาอีกครั้งกรณีคุณปิ่นเก็จมณีที่หายจากการพิการที่ต้องนั่งรถเข็นอย่างอัศจรรย์ซึ่งครอบครัวคุณเจสามีคุณปิ่นเป็นโปรแตสแตนท์แต่คุณปิ่นกลับใจรับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกที่วัดมหาไถ่เพราะได้มีความเชื่อในพระเจ้าจากการรักษาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผ่านคุณพ่อคอร์ซี่
แต่ในอีกด้านก็มีความเข้าใจผิดหลายเรื่องเกี่ยวกับคุณพ่อที่คิดว่าต้องทำความเข้าใจกันสักที(ในฐานะที่ผมเคยช่วยรับใช้คุณพ่อในเวลาคุณพ่อมาเมืองไทยในบางครั้งและเคยสนทนาพูดคุยกับคุณพ่อเป็นการส่วนตัวหลายครั้งและผู้ดูแลคุณพ่อคือคุณเมธาเป็นเพื่อนของคุณแม่ผมและเป็นคุณอาที่ผมเคารพ) จึงจะขออนุญาตสรุปเป็นข้อๆดังนี้
1.พระพรมาจากพระเจ้าคุณพ่อคือท่อพระพรไม่ใช่พลังของพ่อเองทุกครั้งที่มีเปิดรับรักษาคุณพ่อจะย้ำเสมอว่าพระพรมาจากพระเจ้าใครที่หายดีคุณพ่อจะให้ไปขอบคุณพระเยซูที่ตู้ศีล
2.คุณพ่อจะขอให้มีมิสซาก่อนเสมอเพื่อยืนยันหลักการนี้
3.บางครั้งคุณพ่อทำอะไรแปลกๆเช่นใช้โทรศัพท์โดยโทรศัพท์แล้วให้คนในงานอีกคนรับแล้วส่งพระพรผ่านโทรศัพท์แล้วหายหรือการที่คุณพ่อให้เด็กหรือคนอื่นมาจับมือพ่อแล้วให้คนนั้นจับคนป่วยเหมือนให้พรผ่านคนอื่น(ผมเคยถูกพ่อเรียกไปเป็นสื่อกลางครั้งหนึ่ง) แล้วคนป่วยก็หายทั้งหมดทั้งมวลพ่อทำเพื่อจะสื่อว่าไม่ได้จำเป็นต้องมาในเจอคุณพ่อโดยตรงก็ได้และพ่อเองเป็นเพียงทางผ่านของพระเจ้าเหมือนโทรศัพท์เหมือนเด็กเหมือนใครๆก็ได้ขอเพียงเรามีความเชื่อดังนั้นบางครั้งคุณพ่อไปไม่ได้คุณพ่ออวยพรผ่านรูปพระแล้วให้เอารูปพระไปให้คนป่วยหรืออวยพรทางโทรศัพท์ขอให้มีความเชื่อในพระเจ้าท่านก็สามารถได้ีรับพระพรได้ระยะทางและความห่างไม่สำคัญ
4.บางคนคุณพ่อต้องสัมผัสแต่บางคนคุณพ่อแค่มองจ้องแล้วอธิษฐานภาวนาให้ก็หายได้ดังนั้นสาระสำคัญคือพระเจ้าฟังคำภาวนาและเห็นความเชื่อของเราไม่เกี่ยวกับว่าร่างกายพ่อจะศักดิ์สิทธิ์หรืออะไร
5.บางคนมาหลายครั้งหายบางคนมาครั้งเดียวหายบางคนมาหลายครั้งก็ไม่หายสักทีคุณพ่อบอกเสมอว่ามันเป็นสิทธิ์อำนาจของพระเจ้าจริงๆพ่อไม่สามารถตอบได้เลยว่าทำไมพระองค์รักษาบางคนแต่ให้บางคนยังคงอยู่กับโรคทำไมบางคนทันทีบางคนอยู่ในเวลาของพระองค์พ่อบอกว่าแม้แต่พ่อเองก็ไม่รู้โปรดอย่าถามพ่อ
6.กับบางคนพ่อผ่านไปไม่รักษาซึ่งบางคนผิดหวังโกรธหรือไม่พอใจพ่ออธิบายว่าในบางคนพ่อรู้โดยการไขแสดงส่วนบุคคลภายในวิญาณของพ่อว่าพระเจ้าจะยังไม่รักษาเขาพ่อเลยไม่สัมผัสเลยให้คนด่าพ่อหรือเข้าใจว่าพ่อไม่ดีไม่เป็นไรดีกว่าสัมผัสแล้วเขาไม่หายเลยแล้วเขาเสียความเชื่อในพระเจ้า
7.พ่อไม่ให้ถ่ายภาพจนกว่าจะถึงช่วงอนุญาตเพราะเคยมีคนเอาภาพการรักษาของพ่อไปบิดเบือนใส่ร้ายใส่ความหรือหาประโยชน์ขอให้เข้าใจคุณพ่อด้วย
8.บางครั้งมีการวางมือแล้วล้มลงพ่อไม่เคยขอหรือบอกว่าต้องล้มบางคนล้มเองบางคนไม่ล้มจะมีคนเป็นอาสาสมัครมาพยุงไม่ให้หัวฟาดพื้นหากท่านรู้สึกหมดสติไม่ต้องกังวลมีคนคอยรับแต่หากท่านไม่ล้มไม่ต้องกังวลผมก็ไม่ล้ม
9.มีการจัดระเบียบคนป่วยแยกประเภทต่างๆตามลำดับขอให้ตามระเบียบซึ่งหากการป่วยของท่านอาจจะรอนานหรือได้คิวทีหลังทั้งที่อุตส่าห์มาก่อนขอให้เข้าใจ
10.ตอนจบของพิธีคุณพ่อจะให้ทุกคนสามารถมาสัมผัสพ่อพร้อมกันพ่อเข้าใจว่าทุกคนมาแล้วก็อยากรับพรแม้แต่คนไม่ป่วยผมเคยทำหน้าที่ช่วยพยุงแขนคุณพ่อ2-3ครั้งอยากบอกว่าคุณพ่อต้องเจอความเจ็บปวดทุกครั้งนะครับไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติอะไรนะแต่คือคนที่มาจับพ่อมีบางคนดึงมือดึงนิ้วดึงแขนหรือจับพ่อแรงส่วนตัวผมรู้สึกพ่ออุทิศตัวมากแขนพ่อกางเหมือนโดนตรึงกางเขนเลยแล้วคนก็มารุมดึงจนแขนพ่อตึงสุดๆดังนั้นแค่แตะ(หรือแม้แต่แตะคนที่แตะพ่อ)ก็ได้ร่วมอธิษฐานกับพ่อแล้วเชื่อผมไม่ต้องกำนิ้วพ่อแล้วดึงไปหาตัวเองอะไรแบบนี้
11.พ่อเองมีอายุมากแล้ว70กว่าแล้วและพ่อมีโรคประจำตัวคือเบาหวานและอื่นๆตามวัยอยากให้เข้าใจหากบางทีหน้าพ่อดูหงุดหงิดหรือเหนื่อยพ่อจะต้องมีลูกอมคอยอมระหว่างรักษาเพราะบางทีพ่อจะหน้ามืดเพราะเหนื่อยมาก
12.พ่อไม่ได้อยากไปวัดไหนก็ได้ไปวัดที่พ่อไปมีเงี่อนไขสำคัญคือพ่อเจ้าวัดยินดีให้พ่อใช้สถานที่ตลอดจนยินดีทำมิสซาก่อนการรักษาของพ่อ(พ่อพูดไทยไม่ได้จึงไม่ทำเองซึ่งพ่อจะร่วมในมิสซาอย่างสุภาพ) ดังนั้นขอให้ทราบว่ามีบางวัดที่พ่อเจ้าวัดปฏิเสธคุณพ่อจึงไม่ใช่คุณพ่อที่เลือกไปวัดไหนก็ได้
13.การเดินทางข้ามประเทศของคุณพ่อขอให้เข้าใจว่านี่คือการเดินทางของผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยไม่สามารถสมบุกสมบันได้ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายและค่าดูแลเช่นค่าโรงแรมค่ารถ(ที่ต้องสะดวกสบายสักหน่อย) ปกติพ่อจะมีเยาวชนที่ติดตามช่วยดูแลพ่อ1คนจากฟิลิปปินส์ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายให้เขาตลอดเวลาที่ผ่านมาเวลาพ่อมาไทยมีสปอนเซอร์ทุกครั้งซึ่งก็คือผู้ที่หายป่วยจากการรักษาของพ่อต้องการตอบแทนพระเจ้าโดยทำบุญค่าเดินทางค่าที่พักค่าอาหารฯลฯให้พ่อเดินทางมาช่วยเหลือผู้อื่น
14.มีคนมาคอมเม้นท์เสมอๆว่าอยากให้พ่อไปวัดของตนบ้างโดยเฉพาะตามต่างจังหวัดผมขอแจ้งว่าไม่ใช่พ่อไม่อยากที่จะไปต่างจังหวัดแต่ต้องมีเงื่อนไขจากข้อ12และ13 คือพ่อเจ้าวัดของวัดท่านยินดีต้อนรับพ่อยินดีทำมิสซาและมีผู้ยินดีสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ(โดยเฉพาะการเดินทางและที่พักที่ต้องเข้าใจว่าสำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวที่ต้องมีผู้ดูแลและผู้ติดตาม)
15.หากท่านใดอยากให้พ่อไปที่ไหนแล้ววัดท่านพร้อมเงื่อนไขต่างๆท่านพร้อมโปรดติดต่อที่คุณเมธา084-434-1961
16.คุณพ่อยินดีรักษาทุกคนแม้คนต่างศาสนาการรักษานักบวชในศาสนาอื่นเป็นสิ่งที่พ่อทำเป็นประจำแต่ท่านจะต้องมีความเชื่อว่าผู้รักษาคือพระเจ้าไม่ใช่คุณพ่อและถ้าท่านหายดีขึ้นมาก็โปรดโมทนาขอบคุณพระเจ้าแต่พ่อก็ไม่บังคับให้ท่านเปลี่ยนศาสนาแต่อย่างใดทั้งสิ้น
17.พ่อมาเมืองไทยประมาณปีละ2ครั้ง(ช่วงนี้และอีกทีต้นปี)
18.คุณพ่อไม่เรียกเงินทองในการรักษา(ถุงทานในมิสซาเป็นของวัดที่เอื้อเฟ้อสถานที่) พ่อจะไม่ให้ท่านกินของอะไรแปลกๆไม่มียาแปลกๆอะไรขายหรือแจกมีแค่การอธิษฐานวิงวอนขอพระเจ้าให้ผู้รับการรักษาไม่มีเงื่อนไขว่าต้องเลิกไปหาหมอแผนปัจจุบันด้วย
ดังนั้นเพียงท่านมีความเชื่อและสละเวลาเดินทางมาร่วมมิสซาท่านก็เข้าร่วมรับการอวยพรได้แต่หากท่านไม่เชื่อท่านก็แค่ไม่ต้องมาหากจะพูดเอาเท่ห์ว่าขอการรักษาจากพระเยซูผู้เดียวไม่เชื่อในตัวพ่อก็ดีแล้วพ่อก็สอนแบบนั้นตลอดหรือถ้าใครไม่เชื่อเรื่องศาสนาเลยจะมองว่าคนที่เชื่องมงายก็สบายใจได้พ่อไม่เรียกเงินคนป่วยหรือขอให้เขาเลิกไปหาหมอหรือให้กินอะไรทั้งนั้นขอให้สบายใจได้ว่าอย่างมากถ้าจะเสียแค่เสียเวลาไม่กี่ชั่วโมงพ่อมาไม่กี่วันพ่อก็กลับ
สุดท้ายนี้หวังว่าทั้งชาวคริสต์และผู้ไม่ใช่ชาวคริสต์ผู้ที่จะเข้าร่วมและผุ้ที่จะไม่เข้าร่วมจะเข้าใจในพันธกิจรับใช้พระเจ้าและเพื่อนพี่น้องของพ่อคอร์ซี่มากขึ้น
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ
CR. : จิตศรัทธา