10 กันยายน​วันป้องกันการฆ่าตัวตาย

กระทู้สนทนา
การรับฟัง​คือพลังที่ดีที่สุด
แค่รับฟัง​อย่าตัดสินใจหรือแก้ปัญหาให้เขาแค่รับฟังคือสิ่งสำคัญที่สุด
#อ่านเถอะอยากให้อ่าน
ถ้ามีคนอยากฆ่าตัวตาย สิ่งที่เราควรทำคืออะไร

รับฟัง ให้เขาระบายความรู้สึกออกมาให้มากที่สุดจนกว่าเขาจะรู้สึกดีขึ้น แม้กระทั่งถ้าเขารู้สึกอยากฆ่าตัวตายก็ปล่อยให้เขาพูดออกมาว่าเขารู้สึกอย่างไร เพราะเมื่อเขาพูด มันจะลดพลังในการอยากตายลง
สิ่งที่ควรพูดคือ “เรามีเวลาให้คุณ ระบายมาได้ เรายินดีรับฟัง”
หลีกเลี่ยงคำพูดที่มีน้ำเสียงของการตัดสิน เช่น
“ใจเย็นๆ” เพราะเขารู้สึกว่าทุกข์ร้อนขนาดนี้จะให้ใจเย็นก็คงไม่ไหว
“เรื่องแค่นี้เอง” เพราะพูดแบบนี้คนฟังจะรู้สึกตัวเองไม่ฉลาดพอที่จะรับมือกับปัญหาได้ เหมือนไปดูถูกเขา ที่จริงแล้วทุกข์ของใครก็ใหญ่ที่สุดสำหรับเขา และความทุกข์จะเล็กเสมอเมื่อไม่ได้เป็นความทุกข์ของเรา
“ไม่เป็นไรนะ” เพราะแสดงว่าเราไม่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาเจออยู่เป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับเขามันเป็นเรื่องสำคัญมาก
“อย่าคิดสั้น” เพราะเป็นคำสั่ง เขาอาจจะโดนคนตัดสินมาเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นเขาไม่ต้องการให้มีใครสั่งเขา เขาแค่ต้องการคนที่รับฟัง คนที่เข้าใจ คนที่ไม่ตัดสินเขา
“อย่าคิดมาก” เพราะเมื่อเขารู้สึกว่าปัญหามันใหญ่เกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ จะห้ามไม่ให้เขาคิดมากได้อย่างไร
“ทำไมไม่รักตัวเอง ไม่คิดถึงพ่อแม่บ้างเหรอ” เพราะเป็นการตัดสินเขา และเขาเองก็อาจจะทุกข์มากจนไม่อยากบอกพ่อแม่ เขาทุกข์มากอยู่แล้ว ทุกคนก็มีความรักตัวเองทั้งนั้น เพียงแต่ ณ เวลานั้นเขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอ
“แล้วมันจะผ่านไป” พูดได้ แต่อย่าเพิ่งพูดคำนี้เร็วไป รอให้สภาวะทางจิตใจเขาเริ่มสงบก่อนแล้วอาจจะพูดได้ เพราะถ้าพูดเร็วไป เขาจะรู้สึกว่า “ก็นี่ไง มันยังไม่ผ่านไป มันต้องรออีกเท่าไร จะรอไม่ไหวแล้ว”
ไม่ควรเปลี่ยนเรื่องพูด ควรปล่อยให้เขาได้พูดมากที่สุด และให้เขารู้สึกว่าเราให้เขาเป็นคนที่สำคัญที่สุด ณ เวลานี้ที่เราอยู่รับฟังเขา
ไม่จำเป็นต้องบอกวิธีการแก้ปัญหา เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนฟังต้องการ กลับไปที่หลักการเดิมว่า เราต้องเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในการคิด การหาทางออกด้วยตัวเองเมื่ออยู่ในสภาวะจิตใจที่เป็นปกติ หน้าที่ของเราไม่ใช่การเข้าไปช่วยแก้ปัญหา แต่ทำหน้าที่ให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว ไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง ยังมีคนที่ไม่ตัดสินอะไรเขาเลยไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรมาหรือเจอเรื่องราวเลวร้ายแค่ไหนในชีวิต เราควรทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ช่วยปรับสภาวะทางจิตใจของเขาจากภาวะวิกฤตให้กลายเป็นปกติ เป็นกระจกสะท้อนสิ่งที่เขาคิด เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ตัวเองคิดเรื่อยๆ เขาจะเริ่มทบทวนได้เองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เราไม่ได้อยู่ในสถานะคนที่จะไปแก้ปัญหาให้เขา ไม่ต้องบอกเขาว่าเขาควรทำอย่างไร เพราะเมื่อจิตใจเขาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว เขาจะคิดได้เอง และเราต้องเคารพสิทธิ์ในการเลือกทางเดินชีวิตของเขา
ต่อให้เรารับฟังความรู้สึกของเขาแล้ว ไม่ได้แปลว่าเขาจะล้มเลิกการฆ่าตัวตายไปเลยในทันที สิ่งที่เราทำได้คือ ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงคนเดียว รับฟังเขาจนกว่าเขาจะสบายใจขึ้น
การฆ่าตัวตายเป็นหนึ่งในทางออกของปัญหา แต่ทุกปัญหาไม่มีทางออกเดียวคือการฆ่าตัวตาย หน้าที่ของเราคือช่วยให้เขาอยู่ในสภาวะที่ปกติพอจะพิจารณาเห็นทางออกในชีวิตให้ได้มากที่สุด และให้เขาเป็นผู้เลือก ถ้าเขาได้พิจารณาด้วยตัวเองแล้วว่าชีวิตมีทางออกอื่นๆ อีกนอกจากการฆ่าตัวตาย แนวโน้มที่เขาจะฆ่าตัวตายก็จะมีน้อยลง ขณะเดียวกันถ้าเขาได้พิจารณาทุกทางเลือกแล้ว และยังคงรู้สึกว่าการเลือกทางออกที่การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่เขาต้องการ นั่นก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของเขา ประเด็นสำคัญคือการที่เขาได้เลือกเส้นทางเดินชีวิตของตัวเอง และเราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา


ไม่ว่าเขาจะผ่านอะไรมาก็ตาม เราไม่ได้มีหน้าที่ไปช่วยเขาแก้ปัญหา แต่มีหน้าที่รับฟังและทำให้เขามีกำลังใจพอที่จะเผชิญปัญหานั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่