ช่วงนี้ว่างจากการทำงานเลยถือโอกาสมาแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของตัวเองค่า
อยากจะให้ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนทำแผนเที่ยวเอง ^^
ทริปนี้เป็นครั้งที่ 3 ของการไปญี่ปุ่น ช่วงเวลาเดินทางคือ 14-22 ตค.61
ครั้งแรกแถบคันไซ ครั้งสองแถบคันโต
ครั้งนี้เราเลือก HOKKAIDO ที่กำลังเป็นที่สนใจอันเนื่องมาจากกระแสหนัง
แต่เอาจริงๆนะ เราเลือกอันนี้ก่อนแล้วถึงตามไปหาหนังมาดู 5555
EP.0 การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
การเตรียมตัวเอาคร่าวๆที่พอระลึกได้
จากปสก.ครั้งที่ 2 ทำให้เราค่อนข้างเตรียมตัวมากไปกว่าเดิม
เพราะรู้ๆอยู่ว่าเที่ยวแถบนี้ราคาสูงกว่าโซนอื่น จะมาขี้เกียจลุกไม่ได้
จะเสียแพลน เสียเวลา และเสียดายเงิน
เพราะฉะนั้นสำหรับคนไปเที่ยวเอง ทำแผนเอง ควรรักษาวินัยตนเอง
เริ่มจากกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการเที่ยวอย่างที่รู้ว่าญี่ปุ่นมีหลายฤดู
และแต่ละฤดูค่อนข้างชัดเจนในตัวมัน อยากเห็นอะไรก็เลือกช่วงเวลานั้นๆ
แต่บางทีฟ้าฝนก็ห้ามยาก เอาแค่คร่าวๆพอกรุบกริบ
แต่ไม่แนะนำเดือนกย.เลยเพราะเป็นหน้ามรสุม ตั๋วถูกก็จริง แต่ความเสี่ยงเยอะมาก
ของเราเลือกฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะๆนัก วันลางานและราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง
โปรสายการบินก็มีช่วงนี้พอดี เลยสรุปเป็นช่วงตุลา 61 สะดวกกับเราและผู้ร่วมเดินทาง ^^
เมื่อกำหนดวันเดินทางได้แล้ว กับราคาบินขนาดนี้ก็ขอยาวๆสัก 7 วันเที่ยวไปเลย
ได้วันเสร็จก็หาข้อมูลที่จะไป โดยอาศัยดูรีวิวต่างๆทุกช่องทาง เมืองไหนน่าสนใจต้องไป
เราจะลิสต์รายการมาก่อนเลยว่ามีเมืองไหน เมืองนั้นเราจะไปดูอะไร
เช่น โนโบริเบทสึ-บ่อน้ำพุร้อน อาซาฮิกาว่า-สวนสัตว์
จากนั้นเราจะมาดูการเดินทาง ลองเปิด google map ลงชื่อเมืองแต่ละเมืองที่เราจะไป
แล้วดูความเป็นไปได้ เช่น อย่างแผนเราลงที่ชิโตเสะ วันแรกเราไปนอนที่โนโบริเบทสึเลย
เพราะว่าอีกวันจะได้เลยต่อไปฮาโกะดาเตะ แล้วค่อยยิงยาวมานอนโอตารุ
แล้วไปต่อที่อาซาฮิกาว่า เที่ยวบิเอะ ฟุราโนะ กลับมานอนซัปโปโร 2 คืน
แล้วก่อนกลับย้ายไปนอนใกล้ชิโตเสะเพื่อกันความผิดพลาดในวันกลับ
ลงเมืองในแผนที่เพื่อให้รู้ตำแหน่งเมืองที่จะไป แล้วค่อยลงรายละเอียดการเดินทางโดยรถสาธารณะอีกที

เมื่อกำหนดเมืองได้แล้วก็เริ่มดูที่พัก ของเราสะดวกแบบโรงแรมมีห้องน้ำส่วนตัว
การเลือกหาโรงแรมโดยมากจะจองจากเวปบุคกิ้ง เพราะไปจ่ายที่โน่นได้
เราเน้นที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟเพื่อสะดวกในการขนย้ายสัมภาระต่างๆ
แต่บางที่ก็ขอนอนดูวิวสวยๆบ้างก็มี ยอมลากกระเป๋าหน่อย
อันนี้เป็นตย.ในการเลือกที่พักเน้นใกล้สถานีเดินถึงเลยลากกระเป๋าสบายมาก
ขอเป็นเตียงแฝด+ปลอดบุหรี่ เพราะเตียงที่ญี่ปุ่นนอนเตียงคู่นี่หลับยากมากเพราะเล็กจริงๆ
ราคาอยู่ในเรทที่รับได้ เวลาจะจองเราจะเลือกให้แสดงเป็นเยนไปเลย สะดวกต่อการจ่ายหน้างานมาก

ช่วงเลือกที่พักอาจจะเลือกเส้นทางไปด้วยก็ได้นะ
เช่น ถ้าเราออกจากชิโตเสะตอนเช้า (เครื่องไปถึงเช้า)กะเวลาคร่าวๆที่เราจะเสร็จธุระในสนามบิน
จากใน google map เราสามารถระบุเวลา และวันที่ต้องการเดินทางได้
เราสามารถเห็นเส้นทาง สายรถ ราคา ณ ตรงนี้พอเลือกให้ครบทุกเส้นทางเราก็คำนวณค่าเดินทางคร่าวๆได้
จะได้รู้ว่าควรจ่ายเป็นรายเที่ยวหรือซื้อ pass

อย่างเราไปหลายวันซื้อ Hokkaido rail pass 7 วันไปเลย ไปซื้อเอาที่โน่น
จองที่นั่งได้ เดินเข้าออกโชว์บัตร สะดวกดี หน้าตาบัตรประมาณนี้ ราคา 24,000 เยน

ส่วนการเดินทางอื่นๆที่รถไฟ+pass นี้เข้าไม่ถึงก็คือพวกบัสต่างๆ ต้องอาศัยหาข้อมูลจาก
อ.กู๋เอานะคะ บางทีแต่ละปีอาจมีอัพเดท ให้เลือกค้นหาจากปีล่าสุดดูก่อน ถ้าไม่มีก็ค่อยๆไล่ไป
จากการค้นหาในเรื่องที่พัก+การเดินทาง ตรงจุดนี้เราสามารถนำมาคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆได้แล้ว
การแลกเงินในส่วนนี้คือตายตัวล่ะ เห็นชัดว่าจะต้องแลกเท่าไหร่ เราต้องกันงบเฉพาะส่วนนี้ไปจ่ายหน้างาน
ส่วนงบไม่ตายตัวของเราขึ้นกับกิเลส ความอยากล้วนๆ อยากกินอะไร อยากซื้ออะไร
เช่น ถ้าไปเมืองนี้ต้องกินปู ถ้าทั้งตัวคงเกินงบขอเบาๆพอ อาจจะตั้งงบให้ตัวเองมื้อละเท่านี้
ก็คูณไป 1 วัน 3 มื้อ มื้อเย็นอาจจะมีกินดื่มก็มากหน่อย อันนี้แล้วแต่บุคคล
ในโซนใกล้ๆที่พักจะมีร้านอาหารอยู่ ลองกดเข้าไปดูเมนู+ราคาไว้เผื่อตั้งงบคร่าวๆได้

เมื่อได้ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว การเดินทางคร่าวๆ
เราก็รู้แล้วว่าควรแลกเงินเท่าไหร่ การแลกเงินถ้าเยอะควรแบ่งทยอยแลก
เพราะค่าเงินไม่เท่ากันเสมอไป สามารถขึ้น-ลงชั่วข้ามคืน
ก่อนหน้าเดินทางในช่วง 1 เดือน ถ้าใครได้ตามข่าวตามเพจฮอกไกโดฯ
จะเห็นว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น เอาล่ะสิ แอบใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ
รร.ที่เราจองในคืนสุดท้ายก็ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วยเลยต้องหาที่ใหม่
เราก็ได้โรงแรมที่ห่างจากเดิมนิดนึง แต่มีรถรับส่งตอนเช้าสะดวกมาก
แม้เราจะมีบินเดือนตุลาก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ แต่ลึกๆก็ยังเชื่อว่าญี่ปุ่นจะจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีเสมอ
ทำได้เพียงภาวนาให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติ
EDIT
- แก้ไขคำผิด , เพิ่มรูป
3rd Trip of Japan...Let's go to Hokkaido. [ Noboribetsu-Hakodate-Otaru-Asahikawa-Biei-Naka furano-Sapporo-Chitose ]
อยากจะให้ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนทำแผนเที่ยวเอง ^^
ทริปนี้เป็นครั้งที่ 3 ของการไปญี่ปุ่น ช่วงเวลาเดินทางคือ 14-22 ตค.61
ครั้งแรกแถบคันไซ ครั้งสองแถบคันโต
ครั้งนี้เราเลือก HOKKAIDO ที่กำลังเป็นที่สนใจอันเนื่องมาจากกระแสหนัง
แต่เอาจริงๆนะ เราเลือกอันนี้ก่อนแล้วถึงตามไปหาหนังมาดู 5555
EP.0 การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
การเตรียมตัวเอาคร่าวๆที่พอระลึกได้
จากปสก.ครั้งที่ 2 ทำให้เราค่อนข้างเตรียมตัวมากไปกว่าเดิม
เพราะรู้ๆอยู่ว่าเที่ยวแถบนี้ราคาสูงกว่าโซนอื่น จะมาขี้เกียจลุกไม่ได้
จะเสียแพลน เสียเวลา และเสียดายเงิน
เพราะฉะนั้นสำหรับคนไปเที่ยวเอง ทำแผนเอง ควรรักษาวินัยตนเอง
เริ่มจากกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการเที่ยวอย่างที่รู้ว่าญี่ปุ่นมีหลายฤดู
และแต่ละฤดูค่อนข้างชัดเจนในตัวมัน อยากเห็นอะไรก็เลือกช่วงเวลานั้นๆ
แต่บางทีฟ้าฝนก็ห้ามยาก เอาแค่คร่าวๆพอกรุบกริบ
แต่ไม่แนะนำเดือนกย.เลยเพราะเป็นหน้ามรสุม ตั๋วถูกก็จริง แต่ความเสี่ยงเยอะมาก
ของเราเลือกฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะๆนัก วันลางานและราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง
โปรสายการบินก็มีช่วงนี้พอดี เลยสรุปเป็นช่วงตุลา 61 สะดวกกับเราและผู้ร่วมเดินทาง ^^
เมื่อกำหนดวันเดินทางได้แล้ว กับราคาบินขนาดนี้ก็ขอยาวๆสัก 7 วันเที่ยวไปเลย
ได้วันเสร็จก็หาข้อมูลที่จะไป โดยอาศัยดูรีวิวต่างๆทุกช่องทาง เมืองไหนน่าสนใจต้องไป
เราจะลิสต์รายการมาก่อนเลยว่ามีเมืองไหน เมืองนั้นเราจะไปดูอะไร
เช่น โนโบริเบทสึ-บ่อน้ำพุร้อน อาซาฮิกาว่า-สวนสัตว์
จากนั้นเราจะมาดูการเดินทาง ลองเปิด google map ลงชื่อเมืองแต่ละเมืองที่เราจะไป
แล้วดูความเป็นไปได้ เช่น อย่างแผนเราลงที่ชิโตเสะ วันแรกเราไปนอนที่โนโบริเบทสึเลย
เพราะว่าอีกวันจะได้เลยต่อไปฮาโกะดาเตะ แล้วค่อยยิงยาวมานอนโอตารุ
แล้วไปต่อที่อาซาฮิกาว่า เที่ยวบิเอะ ฟุราโนะ กลับมานอนซัปโปโร 2 คืน
แล้วก่อนกลับย้ายไปนอนใกล้ชิโตเสะเพื่อกันความผิดพลาดในวันกลับ
ลงเมืองในแผนที่เพื่อให้รู้ตำแหน่งเมืองที่จะไป แล้วค่อยลงรายละเอียดการเดินทางโดยรถสาธารณะอีกที
เมื่อกำหนดเมืองได้แล้วก็เริ่มดูที่พัก ของเราสะดวกแบบโรงแรมมีห้องน้ำส่วนตัว
การเลือกหาโรงแรมโดยมากจะจองจากเวปบุคกิ้ง เพราะไปจ่ายที่โน่นได้
เราเน้นที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟเพื่อสะดวกในการขนย้ายสัมภาระต่างๆ
แต่บางที่ก็ขอนอนดูวิวสวยๆบ้างก็มี ยอมลากกระเป๋าหน่อย
อันนี้เป็นตย.ในการเลือกที่พักเน้นใกล้สถานีเดินถึงเลยลากกระเป๋าสบายมาก
ขอเป็นเตียงแฝด+ปลอดบุหรี่ เพราะเตียงที่ญี่ปุ่นนอนเตียงคู่นี่หลับยากมากเพราะเล็กจริงๆ
ราคาอยู่ในเรทที่รับได้ เวลาจะจองเราจะเลือกให้แสดงเป็นเยนไปเลย สะดวกต่อการจ่ายหน้างานมาก
ช่วงเลือกที่พักอาจจะเลือกเส้นทางไปด้วยก็ได้นะ
เช่น ถ้าเราออกจากชิโตเสะตอนเช้า (เครื่องไปถึงเช้า)กะเวลาคร่าวๆที่เราจะเสร็จธุระในสนามบิน
จากใน google map เราสามารถระบุเวลา และวันที่ต้องการเดินทางได้
เราสามารถเห็นเส้นทาง สายรถ ราคา ณ ตรงนี้พอเลือกให้ครบทุกเส้นทางเราก็คำนวณค่าเดินทางคร่าวๆได้
จะได้รู้ว่าควรจ่ายเป็นรายเที่ยวหรือซื้อ pass
อย่างเราไปหลายวันซื้อ Hokkaido rail pass 7 วันไปเลย ไปซื้อเอาที่โน่น
จองที่นั่งได้ เดินเข้าออกโชว์บัตร สะดวกดี หน้าตาบัตรประมาณนี้ ราคา 24,000 เยน
ส่วนการเดินทางอื่นๆที่รถไฟ+pass นี้เข้าไม่ถึงก็คือพวกบัสต่างๆ ต้องอาศัยหาข้อมูลจาก
อ.กู๋เอานะคะ บางทีแต่ละปีอาจมีอัพเดท ให้เลือกค้นหาจากปีล่าสุดดูก่อน ถ้าไม่มีก็ค่อยๆไล่ไป
จากการค้นหาในเรื่องที่พัก+การเดินทาง ตรงจุดนี้เราสามารถนำมาคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆได้แล้ว
การแลกเงินในส่วนนี้คือตายตัวล่ะ เห็นชัดว่าจะต้องแลกเท่าไหร่ เราต้องกันงบเฉพาะส่วนนี้ไปจ่ายหน้างาน
ส่วนงบไม่ตายตัวของเราขึ้นกับกิเลส ความอยากล้วนๆ อยากกินอะไร อยากซื้ออะไร
เช่น ถ้าไปเมืองนี้ต้องกินปู ถ้าทั้งตัวคงเกินงบขอเบาๆพอ อาจจะตั้งงบให้ตัวเองมื้อละเท่านี้
ก็คูณไป 1 วัน 3 มื้อ มื้อเย็นอาจจะมีกินดื่มก็มากหน่อย อันนี้แล้วแต่บุคคล
ในโซนใกล้ๆที่พักจะมีร้านอาหารอยู่ ลองกดเข้าไปดูเมนู+ราคาไว้เผื่อตั้งงบคร่าวๆได้
เมื่อได้ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว การเดินทางคร่าวๆ
เราก็รู้แล้วว่าควรแลกเงินเท่าไหร่ การแลกเงินถ้าเยอะควรแบ่งทยอยแลก
เพราะค่าเงินไม่เท่ากันเสมอไป สามารถขึ้น-ลงชั่วข้ามคืน
ก่อนหน้าเดินทางในช่วง 1 เดือน ถ้าใครได้ตามข่าวตามเพจฮอกไกโดฯ
จะเห็นว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น เอาล่ะสิ แอบใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ
รร.ที่เราจองในคืนสุดท้ายก็ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วยเลยต้องหาที่ใหม่
เราก็ได้โรงแรมที่ห่างจากเดิมนิดนึง แต่มีรถรับส่งตอนเช้าสะดวกมาก
แม้เราจะมีบินเดือนตุลาก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ แต่ลึกๆก็ยังเชื่อว่าญี่ปุ่นจะจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีเสมอ
ทำได้เพียงภาวนาให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติ
EDIT
- แก้ไขคำผิด , เพิ่มรูป