เดี๋ยวคนจะหาว่าพูดหลังเกม.. ขอเขียนในตอนที่setกำลังแดงๆนี่ละฮะ..
สรุปง่ายๆนะครับ.. ตอนนี้หุ้นในตลาดหุ้นบ้านเรา ถูกcornerเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
คืออะไร? คือหุ้นถูกต้อนเข้ามุม หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือรายใหญ่ และสามารถกำหนดทิศทางของตลาดได้ ก็คือ "กองทุน และ ต่างชาติ" ที่สลับกันเป็นผู้เล่นหลัก.. ช่วงเดือน6-7 ต่างชาติซื้อหนัก แต่มาขายตอนเดือน8 คนที่รับไม้แทนไม่ใช่ใครก็คงเห็นกันว่าเป็น กองทุน ..และจะสลับกันช่วยดันหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ
การที่ตลาดถูก corner คือ ของส่วนใหญ่อยู่ในมือผู้เล่นหลักแล้ว ทำให้ตลาดหุ้นจะขึ้นไปได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้วอลุ่มมากมายอะไรเลย.. เพราะแรงขายมันแทบไม่เหลืออะไรแล้วยังไงละครับ!!
ถามว่าทำไม เม่า รอยย่อย ถึงกลัววิกฤตกันนักหนา.. มีข่าวโบรค เหล่าเซียน ออกมาเผยตามหน้า นสพ. แนะนำให้ขาย ต่างบอกเล่าว่าทยอยลดพอร์ตมากมาย.. บางคนกำเงินแน่น รอจังหวะแพนิคแห่งปี หวังดักเก็บหุ้นตอนดัชนี 500 จุด เพื่อเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน..!!
ลองคิดกันในอีกมุมนึง ถ้าเหล่าเซียน เหล่ารายย่อยต่างขาย แล้วคิดจะรอช่วงเวลาตลาดวิกฤตกัน.. ในเมื่อมีคนขาย.. แล้วใครซื้อ..?? มีคนโยน ก็ต้องมีคนพร้อมรับ.. คนคนนั้นคือใคร..
ใครจะคิดผิดคิดถูก ระหว่าง ..ต้องรีบขาย รีบคัท กลัวว่าจะติดดอย หรือว่า ..จะเป็นฝ่ายตกรถกันแน่..??
...
สถิติและตัวเลข มันมีบอกมาตลอด และสถิติในระยะกลาง-ยาว ไม่เคยโกหก
ถามให้คิดอีกรอบ.. มีคนกลัวขายให้ ..ก็ต้องมีคนกล้าเข้ารับซื้อ!! ซื้อแล้วหวังอะไรในอนาคต คงต้องหวังกำไรแน่นอน.. .. !!
ตามสถิติแล้ว ย้อนกลับไปดูได้เลย แทบจะเกือบ100% ที่ปีไหนเม่ารายย่อยขายสุทธิ ปีนั้นหุ้นมีแนวโน้มจะต้องขึ้น..!!
ผู้เล่นทั้ง 3 พร้อมใจเลือกเลขสุทธิสีเขียว เดินหมากไปในทางเดียวกัน..!! ทำไมจึงไม่ขาย ไม่กลัววิกฤตหรือ..??
กลับกัน มีเพียงรายย่อย ที่เลือกเดินหมากสุทธิสีแดง บ่งบอกว่าสภาพจิตใจอันหวาดกลัว ไม่มั่นใจต่อตลาดหุ้น..??
แล้วเราชาวสินธรต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่า เมื่อใดที่เม่ามั่นใจ.. เมื่อนั้นมันน่ากลัว แบบต้นปี 2018 ที่ข่าวเขียนเชียร์ไป 2000จุด..
แต่ถ้าเมื่อใดที่เม่ากังวลกลัว ก็เตรียมรับผลตรงข้ามได้เลย.. ถ้าไม่อยากตกรถ ก็ยึดเกาะรถไฟให้ดีๆแล้วกัน..!!..!!..!!
...
...
...
ส่วนชินจังทำยังไงอะเหรอ.. ไม่ต้องบอกก็รู้.. ให้รูปอธิบายเอาก็แล้วกันฮะ..!!
เหตุผลง่ายๆที่เม่าคาดไม่ถึง..!! >> ว่าทำไมในระยะยาวหุ้นจะขึ้น จำเป็นต้องขึ้น และจะไปได้ต่ออีกแน่นอน..!!
สรุปง่ายๆนะครับ.. ตอนนี้หุ้นในตลาดหุ้นบ้านเรา ถูกcornerเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
คืออะไร? คือหุ้นถูกต้อนเข้ามุม หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือรายใหญ่ และสามารถกำหนดทิศทางของตลาดได้ ก็คือ "กองทุน และ ต่างชาติ" ที่สลับกันเป็นผู้เล่นหลัก.. ช่วงเดือน6-7 ต่างชาติซื้อหนัก แต่มาขายตอนเดือน8 คนที่รับไม้แทนไม่ใช่ใครก็คงเห็นกันว่าเป็น กองทุน ..และจะสลับกันช่วยดันหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ
การที่ตลาดถูก corner คือ ของส่วนใหญ่อยู่ในมือผู้เล่นหลักแล้ว ทำให้ตลาดหุ้นจะขึ้นไปได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้วอลุ่มมากมายอะไรเลย.. เพราะแรงขายมันแทบไม่เหลืออะไรแล้วยังไงละครับ!!
ถามว่าทำไม เม่า รอยย่อย ถึงกลัววิกฤตกันนักหนา.. มีข่าวโบรค เหล่าเซียน ออกมาเผยตามหน้า นสพ. แนะนำให้ขาย ต่างบอกเล่าว่าทยอยลดพอร์ตมากมาย.. บางคนกำเงินแน่น รอจังหวะแพนิคแห่งปี หวังดักเก็บหุ้นตอนดัชนี 500 จุด เพื่อเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน..!!
ลองคิดกันในอีกมุมนึง ถ้าเหล่าเซียน เหล่ารายย่อยต่างขาย แล้วคิดจะรอช่วงเวลาตลาดวิกฤตกัน.. ในเมื่อมีคนขาย.. แล้วใครซื้อ..?? มีคนโยน ก็ต้องมีคนพร้อมรับ.. คนคนนั้นคือใคร..
ใครจะคิดผิดคิดถูก ระหว่าง ..ต้องรีบขาย รีบคัท กลัวว่าจะติดดอย หรือว่า ..จะเป็นฝ่ายตกรถกันแน่..??
...
สถิติและตัวเลข มันมีบอกมาตลอด และสถิติในระยะกลาง-ยาว ไม่เคยโกหก
ถามให้คิดอีกรอบ.. มีคนกลัวขายให้ ..ก็ต้องมีคนกล้าเข้ารับซื้อ!! ซื้อแล้วหวังอะไรในอนาคต คงต้องหวังกำไรแน่นอน.. .. !!
ตามสถิติแล้ว ย้อนกลับไปดูได้เลย แทบจะเกือบ100% ที่ปีไหนเม่ารายย่อยขายสุทธิ ปีนั้นหุ้นมีแนวโน้มจะต้องขึ้น..!!
ผู้เล่นทั้ง 3 พร้อมใจเลือกเลขสุทธิสีเขียว เดินหมากไปในทางเดียวกัน..!! ทำไมจึงไม่ขาย ไม่กลัววิกฤตหรือ..??
กลับกัน มีเพียงรายย่อย ที่เลือกเดินหมากสุทธิสีแดง บ่งบอกว่าสภาพจิตใจอันหวาดกลัว ไม่มั่นใจต่อตลาดหุ้น..??
แล้วเราชาวสินธรต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่า เมื่อใดที่เม่ามั่นใจ.. เมื่อนั้นมันน่ากลัว แบบต้นปี 2018 ที่ข่าวเขียนเชียร์ไป 2000จุด..
แต่ถ้าเมื่อใดที่เม่ากังวลกลัว ก็เตรียมรับผลตรงข้ามได้เลย.. ถ้าไม่อยากตกรถ ก็ยึดเกาะรถไฟให้ดีๆแล้วกัน..!!..!!..!!
...
...
...
ส่วนชินจังทำยังไงอะเหรอ.. ไม่ต้องบอกก็รู้.. ให้รูปอธิบายเอาก็แล้วกันฮะ..!!