เราเห็นแก่ตัวมากมั้ยคะที่ไม่ช่วยซื้อรถให้น้อง

เมื่อวันก่อนน้องโทรมาอ้อนวอนขอเอาชื่อเราไปกู้ซื้อรถ น้องยืนยันว่ามีเงินผ่อนแน่นอน แต่เรายืนยันว่าไม่ได้ค่ะ

เราอาจจะใจดำเกินไป แต่ในวันที่เรากับแฟนเดือดร้อน พวกเราไม่เคยกล้าบากหน้าไปหาใคร วันนี้เราแต่งงานจดทะเบียนกับแฟน ถ้าเรายอมให้ทางบ้านเอาชื่อไปซื้อรถแล้วเกิดเบี้ยวขึ้นมา แฟนเราจะต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่ก็อดเห็นใจน้องไม่ได้เลย คิดวนไปวนมาหลายวันจนเครียดแล้วค่ะ เหนื่อยใจจังเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ผมให้น้องสาวผ่อนลมกับผม 6 งวดติดกันครับ สรุปน้องสาวผมยอมแพ้ไปเองตั้งแต่งวดที่ 3
ความคิดเห็นที่ 15
มันมีหลายประเด็นที่เราไม่ค่อยอยากช่วยค่ะ เช่น
- เราเองก็ไม่ได้มีเหลือเฟือค่ะ ผ่อนรถ+เก็บเงินเตรียมซื้อคอนโดเมื่อผ่อนรถเสร็จ ไม่อดอยากตึงมือ ยังได้เที่ยวบ้างปีละครั้ง แต่ก็มีหนี้และภาระเหมือนกัน
- เราเตือนไม่ฟัง น้องไม่เห็นความสำคัญของการศึกษากันสักคน พูดจนเหนื่อยแล้ว พอเรียนน้อยก็หางานดีๆ ทำไม่ได้กัน
- แม่เราไม่เคยพอ ไม่ว่าจะให้ยืมหรือให้เลย แม่ลงขวดลงซองบุหรี่หมด พอตัวเองป่วยทำงานไม่ไหวก็มาดราม่าน้อยเนื้อต่ำใจ วนแบบนี้มาหลายปีแล้วค่ะ
- บ้านเราไม่มีวินัยทางการเงินเลยค่ะ ชื่อติดบูโรทั้งพ่อแม่ รถโดนยึดไปไม่รู้กี่คัน ถึงขนาดปลอมเอกสารเอาบ้านย่าไปจำนองจนโดนยึดก็ทำมาแล้ว ไม่งั้นวันนี้ก็มีบ้านมีรถพร้อมค่ะ
- เราไม่สนิทกับพ่อแม่ ท่านไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูอะไรมากมาย ปู่ย่าตายายเลี้ยงเรามาค่ะ เราเลยซัพพอร์ตผู้สูงอายุที่ท่านไม่มีรายได้มากกว่า พ่อแม่เรายังทำงานหาเงินได้ แค่ไม่อยากทำ
ความคิดเห็นที่ 6
ถามว่า เห็นแก่ตัวไหม ตรบตรงๆแบบมองคนในแง่ร้ายๆเลยให้ว่า ใช่ เพราะถ้ามองแบบโลกสวยจะตอบว่าไม่ (ทุกคนมีสิทธิเห็นแก่ตัวนะครับ แต่ ไม่มีสิทธิเอาเปรียบคนอื่น)

คุณ ฉลาดและรอบคอบมาก ที่ไม่เอาความเสี่ยง ที่คุณควบคุมไม่ได้และรับมือไม่ได้ มาตกอยู่ที่ตัวเองและครอบครัว
ใครจะหาว่าเห็นแก่ตัว ก็ช่างมัน อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปเอาเปรียบใคร
เกิดถ้า น้องคุณ ผ่อนไม่ไหว ทำรถหาย หรืออะไรก็ตาม คนค้ำ ก็คือคุณ ก็เดือดร้อนวันยังค่ำ
น้องคุณ คุณคิดว่าเขารับผิดชอบไหวไหม จากที่อ่านจากที่คุณถามคำตอบคือไม่ แถมทางบ้านก็ช่วยอะไรไม่ได้ ฉะนั้น มองตัวเองและครอบครัวตนเองเป็นหลักครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่