# บทวิจารณ์เทศกาลกีฬาบางกอก ๔๘ ที่ตั้งใจจะเขียนออกมาในเชิงลบ

กระทู้สนทนา
บทวิจารณ์เทศกาลกีฬาบางกอก๔๘ที่ตั้งใจจะเขียนออกมาในเชิงลบ


“อับดุลเอ้ย!”
“เอ้ย!”
“มางานกี่โมง”
“มาเก้าโมง”
“ได้เข้างานกี่โมง”
“สี่โมงเย็น”
คนดูเฮ~

https://www.facebook.com/watch/?v=2356019814481426

Cr.คลิปจาก เพจสหายสายหมี


นี่คือบทสนทนาที่สองพิธีกรโอ๊ตปราโมทย์และอุลภาคภูมิ 
ผู้ดำเนินงานเทศกาลกีฬาบางกอก๔๘นำมาขยี้ล้อเลียนผู้จัดเรียกเสียงเฮจากผู้ร่วมงานในช่วงต้นของกิจกรรมและนำมุกนี้มาขยี้ซ้ำอีกหลายครั้งในเวลาต่อมา 

แต่ท่ามกลางเสียงฮามันแฝงไปด้วยความตลกร้ายที่บริษัทBNK48 Office (หลังจากนี้จะเรียกว่าออฟฟิเชียล) มอบไว้ให้กับแฟนคลับหลายพันคนเพราะนี่คือการบริหารจัดการปัญหาเฉพาะหน้าที่แย่ที่สุดจากทุกบรรดากิจกรรมที่ผู้เขียนเคยเข้าร่วมมาตลอดชีวิตสอบตกทั้งเรื่องการออกบัตรไม่ทันเริ่มงานและการจัดการอารมณ์โกรธของผู้ชมจนผู้เขียนเชื่อว่าความผิดพลาดครั้งนี้มันต้องกลายไปเป็นกรณีศึกษาของภาควิชาเกี่ยวกับการจัดงานอีเว้นท์ในมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่งอย่างแน่นอน 

มันแย่จนน่าโมโหถึงขนาดที่ผู้เขียนเกือบจะฉีกบัตรทิ้งและเดินออกจากงานไปเพราะหมดความอดทนหมดความรู้สึกอยากเข้าไปสนุกกับงาน 
ในขณะนั้นตัวผมคิดว่าคงไม่มีอะไรจะกู้ความรู้สึกดีๆกลับคืนมาได้แล้วแม้กระทั่งการได้ชมสมาชิกBNK48 ขึ้นแสดงก็ตามนี่คือบทวิจารณ์เทศกาลกีฬาบางกอก๔๘ที่ผู้เขียนตั้งใจจะเขียนออกมาในเชิงลบ

แม้ปกติผู้เขียนจะไม่ได้ชื่นชอบการชมแข่งขันกีฬานักแต่เมื่อBNK48 จะมีการแข่งขันกีฬาสีเป็นครั้งแรกก็ไม่อยากพลาดจึงตัดสินใจซื้อตั๋วตั้งแต่วันแรกที่เปิดจำหน่ายสำหรับบุคคลทั่วไป 
ผู้เขียนไปถึงงานเวลาราวสิบโมงเช้าพบผู้คนมหาศาลกำลังต่อแถวเพื่อรับบัตรเข้างาน(ถึงขนาดมีคนแซวว่าแถวยาว8 กิโลเมตร) จึงไปต่อคิวและหวังในใจว่าจะไปร่วมซุ้มกิจกรรมเล่นเกมกับน้องๆ(ซุ้มงานวัด) ก่อนเข้างานจริงตอนบ่ายสองแต่ระหว่างต่อคิวไปพลางอ่านหนังสือOrn The Way ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไปพลางท่ามกลางแดดร้อนระอุจนเที่ยงหนังสือจบก็ยังไม่ได้รับบัตร 

และแล้วจุดเริ่มต้นของความน่าโมโหก็เริ่มขึ้นเมื่อทีมงานให้ทุกคนที่กำลังต่อคิวไปต่อแถวใหม่แยกตามสีบัตรที่ตนเองซื้อซึ่งนั่นหมายถึงเวลาสองชั่วโมงก่อนหน้านั้นสูญเปล่าต้องต่อแถวใหม่ตั้งแต่ต้นแย่กว่านั้นคือคนที่เพิ่งมาถึงงานกลับสามารถแทรกคิวไปต่อแถวใหม่ได้ทันที

ความขุ่นเคืองของคนที่ต่อคิวรับบัตรนั้นมหาศาลร่วมกันด่ากราดผู้จัดจนแฮชแท็ก#เทศกาลกีฬาบางกอก๔๘ขึ้นอันดับสองบนทวิตเตอร์เพราะนอกจากจะต้องต่อแถวใหม่เครื่องออกบัตรยังมีจำนวนน้อยและมีปัญหาจนไม่สามารถออกบัตรได้ทันกำหนดเริ่มงานเกิดการตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้งมีทั้งคนเป็นลมและตัดสินใจกลับบ้านจนท้ายสุดจากกำหนดการณ์เริ่มงานเวลา14:00 น. ต้องเลื่อนออกไปสองรอบและได้เข้างานจริงๆช่วงสี่โมงเย็นพลาดทั้งซุ้มงานวัดและยังได้ความเพลียความโมโหจนผู้เขียนแทบอยากฉีกบัตรทิ้งสนองโทสะหลังได้รับบัตรมาเป็นคนท้ายๆ

งานเปิดตัวด้วยสองพิธีกรอย่างปิ๊งThe Ska และแป้งZbingz (นักแคสเกมชื่อดัง) ออกมาแนะนำงานในภาพรวมและต่อด้วยการแสดงเพลงจากสมาชิกBNK48 แต่ก็เป็นอย่างที่คิดแม้จะทำให้ผู้เขียนรู้สึกดีขึ้นบ้างเล็กน้อยแต่ความโกรธมันยังคงปะทุอยู่ในใจจึงวางแผนจะอยู่ดูกิจกรรมสักพักและเดินทางกลับแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อยูนิตใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวหมาดๆอย่างMimigumo จากสามสมาชิกBNK48 ได้แก่มิวสิค, ไข่มุกและจ๋าออกมาแสดง

“เมื่อมิวสิคออกมาทุกคนก็กลายเป็นบ้ากันไปหมด” นี่คือถ้อยคำที่จะสามารถบรรยายเหตุการณ์ต่อจากนี้ได้ดีที่สุดเพราะหลังมิวสิคออกมาร้องและเต้นเพลงMyujikkii ก็สะกดทุกสายตาได้อย่างน่าขนลุก 

แม้ผู้เขียนจะเคยรับชมการแสดงสดเพลงนี้มาแล้วตั้งแต่วันเดบิ้วแต่ในครั้งนี้มิวสิคทำลายความประทับใจในครั้งที่แล้วด้วยการแสดงที่ดีกว่าเดิมจนความโกรธต่อออฟฟิเชียลที่มีมาก่อนหน้าทั้งหมดพังทลายไปในพริบตามันเป็นอะไรที่น่าเจ็บใจมากๆแต่ต้องยอมรับว่าผู้เขียนอารมณ์ดีขึ้นเหมือนโดนน้ำเย็นแช่แข็งหิมะจากขั้วโลกเหนือสาดใส่เข้าไปในหัวที่ร้อนๆจนไฟโกรธมันสงบลงทันที“เออไม่กลับก็ได้วะ” นี่คือคำพูดในหัวของผู้เขียน 

หลังจากนั้นสถานการณ์ทุกอย่างค่อยๆดีขึ้นตามลำดับและความตั้งใจจะเขียนวิจารณ์เชิงลบให้เละเทะก็หายวับเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสมอง

มีการเปิดตัวพิธีกรเพิ่มเติมอีก2 คนคือโอ๊ตปราโมทย์และอุลภาคภูมิพิธีกรคู่ขวัญBNK48 ที่เคยร่วมงานกันตั้งแต่ครั้งทำรายการเกมโชว์Victory BNK48 ทั้งสองเปิดตัวมาด้วยมุกขยี้ออฟฟิเชียลเรื่องออกบัตรเข้างานไม่ทันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจเรียกเสียงเฮจากผู้ชมดังกระหึ่ม 

และเชิญคุณจ๊อบ(ณัฐพลบวรวัฒนะ– ผู้จัดการวงBNK48) ออกมากล่าวเปิดงานรวมถึงกล่าวขอโทษเรื่องความล่าช้าในการออกบัตรพร้อมชดเชยผู้ร่วมงานทุกคนด้วยบัตรจับมือฟรี1 ใบ, สิทธิ์รับชมเธียร์เตอร์ฟรี1 เดือนและสิทธิ์ชมคลิปงานกีฬาย้อนหลังฟรี1 วันซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกพึงพอใจได้ในระดับหนึ่งพร้อมปรบมือขอบคุณที่ผู้บริหารออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ

ผู้เขียนขอชื่นชมพิธีกรอย่างโอ๊ตปราโมทย์และอุลภาคภูมิเป็นพิเศษเพราะทั้งสองทำให้งานนี้สนุกสนานมีเสียงหัวเราะอยู่แทบตลอดเวลาและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศงานที่คุกรุ่นในช่วงแรกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว(แต่ช้ากว่ามิวสิค) ซึ่งพิธีกรอีกสองคนคือปิ๊งThe Ska และแป้งZbingz ก็ดำเนินงานได้อย่างดีเช่นกันสามารถยิงมุกสนุกสนานได้รันสคริปท์ได้ดีคุณปิ๊งเป็นพิธีกรได้ลื่นไหลขึ้นจากครั้งงานเปิดตัวอัลบั้มJabaja และคุณแป้งที่ดูท่าจะรับหน้าที่เป็นพิธีกรงานใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรกก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวแต่ต้องยอมรับว่าสองคนแรกนั้นโดดเด่นกว่ามากเก่งกาจลื่นไหลและหาตัวจับยากจริงๆ

เมื่อถึงคราวแข่งกีฬาสมาชิกBNK48 ทุกคนทุ่มเทมากอย่างเห็นได้ชัดไม่มีการเล่นแบบขอไปทีใส่แรงแบบเต็มเหนี่ยวจนบาดเจ็บไปหลายต่อหลายคนมีทั้งเป็นตะคริว, ปากแตก, ขาเจ็บ, เป็นลมและล้มกระเด็น 
แต่ฉากที่ตราตรึงใจผู้เขียนมากที่สุดคงเป็นการสับศอกของปูเป้ที่ปะทะคอของนิ้งเต็มๆระหว่างเล่นฟุตซอลมันทำให้ผู้เขียนร้องโอ๊ยในใจและเผลอเอามือมาลูบคอตัวเองเพราะรู้สึกเจ็บแทนจนอยากจะเข้าไปปลอบประโลมพร้อมพูดว่า“น่าสงสารเขานะคะ” (ทำเสียงแบบมิโอริ) 


การแข่งขันมีทั้งกีฬาพื้นบ้านอย่างวิ่งกระสอบ, วิ่งเปี้ยวและชักเย่อรวมถึงกีฬาสากลได้แก่ฟุตซอลและแชร์บอลสิ่งที่เราได้เห็นในงานนี้มีทั้งในมุมจริงจังของนักกีฬาที่เอาจริงเอาจังจนถึงขั้นเสียน้ำตาได้เห็นมุมน่ารักอย่างการรู้จักน้ำใจนักกีฬาไหว้ขอโทษปลอบใจและยินดีกับฝ่ายที่ชนะได้เห็นมุมตลกโดยเฉพาะช่วงที่แพนด้ามัวแต่เต้นล้อเลียนทีมตรงข้ามในช่วงที่ต้องเตะบอลซึ่งออกนอกสนามให้เพื่อนจนกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา4 วินาทีตามกติกาไปแบบงงๆมันทั้งตลกและน่าเอ็นดูเรียกเสียงฮาจากคนดูลั่นสนาม(แพนด้าคงไม่แม่นกติกาฟุตซอล)


งานเทศกาลกีฬาบางกอก๔๘นับเป็นงานชั้นดีที่ดูสนุกตื่นเต้นและครึกครื้นต้องขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ทุ่มเทรวมถึงแฟนคลับซึ่งเตรียมตัวเชียร์มาอย่างดีมีทั้งการเตรียมเพลงเชียร์สำหรับสีตนเองมาโดยเฉพาะตีกลองดังลั่นสนามตอบโต้กันไปมาทำให้บรรยากาศมันคึกคักถึงขนาดคนไม่ดูกีฬาหรือแม้แต่งานกีฬาสีสมัยมัธยมก็ไม่เคยมีอารมณ์ร่วมอย่างผู้เขียนได้สนุกมีความสุขไปกับงานครั้งนี้ด้วย 

แต่ก็น่าเสียดายที่ออฟฟิเชียลน่าจะจัดการปัญหาเรื่องการออกบัตรเข้าชมให้ดีกว่านี้ไม่อย่างนั้นงานนี้จะดีแทบไร้ที่ติไม่ต้องมีบางคนที่พลาดเพราะถอดใจกลับบ้านไปไม่ต้องมาเหนื่อยเสียสุขภาพจิตกับการต่อแถวรอนับ7 ชั่วโมงเป็นบทเรียนที่ออฟฟิเชียลควรแก้ไขและผู้เขียนอยากแนะนำเพิ่มเติมให้ทางบริษัทวางแผนสำรองเอาไว้ให้รัดกุมเสมอ 
รวมถึงควรคาดการณ์ความเสี่ยงต่อสถานการณ์ต่างๆให้ดีกว่านี้เพราะปัญหาเรื่องตั๋วที่เกิดขึ้นบริษัทมีข้อมูลสถิติจำนวนผู้ซื้อตั๋วและยังไม่ได้รับบัตรอยู่แล้วปัญหาเรื่องออกบัตรไม่ทันมันจึงไม่ควรเกิดขึ้นจนต้องมาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดูไม่เข้าท่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเอาแน่เอานอนไม่ได้ขนาดนี้ 

ทั้งนี้เพราะรักผู้เขียนจึงวิจารณ์และหากมันเป็นอย่างที่คุณต้อม(จิรัฐบวรวัฒนะ– ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทBNK48 Office จำกัด) เคยกล่าวไว้จริงว่าคุณอ่านคำวิจารณ์ทั้งหมดก่อนนอนก็ต้องขออภัยที่บทความนี้อาจทำให้คุณรู้สึกดีและรู้สึกแย่ไปพร้อมกันเพราะนั่นคือความรู้สึกเดียวกันที่ผู้เขียนได้รับมาจากครั้งเข้าร่วมกิจกรรมนี้
....................

Cr.บทความจาก https://charcoal.in.th/bnk48-sport-day-review-7-9-19/

เป็นบทความที่เขียนได้ดี อ่านแล้วเห็นภาพตามเลย ชอบเพจนี้ Charcoal ลองไปติดตามกันได้ ชอบๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่