ตรงๆเลยนะคะ ปัญหาตามหัวข้อเลยค่ะ เรื่องค่อยข้างยาวนิดนึงนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า ..
คือคุณแม่เราเสียชีวิตไปตอนท่านอายุประมาณ 28 ปี คือช่วงนั้นเราอายุประมาณ 3 ขวบได้ ช่วงระยะเวลาที่พ่อจะมาเจอกับแม่เลี้ยง เว้นไปค่อยข้างนาน
แม่เลี้ยง เข้ามาในชีวิตเราช่วง เราอายุประมาณ 10-11 ขวบ และพ่อกับแม่เลี้ยงได้แต่งงานกัน
หลังจากนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงที่เราเข้ามัธยมต้น ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราค่อยข้างเกเร ติดเพื่อน หนีออกจากบ้าน ทำให้พ่อทุกข์ใจมาก แม่เลี้ยงคนนี้ก็อยู่เคียงข้างพ่อเราตลอดเวลา
ไม่นานตอนที่จะขึ้นม.ปลาย เราได้ย้ายไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด และได้พักอยู่กับญาติทางแม่ ช่วงปิดเทอมเราจะกลับบ้านมาหาพ่อทุกๆปี (ในระหว่างนั้นพ่อกับแม่เลี้ยงก็ใช้ชีวิตปกติ) บลาๆๆๆ ..
.. ข้ามมาถึงช่วงหลังเรียนจบมหาลัย .. ตอนเรารับปริญญา แม่เลี้ยงดูภูมิใจกะเรามาก ดูแลเราดีมากๆ คือเหมือนแม่ทำให้ลูกทั่วไปอ่ะ ทุกอย่างเค้าเทคแคร์ใส่ใจดูแลตลอด
เมื่อเราเริ่มทำงาน .. เราเพิ่งสังเกตเห็นพฤติกรรมหลายๆอย่างที่เราไม่เคยเจอมาก่อน เช่น เวลากินข้าวร่วมกัน ก็จะมีจานชามให้ล้างหลังจากกินเสร็จ แม่เลี้ยงเค้าล้างทุกจาน ยกเว้นจานที่เราใช้ และเป็นแบบนี้ตลอดมา แต่ด้วยความที่เรามองโลกในแง่ดี คิดว่าเค้าคงลืมมั้ง เราก็ล้างตามทุกครั้ง เพราะจริงๆเราจะล้างจานอยู่แล้ว แต่นางจะชิงล้างก่อนไง .. วันเวลาผ่านไปพฤติกรรมของนางก็เริ่มออกหลังจากที่เราไม่ได้อยู่บ้านประจำ เมื่อมาอยู่ด้วยกันเค้าก็แสดงอาการอะไรหลายๆอย่างออกมา
เวลาเราอยู่บ้านวันหยุด เราก็จะพักผ่อนอยู่ในห้องเรา เค้าก็จะขยันทำงานบ้านมาก แต่ทำเสียงดัง ประชดเราอ่ะ (เป็นประจำนะ แต่

ไม่บอกว่าเป็นไร กูทำไรผิดอ่ะ งงมาก)
อยู่ต่อหน้าพ่อ เรียกเรากินของทุกอย่าง ลับหลังอย่าหวังจะได้-จ่ะ ข้าวของเครื่องใช้แยกกันหมด เราจะไปใช้อะไรร่วมกันกะเค้าไม่ได้นะ เค้าไม่พอใจ ซึ่งตัวเราเองคิดว่าเราสนิทกับแม่เลี้ยงมากพอไงเลยแบบไม่คิดไร ซึ่งไม่คิดไรจริงๆจนแบบมีคนมาบอก
เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งแต่งงานไป ประเด็นหลักๆคือเรื่องแต่งงานของเรานี่แหละที่ทำให้เค้าไปพูดลับหลังแบบไม่อายใครเลย
ก่อนจะถึงงานแต่งในช่วงที่ เตรียมงาน บ้านเราก็มีการต่อเติมบ้าน และตกแต่งเพิ่มเติม ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เราไม่รู้ว่าพ่อเราเอาเงินจากไหนมาบ้างเพื่อที่จะทำบ้านเพิ่ม การแจกการ์ด พ่อเราให้เป็นหน้าที่ของแม่เลี้ยงเรา เพราะเค้ารู้จักคนเยอะ เค้าเลยรับหน้าที่นี่ไป
ก่อนงานแต่งาน 1 วัน ทางญาติเจ้าบ่าวก็มาเพื่อมาเตรียมงานหลายๆอย่างที่บ้านเรา มีปัญหาเกิดขึ้น ระหว่างบ้านเรากะบ้านแฟน คือการติดต่อประสานงานไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ เลยทำให้พ่อเราเครียดมาก
พอมาถึงวันงาน .. เหตุการณ์ต่างๆก็แย่ลง ทั้งบ้านเราและบ้านแฟน เหมือนจะไม่พร้อมเลยสักอย่าง เนื่องจากไม่มีประสอบการณ์เกี่ยวกับการจัดงานแต่ง เรื่องพิธีการอะไรก็ไม่แม่น แต่ผ่านมาได้ด้วยดี
หลังงานแต่ง1 วัน พ่อเราก็ได้นับซองกับญาติๆเพื่อเครียค่าใช้จ่ายต่างๆในงาน ตั้งแต่ค่าโต๊ะจีน ค่าดนตรี ค่าไฟ ค่าจ้างคนงาน บลาๆ (ถามว่าเหลือมั้ย ตอบเลยว่าไม่เหลือ ไม่พอด้วยซ้ำ เพราะพ่อต้องเอาไปจ่ายเงินที่ไปกู้ยืมมาเพื่อทำบ้าน) พอจบงานไป แม่เลี้ยงเราเค้าก็ไม่เหมือนเดิม เค้าเกลียดเราและแฟนมาก เราซื้อของฝากอะไรมาให้ก็ปฏิเสธทุกอย่าง ไม่มองหน้าเวลาคุย ถามคำตอบคำ เราเลยไม่คุยกับนาง
ก่อนนางจะบินไปญี่ปุ่น (นางมีลูกสาวและหลานๆอยู่ที่นั่น) เราก็คิดว่าโกรธไปก็เท่านั้น เราเลยคุยก่อน และเค้าก็ทำตัวเหมือนเดิมเลย คุยกะเราปกติ กับมาเป็นคนใจดีเหมือนเดิม เราก็เอ่อ คงไม่มีไรหรอกมั้งปกติแล้ว ที่ไหนได้ล่ะจ๊ะ...
หลังจาเค้าอยู่ญี่ปุ่นประมาณ 4 เดือน เรื่องก็ปรากฎ
พี่สะใภ้เรา เค้ามาเล่าให้ฟังว่า ตัวเค้าอึดอัดมาก ที่ต้องมาคอยฟังคอยรับรู้เรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง และเพิ่งได้รู้นิสัยแม่เลี้ยงเราชัดๆก็เมื่องานแต่งนี่เอง ว่า ช่วงหลังแต่งงานมา (ตอนนั้นที่เราไม่รู้เรื่องเนื่องจากเราไปบ้านแฟนที่ต่างจังหวัด เลยไม่รู้เรื่องอะไร) แม่เลี้ยง เอาเรื่องเราไปพูดเสียๆหายๆ ด่าประจานตามสถานที่ที่ไป เช่น ตลาดนัด ร้านเสริมสวย เกือบทุกที่ที่นางย่างกาวเข้าไปอ่ะ เราไม่อยู่บ้านก็ชอบเข้าไปในห้องเรา ซึ่งเราจะติดรูปงานแต่งไว้ในห้อง นางก็จะปัดให้ตกลงมาแต่ พร้อมกับถามพี่สะใภ้เราว่า มันจะเป็นเหมือนในละครมั้ย ที่รูปล่วงมาแล้วจะมีเหตุการณ์ไรเกิดขึ้น (ดู๊ววววววววววววว มันพูดดดดดดดดดด) พี่สะใภ้บอกว่าเค้าเข้าไปในห้องบ่อยมาก ไม่รู้เข้าไปทำไม แล้วก็ชอบยุให้พี่สะใภ้เราเข้าไปในห้องเรา บอกว่า ลองเปิดเข้าไปดูสิ่ในห้องน่ะ (

กกกกกกกกกกกจริงๆ) และอีกอย่างเค้าก็เอาไปพูดว่า มันจะนึกถึงบุญคุณที่เคยส่งมันเรียนมั้ย งานแต่งงานมันออกเงินไปตั้งเยอะไม่คิดจะเอามาให้บ้างเลยหรอ
... ประเด็นคือนางอยากได้ตังค์ที่ลงทุนไปคืนกลับมาบ้าง แต่ไม่พูดกับเราตรงๆนะ ไปพูดกับพี่สะใภ้เรา
ตัวเราเองพอได้รู้เรื่องพวกนี้และตอนแรกรู้สึกโกรธมาก แต่สักพักก็รู้สึกเสียใจ ที่ทำไมเค้าคิดกับเราแบบนี้ เค้าไม่รักเราหรอ ทั้งๆที่เรารักและเคารพเค้าเหมือนแม่มาตลอด จริงๆแล้วเค้าคงหวังอะไรจากเราไว้มากซึ่งเราเองก็คงคิดไม่ถึงด้วย เพราะขนาดตัวพ่อเราเองเค้ายังไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย เลยทำให้เราปล่อยปะละเลยมากเกินไปด้วยแหละ รู้ตัวว่าคงทดแทนพระคุณแม่เลี้ยงได้ไม่หมด แต่เค้าก็คงเกลียดเรามากๆ
เวลาโทรวิดิโอคอลมาหาเรา เค้าก็คุยกะเราดีมากเลยนะ บอกคิดถึงเราตลอด แต่เค้าจะโทรหาพี่สะใภ้เราทุกวันมากกว่า เค้าจะคอยถามเรื่องเรากะแฟนตลอดว่าเป็นยังไงกันบ้าง แฟนเรามาบ้านเราบ่อยมั้ย ถ้ามาแล้วพี่สะใภ้เราไปคุยกะแฟนเรา เค้าจะไม่คุยกะพี่สะใภ้อีกเลย
และอีกอย่างตอนนี้เราเพิ่งจะท้องได้ประมาณ 1 เดือน พี่สะใภ้เราเค้าก็คุยกับแม่เลี้ยงทุกวันอยู่แล้ว เค้าก็ส่งข่าวกันว่า เราท้องแล้วนะ จะกลับมาเมื่อไหร่จะได้เลี้ยงหลาน แม่เลี้ยงเค้าก็ตอบแบบไม่คิดเลยว่า ไม่เลี้ยง ใครจะเลี้ยงก็เลี้ยง ฉันไม่เลี้ยง (เมื่อพ่อเรารู้ว่าเค้าพูดแบบนั้น พ่อเราเสียใจมาก) พาเรารู้จากพี่สะใภ้เราช๊อกเลยอ่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าทำไมเค้าคิดแบบนั้น จนมาตอนนี้รู้หมดแล้วว่าเพราะอะไร รู้หมดแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเมื่อเค้ากลับมาไทย จะคุยยังไงจะอยู่ยังไง
เพราะตัวเราเองแต่งงานแล้วก็จริงแต่ไม่ได้ย้ายไปอยู่กับแฟนที่ ต่างจังหวัด เพราะพ่อเราเค้าอยู่บ้านคนเดียว เราไม่อยากทิ้งพ่อไปไหน งานที่ทำงก็ใกล้บ้าน เลยอยู่ที่บ้านกับพ่อ ดีกว่า แต่ว่า ... พอแม่เลี้ยงเค้าจะกลับมาแล้วอ่ะ เราจะทำตัวยังไง เพราะเค้าไม่รู้ว่าเรารู้เรื่องหมดแล้ว เรารู้แล้วว่าเค้าทำแบบนี้กะเราอ่ะ มีพยานหลักฐานเยอะมาก ที่เห็นเค้ากระทำแบบนี้ พยานทุกคนต่างห้ามไม่ให้เค้าแสดงนิสัยและพฤติกรรมต่างๆออกมา กลัวว่าตัวเค้าเองจะดูเสียหายมากกว่า ตัวเราที่โดนนินทา
คำถามก็คือ ควรทำตัวยังไงเมื่อเค้ากลับมาไทยแล้ว ...
(เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดอาจจะปะติดปะต่อเรื่องอาจจะ งงๆ นิดนึงนะคะ เขียนครั้งแรก เพราะอึดอัดจริง)
ปัญหาแม่เลี้ยง ตี2หน้า
เรื่องมีอยู่ว่า ..
คือคุณแม่เราเสียชีวิตไปตอนท่านอายุประมาณ 28 ปี คือช่วงนั้นเราอายุประมาณ 3 ขวบได้ ช่วงระยะเวลาที่พ่อจะมาเจอกับแม่เลี้ยง เว้นไปค่อยข้างนาน
แม่เลี้ยง เข้ามาในชีวิตเราช่วง เราอายุประมาณ 10-11 ขวบ และพ่อกับแม่เลี้ยงได้แต่งงานกัน
หลังจากนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงที่เราเข้ามัธยมต้น ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราค่อยข้างเกเร ติดเพื่อน หนีออกจากบ้าน ทำให้พ่อทุกข์ใจมาก แม่เลี้ยงคนนี้ก็อยู่เคียงข้างพ่อเราตลอดเวลา
ไม่นานตอนที่จะขึ้นม.ปลาย เราได้ย้ายไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด และได้พักอยู่กับญาติทางแม่ ช่วงปิดเทอมเราจะกลับบ้านมาหาพ่อทุกๆปี (ในระหว่างนั้นพ่อกับแม่เลี้ยงก็ใช้ชีวิตปกติ) บลาๆๆๆ ..
.. ข้ามมาถึงช่วงหลังเรียนจบมหาลัย .. ตอนเรารับปริญญา แม่เลี้ยงดูภูมิใจกะเรามาก ดูแลเราดีมากๆ คือเหมือนแม่ทำให้ลูกทั่วไปอ่ะ ทุกอย่างเค้าเทคแคร์ใส่ใจดูแลตลอด
เมื่อเราเริ่มทำงาน .. เราเพิ่งสังเกตเห็นพฤติกรรมหลายๆอย่างที่เราไม่เคยเจอมาก่อน เช่น เวลากินข้าวร่วมกัน ก็จะมีจานชามให้ล้างหลังจากกินเสร็จ แม่เลี้ยงเค้าล้างทุกจาน ยกเว้นจานที่เราใช้ และเป็นแบบนี้ตลอดมา แต่ด้วยความที่เรามองโลกในแง่ดี คิดว่าเค้าคงลืมมั้ง เราก็ล้างตามทุกครั้ง เพราะจริงๆเราจะล้างจานอยู่แล้ว แต่นางจะชิงล้างก่อนไง .. วันเวลาผ่านไปพฤติกรรมของนางก็เริ่มออกหลังจากที่เราไม่ได้อยู่บ้านประจำ เมื่อมาอยู่ด้วยกันเค้าก็แสดงอาการอะไรหลายๆอย่างออกมา
เวลาเราอยู่บ้านวันหยุด เราก็จะพักผ่อนอยู่ในห้องเรา เค้าก็จะขยันทำงานบ้านมาก แต่ทำเสียงดัง ประชดเราอ่ะ (เป็นประจำนะ แต่
อยู่ต่อหน้าพ่อ เรียกเรากินของทุกอย่าง ลับหลังอย่าหวังจะได้-จ่ะ ข้าวของเครื่องใช้แยกกันหมด เราจะไปใช้อะไรร่วมกันกะเค้าไม่ได้นะ เค้าไม่พอใจ ซึ่งตัวเราเองคิดว่าเราสนิทกับแม่เลี้ยงมากพอไงเลยแบบไม่คิดไร ซึ่งไม่คิดไรจริงๆจนแบบมีคนมาบอก
เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งแต่งงานไป ประเด็นหลักๆคือเรื่องแต่งงานของเรานี่แหละที่ทำให้เค้าไปพูดลับหลังแบบไม่อายใครเลย
ก่อนจะถึงงานแต่งในช่วงที่ เตรียมงาน บ้านเราก็มีการต่อเติมบ้าน และตกแต่งเพิ่มเติม ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เราไม่รู้ว่าพ่อเราเอาเงินจากไหนมาบ้างเพื่อที่จะทำบ้านเพิ่ม การแจกการ์ด พ่อเราให้เป็นหน้าที่ของแม่เลี้ยงเรา เพราะเค้ารู้จักคนเยอะ เค้าเลยรับหน้าที่นี่ไป
ก่อนงานแต่งาน 1 วัน ทางญาติเจ้าบ่าวก็มาเพื่อมาเตรียมงานหลายๆอย่างที่บ้านเรา มีปัญหาเกิดขึ้น ระหว่างบ้านเรากะบ้านแฟน คือการติดต่อประสานงานไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ เลยทำให้พ่อเราเครียดมาก
พอมาถึงวันงาน .. เหตุการณ์ต่างๆก็แย่ลง ทั้งบ้านเราและบ้านแฟน เหมือนจะไม่พร้อมเลยสักอย่าง เนื่องจากไม่มีประสอบการณ์เกี่ยวกับการจัดงานแต่ง เรื่องพิธีการอะไรก็ไม่แม่น แต่ผ่านมาได้ด้วยดี
หลังงานแต่ง1 วัน พ่อเราก็ได้นับซองกับญาติๆเพื่อเครียค่าใช้จ่ายต่างๆในงาน ตั้งแต่ค่าโต๊ะจีน ค่าดนตรี ค่าไฟ ค่าจ้างคนงาน บลาๆ (ถามว่าเหลือมั้ย ตอบเลยว่าไม่เหลือ ไม่พอด้วยซ้ำ เพราะพ่อต้องเอาไปจ่ายเงินที่ไปกู้ยืมมาเพื่อทำบ้าน) พอจบงานไป แม่เลี้ยงเราเค้าก็ไม่เหมือนเดิม เค้าเกลียดเราและแฟนมาก เราซื้อของฝากอะไรมาให้ก็ปฏิเสธทุกอย่าง ไม่มองหน้าเวลาคุย ถามคำตอบคำ เราเลยไม่คุยกับนาง
ก่อนนางจะบินไปญี่ปุ่น (นางมีลูกสาวและหลานๆอยู่ที่นั่น) เราก็คิดว่าโกรธไปก็เท่านั้น เราเลยคุยก่อน และเค้าก็ทำตัวเหมือนเดิมเลย คุยกะเราปกติ กับมาเป็นคนใจดีเหมือนเดิม เราก็เอ่อ คงไม่มีไรหรอกมั้งปกติแล้ว ที่ไหนได้ล่ะจ๊ะ...
หลังจาเค้าอยู่ญี่ปุ่นประมาณ 4 เดือน เรื่องก็ปรากฎ
พี่สะใภ้เรา เค้ามาเล่าให้ฟังว่า ตัวเค้าอึดอัดมาก ที่ต้องมาคอยฟังคอยรับรู้เรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง และเพิ่งได้รู้นิสัยแม่เลี้ยงเราชัดๆก็เมื่องานแต่งนี่เอง ว่า ช่วงหลังแต่งงานมา (ตอนนั้นที่เราไม่รู้เรื่องเนื่องจากเราไปบ้านแฟนที่ต่างจังหวัด เลยไม่รู้เรื่องอะไร) แม่เลี้ยง เอาเรื่องเราไปพูดเสียๆหายๆ ด่าประจานตามสถานที่ที่ไป เช่น ตลาดนัด ร้านเสริมสวย เกือบทุกที่ที่นางย่างกาวเข้าไปอ่ะ เราไม่อยู่บ้านก็ชอบเข้าไปในห้องเรา ซึ่งเราจะติดรูปงานแต่งไว้ในห้อง นางก็จะปัดให้ตกลงมาแต่ พร้อมกับถามพี่สะใภ้เราว่า มันจะเป็นเหมือนในละครมั้ย ที่รูปล่วงมาแล้วจะมีเหตุการณ์ไรเกิดขึ้น (ดู๊ววววววววววววว มันพูดดดดดดดดดด) พี่สะใภ้บอกว่าเค้าเข้าไปในห้องบ่อยมาก ไม่รู้เข้าไปทำไม แล้วก็ชอบยุให้พี่สะใภ้เราเข้าไปในห้องเรา บอกว่า ลองเปิดเข้าไปดูสิ่ในห้องน่ะ (
... ประเด็นคือนางอยากได้ตังค์ที่ลงทุนไปคืนกลับมาบ้าง แต่ไม่พูดกับเราตรงๆนะ ไปพูดกับพี่สะใภ้เรา
ตัวเราเองพอได้รู้เรื่องพวกนี้และตอนแรกรู้สึกโกรธมาก แต่สักพักก็รู้สึกเสียใจ ที่ทำไมเค้าคิดกับเราแบบนี้ เค้าไม่รักเราหรอ ทั้งๆที่เรารักและเคารพเค้าเหมือนแม่มาตลอด จริงๆแล้วเค้าคงหวังอะไรจากเราไว้มากซึ่งเราเองก็คงคิดไม่ถึงด้วย เพราะขนาดตัวพ่อเราเองเค้ายังไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย เลยทำให้เราปล่อยปะละเลยมากเกินไปด้วยแหละ รู้ตัวว่าคงทดแทนพระคุณแม่เลี้ยงได้ไม่หมด แต่เค้าก็คงเกลียดเรามากๆ
เวลาโทรวิดิโอคอลมาหาเรา เค้าก็คุยกะเราดีมากเลยนะ บอกคิดถึงเราตลอด แต่เค้าจะโทรหาพี่สะใภ้เราทุกวันมากกว่า เค้าจะคอยถามเรื่องเรากะแฟนตลอดว่าเป็นยังไงกันบ้าง แฟนเรามาบ้านเราบ่อยมั้ย ถ้ามาแล้วพี่สะใภ้เราไปคุยกะแฟนเรา เค้าจะไม่คุยกะพี่สะใภ้อีกเลย
และอีกอย่างตอนนี้เราเพิ่งจะท้องได้ประมาณ 1 เดือน พี่สะใภ้เราเค้าก็คุยกับแม่เลี้ยงทุกวันอยู่แล้ว เค้าก็ส่งข่าวกันว่า เราท้องแล้วนะ จะกลับมาเมื่อไหร่จะได้เลี้ยงหลาน แม่เลี้ยงเค้าก็ตอบแบบไม่คิดเลยว่า ไม่เลี้ยง ใครจะเลี้ยงก็เลี้ยง ฉันไม่เลี้ยง (เมื่อพ่อเรารู้ว่าเค้าพูดแบบนั้น พ่อเราเสียใจมาก) พาเรารู้จากพี่สะใภ้เราช๊อกเลยอ่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าทำไมเค้าคิดแบบนั้น จนมาตอนนี้รู้หมดแล้วว่าเพราะอะไร รู้หมดแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเมื่อเค้ากลับมาไทย จะคุยยังไงจะอยู่ยังไง
เพราะตัวเราเองแต่งงานแล้วก็จริงแต่ไม่ได้ย้ายไปอยู่กับแฟนที่ ต่างจังหวัด เพราะพ่อเราเค้าอยู่บ้านคนเดียว เราไม่อยากทิ้งพ่อไปไหน งานที่ทำงก็ใกล้บ้าน เลยอยู่ที่บ้านกับพ่อ ดีกว่า แต่ว่า ... พอแม่เลี้ยงเค้าจะกลับมาแล้วอ่ะ เราจะทำตัวยังไง เพราะเค้าไม่รู้ว่าเรารู้เรื่องหมดแล้ว เรารู้แล้วว่าเค้าทำแบบนี้กะเราอ่ะ มีพยานหลักฐานเยอะมาก ที่เห็นเค้ากระทำแบบนี้ พยานทุกคนต่างห้ามไม่ให้เค้าแสดงนิสัยและพฤติกรรมต่างๆออกมา กลัวว่าตัวเค้าเองจะดูเสียหายมากกว่า ตัวเราที่โดนนินทา
คำถามก็คือ ควรทำตัวยังไงเมื่อเค้ากลับมาไทยแล้ว ...
(เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดอาจจะปะติดปะต่อเรื่องอาจจะ งงๆ นิดนึงนะคะ เขียนครั้งแรก เพราะอึดอัดจริง)