มีปัญหาการเข้าสังคมกับเพื่อนที่สังคมต่างกันมากๆ ครับ วางตัวไม่ถูก

ผมต้องขออภัยก่อนเลยนะครับ กับกระทู้ที่ดูออกจะดราม่า
ไม่เคยตั้งกระทู้ที่ยาวและจริงจังแบบนี้มาก่อนเลย
ผมพิมพ์แล้วลบๆ อยู่นาน แต่ผมคิดคำที่แทนสภาวะปัจจุบันไม่ได้จริงๆ ครับ
น้อมรับผล หากจะมีดราม่าเกิดขึ้นครับ

เกริ่นก่อนว่า ส่วนตัวผมเป็นคนฐานะปานกลางใน กทม. ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้หวือหวามากครับ
เรียนเอกชนจนถึงประถม จากนั้นก็โรงเรียนรัฐบาลมาโดยตลอด ป.ตรี มหาวิทยาลัยกลางเมือง
เป็นคนเรียนค่อนข้างดีมาโดยตลอด ชอบศึกษาความรู้รอบตัว มีงานอดิเรกหลายอย่างที่ทำได้ดี
เพื่อนที่มีก็ค่อนข้างจะมีหลายฐานะ ต่างไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่วินมอเตอร์ไซค์ในชุมชนแออัดจนถึงลูกหลานนักการเมืองระดับประเทศ
ไม่เล่นเฟซ มีแต่ไลน์กับอีเมล และก็พันทิปตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีมาแล้ว
แต่ไม่เคยเจอปัญหาที่เจอ ณ ปัจจุบันเลยครับ

ปัญหาของผมเริ่มขึ้น เมื่อผมมีเหตุให้ต้องมาใช้ชีวิตในถิ่นห่างไกลนี่ล่ะครับ

ผมมีปัญหาการเข้าสังคมประมาณหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนใกล้ตัวที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
เริ่มมาจากสิ่งพื้นฐานก่อนเลยครับ เรารู้สึกว่ามีความต่างทางทัศนคติบางอย่าง เช่น เมื่อเราพูดคุยกันถึงสิ่งของบางอย่าง กิจกรรมบางอย่าง ที่เขาเอามาอวดกัน แล้วผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ว้าวขนาดนั้น โดยส่วนตัวจึงไม่รู้สึกว่าเราจะต้องแสดงปฏิกิริยาอาการว้าวขนาดนั้น ราวกับว่าเป็นคนตายด้านกับสิ่งที่เขาว้าวกัน

ตัวอย่างเหตุการณ์ละเอียดลงไปอีก เช่น
เมื่อคนรอบตัวพูดถึงเบอร์เกอร์ Mc... เพื่อนผมซื้อมาจำนวนหนึ่ง ผมให้คนอื่นเลือกได้ก่อนเลย ผมหยิบทีหลังได้ เพราะโดยส่วนตัวผมมองว่าอันไหนก็ได้ รสชาติธรรมดาอันไหนก็ธรรมดาๆ เหมือนๆ กัน ค่อนไปทางไม่ถูกปากเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับร้านที่โอเคขึ้นมาหน่อย เช่น ...King หรือตามบรรดาร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่มีในเมือง

พิซซ่า ตามที่มีเดลิเวอรี ผมก็เฉยๆ อีกเช่นกัน จะมีบางเมนูเท่านั้นที่โอเค เช่น หอมทอด สลัดซีซาร์ เราก็เลยไม่ได้ว้าวอีก ไม่รู้สึกว่ามันวิเศษขนาดนั้น ร้านข้างทางตรงหัวถนนข้าวสารโอเคกว่ามากจริงๆ

เค้ก ปกติผมค่อนข้างจะรักษาสุขภาพ ถ้าจะเสียสุขภาพทั้งที ต้องร้านที่ถูกปากจริงๆ เช่น ...Industry หรือ Secret... แต่ผมไม่เสียมารยาทนะครับ ก็ชิมตามเขา แค่เรารู้สึกว่ามันไม่โอเคเลยกับความรู้สึกที่มีอะไรมาเคลือบลิ้น

กาแฟป่าบราซิล ที่โดยปกติเราแทบจะไม่แตะ เพราะปกติเราไม่ดื่มกาแฟอยู่แล้ว เคยแค่ชิมๆ ตามโอกาส ขนาดแมลงดาวผมยังรู้สึกว่ามันปกติ ก็เห็นเพื่อนเราถือกันมาในคลาสทุกเช้าเป็นปกติ

คือผมคิดว่าพวกเขาค่อนข้างจะคาดหวังอะไรบางอย่างจากเรา เช่น ปฏิกิริยาตื่นเต้น ดีใจ ชื่นชม จากผมอยู่หรือเปล่าครับ

อันนี้ยังไม่รวมกับการที่พูดคุยกันในเรื่องอื่นๆ เช่น การไปเที่ยวต่างประเทศ การสื่อสารภาษาต่างๆ เรื่องทุนการศึกษา ไม่เว้นแม้แต่การขึ้นเครื่องบินในประเทศ ก็ยังรู้สึกว่าเรามีจุดร่วมกันกับคนรอบข้างน้อยมาก

โดยปกติ ที่บ้านผมจะสอนให้เป็นคนเกรงใจคนอื่นมากๆ เวลาฟังก็ฟังให้จบ อย่าไปหักหน้าใคร ถ้ามีอะไรที่ดีๆ เก่งในเรื่องไหน แต่ถ้าเห็นว่ามันไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครในตอนนั้น ก็เงียบๆ เข้าไว้ ถึงเวลาใช้ ค่อยใช้ให้เต็มที่ ซึ่งผมคิดว่าผมก็ใช่คตินี้มาตลอด แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ามันจะโอเคอยู่หรือเปล่า

เมื่อมีเรื่องพูดคุยกันกับคนรอบตัวในปัจจุบัน ผมพยายามไม่ฝืนความรู้สึกตัวเอง คือไม่แกล้งว้าวกับพวกเขา แต่ก็ไม่ไปหักหน้าเขา อะไรพอไหลได้ ก็เอาแต่พอดีๆ

ที่รู้สึกแย่อีกอย่าง คือ ตอนนี้ใจมันเริ่มคิดไปในด้านมืดบ้างแล้ว เรารู้สึกว่าเขาอิจฉาเรา
เวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เมื่อเราจะต้องสนทนา หรือมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งพื้นฐานเหล่านี้ มันทำให้ผมอึดอัดเหมือนกันที่จะต้องคอยระวังคำพูดรวมถึงความคิด เกรงว่าสิ่งที่เราพูดออกไปจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกด้อย ซึ่งรับรู้ได้จากปฏิกิริยาต่างๆ เช่น คำพูด ที่จะต้องคอยลากอะไรก็ได้มาเกทับ สีหน้า แววตา หรือถ้าเราพลาดอะไรขึ้นมานิดหน่อย ก็เตรียมโดนรุมได้เลยครับ ต่างกับเมื่อตอนอยู่กับเพื่อนๆ แถวบ้านลิบลับ อึดอัดพอสมควรเลย จนไม่อยากจะพูดเรื่องพื้นฐานพวกนี้เลย ถ้าไม่ถูกซักไซ้จริงๆ

เคยมีเพื่อนคนหนึ่งบอกกับผมเหมือนกันว่า ผมเป็นคนที่คบได้เลยนะ แต่มันเหมือนไม่ค่อยรู้จักในตัวตนผมเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันกับประเด็นพวกนี้มั้ย

ตอนนี้ก็พยายามฝึกสติในชีวิตประจำวันมาสักระยะ รู้สึกว่ามันใช่มากๆ แต่คงต้องให้เวลากับมันพอสมควรเลย

ความสุขที่มีตอนนี้ คือการได้อยู่กับธรรมชาติเงียบๆ คุยเล่นกับฝูงหมาแมวแถวๆ ที่พัก คุ้ยวรรณกรรมเด็กเก่าๆ ขึ้นมาอ่าน ได้ฝึกเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ แบ็คแพคเดี่ยวตามโอกาส คุยกับเพื่อนที่รู้ใจบ้างบางเวลา

อยากจะขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ด้วยครับ มองปัญหานี้อย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่