ณ ที่แห่งหนึ่งเป็นอำเภอเล็กๆในจังหวัดอันห่างไกล เสียงจอแจของกลุ่มคน ปะปนกัน มีทั้งเด็ก วัยรุ่น หนุ่มสาว คนวัยทำงาน และคนแก่ ต่างพากันจับกลุ่มคุยกัน ที่หน้าตู้ ATM "มานานหรือยังครับยาย" เสียงชายวัยกลางคนถามหญิงชรา คนหนึ่งที่ยืนรอกดเงินจากตู้ATM "หลานพามาตั้งแต่เช้าแล้วแต่ตู้ในตลาดเงินหมดเลยมาที่นี้"หญิงชราคนนี้ผมรู้จักเป็นอย่างดีเพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เมื่อสองปีที่แล้วมีนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย หลายๆครอบครัวที่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครอบครัวได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและยังสามารถนำไปใช้รูดซื้อสินค้าเพื่อใช้บริโภคในครอบครัว หญิงชราคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการจัดสรรค์เงินอุดหนุนจากรัฐบาล หลายๆเสียงที่เข้ามาให้ผมได้ยิน ไม่ว่าในที่ทำงาน ตลาด ร้านค้า หรือแม้แต่ในหมู่บ้าน ทำแบบนี้ซื้อเสียงทางอ้อม ,รัฐบาลนี้ทำดีแล้วรัฐบาลอื่นไม่เห็นทำ , ไม่สนใจหรอกใครจะเป็นรัฐบาลว่าแต่ได้ผลประโยชน์เอาหมด,ฯลฯ เสียงสะท้อนออกมามีมากมายไม่ว่าจากฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยจากการกระทำของรัฐบาล มีเสียงรถยนต์และจักรยานยนต์แล่นเข้ามาจอดหลายคัน เป้าหมายเดียวกันคือมากดเงินที่รัฐบาลอุดหนุน "กดคนเดียวเกือบ 30 บัตร" เสียงคนอยู่ข้างหลังผมที่เข้าคิวเพื่อทำธุระกรรมทางการเงิน "จะโอนเงินไปให้ลูกที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด"เสียงนั้นพูดแล้วสอบถามต่อมาที่ผม"มากดเงินหลวงแจกหรือ"เสียงนั้นถามต่อมา"ไม่ครับผมมากดเงินไปให้ค่าจ้างเขาไถนาครับ ปีนี้ฝนแล้งไม่รู้ทำนาจะได้ผลหรือเปล่า"ผมตอบ "นั้นสิผมก็ทำไร่อ้อยปีกลายนี้ยังเป็นหนี้ค่ายาค่าปุ๋ยโรงงาน ถ้าไม่ทำอ้อยก็ไม่รู้จะทำอะไรเพราะมันได้เป็นหนี้แล้ว" ถึงคิวผมกดเงินแล้วกลัวจากที่รอมานานเกือบ 1 ชั่วโมง ผมกำลังจะออกจากหน้าธนาคาร มีรถยนต์และจักรยานยนต์แล่นเข้ามาไม่ขาดสายเป้าหมายเดียวกันคือกดเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล "เขาช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยเอ็งมีงานทำมีรายได้แล้วไม่ให้"เสียงผู้ใหญ่บ้านบอกผมตอนที่ผมขอคำรับรองจากผู้ใหญ่บ้าน แต่ญาติๆแกและผู้มีอันจะกินหลายๆคนในหมู่บ้านกลับได้ "อะไรวะผมคิดในใจ" คนที่รับซื้ออ้อยคนในหมู่บ้านมีลานอ้อย มีโควต้าอ้อยปีละหลายแสนตันได้บัตรทุกคนในครอบครัว ส่วนครอบครัวผมมีผมคนเดียวที่มีงานทำชักหน้าไม่ถึงหลังต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีก 5 ชีวิตกลับไม่ได้รับการสนใจเลย เย็นวันต่อมาผมต้องเข้าไปซื้อเครื่องใช้ภายในบ้าน ไปเจอหลายๆคนในหมู่บ้าน ที่ใช้บัตรที่รัฐบาลอุดหนุนรูดซื้อสินค้า "ยายบ้านยายไม่มีเด็กยายรูดซื้อผ้าอ้อมเด็กไปทำไม"คำตอบที่ผมได้รับทำให้ผมสับสนกับกระบวนการคิดของหลายๆคนที่เป็นเหมือนยาย คือเมื่อไม่มีของที่ต้องการก็ตามก็จะพากันรูดซื้อสินค้าอื่นที่ไม่มีความจำเป็นเพียงเพราะต้องการให้เงินในบัตรหมด ผมมานั่งคิดๆดูถ้าร้านค้าที่เข้าโครการที่ไม่มีจรรยาบรรณเอาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือสินค้าลดราคาจากห้างค้าส่งใหญ่ไม่ให้ประชาชนรูดซื้อสินค้าประชาชนได้ของที่ไม่มีคุณภาพและไม่ตรงตามความต้องการ นายทุนและร้านค้าได้ประโยชน์ทุกทาง ชาวบ้านก็ลำบากเหมือนเดิม นโยบายแบบนี้ คนรวยไม่ลำบากถึงมีการเก็บภาษีเพราะเขารวยมีกำลัวพอที่จะจ่ายอยู่แล้ว คนจนจริงๆไม่ได้รับการเหลียวแล และมาเก็บภาษีหนักๆกับคนชั้นกลางที่หาเช้ากินค่ำ "ต่อไปนี้ประเทศนี้จะไม่มีคนจนเพราะคนชั้นกลางและคนจนตายหมดแล้วเหลือแค่คนรวย เหตุการณ์ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้หวังว่าคงจะไม่เกิดกับประเทศไทยนะครับ
เสียงสะท้อนหน้าตู้ ATM