เคยตั้งกระทู้ไปเมื่อปีที่แล้วค่ะเกี่ยวกับสถานะการของเราแต่จะพิมสรุปให้อีกรอบเพราะของปีที่แล้วอ่านยากและใช้อารมณ์ตอนพิมพ์มากเกินไปเลยจับอะไรไม่ค่อยได้เลย ถ้ามีคำผิดหรือใช้คำไม่ถูกต้องจขกท.ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ก่อนเลยนะคะ พอไม่ได้ใช้ภาษาไทยนานบางทีก็ลืม
ก่อนอื่นขอเริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้หญิงคนนั้นค่ะ
เราเกลียดเขาถ้าให้สั้นและง่ายที่สุด ถ้าเป็นไปได้จะไม่เรียกเขาว่า'แม่'ส่วนใหญ่เวลาเล่าให้คนอื่นฟังจะใช้ชื่อจริงไม่ก็sheเป็นสรรพนามแทนค่ะ เราก็จำไม่ได้ว่ามันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่มันมีแค่จะเกลียดเขามากขึ้น มากขึ้นทุกๆวัน
ขอบอกไว้ก่อนว่าพ่อของเรากับเขาหย่ากันมานานตั้งแต่เรายัง7ขวบ และเขาก็ทิ้งเราไว้กับพ่อประมาณ2ปีก่อนกลับมาติดต่อกับเราเรื่อยๆค่ะ(พ่อไม่เล่าอะไรเกี่ยววกับเขาให้เพราะคุณพ่อก็ไม่ชอบเขาเหมือนกันค่ะ) จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดคือเขาไปแต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติคนนึงค่ะ ซึ่งก็คือพ่อเลี้ยงเราณปัจจุบัน เขาเลยอยากให้เรามาอยู่ด้วยจึงขอวีซ่าเรื่อยๆทุกปีค่ะ ตั้งแต่ป.4มั้งคะ ถ้าทำไม่ผิด ก็ไม่ผ่านมาหลายรอบจนมาถึงตอนเราอยู่ม.3ค่ะ
คือไม่ได้เจอหน้าเขามานานมาก นานๆปีหรือสองปีครั้ง เราเริ่มชินกับชีวิตที่ไทยจนครั้งสุดท้ายที่ขอวีซ่าเราก็จะอายุ16 เหมือนเขาบอกว่าโตเกินขอวีซ่ามาอยู่ด้วยแล้ว ตอนนั้นเราภาวนาขอให้ไม่ผ่านๆ แต่สุดท้ายมันก็ผ่านค่ะ
โอเคแล้วหลังจากนั้นเอาไงต่อดี
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธไม่ไปได้ค่ะ ด้วยความคิดตอนนั้นคือเวลาและเงินที่เสียไป พ่อและคนอื่นๆก็บอกว่ามันดีเพื่ออนาคตของเราซึ่งเราก็เห็นด้วยค่ะ
จึงตัดสินใจ? กลั้นใจมาน่าจะถูกกว่า เราวางแผนไว้ว่าจะทนอยู่กับเขา3ปี (อายุ18พอดี) แล้วจะออกมาทำงานเก็บเงินไปมหาลัยเองเลยค่ะ
จุดแตกหัก
ถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่มาอยู่ใหม่แรกๆเลยค่ะ เราไม่ชอบเขาอยู่แล้วด้วยนิสัยที่ต่างกันคนละขั้ว เราเป็นคนไม่พูดถ้าเราไม่อยากพูด ซึ่งเหมือนกันพ่อเราค่ะนานๆเราจะคุยกันก็เฉพาะตอนอยาก ถาม หรือตอนกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเราก็สบายใจกับอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนเขานั้นตรงกันข้าม เขาเป็นคนชอบพูด อยากพูด ไม่สามารถหยุดได้ และสิ่งที่เราเกลียดที่สุดคือเขาชอบใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหาค่ะ เขาอยากให้เราคุยด้วยแต่เราไม่อยากคุย เขาก็จะตะวาดเสียงดังค่ะ มีโดนทุบตีบ้างแต่ก็ชินเท่าที่จำได้ตอนที่อยู่กับเขาตอนยังเด็กค่ะ
หลังจากมาอยู่เขาก็ใช้กำลังกับเสียงดังๆในการคุยกับเราเท่านั้นค่ะ เราไม่โอเค แต่ตอนนั้นไม่รู้จักใครยังไม่ไปรร.ไม่มีที่พึ่งค่ะ
หลังจากผ่านมาได้ มีคุยกับรร. มีครอบครัวไทยที่รู้จักในเมืองเดียวกันก็มีความปีกกล้าขาแข็งขึ้นค่ะ เกือบหนีออกจากบ้านแต่ก็ไม่ได้ทำค่ะ เดือนที่3ของปีที่แล้วเราตัดสินใจที่จะตัดแม่ลูกกับเขาทั้งหมดค่ะเราทนและให้อภัยเขามามากพ่อแล้วเขาไม่เปลี่ยนตัวเองเลย จึงย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวที่รู้จักย้ายไปมาอยู่3ครอบครัวค่ะผ่านไปได้6เดือนเห็นจะได้ ผู้หญิงคนนั้นเขายื้นข้อเสนอ คุณป้าที่ช่วยเราก็บอกว่ามันดี เราก็เชื่อฟังและยอมรับข้อเสนอค่ะเลยย้ายกลับมาอยู่บ้านเดียวกับเขาอีกรอบ และเราหยุดไปหาหมอเพื่อปรึกษาเพื่อไม่ให้มีปัญหากับเขาค่ะ (เนื่องจากเราแจ้งรร.ไปว่าได้รับการดูแลไม่ไดีพอจึงจะมีคนมาตรวจเขาเลยอยากให้เรากลับไปอยู่ด้วย) ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่ค่ะ แต่ข้อเสนอเหล่านั้น พวก*xxx*นั้นดันลืมไปหมดแล้วเนี้ยสิ ก็พยายามมองข้ามไปค่ะเพราะอาการเรายิ่งไม่ดีอยู่
เกี่ยวกับจขกท. และครอบครัว
ทั้งนี้ จขกท.ตอนยังอยู่ที่ไทยไม่ได้เป็นเด็กดื้อหัวรั้นแต่อย่างได้ เป็นคนเงียบๆหน้านิ่งๆจะไม่พูดถ้าไม่ใช้คนที่อยากหรืออยากคุยก็จะไม่ยิ้มเลยค่ะ ไม่รู้ว่าแค่ขี้เกียจคุยหรือแค่ไม่อยากเหมือนกัน เพราะว่าเป็นคนเงียบแต่ตอนเข้าสังคมก็ปกติค่ะถ้าตั้งใจก็ทำได้ ถึงจะมีปัญหากับการจำชื่อคนและใบหน้าในระดับที่แย่มากๆ(กว่าจะจำทั้งห้องได้ใช้เวลา2ปีเจอทุกวัน) แต่เวลาอยู่นอกการสนทนาจะกลับไปอยู่กับตัวเองและใส่ใจกับความรู้สึกรอบๆ เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยมากค่ะมีงอนเพื่อนบ่อยครั้งแต่ไม่ได้บอกชอบเก็บไว้ ถ้าโมโหก็จะเงียบไม่คุยจนเพื่อนมาง้อค่ะ มีไม่กี่ครั้งที่เราจะเป็นคนง้อใครก่อนถ้าเรื่องมันแย่มากและเป็นเพื่อนที่เราไม่อยากเสียหลังจากทนเก๊กมา2เดือนถึงจะเริ่มง้อแทนค่ะ ตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีมากค่ะไม่เคยทำผิด
ก่อนพ่อแม่แยกทางกันก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรเพราะเราเป็นเด็กติดพ่อยู่แล้วเลยแทบไม่รู้สึกว่าขาดอะไรเลย
พ่อแต่งงานใหม่เราก็โอเคมากๆแม่ใหม่ก็ดูแลเราดีสุดๆเราถือให้เขาเป็นแม่เราเลยเพราะเขาดีกับเราจริงๆ
ไม่เคยโดนพ่อหรอแม่เลี้ยงตีหรือด่าว่าอะไรเลย มีบ่นเรื่องเก็บห้องบ้าง ไม่มีอะไรต้องกังวลเวลาจะทำอะไรเพราะรู้ตัวว่าอะไรควรและไม่ควร เรียงลำดับความสำคัญเป็นอยู่นะถึงจะได้รับการดูแลจากพ่อจนกลายเป็นเด็กโดนสปอยคนนึงแต่ก็ใช่ว่าเราจะทำอะไรไม่เป็นดังนั้นพื้นฐานงานบ้านเราจึงมีครบ มั่นใจมากๆด้วยยกเว้นรีดผ้าให้คมแต่โดยรวมต่อให้อยู่คนเดียวก็รอด!
เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตมากค่ะแฮปปี้ ชีวิตดี้ดี สุดๆ ไม่เคยคิดทำร้ายตัวเองกับตายเลยค่ะ
ณ ปัจจุบัน
สถานะการณ์ก็ปล่อยมันไหลไปค่ะ เราไม่สนใจพวกเขาอีกแล้ว เราเกลียดพวกเขาค่ะ ด้วยทุกๆส่วนของร่างกาย เต็มไปด้วยความเกลียดชังค่ะ เรากลียดชังพวกเขา ไม่สามารถปล่อยว่างได้ เมื่อพวกเขาพยายามคุยเราไม่สามารถคุยด้วยได้ค่ะ เราเต็มไปด้วยความเกลียดจนแทบระเบิดออกมา ภาวนาทุกวันว่าให้เราหลับตายไปไม่ก็พวกเขาตายไปค่ะ เราหวังทุกวัน ทุกๆวัน แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับเราหรือพวกเขาเลย
เราอยู่คนเดียวมากขึ้น ล็อคตัวเองไว้ในห้อง ไม่อยากออกไปไหนเพียงเพราะพวกเขาอยู่นอกห้อง(เราไม่อยากเห็นหน้าพวกมัน) เมื่อไหร่ที่เราเห็น ได้ยินเสียง หรือรับรู้ว่าพวก*xxx*อยู่ใกล้ๆ ตัวเราจะเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชัง อยากฆ่าพวกนั้นให้ตายแค่คิดเราก็แทบเป็บบ้าเลยค่ะ โดยพื้นฐานไม่ได้เป็นคนมีอารมณ์ร้อนดังนั้นถ้าเราโมโหเราจะกลั้นไว้อดทนจนเปลี่ยนมันเป็นความเศร้าแทนค่ะ และร้องไห้
ชีวิตเราที่รร.ก็ปกติดีค่ะผ่านมาหนึ่งปีเพื่อนไม่มี ไม่ใช่ไม่มีเพื่อนแต่ไม่มีคนที่สนิทถึงขั้นส่งข้อความคุยกันได้ค่ะ อาจจะเพราะเราไม่เปิดใจด้วยแหละค่ะ ปกติไม่ด้เป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อนถ้าไม่จำเป็น ถ้าอยู่ในรร.เราก็คุยได้ปกติถ้าเราอยากคุยเพราะตอนนี้เราไม่สนใจอะไรอีกแล้วค่ะดังนั้นการคุยกับคนอื่นเลยไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็เริ่มเบื่อเหมือนกันค่ะ เหนื่อยกับการพูดคุยค่ะ วันไหนเรารู้สึกขาลงมากๆการไปรร.ก็ยากมากขึ้นค่ะ นอกจากต้องกลั้นใจเดินผ่านคนที่เราเกลียดในทุกๆเช้า(เป็นสาเหตุให้เราไปสายเพราะรอให้พวกเขาไปๆซะที) ต้องคอยควบคุมอารมณตัวเองค่ะ เราอดทนอดกลั้นได้ดีมากๆ จนทำให้แย่เพราะไม่สามารถระบายออกได้ค่ะ ความรู้สึกที่หนักอั้งในทุกก้าวที่เราเดินเราอยากร้องไห้ค่ะเวลาออกไปข้างนอกเพื่อไปรร.ในวันที่ไม่โอเค เหนื่อยเบื่อจนอยากหยุดเดินแล้วร้องไห้ ตะโกนมันออกมา เอาความรู้สึกเหล่านั้นออกจากอกไปค่ะ แต่พอคิดที่จะทำมันดันทำไม่ได้ เสียงไม่ยอมออกมา หน้าก็นิ่งเหมือนเคยต่อให้รู้สึกแย่แค่ไหนถ้าไม่ร้องไห้ก็ไม่เปลี่ยนไป ที่รร.นอกจากที่ปรึกษากับอาจาร์ยไม่กี่คน ครอบครัวของเราและครอบครัวที่ช่วยเหลือเราก็ไม่มีใครรู้ค่ะ (เวลาเราไปสายในวิชานั้นเลยอธิบายบอกเขาไป)เราก็ไม่เคยบอกใคร ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ใครรู้ แต่ขี้เกียจมั้งคะ เหนื่อ เบื่อ ที่จะต้องมาบอกทุกๆคนค่ะ เราเลยบอกกับที่ปรึกษาไปว่าถ้าจะบอกใครก็บอกได้เราไม่สนแล้ว เหนื่อย เวลาอยู่กับเพื่อนหรือต้องคุยกับคนอื่นก็ยิ้มนะคะ แต่ไม่ใช้ยิ้มที่มาจากความสุข ก็แค่ยิ้ม เพราะเราเป็นคนหน้านิ่งมาแต่ไหนแต่ไรเราไม่ว่าอารมณ์ไหนก็หน้าเดิมค่ะ ทั้งๆที่เราคิดว่าเรายิ้มแล้วแท้ๆแต่คนอื่นไม่รู้ค่ะ เราเลยฝึกยิ้มไว้อยู่แล้วก็ใช้ได้ดีค่ะ เริ่มต้นเทอมใหม่ก็พยายามทำ/แต่งตัวแตกต่างคนอื่นไปเลยค่ะเพราะเราไม่สนใจสายตาหรือนินทาอีกแล้วค่ะ เบื่อ ก็คงเป็นข้อดีในตอนนี้มั้งคะ
อาการ/ความรู้สึก
รู้สึกเศร้าค่ะ รู้สึกแย่ ขอโทษกับชีวิตของตัวเองที่ต้องมาอยู่แบบนี้ ร้องไห้เกือบทุกคืนค่ะตอนจะนอนมันฟุ้งง่าย เริ่มทำร้ายตัวเองเมื่อ2เดือนที่แล้วค่ะที่ข้อเท้า น่องและจุดที่อยู่ใต้เสื้อค่ะ ก่อนทำก็นึกว่าจะเจ็บเจียนตายแต่พอได้ทำก็รู้สึกดีค่ะ เคยคิดอยากตาย แต่ไม่ได้คิดเพราะว่าอยากจริงๆ แค่โกรธแค้นพวกคนที่เราเกลียดชังค่ะเลยอยากแก้แค้นด้วยความตายของเรา เราไม่ใช่คนที่กล้าทำร้ายใครอยู่แล้วถึงจะได้แค่คิดแต่เราไม่อนุญาติตัวเองให้ทำค่ะ ถ้าจะทำจริงๆเราจะหยุดตัวเองแล้วกลับมาทำร้ายตัวเองค่ะ เหมือนมือที่กำลังจะตบแล้วแต่ก็กลับมาตบตัวเองนั้นแหละค่ะ คิดแล้วก็แปลกดีแต่ก็เป็นงั้นจริงๆค่ะ เราไม่อยากทำร้ายตัวเองเลยไม่เคยโกรธใครถึงขั้นทำตัวเอง มีแค่ครั้งเดียวแหละค่ะ แต่คนพวกนี้ทำให้เรารู้สึกโกรธแค้นและโมโหตลอดเวลาเพราะอยู่บ้านหลังเดียวกันค่ะ เราเลยตัดตัวเองค่ะ ตัด ตัด ตัด แล้วก็ตัดมันค่ะ สบายใจดี สนุกดี ไม่ได้อยากตาย แต่ทำแล้วผ่อนคลายดีค่ะ ก็ออกกฎกับตัวเองไว้จนกว่าแผลเก่าจะหายจะไม่ทำเพิ่มค่ะ แต่จำนวนไม่มีกำหนดไว้ บางทีก็อยากทำตรงแขนบ้างนะคะ แต่เราไม่อยากมาอธิบายให้ทุกคนฟังทีละคนๆหรอกนะ มันน่ารำคาญพอสมควร อยากเรียกร้องความสนใจแต่พอได้รับมันก็น่ารำคาญ หมดไฟในการทำทุกๆอย่าง ทำได้ไม่นานก็เลิก หยุดดทำทันที่ถ้ารู้ว่าพวกคนที่เราเกลียดอยู่รอบตัว
ขี้เกียจทุกอย่างแม้แต่หายใจ เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร นอนตลอดวันถ้าเป็นวันหยุดก็นอนไป12ชม.เห็นจะได้ถ้าวันไปรร.ก็12ชม.อยู่ดีแค่นอนเร็วขึ้นเลิกเรียนนอนเลย ตื่นตี5ทุกวันไม่เคยปิดนาฬิกาปลุก(แต่จะนอนต่อหรือไม่ก็อีกเรื่อง)
เคยได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาให้ไปหาจิตแพทซึ่งเราก็เห็นด้วยแต่ไม่ไปค่ะ *ฮ่า* ตลกดีนะคะ แต่เราไม่อยากไปค่ะและไม่อยากให้มาหาด้วย ดันรู้สึกอยากเก็บความรู้สึด้านลบไว้ซะงั้น จริงๆก็อยากไปเพื่อตัวเราเองแต่ก็ไม่อยากไปเพราะอยากเก็บเอาไว้ ขัดแย้งในตัวเองดี ถ้าไม่มีอะไรกระตุ้นเราก็ปกติดีนะคะ เลยคิดว่าเราอยู่กับมันได้ คงไม่เสียหายถ้าเราอยากจะเก็บมันไว้
ถ้าไม่ใช่ซึมเศร้าก็คิดว่าตัวเองเป็นมาโซรึเปล่าที่ชอบความเจ็บปวดแต่เราลองดูคลิปอย่างว่าแบบนั้นดูก็รู้สึกว่าไม่ใช่แบบนั้น อาจจะมีอยากโดนมัดบ้างแต่ไม่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนเหล่านั้นเลยค่ะ
นั้นคือเกือบทั้งหมดแล้วค่ะ ก็อาจจะแค่อยากมาระบาย วันนี้ไม่ได้ทำอะไรทั้งวันอยู่แล้ว ไหนๆก่อนนอนก็ทำอะไรสักหน่อย
พิมตกไปหลายตัวเลยแต่เราขี้เกียจแก้หวังว่าจะเข้าใจนะคะ ;3
อ๋อลืมตัวใช้รร.ไปซะได้ พึ่งจบเกรด11(เรียกรร.) จริงๆอยู่วิทยาลัยที่อังกฤษปีแรกค่ะ(เกรด12) เรียน2ปีจบ18พอดี หางานพิเศษทำอยู่ค่ะอยากเก็บเงินไปอยู่เองไวๆและเพื่อมหาลัยด้วยค่ะ
อยู่ได้ไหม? โอเคไหม? คำถามที่ใครๆก็ถาม ได้ก็บ้าแล้วแต่ก็ต้องได้นั้นแหละค่ะ เวลามันไม่เคยหยุดเดินให้เราทำใจเลย ฟังดูโหดร้ายแต่เราก็ต้องเดินตามให้ทันเวลา ก็ทนอยู่มาได้ปีนึงละ อีกสักปีสองปีจะเป็นไรไปเนอะ เวลามันไม่หยุดอยู่แล้วเดี๋ยวก็2ปีแปปเดียว
วันแต่ละวันของเราเดินไวมากแปปๆก็ต้องนอนต้องตื่น
จริงๆก็รู้ตัวอยู่แล้ว รู้ทั้งรู้ก่อนถาม รู้แต่ก็อยากถามอยู่ดีค่ะ
งั้นเอาเป็นว่ามีอะไรช่วยให้เรารู้สึกมีแรงในการทำสิ่งต่างๆทุกวันโดยที่ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในที่เดียวกับคนที่เราเกลียดโดยไม่โยนงานหรือเลิกทำไปเลยดื้อๆอย่างไรดีคะ
คิดว่าหมดเรื่องที่อยากพิมแล้วนะคะ
ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจนจบนะคะ เป็นเราเยอะลายตายวรรคแปลกพิมผิดแบบนี้อ่านไม่ไหวแน่ๆ
ฝันดีและขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ชีวิตมีปัญหา รู้สึกแย่เหมือนเป็นซึมเศร้าหรือแค่ขี้เกียจและเหนื่อยเกินไป?