เราเจอผู้ชายคนหนึ่งในเกม ความรู้สึกดีๆก็เกิดขึ้นจากการที่เล่นเกมด้วยกันบ่อยๆ สนิทกัน ก็คุยกันจนรู้สึกไว้ใจในระดับนึง แบบมีปัญหาก็ปรึกษาเค้า ด้วยความที่เค้าโตกว่าเรามากเค้าอายุ28-29แล้ว เป็นลูกชายคนโตดูแลธุรกิจครอบครัวและน้องๆอีก4คน เรียนจบป.ตรี ภาคอินเตอร์ มีรถหรูขับ มีคอนโดหรูอยู่ ส่วนเราอายุ22-23เป็นลูกสาวคนที่4ของบ้าน(คนสุดท้อง)ยังเรียนอยู่ปี4ที่ม.ราชภัฏแห่งหนึ่งในกทม. เราเช่าหอธรรมดาอยู่ ไปไหนก็ซ้อนมอไซด์เพื่อนบ้าง รถเมล์บ้าง พูดถึงชีวิต ต่างกันสุดๆ แต่คุยกันได้เพราะมีมุมมองอะไรหลายๆอย่างที่ตรงกัน และติดเกมส์เหมือนกัน ชอบเล่นเกมส์เหมือนกัน แฮร่ๆ^^”
ความสัมพันธ์พัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นต้องคอลคุยกันทุกวัน 60%ของเรานี่คิดจริงจังไปแล้ว เท่าที่คุยเค้าก็ดูเป็นคนดี บวชเรียนมาแล้ว เรียกว่าเพียบพร้อมทุกอย่างจนเราอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายแบบนี้จะยังโสดจริงๆหรอ สาวๆไม่มารุมตอมเป็นแมลงวันเลยหรอ แต่เค้าก็ดูมีเวลาให้เรานะ จะว่ามีแฟนอยู่แล้วคงไม่ใช่ แต่ก็นะ เขาจะคิดจริงจังกับผู้หญิงติดเกมส์ธรรมดาๆแบบเราจริงๆหรอ เรียนก็ยังไม่จบ แถมยังแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ ยังดูแลตัวเองไม่ได้ และยิ่งเราเป็นคนปิดกั้นตัวเอง มีเงื่อนไขกับตัวเองตั้งแต่แรก คือเราไม่สามารถพูดว่ารักผู้ชายคนเดียวได้เต็มปาก เพราะรักครั้งเก่าเราสูญเสียคนรักเพราะอุบัติเหตุ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และเค้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเรา เรายังคงคิดถึงและไม่เคยลืม ไม่เคยคิดจะเอาใครมาแทนที่ด้วยซ้ำ แต่ผู้ชายคนนี้เขาก็ยังเลือกจะจีบเราต่อ จะว่าเรื่องความสวยนี่ตัดไปได้เลย เพราะเราไม่ใช่คนสวย และเราก็คิดด้วยว่าชีวิตเค้าคงเจอผู้หญิงสวยๆกว่าเราเยอะแยะ เรารู้สึกดีมากๆ จนอยากเริ่มต้นใหม่กับเค้า แต่ติดตรงที่ การใช้ชีวิตเราค่อนข้างจะแตกต่าง จากที่ดู แม้แต่เรื่องอาหารการกิน เรากินข้าวข้างทางธรรมดา แต่เค้ามักจะกินหรูกินของแพงๆ แต่เค้าก็พยายามบอกเราว่าเค้ากินข้าวข้างทางได้ ปกติเค้าก็กิน แต่เท่าที่เราเห็นเหมือนจะนับครั้งได้เลย อยู่บ้านเค้าก็มีแม่บ้านซักผ้าปัดกวาดเช็ดถูห้องให้ ในขณะที่เรายังแบกเสื้อผ้าลงไปใส่ตู้หยอดเหรียญ อย่างเรื่องเที่ยว ของเราแค่เที่ยวตจว.บ้างนานๆที แต่เค้าบินไปตปท.ทุกเดือน
ต่างกันสุดๆ เหมือนฟ้ากับเหว จนเราคิดไม่ตกเลยว่า คนที่มีชีวิตดีแบบนั้น ถ้าคบกัน ครอบครัวเค้าจะรับเราได้หรอ บ้านเค้ารวย กับบ้านเราที่ฐานะปานกลาง แล้วเขาจะคิดจริงจังกับเราถึงขั้นแต่งงานจริงๆหรอ ที่เรายกเรื่องแต่งงานมาพูดเพราะเค้าบอกเราว่า พ่อแม่เค้าเร่งเค้าเรื่องแต่งงานแล้ว ประมาณว่าเค้าอายุจะ30แล้วควรจะมีครอบครัวได้แล้ว นั่นหมายความว่าถ้าเค้าจะคบกับเราเค้าก็ต้องคิดไปถึงเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว(รึป่าว) ส่วนเราเองไม่ค่อยชอบเรื่องรักๆเลิกๆ เพราะตั้งแต่แฟนเก่าเราเสีย เราก็ไม่มีแฟนใหม่เลย อาจจะมีคุยๆได้ไม่ถึงเดือนไม่ทันได้คบหาเป็นแฟนก็เลิกคุย ด้วยนิสัยโลกส่วนตัวสูง ติดพี่ชายพี่สาว ติดพ่อแม่ ติดครอบครัว แล้วก็ความที่เป็นคนตรงๆ ก็จะบอกตรงๆว่ายังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ เพราะงี้เลยไม่มีใครคุยกับเราได้นาน และเราก็สบายใจที่จะเป็นแบบนี้มาตลอด แต่ผู้ชายคนนี้เค้าแตกต่างจากคนอื่นตรงที่คอยปลอบเราเวลาที่เราบ่นคิดถึงแฟนเก่า คอยทำให้เรายิ้มได้ในเวลาที่เราเศร้า เวลามีปัญหาอะไรก็มีคำแนะนำดีๆให้ เค้าค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความเป็นลูกคนโต แต่เวลาคุยกันก็จะมีมุมที่ติ๊งต๊อง บ้าบอเหมือนๆเรา ทำให้รู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย เราเองถึงจะยังคิดถึงแฟนเก่าแต่เราก็ยังคงดำเนินชีวิตไปต่อปกติ ที่ผ่านมาอาจจะไม่คิดว่าจะมีใคร แต่ก็รู้ว่าสักวันหนึ่งเมื่อเราเรียนจบเราก็คงจะต้องแต่งงานมีครอบครัวเพราะเราอยากมีลูกมากๆ เราไม่ได้คิดมองหาใคร คิดแค่พอถึงเวลาถ้าก็ให้พ่อแม่หาให้ก็ได้ ลูกชายเพื่อนพ่อ ลูกชายเพื่อนแม่ บลาๆๆ เราก็บอกเค้าไปตรงๆว่าเรามีความคิดแบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมองว่าตลกรึป่าวนะ เพราะเค้าขำ=_=^
อ้อลืมบอกไป ว่าเรากับเค้ายังไม่เคยเจอกัน ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน ที่เห็นไลฟ์สไตล์ก็เห็นจากในโซเชียล แล้วก็รู้จากการพูดคุยกัน(คุยกันบ่อยมากแบบสายแทบไหม้ วิดิโอคอลเห็นหมดอยู่ไหนกับใครทำไรอยู่)แค่นั้น
เราไม่เคยไปกินข้าวหรือไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนไหนนอกจากแฟนเก่า แล้วก็เพื่อน เราค่อนข้างหวงตัว และระมัดระวังตัวมาก เพราะที่บ้านค่อนข้างยัดข้อมูลข่าวน่ากลัวๆใส่หัวเรามา(เด็กตจว.อ่านะ) แต่เรื่องความรักเราไม่เคยโดนใครหลอกหรือกระทำให้เจ็บช้ำอะไรหรอกนะ อย่างที่บอกว่าค่อนข้างปิดกั้นตัวเอง
ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามา เพราะอยากจะขอความเห็นว่า เราควรจะเปิดใจคบกันแบบจริงๆจังๆดีมั้ย
คำว่าจริงจังในที่นี้คือไปไหนมาไหนด้วยกันได้และผู้ใหญ่ต้องรับรู้ แล้วก็คิดจะมีอนาคตร่วมกัน มันจะเป็นไปได้ไหมคะกับคนที่แตกต่างกันขนาดนี้ เพราะถ้ามันมีแนวโน้มจะไปไม่รอดมากกว่า เราก็ไม่อยากจะสานต่อ ไม่อยากจะไปไกลกว่านี้ เราไม่ชอบอะไรที่เสียเวลา แล้วก็เปลืองตัว เปลืองหัวใจค่ะ ถ้าจะรักแล้วก็อยากจะใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด เราเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่จะเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาใช้ตัดสินใจ100% เราแค่ใช้ประกอบการตัดสินใจของเราแค่นั้น
เรารู้สึกว้าวุ่นหัวใจเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่กล้าปรึกษาคนใกล้ตัวเลย ถ้าจะปรึกษาครอบครัวเดี๋ยวก็จะมานั่งเป็นห่วงเราใหญ่โต กลัวเราโดนหลอก(ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าหลอก) จะปรึกษาเพื่อนเราก็เขินๆ รู้สึกปากหนักบอกไม่ถูก เพราะเราแทบไม่เคยคิดเรื่องผู้ชายเลย=_=
ผู้ชายที่ฐานะดี หน้าที่การงานดี มีการศึกษา เพียบพร้อมทุกอย่าง จะมาจริงจังกับผู้หญิงที่ยังเรียนไม่จบแถมติดเกมจริงๆหรอ
ความสัมพันธ์พัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นต้องคอลคุยกันทุกวัน 60%ของเรานี่คิดจริงจังไปแล้ว เท่าที่คุยเค้าก็ดูเป็นคนดี บวชเรียนมาแล้ว เรียกว่าเพียบพร้อมทุกอย่างจนเราอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายแบบนี้จะยังโสดจริงๆหรอ สาวๆไม่มารุมตอมเป็นแมลงวันเลยหรอ แต่เค้าก็ดูมีเวลาให้เรานะ จะว่ามีแฟนอยู่แล้วคงไม่ใช่ แต่ก็นะ เขาจะคิดจริงจังกับผู้หญิงติดเกมส์ธรรมดาๆแบบเราจริงๆหรอ เรียนก็ยังไม่จบ แถมยังแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ ยังดูแลตัวเองไม่ได้ และยิ่งเราเป็นคนปิดกั้นตัวเอง มีเงื่อนไขกับตัวเองตั้งแต่แรก คือเราไม่สามารถพูดว่ารักผู้ชายคนเดียวได้เต็มปาก เพราะรักครั้งเก่าเราสูญเสียคนรักเพราะอุบัติเหตุ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และเค้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเรา เรายังคงคิดถึงและไม่เคยลืม ไม่เคยคิดจะเอาใครมาแทนที่ด้วยซ้ำ แต่ผู้ชายคนนี้เขาก็ยังเลือกจะจีบเราต่อ จะว่าเรื่องความสวยนี่ตัดไปได้เลย เพราะเราไม่ใช่คนสวย และเราก็คิดด้วยว่าชีวิตเค้าคงเจอผู้หญิงสวยๆกว่าเราเยอะแยะ เรารู้สึกดีมากๆ จนอยากเริ่มต้นใหม่กับเค้า แต่ติดตรงที่ การใช้ชีวิตเราค่อนข้างจะแตกต่าง จากที่ดู แม้แต่เรื่องอาหารการกิน เรากินข้าวข้างทางธรรมดา แต่เค้ามักจะกินหรูกินของแพงๆ แต่เค้าก็พยายามบอกเราว่าเค้ากินข้าวข้างทางได้ ปกติเค้าก็กิน แต่เท่าที่เราเห็นเหมือนจะนับครั้งได้เลย อยู่บ้านเค้าก็มีแม่บ้านซักผ้าปัดกวาดเช็ดถูห้องให้ ในขณะที่เรายังแบกเสื้อผ้าลงไปใส่ตู้หยอดเหรียญ อย่างเรื่องเที่ยว ของเราแค่เที่ยวตจว.บ้างนานๆที แต่เค้าบินไปตปท.ทุกเดือน
ต่างกันสุดๆ เหมือนฟ้ากับเหว จนเราคิดไม่ตกเลยว่า คนที่มีชีวิตดีแบบนั้น ถ้าคบกัน ครอบครัวเค้าจะรับเราได้หรอ บ้านเค้ารวย กับบ้านเราที่ฐานะปานกลาง แล้วเขาจะคิดจริงจังกับเราถึงขั้นแต่งงานจริงๆหรอ ที่เรายกเรื่องแต่งงานมาพูดเพราะเค้าบอกเราว่า พ่อแม่เค้าเร่งเค้าเรื่องแต่งงานแล้ว ประมาณว่าเค้าอายุจะ30แล้วควรจะมีครอบครัวได้แล้ว นั่นหมายความว่าถ้าเค้าจะคบกับเราเค้าก็ต้องคิดไปถึงเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว(รึป่าว) ส่วนเราเองไม่ค่อยชอบเรื่องรักๆเลิกๆ เพราะตั้งแต่แฟนเก่าเราเสีย เราก็ไม่มีแฟนใหม่เลย อาจจะมีคุยๆได้ไม่ถึงเดือนไม่ทันได้คบหาเป็นแฟนก็เลิกคุย ด้วยนิสัยโลกส่วนตัวสูง ติดพี่ชายพี่สาว ติดพ่อแม่ ติดครอบครัว แล้วก็ความที่เป็นคนตรงๆ ก็จะบอกตรงๆว่ายังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ เพราะงี้เลยไม่มีใครคุยกับเราได้นาน และเราก็สบายใจที่จะเป็นแบบนี้มาตลอด แต่ผู้ชายคนนี้เค้าแตกต่างจากคนอื่นตรงที่คอยปลอบเราเวลาที่เราบ่นคิดถึงแฟนเก่า คอยทำให้เรายิ้มได้ในเวลาที่เราเศร้า เวลามีปัญหาอะไรก็มีคำแนะนำดีๆให้ เค้าค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความเป็นลูกคนโต แต่เวลาคุยกันก็จะมีมุมที่ติ๊งต๊อง บ้าบอเหมือนๆเรา ทำให้รู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย เราเองถึงจะยังคิดถึงแฟนเก่าแต่เราก็ยังคงดำเนินชีวิตไปต่อปกติ ที่ผ่านมาอาจจะไม่คิดว่าจะมีใคร แต่ก็รู้ว่าสักวันหนึ่งเมื่อเราเรียนจบเราก็คงจะต้องแต่งงานมีครอบครัวเพราะเราอยากมีลูกมากๆ เราไม่ได้คิดมองหาใคร คิดแค่พอถึงเวลาถ้าก็ให้พ่อแม่หาให้ก็ได้ ลูกชายเพื่อนพ่อ ลูกชายเพื่อนแม่ บลาๆๆ เราก็บอกเค้าไปตรงๆว่าเรามีความคิดแบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมองว่าตลกรึป่าวนะ เพราะเค้าขำ=_=^
อ้อลืมบอกไป ว่าเรากับเค้ายังไม่เคยเจอกัน ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน ที่เห็นไลฟ์สไตล์ก็เห็นจากในโซเชียล แล้วก็รู้จากการพูดคุยกัน(คุยกันบ่อยมากแบบสายแทบไหม้ วิดิโอคอลเห็นหมดอยู่ไหนกับใครทำไรอยู่)แค่นั้น
เราไม่เคยไปกินข้าวหรือไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนไหนนอกจากแฟนเก่า แล้วก็เพื่อน เราค่อนข้างหวงตัว และระมัดระวังตัวมาก เพราะที่บ้านค่อนข้างยัดข้อมูลข่าวน่ากลัวๆใส่หัวเรามา(เด็กตจว.อ่านะ) แต่เรื่องความรักเราไม่เคยโดนใครหลอกหรือกระทำให้เจ็บช้ำอะไรหรอกนะ อย่างที่บอกว่าค่อนข้างปิดกั้นตัวเอง
ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามา เพราะอยากจะขอความเห็นว่า เราควรจะเปิดใจคบกันแบบจริงๆจังๆดีมั้ย
คำว่าจริงจังในที่นี้คือไปไหนมาไหนด้วยกันได้และผู้ใหญ่ต้องรับรู้ แล้วก็คิดจะมีอนาคตร่วมกัน มันจะเป็นไปได้ไหมคะกับคนที่แตกต่างกันขนาดนี้ เพราะถ้ามันมีแนวโน้มจะไปไม่รอดมากกว่า เราก็ไม่อยากจะสานต่อ ไม่อยากจะไปไกลกว่านี้ เราไม่ชอบอะไรที่เสียเวลา แล้วก็เปลืองตัว เปลืองหัวใจค่ะ ถ้าจะรักแล้วก็อยากจะใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด เราเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่จะเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาใช้ตัดสินใจ100% เราแค่ใช้ประกอบการตัดสินใจของเราแค่นั้น
เรารู้สึกว้าวุ่นหัวใจเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่กล้าปรึกษาคนใกล้ตัวเลย ถ้าจะปรึกษาครอบครัวเดี๋ยวก็จะมานั่งเป็นห่วงเราใหญ่โต กลัวเราโดนหลอก(ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าหลอก) จะปรึกษาเพื่อนเราก็เขินๆ รู้สึกปากหนักบอกไม่ถูก เพราะเราแทบไม่เคยคิดเรื่องผู้ชายเลย=_=