[CR] รีวิว 4 โทนเนอร์ปังๆ สำหรับคนเป็นสิวห้ามพลาด!

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ทุกคน มาพบกันอีกแล้วนะ บอกเลยว่าวันนี้เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังกังวลใจหรือมีปัญหาเรื่องสิวอยู่ ห้ามพลาดเลย...เพราะว่าเราจะมารีวิวโทนเนอร์ฮิตที่ช่วยเรื่องสิวได้จ้า แอบกระซิบเลยว่าแต่ละตัวนั้นเด็ดๆ ทั้งนั้น คือจริงๆ เราไม่ใช่คนเป็นสิวหนักหรือมีปัญหาสิวมากนัก แต่ก่อนหน้านี้เหมือนกับว่าไปลองสกินแคร์มาหลายตัว (ผู้หญิงอ่ะนะ เวลาอะไรออกใหม่ก็ชอบลองไปหมด) แต่ส่วนตัวเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายไงเลยเหมือนมีอาการแพ้ สิวผดขึ้นเยอะเลย T_T ก็เลยต้องไปหาตัวช่วยกันหน่อย


และพอดีมีความอยากลองโทนเนอร์อยู่ด้วย(ลองอีกแล้ววว) เลยได้โอกาสเหมาะเลย ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวนะที่เราได้ลองแล้วเอามารีวิวให้ได้ดูกันว่าแต่ละตัวเค้าดียังไงบ้าง เอาล่ะเพื่อนๆ คงอยากรู้แล้วไม่พูดเยอะตามไปดูกันเลยจ้า

SOME BY ME AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Toner
ตัวแรกเป็นโทนเนอร์ดังจากเกาหลีที่เค้าเด่นเรื่องการักษาสิวโดยเฉพาะ เราก็ต้องลองหน่อยล่ะ เพราะเค้ามีการการันตีด้วยนะว่าสิวจะหายไปภาใน 30 วัน เอ้ามาดูกัน! ส่วนผสมหลักของเค้าจะเป็น Real Tea Tree ,AHA,BHA ที่ช่วยเรื่องการรักษาสิว ลดอาการอักเสบของสิว รวมไปถึงผลัดเซลล์ผิวทำให้หน้ากระจ่างใส และมี PHA ที่ชื่อไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่เค้าบอกว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยขจัดสิวเหมือนกัน แต่เน้นลดการระคายเคือง

ความรู้สึกหลังใช้ : เวลาใช้แล้วผิวจะเย็นๆ (สำหรับเราว่ามันแอบแรงไปหน่อย) ถ้าใครผิวบางมากๆ อาจจะรู้สึกยุบยิบๆ แบบเราได้ แต่สิวผดต่างๆ ก็ลดลงอยู่นะ หน้ามีความกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย แต่มีความแห้งหลังใช้อยู่ ต้องอัดครีมบำรุงเพิ่มเยอะหน่อย ไม่งั้นเวลาแต่งหน้าตามจะเป็นขุยๆ รวมๆ แล้ว เอาจริงๆ เค้าก็ลดสิวได้ดีอยู่ ไม่แน่ใจว่าเค้าแรงไปสำหรับเรารึป่าวนะ แต่ข้อดีคือหาซื้อไม่ยากมีขายเยอะเลยตอนนี้

กลิ่น : ส่วนตัวเราไม่โอเคกับกลิ่นของเค้าเท่าไหร่นะ เราว่ามันแอบฉุนไปหน่อย

ความแข็งแรงของผิวหน้า : 8.5/10

การลดลงของสิว : 8/10

คะแนนความประทับใจ : 9/10

ราคา / ปริมาณ : 590 บาท / 150 ml
NIKI Toner
สำหรับตัวที่สองเป็นของ NIKI เค้าเป็นโทนเนอร์สัญชาติญี่ปุ่นนะจ๊ะ (อะไรที่เป็นจากญี่ปุ่นนี้เราแพ้ทางทุกทีต้องเอามาลองเพราะมีความเชื่อว่าเค้าจะต้องดีอ่ะ ) ตัวนี้เค้าเครมเรื่อง สิวเสี้ยน แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง สิวผด สิวอักเสบต่างๆ ว่าง่ายๆคือ โทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิวค่ะ ซึ่งส่วนผสมส่วนใหญ่เค้าจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น ชะเอมเทศ ชาเขียว ใบบัวบก รวมไปถึงน้ำแร่ฝรั่งเศสและอื่นๆ อีกมากมาย ที่เค้าบอกว่า ส่วนผสมพวกนี้จะช่วยลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว ยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรกต่างๆ ผลัดเซลล์ผิว ลดความมัน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ที่สำคัญอีกอย่างนึง คือ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้จ้า (อันนี้แหละเหมาะกับเราเลย)

ความรู้สึกหลังใช้ : หลังใช้รู้สึกว่าผิวไม่แห้งกว่าเดิม ไม่แสบไม่คัน พวกสิวผดลดลงได้ดีแล้วไม่เกิดขึ้นเพิ่มด้วย รู้สึกว่าผิวดูแข็งแรงขึ้น ความมันลดลง หน้ามีความกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำต่างๆ ก็จางลง เวลาลงสกินแคร์แล้วก็เข้าผิวได้ดี ซึมเข้าผิวได้ดี ไม่กองอยู่บนผิวเหมือนเมื่อก่อน ทำให้แต่งหน้าได้ติดทนมากขึ้นด้วยล่ะ ปลื้มมากๆ แต่ติดตรงนิดเดียวคือเค้าหาซื้อยากไปนิดนึงแต่ก็สั่งออนไลน์ได้อยู่จ๊ะ รวมๆ เราชอบเลยล่ะเลิฟน้องคนนี้

กลิ่น : ส่วนตัวเราชอบกลิ่นอันนี้นะไม่แรงไม่ฉุนเกินไป กลิ่นอ่อนๆ กำลังดี

ความแข็งแรงของผิวหน้า : 9/10

การลดลงของสิว : 9/10

คะแนนความประทับใจ : 9.5/10

ราคา / ปริมาณ : 490 บาท / 150 ml (ราคาโปรโมชั่นลดจาก 690 บาท)

Innisfree Bija Trouble Skin
แบรนด์นี้เราชอบสกินแคร์เค้าหลายตัวโดยเฉพาะพวกเซรั่ม แต่โทนเนอร์เราเพิ่งลองอันนี้เป็นตัวแรก เพราะเค้าบอกว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่เป็นสิว อ่อนโยนไม่ผสมแอลกอฮอล์ (ใครที่แพ้แอลกอฮอล์ก็สบายใจได้ใช้ตัวนี้ได้เลยจ้า) ส่วนผสมหลักของเค้าจะเป็นสารสกัดจากลูกจันทร์เทศจากเกาะเชจู มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิกเพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวและบำรุงผิวที่มีปัญหาสิว ช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนด้วยนะ เราคิดว่าคนที่เป็นสิวอุดดันคงชอบ

ความรู้สึกหลังใช้ : หลังใช้รู้สึกว่าผิวดูสะอาดมากขึ้น เวลาใช้ไม่เย็นและไม่แสบผิว แต่จะมีความหนึบๆ ที่ผิวเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับรำคาญขนาดนั้นนะ ความมันลดลง สิวไม่ได้ลดลงเร็วมากแต่ไม่เกิดซ้ำขึ้นมาอีก หน้าดูเรียบเนียนขึ้น เราว่าสำหรับตัวนี้เค้าเน้นเรื่องช่วยทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึกมากกว่า ส่วนเรื่องสิวอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย

กลิ่น : ตัวนี้ก็เป็นอีกอันที่กลิ่นค่อนข้างแรงเปิดฝามาคือกลิ่นแตะจมูกมาก แต่เวลาใช้จริงๆ ก็จะจางลงนิดนึง

ความแข็งแรงของผิวหน้า : 8/10

การลดลงของสิว : 7/10

คะแนนความประทับใจ : 8/10

ราคา / ปริมาณ : 680 บาท / 200 ml

Etude House Soon Jung PH5.5 Relief Tone
ตัวสุดท้ายของเกาหลีเหมือนกันกับ Etude House ตัวนี้เค้าก็เป็นโทนเนอร์อีกตัวที่เหมาะกับคนเป็นสิว เพราะมาใช้ค่า PH5.5 ให้ความสมดุลเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะเลยล่ะ (อะไรที่บอกว่าเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ทางทุกที) ตัวนี้เค้าบอกว่าจะเน้นการปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวที่อ่อนแอแข็งแรงขึ้น ส่วนผสมหลักของเค้าจะมาจากธรรมชาติถึง 97% และยังมีแพนเท็นไซไซด์ที่ช่วยป้องกันการระคายเคือง และ Cooling relief เป็นความเย็นช่วยในเรื่องบรรเทาความร้อนบนผิวช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นเวลาใช้ด้วยล่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกว่าสบายผิวดี ไม่มีกลิ่นมากวนใจ ไม่แสบหน้าเลยอาจจะเพราะเค้ามาในค่า pH ที่สมดุลเลยจะอ่อนโยนต่อผิว หลังใช้หน้าก็ไม่แห้งตึง สิวลดลงพอประมาณและไม่เกิดขึ้นมาอีก ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น ความมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเค้าช่วยปรับสมดุลให้ผิวเลยทำให้สิวลดลงตามไปด้วย แต่ถ้าเน้นรักษาสิวจริงจังก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่

กลิ่น : กลิ่นน้อยมากๆ สำหรับตัวนี้ใครไม่ชอบกลิ่นแรงๆ น่าจะเลิฟกัน

ความแข็งแรงของผิวหน้า : 8/10

การลดลงของสิว : 7.5/10

คะแนนความประทับใจ : 8.5/10

ราคา / ปริมาณ : 620 บาท / 180 ml

และทั้งหมดนี้คือโทนเนอร์สำหรับคนมีปัญหาเรื่องสิวที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะ ส่วนตัวเราชอบ NIKI มากเป็นพิเศษ รอลงมาก็ต้องยกให้ SOME BY ME ส่วน Innisfree กับ Etude จะเน้นสำหรับปลอบประโลมดูแลผิวมากกว่านะ อ้อ! ต้องบอกก่อนว่านี้เป็นแค่ความคิดเห็นของเราคนเดียวนะ เพราะผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกันยังไงก็อาจจะต้องไปลองกันเองดูด้วยว่าชอบไม่ชอบอันไหนบาง

สำหรับวันนี้เราขอตัวไปก่อนแล้วนะ คราวหน้าจะมีอะไรดีๆ มาฝากกันอีก
รอติดตามนะจ๊ะ ไปแล้วจ้า บ้ายยย บายยย
…………………..................................................................
ชื่อสินค้า:   SOME BY ME, NIKI , Innisfree, Etude House,
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่