แชร์ประสบการณ์ทริปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ
อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำด้วยค่ะ
ติดตาม ตอน 1 ได้ที่นี่เลยค่ะ 👇🏻
https://pantip.com/topic/39206620
วันนี้นั่งรถไฟนานหน่อย เพราะเราเดินทางออกนอกเมือง (ต่างจังหวัด) >>> กำลังเดินทางไปเมืองนารา
เรานั่ง Kansai thru pass เป้าหมายคือ เมืองนารา
มองหา Kintetsu nara line
ลงสถานี Kintetsu-nara
หา map จาก app รับรองไม่มีหลง!!! 😁
เราเดินทางโดยใช้ Kansai thru pass
เด็กๆตื่นเต้นมาก เพราะได้นั่งที่ติดกับห้องนายหัวรถเลย 😆
สตางค์เรียกว่า #พี่กัปตัน
แนะนำถ้าอยากสัมผัสใกล้ๆ แบบนี้ ให้ขึ้นโบกี้แรก ตรงหัวรถไฟเลย
สองข้างทาง มีบ้านคนรายล้อม
บางช่วงมีกลางนา นึกถึงนาแถวพัทลุง 😆
รถไฟทั้งขึ้นเขา ลอดอุโมงค์
เราลงสถานี Kintetsu-nara มองหาป้ายทางออก ไป Nara park
ที่สถานีรถไฟ Kintetsu-nara
ตัวนี้เป็นมาสคอต สัญลักษณ์ของเมือง
รูปปั้นครึ่งคนครึ่งกวาง
และ กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา
(อารมณ์คล้ายๆ ลิง ลพบุรี)
เราลงสถานี Kintetsu-nara มองหาป้ายทางออก ไป Nara park
มีพี่สาวแนะนำให้ขึ้นบัสชมรอบๆเมือง
แวะถามข้อมูลคนแถวนั้น บอกว่าถ้าจะเดินไปก็ได้ ยาวๆไปเลย ตอนนั้นพวกเรายังอึดอยู่ เลยขอเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ทางเดินจะขึ้นควน (เนิน) หน่อยๆ
แหละนี่คือพระเอกของงานนี้
เดินมาถึง Nara park ก็เจอเลย
ส่วนใหญ่ตัวที่อยู่ริมถนน จะเชื่อง และน่ารัก 🙄🔫
ที่พลาดไม่ได้คือ การซื้อขนม ให้กับน้องกวาง พระเอกของเรา เค้าเรียกขนมเซมเบ้ ลักษณะจะเป็นแผ่นบางๆกรอบๆ (ไม่รู้อร่อยมั้ย 😆)
ไคลแม็กซ์คือต้องยื่นขนมเซมเบ้ไปให้มัน แล้วมันจะมารุมเราประมาณ 4-5 ตัว
พลังดาเมจรุนแรงมาก 😆 สังเกตจากภาพ (ลักษณะเหมือนลิงในวัดที่บ้านเรา ชอบแย่งขนม)
เราไม่กลัวมันหรอก เพราะเรารักสัตว์ 🙄🔫😆
น้องกวางบางตัวเชื่องมาก เซลฟี่ได้
ถึง Nara park
วันนี้อากาศร้อนนิดหน่อยมีแดดอ่อนๆ ตลอดวัน เหมือนแดด 11 โมงบ้านเรา
เราโชคดีที่ไม่เจอฝนเลย ก่อนมา เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าว่าอาจเจอฝนตกหนัก กลัวเด็กๆเป็นหวัด
เดินรอบๆ Nara park เหนื่อยเหมือนกัน
มีกวางเต็มไปหมด
เจอสาวๆวัยรุ่น ก็ขอถ่ายรูปบ้าง
คนที่นี่ใจดี น่ารัก ยิ้มหวาน พร้อมให้ความช่วยเหลือ
ที่ nara park จะมีแผนที่ เราสามารถเดินไปเรื่อยๆ เจอวัด เจอพิพิธภัณฑ์ เจอศาลเจ้า แล้วแต่มีหลากหลาย แต่ที่รีวิวมาและต้องไปให้ได้คือ วัดโทไดจิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และโบราณ
ดูจาก map คือเดินไปได้ แต่เรามีเด็กเล็กไง 😆 เลยนั่งบัสท้องถิ่น ไปลงที่หน้าวัดเลย ถามว่าไปยังไง ตอบคือ รอรถที่ป้าย แล้วดูรถสีเขียวคันที่จะไปวัดโทไดจิ ขึ้นรถ ถามนายหัวรถ (คนขับรถ😆) เลยว่าลงที่นั่น ราคาเท่าไหร่ หยอดเหรียญ แล้วนั่งแป๊บเดียว ถึงหน้าวัดเลย (สรุปคือ adult 210 yen ต่อคน)
ถึงหน้าทางเข้าวัด เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 กิโลเห็นจะได้ (ใช้ความรู้สึกล้วนๆ) คือเหนื่อยมาก เหงื่อไหลลงก้น 😆 แต่เราก็พยายามกันมาก
ทางบางช่วงลำบาก ล้อรถเข็นก็เอาไม่อยู่ ต้องแบกรถ
ระหว่างทางเดินขึ้นวัดโทไดจิ ร่มรื่นดี
เดินทางขึ้นควน เหนื่อยแค่แล้ว 😭🙄
#แปล เดินทางขึ้นเนิน เหนื่อยสุดสุด
เราไปแค่วัดเดียวพอนะเหรียญ เพราะไม่ใช่ lifestyle ของเรา 555 (แบงค์กล่าว) คือเหนื่อยมาก คือหอบ 😣
ถึงวัดโทไดจิแล้วนะ 🙏🏻
Todaiji temple
วัดหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียก Daibutsu ใครอยากรู้ประวัติ search google เลยนะจ๊ะ 😁
วัดโทไดจิ
เราตกลงกันว่า ไปวัด ที่เดียวพอ 😆
ใครอยากเก็บทุกวัด ทุกศาลเจ้า ทุกพิพิธภัณฑ์ แนะนำมากับทัวร์นะฮะ ได้ทุกวัดแน่นอน 👍
เขียนป้าย ทำบุญ อนุโมทนาบุญทุกคนนะคับ 🙏🏻
อันนี้คล้ายๆ น้ำมนต์ รึป่าว 555
น้ำเย๊นเย็น
ขากลับก็เดินชมวิวไปเรื่อยๆ มีน้องกวางให้ดูตลอดทาง บางตัวไม่ค่อยเป็นมิตรซักเท่าไหร่ ต้องระวังมันดันก้น เอาเขาแทง เอาปากกัด .... พี่ชายโดนแล้ว เสื้อเป็นรูเลย 😆
เราเดินกลับไปที่ สถานีรถไฟ
กำลังจะไป Namba ต่อ
ข้างทางมีบ้านคน ร้านอาหาร ดูสภาพบ้านนี่แบบ local มากมาก สวยดี
เจอเซเว่นด้วย ขายของเหมือนบ้านเรา
อันนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเมืองนารา อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เค้าเรียก Higashimuki Shopping Street
เรานั่งรถไฟจากสถานี Kintetsu-nara ไปลงที่สถานี Nipponbashi เดินเข้าไปก็เป็นย่านการค้า และแหล่งรวมวัยรุ่นเลย (ทำให้นึกถึงสยามพารากอน ประตูน้ำ งี้)
แม่กับอา แวะ ช้อปปิ้ง ต้องรอคอยค้าบบบบบ
Rien 123 มาเจอ แหล่งเล่นเกมส์ Namba 123 😆
ร้านนี้ เป็น landmark ด้วย 551Horai ขายซาลาเปากับขนมจีบ ซึ่งอร่อยมาก (เหรอ) จนต้องกิน (เค้าว่า)
#อารมณ์คล้ายๆซาลาเปาทับหลี 😆
เจอร้านขนมปลา ในตำนาน มีหลายไส้ อร่อยมากๆ
ขนมปลา แบบ original ขนมโบราณ กับคนโบราณ 555 (โดนแน่เรา 😆😳🔫)

ปลาหมึกย่างซีอิ๊ว
แหละนี่คือ landmark ของ Osaka
ป้ายไฟ glico man กูลิโกะแมน
นั่งรถไฟกลับที่พัก 🚊
คนที่นี่ สังคมก้มหน้าแทบทุกคน
บางคน ทำแต่งานมั้ง ถามสถานที่เที่ยวจุดสำคัญๆ ยังไปไม่ถูกเลย 😄
ที่นี่คนสูงอายุก็ทำงานนะ เค้าจะหางานที่เหมาะสมให้ทำ คงไม่อยากอยู่บ้านเฉยแน่เลย
แชร์ประสบการณ์ ทริปเที่ยวญี่ปุ่น (Backpacking เด็กเล็ก 2 คน) ตอน 2
อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำด้วยค่ะ
ติดตาม ตอน 1 ได้ที่นี่เลยค่ะ 👇🏻
https://pantip.com/topic/39206620
วันนี้นั่งรถไฟนานหน่อย เพราะเราเดินทางออกนอกเมือง (ต่างจังหวัด) >>> กำลังเดินทางไปเมืองนารา
เรานั่ง Kansai thru pass เป้าหมายคือ เมืองนารา
มองหา Kintetsu nara line
ลงสถานี Kintetsu-nara
หา map จาก app รับรองไม่มีหลง!!! 😁
เราเดินทางโดยใช้ Kansai thru pass
เด็กๆตื่นเต้นมาก เพราะได้นั่งที่ติดกับห้องนายหัวรถเลย 😆
สตางค์เรียกว่า #พี่กัปตัน
แนะนำถ้าอยากสัมผัสใกล้ๆ แบบนี้ ให้ขึ้นโบกี้แรก ตรงหัวรถไฟเลย
สองข้างทาง มีบ้านคนรายล้อม
บางช่วงมีกลางนา นึกถึงนาแถวพัทลุง 😆
รถไฟทั้งขึ้นเขา ลอดอุโมงค์
เราลงสถานี Kintetsu-nara มองหาป้ายทางออก ไป Nara park
ที่สถานีรถไฟ Kintetsu-nara
ตัวนี้เป็นมาสคอต สัญลักษณ์ของเมือง
รูปปั้นครึ่งคนครึ่งกวาง
และ กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา
(อารมณ์คล้ายๆ ลิง ลพบุรี)
เราลงสถานี Kintetsu-nara มองหาป้ายทางออก ไป Nara park
มีพี่สาวแนะนำให้ขึ้นบัสชมรอบๆเมือง
แวะถามข้อมูลคนแถวนั้น บอกว่าถ้าจะเดินไปก็ได้ ยาวๆไปเลย ตอนนั้นพวกเรายังอึดอยู่ เลยขอเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ทางเดินจะขึ้นควน (เนิน) หน่อยๆ
แหละนี่คือพระเอกของงานนี้
เดินมาถึง Nara park ก็เจอเลย
ส่วนใหญ่ตัวที่อยู่ริมถนน จะเชื่อง และน่ารัก 🙄🔫
ที่พลาดไม่ได้คือ การซื้อขนม ให้กับน้องกวาง พระเอกของเรา เค้าเรียกขนมเซมเบ้ ลักษณะจะเป็นแผ่นบางๆกรอบๆ (ไม่รู้อร่อยมั้ย 😆)
ไคลแม็กซ์คือต้องยื่นขนมเซมเบ้ไปให้มัน แล้วมันจะมารุมเราประมาณ 4-5 ตัว
พลังดาเมจรุนแรงมาก 😆 สังเกตจากภาพ (ลักษณะเหมือนลิงในวัดที่บ้านเรา ชอบแย่งขนม)
เราไม่กลัวมันหรอก เพราะเรารักสัตว์ 🙄🔫😆
น้องกวางบางตัวเชื่องมาก เซลฟี่ได้
ถึง Nara park
วันนี้อากาศร้อนนิดหน่อยมีแดดอ่อนๆ ตลอดวัน เหมือนแดด 11 โมงบ้านเรา
เราโชคดีที่ไม่เจอฝนเลย ก่อนมา เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าว่าอาจเจอฝนตกหนัก กลัวเด็กๆเป็นหวัด
เดินรอบๆ Nara park เหนื่อยเหมือนกัน
มีกวางเต็มไปหมด
เจอสาวๆวัยรุ่น ก็ขอถ่ายรูปบ้าง
คนที่นี่ใจดี น่ารัก ยิ้มหวาน พร้อมให้ความช่วยเหลือ
ที่ nara park จะมีแผนที่ เราสามารถเดินไปเรื่อยๆ เจอวัด เจอพิพิธภัณฑ์ เจอศาลเจ้า แล้วแต่มีหลากหลาย แต่ที่รีวิวมาและต้องไปให้ได้คือ วัดโทไดจิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และโบราณ
ดูจาก map คือเดินไปได้ แต่เรามีเด็กเล็กไง 😆 เลยนั่งบัสท้องถิ่น ไปลงที่หน้าวัดเลย ถามว่าไปยังไง ตอบคือ รอรถที่ป้าย แล้วดูรถสีเขียวคันที่จะไปวัดโทไดจิ ขึ้นรถ ถามนายหัวรถ (คนขับรถ😆) เลยว่าลงที่นั่น ราคาเท่าไหร่ หยอดเหรียญ แล้วนั่งแป๊บเดียว ถึงหน้าวัดเลย (สรุปคือ adult 210 yen ต่อคน)
ถึงหน้าทางเข้าวัด เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 กิโลเห็นจะได้ (ใช้ความรู้สึกล้วนๆ) คือเหนื่อยมาก เหงื่อไหลลงก้น 😆 แต่เราก็พยายามกันมาก
ทางบางช่วงลำบาก ล้อรถเข็นก็เอาไม่อยู่ ต้องแบกรถ
ระหว่างทางเดินขึ้นวัดโทไดจิ ร่มรื่นดี
เดินทางขึ้นควน เหนื่อยแค่แล้ว 😭🙄
#แปล เดินทางขึ้นเนิน เหนื่อยสุดสุด
เราไปแค่วัดเดียวพอนะเหรียญ เพราะไม่ใช่ lifestyle ของเรา 555 (แบงค์กล่าว) คือเหนื่อยมาก คือหอบ 😣
ถึงวัดโทไดจิแล้วนะ 🙏🏻
Todaiji temple
วัดหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียก Daibutsu ใครอยากรู้ประวัติ search google เลยนะจ๊ะ 😁
วัดโทไดจิ
เราตกลงกันว่า ไปวัด ที่เดียวพอ 😆
ใครอยากเก็บทุกวัด ทุกศาลเจ้า ทุกพิพิธภัณฑ์ แนะนำมากับทัวร์นะฮะ ได้ทุกวัดแน่นอน 👍
เขียนป้าย ทำบุญ อนุโมทนาบุญทุกคนนะคับ 🙏🏻
อันนี้คล้ายๆ น้ำมนต์ รึป่าว 555
น้ำเย๊นเย็น
ขากลับก็เดินชมวิวไปเรื่อยๆ มีน้องกวางให้ดูตลอดทาง บางตัวไม่ค่อยเป็นมิตรซักเท่าไหร่ ต้องระวังมันดันก้น เอาเขาแทง เอาปากกัด .... พี่ชายโดนแล้ว เสื้อเป็นรูเลย 😆
เราเดินกลับไปที่ สถานีรถไฟ
กำลังจะไป Namba ต่อ
ข้างทางมีบ้านคน ร้านอาหาร ดูสภาพบ้านนี่แบบ local มากมาก สวยดี
เจอเซเว่นด้วย ขายของเหมือนบ้านเรา
อันนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเมืองนารา อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เค้าเรียก Higashimuki Shopping Street
เรานั่งรถไฟจากสถานี Kintetsu-nara ไปลงที่สถานี Nipponbashi เดินเข้าไปก็เป็นย่านการค้า และแหล่งรวมวัยรุ่นเลย (ทำให้นึกถึงสยามพารากอน ประตูน้ำ งี้)
แม่กับอา แวะ ช้อปปิ้ง ต้องรอคอยค้าบบบบบ
Rien 123 มาเจอ แหล่งเล่นเกมส์ Namba 123 😆
ร้านนี้ เป็น landmark ด้วย 551Horai ขายซาลาเปากับขนมจีบ ซึ่งอร่อยมาก (เหรอ) จนต้องกิน (เค้าว่า)
#อารมณ์คล้ายๆซาลาเปาทับหลี 😆
เจอร้านขนมปลา ในตำนาน มีหลายไส้ อร่อยมากๆ
ขนมปลา แบบ original ขนมโบราณ กับคนโบราณ 555 (โดนแน่เรา 😆😳🔫)
ปลาหมึกย่างซีอิ๊ว
แหละนี่คือ landmark ของ Osaka
ป้ายไฟ glico man กูลิโกะแมน
นั่งรถไฟกลับที่พัก 🚊
คนที่นี่ สังคมก้มหน้าแทบทุกคน
บางคน ทำแต่งานมั้ง ถามสถานที่เที่ยวจุดสำคัญๆ ยังไปไม่ถูกเลย 😄
ที่นี่คนสูงอายุก็ทำงานนะ เค้าจะหางานที่เหมาะสมให้ทำ คงไม่อยากอยู่บ้านเฉยแน่เลย