หนึ่งในรถคลาสสิกตลอดกาลคงหนีไม่พ้น "รถเต่า" หรือ Volkswagen Beetle ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ราวปี 1940 จากรถยนต์ที่ฮิตเลอร์เป็นผู้สั่งให้ผลิตขึ้น จนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เพราะประหยัดน้ำมันและมีความคุ้มค่า รวมถึงดูแลรักษาง่าย
ล่าสุด Volkswagen ได้จับมือกับ eClassic ผู้ให้บริการแปลงรถคลาสสิกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากเยอรมนี รับแปลงรถเต่าให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ระบบขับเคลื่อนจากรถ Volkswagen e-Up! โดยการนำมาแทนที่เครื่องยนต์และเพลาส่งกำลังของรถเต่า ซึ่งชุดขับเคลื่อนทั้งหมดมีขนาดเล็กมากจนห้องเครื่องท้ายรถสามารถนำมาใช้งานเป็นที่เก็บของได้เลย (เครื่องรถเต่าอยู่ท้าย ส่วนใต้ฝากระโปรงหน้าเป็นที่เก็บสัมภาระ)

ตัวแบตเตอรี่ถูกติดตั้งเข้ากับแชสซีของรถ มีขนาด 36.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชุดขับเคลื่อนให้กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์หรือราว 82 แรงม้า ซึ่งสูงกว่าเครื่องเดิมๆ มาก (รถเต่าเครื่อง 1,200 ซีซี มีกำลัง 40 แรงม้า) เร่ง 0-50 กม./ชม. ได้ภายใน 4 วินาที และถึง 80 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาทีนิดๆ ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ชุดขับเคลื่อนของ e-Up! สามารถนำไปติดตั้งได้ในรถ Volkswagen คลาสสิกแทบทุกรุ่น (เช่นรถตู้คลาสสิก หรือแม้แต่ Porsche 356) เพราะรถเหล่านี้แชร์การออกแบบและชิ้นส่วนกันเยอะมาก

Volkswagen ยังไม่ได้เปิดเผยราคาหรือกำหนดการเปิดของบริการนี้ แต่จากที่ผู้ให้บริการเจ้าอื่นมีทำอยู่ ราคาคงไม่ถูกสักเท่าไร
การแปลงรถยนต์คลาสสิกให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นกระแสขึ้นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ทั้งหมดก็ทำโดยผู้ให้บริการอิสระ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์รถยนต์ออกมาทำเอง นอกจากนี้ยังมีกระแสจากคนรักรถคลาสสิกบางกลุ่มว่าการทำแบบนี้เป็นการไม่รักษาจิตวิญญาณของรถคลาสสิกเอาเสียเลย ซึ่งคนอีกกลุ่มก็ไม่สนใจและเดินหน้าแปลงรถคลาสสิกของตน เพราะถือว่าค่าบำรุงรักษาต่ำแถมยังขับสนุกกว่าเดิมอีกด้วย
ที่มา :
https://www.blognone.com/node/111761
ความคิดเห็นส่วนตัวจากเจ้าของกระทู้ :
สำหรับคนสายอนุรักษ์ความคลาสสิคอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่มีรถเต่า(ไม่ว่าจะปีไหน) จอดตายอยู่ในโรงรถที่บ้านจะซ่อมก็ไม่คุ้มอะไหล่หายาก ชุดดัดแปลงเหล่านี้ทำให้รถที่มีอยู่ฟื้นคืนชีพเอามาโลดแล่นบนถนนอีกครั้งก็เป็นไปได้ ที่สำคัญเป็นชุดดัดแปลงที่มาจาก Volkswagen โดยตรง เพราะฉะนั้นจึงได้เปรียบที่สามารถแปลงได้แบบตรงรุ่นและมีบริการหลังการขายด้วยครับ
รถเต่า Volkswagen Beetle คืนชีพด้วยชุดแปลงเป็นรถเต่า EV
ล่าสุด Volkswagen ได้จับมือกับ eClassic ผู้ให้บริการแปลงรถคลาสสิกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากเยอรมนี รับแปลงรถเต่าให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ระบบขับเคลื่อนจากรถ Volkswagen e-Up! โดยการนำมาแทนที่เครื่องยนต์และเพลาส่งกำลังของรถเต่า ซึ่งชุดขับเคลื่อนทั้งหมดมีขนาดเล็กมากจนห้องเครื่องท้ายรถสามารถนำมาใช้งานเป็นที่เก็บของได้เลย (เครื่องรถเต่าอยู่ท้าย ส่วนใต้ฝากระโปรงหน้าเป็นที่เก็บสัมภาระ)
ตัวแบตเตอรี่ถูกติดตั้งเข้ากับแชสซีของรถ มีขนาด 36.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชุดขับเคลื่อนให้กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์หรือราว 82 แรงม้า ซึ่งสูงกว่าเครื่องเดิมๆ มาก (รถเต่าเครื่อง 1,200 ซีซี มีกำลัง 40 แรงม้า) เร่ง 0-50 กม./ชม. ได้ภายใน 4 วินาที และถึง 80 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาทีนิดๆ ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ชุดขับเคลื่อนของ e-Up! สามารถนำไปติดตั้งได้ในรถ Volkswagen คลาสสิกแทบทุกรุ่น (เช่นรถตู้คลาสสิก หรือแม้แต่ Porsche 356) เพราะรถเหล่านี้แชร์การออกแบบและชิ้นส่วนกันเยอะมาก
Volkswagen ยังไม่ได้เปิดเผยราคาหรือกำหนดการเปิดของบริการนี้ แต่จากที่ผู้ให้บริการเจ้าอื่นมีทำอยู่ ราคาคงไม่ถูกสักเท่าไร
การแปลงรถยนต์คลาสสิกให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นกระแสขึ้นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ทั้งหมดก็ทำโดยผู้ให้บริการอิสระ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์รถยนต์ออกมาทำเอง นอกจากนี้ยังมีกระแสจากคนรักรถคลาสสิกบางกลุ่มว่าการทำแบบนี้เป็นการไม่รักษาจิตวิญญาณของรถคลาสสิกเอาเสียเลย ซึ่งคนอีกกลุ่มก็ไม่สนใจและเดินหน้าแปลงรถคลาสสิกของตน เพราะถือว่าค่าบำรุงรักษาต่ำแถมยังขับสนุกกว่าเดิมอีกด้วย
ที่มา : https://www.blognone.com/node/111761
ความคิดเห็นส่วนตัวจากเจ้าของกระทู้ :
สำหรับคนสายอนุรักษ์ความคลาสสิคอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่มีรถเต่า(ไม่ว่าจะปีไหน) จอดตายอยู่ในโรงรถที่บ้านจะซ่อมก็ไม่คุ้มอะไหล่หายาก ชุดดัดแปลงเหล่านี้ทำให้รถที่มีอยู่ฟื้นคืนชีพเอามาโลดแล่นบนถนนอีกครั้งก็เป็นไปได้ ที่สำคัญเป็นชุดดัดแปลงที่มาจาก Volkswagen โดยตรง เพราะฉะนั้นจึงได้เปรียบที่สามารถแปลงได้แบบตรงรุ่นและมีบริการหลังการขายด้วยครับ