คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เวลามีปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลบอกเรื่องแรกคือ ต้องสนับสนุนทางการเงินเรื่องดอกเบี้ย หรือกระทั่งการยืดเวลาชำระหนี้ หรือกระทั่งสนับสนุนให้ลงทุนเพิ่ม... ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปลายเหตุทั้งสิ้น
ปัญหาหลักคือขายสินค้าไม่ได้ จึงควรเน้นที่จุดนี้ก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ขายสินค้าได้... ประเทศไทยส่งออกเป็นหลัก ตามด้วยการท่องเที่ยว... ต้องพยายามแก้สองจุดนี้... ทำอย่างไรถึงแก็ได้... ส่วนตัวมองว่า..
1.) ถึงแม้ทางภาครัฐ บังคับ ธปท.ไม่ได้ให้ลดดอกเบี้ยเพื่อหยุดยั้งการแข็งค่าของเงินบาท แต่ทางภาครัฐอาจสนับสนุนการส่งออกผ่านมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยปกติเวลาส่งออก จะเสียภาษี Vat 0%. ให้ทำการช่วยเหลือโดยเครดิตกลับอีก 2-3% ในกลุ่มสินค้าเป้าหมาย ประเทศเป้าหมายแบบมีระยะเวลา -- โดยวิธีการนี้ทางจีนใช้สนับสนุนการส่งออกในช่วงที่ผ่านมาขณะมีสงครามการค้าที่ผ่านมา
เมื่อขายของได้ทุกอย่างเริ่มเดิน
2.) มาตรการท่องเที่ยว นอกจากฟรีวีซ่า ซึ่งเป็นนโยบายที่ควรยกเลิก เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ช่วยการท่องเที่ยวเท่าไหร่ ควรเปลี่ยนทำโปรโมชั่น Thailand Grand Sales... โดยทำการแจกคูปองส่วนลดต่างๆ ที่สนามบิน ทำโครงการร่วมกับภาคเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการส่วนภาครัฐลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ในจุดที่อยากให้นักท่องเที่ยวไป... และทำการออกแรงโปรโมตไปยังประเทศต่างๆ
เอาเงินที่ต้องเสียไปกับฟริิ วีซ่า ไปทำประโยชน์ระยะยาวและเห็นผลดีกว่า
อย่าแจกเงิน ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกเลย เพราะมันไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ควรทำโครงการกระตุ้นแบบเน้นขายของดีกว่า...
ปัญหาหลักคือขายสินค้าไม่ได้ จึงควรเน้นที่จุดนี้ก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ขายสินค้าได้... ประเทศไทยส่งออกเป็นหลัก ตามด้วยการท่องเที่ยว... ต้องพยายามแก้สองจุดนี้... ทำอย่างไรถึงแก็ได้... ส่วนตัวมองว่า..
1.) ถึงแม้ทางภาครัฐ บังคับ ธปท.ไม่ได้ให้ลดดอกเบี้ยเพื่อหยุดยั้งการแข็งค่าของเงินบาท แต่ทางภาครัฐอาจสนับสนุนการส่งออกผ่านมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยปกติเวลาส่งออก จะเสียภาษี Vat 0%. ให้ทำการช่วยเหลือโดยเครดิตกลับอีก 2-3% ในกลุ่มสินค้าเป้าหมาย ประเทศเป้าหมายแบบมีระยะเวลา -- โดยวิธีการนี้ทางจีนใช้สนับสนุนการส่งออกในช่วงที่ผ่านมาขณะมีสงครามการค้าที่ผ่านมา
เมื่อขายของได้ทุกอย่างเริ่มเดิน
2.) มาตรการท่องเที่ยว นอกจากฟรีวีซ่า ซึ่งเป็นนโยบายที่ควรยกเลิก เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ช่วยการท่องเที่ยวเท่าไหร่ ควรเปลี่ยนทำโปรโมชั่น Thailand Grand Sales... โดยทำการแจกคูปองส่วนลดต่างๆ ที่สนามบิน ทำโครงการร่วมกับภาคเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการส่วนภาครัฐลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ในจุดที่อยากให้นักท่องเที่ยวไป... และทำการออกแรงโปรโมตไปยังประเทศต่างๆ
เอาเงินที่ต้องเสียไปกับฟริิ วีซ่า ไปทำประโยชน์ระยะยาวและเห็นผลดีกว่า
อย่าแจกเงิน ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกเลย เพราะมันไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ควรทำโครงการกระตุ้นแบบเน้นขายของดีกว่า...
แสดงความคิดเห็น
เริ่มหวั่นไหว ปัญหาเศรษฐกิจ
มาต้นปี จินตนาการบรรเจิดเพิ่มขึ้นอีก เมื่อออเดอร์ล้นทะลัก ฝันว่าจะเปิดการผลิตแบบ 24 ชั่วโมง และทำการศึกษาถึงวิธีการวางแผนการผลิต และจัดเตรียมซุปเปอร์ไวเซอร์เพิ่ม
เพิ่งจะมา 2-3 เดือนนี้ ความไม่แน่นอนเริ่มบังเกิด ความฝันหรือแผนการที่วางไว้กำลังเอื่อยเฉื่อยลงเรื่อยๆ ยอดขายปรับลดลงถึง 10% ในเดือนที่ผ่านมาจากค่าเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้ทั้งปี... แผนการที่จะเพิ่มยอดจากปีก่อน 8% เริ่มมีเป้าหมายที่พร่ามัวขึ้นทุกวัน
ยังโชคดี ที่ไม่มีปัญหาทางการเงินใดๆ ให้ต้องคิด มากระหน่ำซ้ำเติม เค้าบอกให้ปรับตัวก่อนที่จะถูกบังคับให้ปรับ Change before you have to change... แต่แผนการที่วางไว้ต้องปรับแผนใหม่หมด ก็อาจเสมือนไม่ได้วางแผนไว้
ถึงแม้นี่ยังไม่เรียกวิกฤต เพราะก่อนหน้าผ่านวิกฤตจริงๆ มา 3 ครั้งแล้ว แต่ปัญหาตอนนี้คือการมองไปที่อนาคต
อนาคตที่ประเทศไทยถูกออกแบบให้เป็นระบบ ที่ต้องพึ่งพิงรายใหญ่.. เครือข่ายการกระจายสินค้าผ่านช่องทางที่กึ่งผูกขาด... และสำคัญคืออนาคตจะไม่มี Cash Cow. อีกต่อไป... ทะเลสีครามคงเหลือเพียงน้อยนิดจากผลของการลดลำดับของการเข้าถึงสินค้าจากทั้งโลกผ่านอินเตอร์เน็ต
หมัดน๊อคจะอยู่ที่การปรับค่าแรงขั้นต่ำ การที่จะหวังว่าคู่แข่งจะตายก่อน อาจเป็นไปไม่ได้ เพราะคู่แข่งคือโลกใบนี้
ยิ่งทำต้องยิ่งออกแรง... แต่ทั้งหมดที่เตรียมตัวมาตลอดก็คงเพื่อช่วงเวลาเหล่านี้