[SR] New Zealand แสนชื่นใจ by น้องช้างเอง

(กระทู้นี้เป็น CR นะคะ น้องช้างเองออกคชจ.เองทั้งหมด ไม่ได้มี sponsor แต่อย่างใด แต่ด้วยความผิดพลาดในการเผลอคลิกอะไรไปไม่รู้ เลยขึ้นว่า SR / แก้ไม่ได้ด้วยง่ะ pantip แนะนำว่าต้องลบตั้งใหม่)

สวัสดีค่ะ น้องช้างเอง เมื่อเดือนกันยา2018ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว (Land of the Long White Cloudแหมๆๆ ชื่อน้องเค้าเก๋เนอะ คล้าย ๆ Land of Smile บ้านฉัน) ดินแดนเกิดใหม่ new arrival ของโลก ที่มีเผ่าเมารี (Maori)แรกเริ่มอพยพเข้าไปตั้งรกรากนั่นเอง ไอ้ที่ว่าใหม่ๆ นั่นก็ผ่านมาหนึ่งพันกว่าปีก่อนเท่านั้นแป๊บ ๆ  หลังจากนั้นราว 800 ปีผ่านไปเมื่อค.ศ.1642มีข้อมูลว่าบุคคลแรกที่ค้นพบนิวซีแลนด์เป็นชาวดัทช์นามว่า Abel Tasman
และตามมาด้วยชาวดัทช์อีกจำนวนมากมายอพยพล่องเรือแสนไกลไปตั้งรกรากเป็นพวกแรก ได้นำทักษะวิชาหลายแขนงไปพัฒนาดินแดนใหม่แห่งนั้น เช่น ทักษะการสร้างตึกรามบ้านเรือน มีร้านอาหาร การเพาะปลูกดอกไม้ โดยเฉพาะทิวลิปเพื่อส่งกลับไปเนเธอแลนด์ได้มาถึงยุคปัจจุบันนี่เลย
ผ่านล่วงเลยไปจนปีค.ศ.1840ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาวแห่งนี้(ดินแดนแห่งทะเลสาบด้วยเราว่า สาบเก่ง!! ใหญ่โตมากมายไปหมด)

ก็กลายเป็นประเทศอาณานิคมอังกฤษ เนื่องด้วยมีการเกณฑ์แรงงานจำนวนมากมาขุดทอง และขาดแคลนแรงงานในการสร้างชาติใหม่ ยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 19ที่เป็นยุคตื่นทอง ประชากรก็ได้หลั่งไหลมาจากหลายพื้นที่ ไอริชเอย สก็อตเอย จีนเอย ว่ากันว่า มากันมากมายจนมีจำนวนเกือบเท่าๆ ชาวเมารีที่อยู่มาดั้งเดิมเลยทีเดียว ชาวอพยพเหล่านี้ต่างนำ วัฒนธรรม นวัตกรรมของชนชาติตนติดตัวมาด้วย หล่อหลอมให้นิวซีแลนด์มีสไตล์ของตัวเองอย่างทุกวันนี้นั่นเอง
 
และจากกระทู้ผู้จุดประกายทริปนี้ https://pantip.com/topic/35135693 น้องช้างเองจึงได้ซึมซาบความน่าตื่นตาตื่นใจในดินแดนแห่งนี้ผ่านรูปภาพและตัวอักษรแล้ว จึงสนใจอย่างยิ่งที่จะมาเยือนด้วยตนเอง และนี่ก็ครบปีแล้วที่ไปมาพอดีไง เลยถึงเวลารีบปั่นรีวิวอย่างที่ตั้งใจไว้ มาให้ทุกท่านได้ลองอ่านกัน เผื่อจะเป็นข้อมูล อยากทำตัวมีประโยชน์ ถถถ
 
เราเลือกสำรวจดินแดนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์อย่างเดียวก่อน เป็นเวลา 9 คืน 11 วัน ช่วงกลางเดือนกันยายน 2018และอยากเน้นธรรมชาติตระการตาซึ่งได้ยินว่าเกาะใต้มีมากกว่าเกาะเหนือ (ที่จริงเราไม่มีวันหยุดและทุนทรัพย์ยาวพอสำหรับไปทั้งสองเกาะนั่นแหละ พูดก็พูด )
 
 
Thailand – Christchurch
ที่เลือกลงไครส์เชิชก็เพราะเป็นเส้นทางขับรถท่องเที่ยวที่เหมาะสม เป็นวงกลมที่สามารถเดินทางโดยไม่ซ้ำทางเดิมได้เหมาะเจาะมากเลย ไครส์เชิชจากไทยน่ะ มันไม่มีบินตรง น้องช้างจึงได้เริ่มแพลนทริปด้วยหวังตั๋วเครื่องบินราคาถูก เลยมาได้ของ China Southernต่อเครื่องที่กวางเจา ด้วยราคา17,xxx เท่านั้นเอง ด้วยความมือลั่นเกินยั้ง เราจึงต้องบินย้อนจากไทยขึ้นไปกวางเจาก่อน 2 ช.ม. แล้วจึงค่อยด้นลงมาซีกโลกใต้ด้วยเวลา11 ช.ม.หง่อมๆ หลับหลายตื่นก็ยังไม่ถึงสักที การนี้น้องช้างจึงอยากจะแนะนำผู้อ่านเลือกจองโดยบินผ่านประเทศที่อยู่ทางใต้ของเราจะดีกว่า เช่น ทรานสิทสิงคโปร์โดยเอมิเรตส์ อะไรประมาณนี้น่าจะสบายตัวกว่าเยอะเลย บิน 2ช.ม.ต่อเครื่องอีก 7อะไรแนวนี้ สวย ๆ 
 
น้องช้างแพลนทริปโดยเลือกเส้นทางสุดฮิตเพราะกลัวกะระยะทางและสถานที่ที่ควรจะแวะชมไม่ถูก เส้นทางที่เลือกก็คือเริ่มจากไครส์เชิช และจบที่ไครส์เชิช ขับทวนเข็มนาฬิกาลงใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางยากไปสู่ง่าย วิวงามมากไปสู่วิวงามน้อย ซึ่งท่านสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามชอบ จากนี้ขอบรรยายไปเรื่อย ๆ แต่ละจุดหมาย ตามทางที่ได้ผ่านมารวมกว่า 2000 กม.ของทริปนี้กันค่ะ
Christchurch – Greymount – Wanaka – Queenstown – Fairlie – Christchurchตามเส้นทางนี้ คือเมืองที่เราได้แวะนอนพักนั่นเอง ซึ่งล้วนได้จองไปจากไทยแล้ว แอบยอมรับก่อนว่ามีวางแผนพลาดบ้างตามปกติของคนไม่เคยมา ซึ่งก็คิดเสียว่า พลาดเพื่อเป็นโอกาสที่เราจะต้องมาตามเก็บในคราวต่อไป (เข้าข้างตัวเองสุด)  ระหว่างเมืองก็มีที่เที่ยวเด่น ๆ ดัง ๆ ให้เราได้แวะชมรายทาง พิเศษอยู่ที่การเดินทางนี้ไม่ได้สวยงามแค่จุดหมาย หากแต่ระหว่างทางก็งดงามน่าจดจำไม่แพ้กัน ดังนั้นจึงแนะนำให้หาโอกาสมาเยือนด้วยตัวเองสักหน แค่วิวข้างทางนิวซีแลนด์นั้น มันก็สวยเกินบรรยาย กว่าที่เราคุ้นตาเพียงแค่รูปถ่ายของสถานที่ดัง ๆ ในอินเตอร์เน็ตมากมายจริง ๆ
 
เมื่อเราแลนดิ้งถึงดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาวนี้แล้ว ก่อนไปรับรถที่จองไว้จากเมืองไทย เราก็ปรี่ไปซื้อซิมการ์ดไว้เพื่อมีอินเตอร์เนตเล่น  มีGoogle Map ดู มี 3 ค่ายให้เลือก เราว่าราคาและแพคเกจสูสีแหละ
ส่วนเรื่องเช่ารถ เราไม่เลือกค่ายพวก international ที่มีบูตในสนามบินเลยนะ มาได้ที่ Aerodrive Car Rentalค่อย ๆ ดูไปไม่เจอรีวิวด่าเสีย ๆ เราก็เอาละลองดู ถูกกว่าแบรนด์รถเช่าดัง ๆ ตั้งมาก อย่างเช่นเราเช่า BMW series 3 ในราคาที่พอ ๆ กับ Altis ของค่ายใหญ่ สาเหตุที่เลือกรถดี ๆ หน่อย เพราะกลัวสารถีผู้เป็นสามีจะบ่นตลอดทริป เนื่องจากระยะทาง ทำให้วัน ๆ เราจะอยู่กันแต่ในรถ หากนั่งไม่สบาย ขับรถที่แข็งกระด้างตลอดทางคงจะเซ็งไม่น้อย ซึ่งนับว่าตัดสินใจไม่ผิด ไหนจะระบบความปลอดภัยที่รถคันนี้มีให้มากกว่าแล้ว ยังได้เรื่องเนวิเกเตอร์ที่มีจอติดมากับรถไม่ต้องเสียเงินค่าเช่ารายวันเพิ่ม ช่วยเรามาหลายจุดเลยในเวลาที่ขับไปในจุดอับสัญญาณ เช่นหุบเขาลึกเป็นต้น
การเติมน้ำมันที่นี่ก็เป็นระบบfull to full นะ ตอนคืนรถต้องเติมคืนเต็มถังด้วย อย่างที่บอก ร้านเช่ารถรายย่อยจะไม่มีจุดรับรถที่สนามบิน เมื่อไปถึงก็โทรเรียกได้เลย เค้ามารับเราถึงที่ทางออก และออฟฟิศก็ไม่ไกลจากตัวสนามบินเลย ถือว่าดีไม่ได้ลำบากอะไร เช็คดูรถทั้งภายนอกภายใน มีจุดด่างพร้อยตรงไหนเค้าจะมีเอกสารให้เราเทียบ ถ้าตรงกันเรียบร้อยก็เซ็นรับรถ เราก็แสดงแค่ใบขับขี่ดั้งเดิมของไทยเราได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากลไป เมื่อรับรถออกมาเจอถนนที่นี่แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย พวงมาลัยขวาเหมือนกัน แค่ระวังตัวไว้เรื่องความเร็วต้องไม่เกินป้ายที่ถนนช่วงนั้น ๆ กำหนด ระวังสะพานเลนเดียว หมั่นดูป้ายถนนให้ถ้วนถี่ ถือเสียว่าได้ฝึกตนปฏิบัติตามกฎจราจรเป๊ะๆ กันไป เผื่อกลับไทยจะได้เป็นเด็กดีของชาติมากขึ้น น้องช้างเองก็ศึกษาเพิ่มเติมเอาจากรีวิวนี้ https://pantip.com/topic/36629903 ได้ประโยชน์มากเลย พี่เค้าทำไว้ดี๊ดี
หลังจากลงเครื่อง รับรถเสร็จเรียบร้อย ขณะนั้นก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ราว ๆ หกโมง (ยังไม่ค่ำเลย กว่าจะมืดก็สองทุ่ม)  ขับรถเข้าเมือง หาที่พักที่จองไว้ทาง AirBNB เลือกทำเลติดอีกที่เที่ยวหนึ่ง คือ Hagley park บรรยากาศงามงดสดชื่น ต้นไม้ใหญ่ผลัดใบเป็นทิวแถว ยังเห็นผู้คนในเมืองวิ่งออกกำลัง บ้างก็นำน้องหมาคู่ใจมาวิ่งเป็นเพื่อน เห็นแล้วรู้สึกถึงคุณภาพชีวิตที่ดีงามของประเทศแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มทริป (น้ำตาซึมด้วยความอิจฉา)
ขับรถโดยใช้Google Map หาแต่ละสถานที่ได้ไม่ยาก แม้ไม่มีชื่อที่พักหลักแบบพวกโรงแรม เราก็สามารถใช้บ้านเลขที่-ชื่อถนนค้นหาได้เลย บ้านนี้เจ้าของเป็นชาวเกาหลีสามีภรรยา วาจาน่ารักอบอุ่น เข้าเช็คอินพอดีเวลาอาหารค่ำ แอบสูดดมกลิ่นหอมอร่อย รีบขึ้นไปเก็บข้าวของในห้อง เลื่อนการอาบน้ำครั้งแรกในรอบ30++ชั่วโมงออกไปก่อน เพื่อไปหาอาหารอะไรทานกันเป็นมื้อแรก ด้วยความสะดวกของการเลือกพักย่านกลางเมือง ขับมานิดเดียวก็เจอคล้าย ๆ food park มีร้านอาหารหลายเชื้อชาติให้เลือก
และไม่น่าเชื่อว่าร้านอาหารเกาหลีที่เราสุ่ม ๆ เอาเพราะหอมกลิ่นมาจากที่พักนั้น จะอร่อยเลื่องชื่อถึงต้องกลับมาซ้ำร่วมสามรอบในวันกลับ ยังไงก็ลองแวะกันดู
อิ่มแล้วก็ไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ต เก็บเสบียงไว้เดินทางRoad Trip แรกของเราในวันพรุ่งนี้ ห้างคล้าย ๆ โลตัสบ้านเราชื่อว่า Countdownหรือไม่ก็ New World ถูกพบเห็นได้ทั่วไปที่นี่ มีระบบจ่ายเงินอันแสนจะสะดวกสบาย ซื้ออะไรกี่อย่างก็เอามาแสกนบาร์โค้ด หยอดเงินลงไป ได้ทั้งแบงค์ทั้งเหรียญทั้งบัตร ใส่ถุงเอาเอง แต่บางที่ก็มีพนักงานปกตินะ และอย่าลืมพกถุงผ้า กระป๋งกระเป๋าอะไรไปบ้าง ที่นี่ก็เป็นอีกประเทศที่แทบจะงดใช้ถุงพลาสติก ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ก็แค่จ่ายค่าถุงไปนิดหน่อยราว ๆ ใบละ 0.02 NZD และท่านจะเดินออกมาด้วยความรู้สึกเป็นคนไม่ร่วมกิจกรรมรักษ์โลกของเราเท่านั้นเอง (กดดันคนอื่นเฉยเลย)
แนะนำให้ซื้อหาพวกขนมปัง แยมอะไรไปติดรถไว้ เพราะเวลาเราขับรถไปที่ต่าง ๆ บางครั้งมันไม่สามารถหาร้าน หาแหล่งซื้ออาหารทานได้ตรงมื้อ จะพาลหิวกินหัวเพื่อนร่วมทางเอาได้ ขวดน้ำใหญ่ก็ควรซื้อไว้ไปกรอกซ้ำได้ที่ก๊อกทั่วไปใสสะอาด (แต่ไม่ควรเปิดก๊อกน้ำร้อนผสมนะ)
 
หลังจากสลบเหมือดในห้องนอนอุ่นสบายที่เจ้าของบ้านพิถีพิถันตกแต่งไว้นี้ เราก็เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยวันฟ้าใสเป็นใจทีเดียว เส้นทางแรกมุ่งหน้าสู่เมือง Greymount ผ่านเส้นทางแสนสวยในตำนานArthor’s Pass ราว 2 ชั่วโมงกว่า (รวมโอ้เอ้ ตื่นตูม ถ่ายรูปวิวภูมิประเทศอันแปลกตาแล้ว)
ร้านพาย The Famous Sheffield Pie Shop อยู่ระหว่างทาง ชิ้นใหญ่อิ่มได้เป็นมื้อเลย 
 
ขับรถที่นี่ นอกจากต้องระวังให้ตนเองปฏิบัติตามป้ายจราจรอยู่ตลอดแล้ว ยังต้องพึงระวังไม่ให้ตัวเองเผลอใจ จอดรถปุ๊บปั๊บตามไหล่ทางเพื่อถ่ายวิวสวยงามระหว่างขับขี่ไว้ด้วย แต่ที่นี่ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะไม่ได้รูปวิวสวย ๆ เหล่านั้น เพราะทุกจุดที่มีวิวสวยๆ พีค ๆ ประเทศนี้เค้าได้เตรียมป้ายบอกระยะล่วงหน้า และทำไหล่ทางไว้ให้เราจอดถ่ายรูปกันอยู่แล้ว บางทีรู้สึกได้ว่าไม่ต้องมัวมองหามุมสวยเองเลย แค่มองหาป้ายสัญลักษณ์ Lookout ซึ่งบอกระยะล่วงหน้าเป็นกิโล หรือใกล้ ๆ ก็ 200-500 เมตร ก็ทำให้เรารู้ตัวได้เลยว่าทางข้างหน้า กำลังจะมีวิวสวย ๆ ให้เราเตรียมชื่นชม
(ประมาณนี้นะ ยืมรูปเค้ามา)
 
ที่เที่ยวแรกที่เราไปเยือนได้แก่ Castle Hill
ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างเส้น Arthor’s Pass อยู่แล้ว Castle Hillเป็นดงหินปูนสูงใหญ่ ตระหง่านอยู่บนเนินเขาลูกเล็ก ๆ ดูแปลกตาดีไม่น้อย
เห็นไกล ๆ ดูก้อนเล็ก ๆ  อย่างงี้ ของจริง ไม่เล็กนะค้าบ

หินน้องแมวน้อย (เราตั้งเอง)
ระหว่างทางจะมีป้ายขวามือบอกทางขึ้นจุดชมวิว Arthur’s Pass ขึ้นมาจะเจอมุมนี้ เดี๋ยวเราก็มุ่งหน้าไปทางถนนในรูปนี่แหละ

เจอนก Kea ที่พบได้เฉพาะในเกาะใต้NZ ด้วย ตัวอ้วนตุ้บ อย่าให้ขนมน้องนะน้องลดอ้วนอยู่ (เปล่า ทางการเค้ามีป้ายห้าม)
[img]https://f.ptcdn.info/845/065/000/pxepc83x8jcdMD7
ชื่อสินค้า:   New Zealand เกาะใต้
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่